ตอนที่ 500 เหตุใดจึงหน้าไม่อายถึงขั้นนี้
หลิงอวี้จื้อวิ่งอย่างบ้าคลั่งตลอดทาง ไม่ได้ขึ้นรถม้า จนกระทั่งวิ่งต่อไม่ไหว เธอหยุดลงผ่อนลมหายใจ จับชายคาข้างๆ ไว้ อ้าปากหอบหายใจ
เพราะรีบร้อนวิ่งออกมา ผมของเธอจึงชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหงื่อไหลตามผมของเธอหยดลงพื้นไม่ขาดสาย เสื้อข้างในเปียกชื้นไปหมด
ก่อนออกมาเธอตั้งใจแต่งหน้าอย่างบรรจง ตอนนี้ชุ่มโชกด้วยเหงื่อ เครื่องสำอางละลายหมดแล้ว
มั่วชิงมีวิทยายุทธ์ วิ่งตามมาไม่กินแรงเท่าหลิงอวี้จื้อ เพียงแต่หอบเบาๆ เท่านั้น นางตบหลังหลิงอวี้จื้อเบาๆ ถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณหนู ไม่เป็นอะไรนะเจ้าคะ!”
“ไม่เป็นอะไร เพียงแต่ไม่แข็งแรงพอ วิ่งมาตั้งใกล้ หัวใจเต้นแรงเหลือเกิน หากวิ่งต่อไป ข้าเกรงว่าหัวใจมันจะหลุดออกมา”
หลิงอวี้จื้อจับอกตัวเอง พิงกำแพง ไม่พูดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเห็นมา
เมื่อครู่ขณะวิ่งอย่างบ้าคลั่ง เธอได้แต่คิด เธอต้องเกิดภาพหลอนแน่ๆ
เซียวเหยี่ยนจะทำเรื่องเช่นนี้กับเฉินปี้ในจวนได้อย่างไร ซ้ำยังถูกเธอเห็นพอดิบพอดี วันนี้เธอมาเพราะความคิดชั่ววูบ นี่พิสูจน์ได้ว่าเฉินปี้ไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอเห็น ถึงแม้เธอไม่มา ทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นอยู่ดี
“คุณหนู ท่านอ๋องไม่มีทางทำเรื่องที่จะทำร้ายคุณหนู เฉินปี้เป็นฝ่ายยั่วท่านอ๋องแน่นอน ปกติท่านอ๋องไม่ใช่คนฝักใฝ่ในกาม ข้าน้อยจับได้ว่าท่านอ๋องดูค่อนข้างผิดปกติ เกรงว่าจะถูกวางยา”
ตอนนี้คิดให้ดีๆ หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ ถึงแม้จะถูกวางยา เธอก็ยังรับไม่ได้ที่เซียวเหยี่ยนกับเฉินปี้สัมผัสกันเช่นนั้น เธอไปหาเซียวเหยี่ยนเพราะอยากคืนดี ผลคือถูกตบหน้า ถูกตบหน้าคราวนี้เจ็บไหมล่ะ อืม เจ็บมาก
“อาเหยี่ยนไม่เชื่อมาตลอดว่าเฉินปี้เป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ ตอนนี้เฉินปี้ยังไม่ทันเข้าจวนก็คิดจะนอนกับอาเหยี่ยนแล้ว อยากใช้จุดนี้ยึดพื้นที่ในจวน
มั่วชิง เจ้าว่าผู้หญิงคนหนึ่งเหตุใดจึงหน้าไม่อายถึงขั้นนี้ ผู้ชายบนโลกนี้ตายไปหมดแล้วหรืออย่างไร
นางถึงได้อดใจไม่ไหวอยากนอนกับผู้ชายเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะทำที่ห้องโถงกลางด้วย โถ่เอ๊ย ไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว ขืนพูดต่อไป ข้าคงโกรธจนปวดตับ”
หลิงอวี้จื้อกุมตับตัวเอง โกรธจนปวดตับจริงๆ เธอเคยแสดงละครทำนองนี้มาก่อน ไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาปรากฏในชีวิตของตนเองจริงๆ วินาทีนั้นแม้แต่ความคิดจะฆ่าคนก็ผุดขึ้นมาแล้ว ทำไมตัวเองต้องวิ่ง ไม่ใช่ควรจะตบเฉินปี้แรงๆ สักฉาดหรอกหรือ จากนั้นค่อยออกมา
