ตอนที่ 480 ฉู่อีอีเป็นบ้าไปแล้ว
คนที่หนึ่ง คนที่สอง…ฉู่อีอีไม่รู้ว่าตอนนี้มันรอบที่เท่าไรแล้ว เธอรู้เพียงว่าตอนนี้เธออยากตาย อยากตาย
เมื่อเห็นอีกคนหนึ