“คุณหนู ให้ข้าน้อยไปสั่งสอนเฉินปี้เถิด”
หลิงอวี้จื้อห้ามนางไว้
“ข้าจัดการเอง ให้ข้าคิดให้ดีๆ ก่อนว่าควรจะทำอย่างไรต่อ”
“คุณหนู หากท่านอ๋องโดนวางยา เรื่องนี้ก็โทษท่านอ๋องไม่ได้นะเจ้าคะ”
ไม่ง่ายเลยกว่าหลิงอวี้จื้อจะตัดสินใจมาคืนดีกับเซียวเหยี่ยน มั่วชิงกลัวจริงๆ ว่าหลิงอวี้จื้อจะขัดแย้งกับเซียวเหยี่ยนเพราะเรื่องนี้อีก ด้วยเหตุนี้มั่วชิงจึงช่วยพูดแทนเซียวเหยี่ยน
หลิงอวี้จื้อหลุบตาลง เตะก้อนหินเล็กๆ บนพื้น
“อาเหยี่ยนเป็นใคร เฉินปี้ทำสำเร็จได้ แสดงว่าอาเหยี่ยนไม่ได้ป้องกันเฉินปี้ มิเช่นนั้นเฉินปี้คงไม่มีแม้แต่โอกาสจะวางยา สุดท้ายเขาก็ยังเชื่อเฉินปี้อยู่ดี”
ประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของหลิงอวี้จื้อแสดงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เกิดเรื่องเช่นนี้ เธอไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้ากับเซียวเหยี่ยนอย่างไร อีกไม่นานเธอก็จะแต่งงานกับเซียวเหยี่ยนแล้ว
ท่านเทวดาดูแลเธอดีเหลือเกิน ก่อนจะออกเรือนให้เธอได้ลิ้มลองหลากหลายรสชาติชีวิต ขณะนี้เธอทำได้เพียงสงบจิตสงบใจ
ตอนนี้เองมีรถม้าคนหนึ่งมาจอด หลิงอวี้จื้อเงยหน้าขึ้น เห็นหลังม่านรถม้ามีศีรษะโผล่ออกมา นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเฉินปี้
เมื่อเห็นเฉินปี้ หลิงอวี้จื้อก็เกิดความรู้สึกโกรธจนแทบจะระเบิด นึกไม่ถึงว่ายังจะได้เจอนางอีก
ตอนที่ 501 ที่น่าอับอายที่สุดก็คือมือที่สาม
ซูฮว่าประคองเฉินปี้ลงจากรถม้า หลิงอวี้จื้อหน้าบึ้ง แก้มป่อง มองเฉินปี้อย่างเยือกเย็น แทบอยากจะฉีกเฉินปี้เป็นชิ้นๆ
อู่จิ้นไม่ได้พาเฉินปี้ไปส่งถึงจวนตระกูลเฉิน แต่พานางไปส่งที่รถม้า เฉินปี้ก็นึกไม่ถึงว่าจะได้พบหลิงอวี้จื้อกลางทาง ในเมื่อเจอกันแล้ว เช่นนั้นนางก็จะไม่พลาดโอกาสทองครั้งนี้
เฉินปี้ยิ้มน้อยๆ ให้หลิงอวี้จื้อ ทำท่าทางเป็นผู้ชนะ
“คุณหนูหลิง เหตุใดมาอยู่ที่นี่ รถม้าจวนท่านมหาเสนาบดีเล่า อากาศก็ไม่ร้อน เหตุใดคุณหนูหลิงจึงเดินจนเหงื่อท่วมหัวเช่นนี้”
“เหงื่อออก ดีต่อสุขภาพ เฉินปี้ เจ้าเคยไปหอนางโลมหรือ บางครั้งผู้หญิงหอนางโลมก็ถูกส่งมานอนกับผู้ชายถึงบ้าน นึกไม่ถึงว่าเจ้าก็มีงานอดิเรกทำนองนี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เสียดายชาติกำเนิดของเจ้าเสียจริง ลูกสาวตระกูลใหญ่ผู้โด่งดัง นึกไม่ถึงว่าจะเรียนรู้เรื่องนอกลู่นอกทางเช่นนี้ หน้าตาของตระกูลเฉิน เกรงว่าจะถูกเจ้าทำลายป่นปี้”
เฉินปี้ปิดปาก ทำท่าเขินอาย
“วันนี้ข้าเพียงมาส่งขนมโก๋สี่เหลี่ยมหยกขาวให้ท่านอ๋องเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าท่านอ๋องจู่ๆ ก็ควบคุมตนเองไม่อยู่ จึงทำเรื่องอย่างว่ากับข้า
เดิมข้าก็เป็นคนของท่านอ๋องอยู่แล้ว ในเมื่อท่านอ๋องอยากได้ ข้าก็ไม่กล้าขัด นึกไม่ถึงว่าคุณหนูหลิงมาเห็นเข้าพอดี
คุณหนูหลิง ขออภัยด้วยนะ ข้ากับท่านอ๋องเข้าหอล่วงหน้าก่อน คืนวันแต่งงาน ข้าจะไม่แย่งกับคุณหนูหลิงแน่นอน ให้คุณหนูหลิงได้ปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดี”
“ข้าก็เคยเห็นคนหน้าไม่อายมาแล้ว แต่ไม่เคยเจอคนหน้าไม่อายขนาดนี้
ที่แท้ท่านอ๋องอดใจไม่ไหวหรือว่าเจ้าอดใจไม่ไหวกันแน่ เจ้ารู้ดีแก่ใจ
ชีวิตนี้เจ้าไม่เคยเจอผู้ชายหรือ เห็นอยู่ว่าเขาไม่มีใจก็ยังจะเอาตัวเข้าไปชิด หากอยากได้ผู้ชายขนาดนี้ก็ไปหอนางโลมสิ ผู้ชายประเภทไหนก็มีทั้งนั้น เจ้าจะต้องพึงใจแน่นอน เจ้าจะได้ไม่ต้องมาขายขี้หน้าต่อหน้าคนอื่น”
เฉินปี้หัวเราะได้ใจ
“คุณหนูหลิงก็ไม่ต้องด่าทอดูถูกข้า ไม่ว่าข้าจะใช้วิธีอะไร ก็ไม่มีทางปกปิดเรื่องจริงที่ว่าข้ากับท่านอ๋องเป็นสามีภรรยากัน”
พูดจบก็ดึงแขนเสื้อขึ้นมา เผยให้เห็นแขนขาวสะอาด
“จุดโส่วกงซาบนแขนข้าหายไปแล้ว มอบให้ท่านอ๋องก่อนคุณหนูหลิง ข้าทำด้วยความเต็มใจ”
เห็นแขนขาวสะอาดของเฉินปี้ ใจหลิงอวี้จื้อก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ราวกับมีหนามแทงอก ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้เห็นว่าโส่วกงซาสำคัญอะไร
แต่ว่าเห็นความมหัศจรรย์ของสิ่งนี้กับตาตนเองแล้ว ของหลิงอวี้หรงหายไปแล้ว ของเธอยังคงอยู่ดีมาตลอด จุดโส่วกงซาบนแขนเฉินปี้หายไปแล้วแสดงว่านางเสียพรหมจรรย์แล้ว ไม่ได้แล้ว เธอไม่สามารถสะกดพลังงานที่เรียกร้องจากภายในร่างกายได้อีกแล้ว
หลิงอวี้จื้อเงื้อมือตบเฉินปี้หนึ่งฉาดโดยไม่มีสัญญาณเตือน เฉินปี้มึนงงเล็กน้อย ครู่เดียวก็มีสติกลับมา ฉวยโอกาสนี้ หลิงอวี้จื้อตบนางอีกฉาด ตบเสร็จแล้ว เธอสะบัดๆ มือ การตบสองครั้งนี้เธอใช้แรงทั้งหมด ตบจนฝ่ามือแดงไปหมด และเจ็บจริงๆ
แก้มซ้ายขวาของเฉินปี้เป็นรอยนิ้วมือห้านิ้วชัดเจน เห็นได้ชัดว่านางไม่คิดว่าหลิงอวี้จื้อจะตบคนได้ ซูฮว่าประคองเฉินปี้ ตะโกนพูดว่า
“คุณหนูหลิง ทำไมต้องตบกันด้วยเจ้าคะ”
“ข้าตบหน้าเจ้านายเจ้า มันใช่เวลาที่เจ้าพูดได้หรือ รีบไสหัวไปข้างๆ เดี๋ยวนี้”
หลิงอวี้จื้อเดินไปตรงหน้าเฉินปี้
“เฉินปี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้หญิงที่น่าอับอายที่สุดเป็นอย่างไร ก็เป็นมือที่สามอย่างไรเล่า
เจ้ารู้ดีว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มีฐานะเป็นอย่างไร ยังจงใจจะเข้าไปจับอาเหยี่ยนอีก ในฐานะผู้หญิงเหมือนกัน ข้ายังรู้สึกอับอายแทนเจ้า เจ้าหน้าตาสะสวยปานนี้ กลัวจะขายไม่ออกขนาดนี้เชียวหรือ
เห็นอยู่ตำตาว่าคนที่มาสู่ขอเจ้าต่างต่อแถวยาวเหยียดไปถึงถนนใหญ่ ก็ยังดันทุรังทำตัวเองให้ด้อยค่าอยู่นั่น ตระกูลเฉินอบรมเลี้ยงดูเจ้ามาให้ทำเรื่องต่ำๆ เช่นนี้หรือ”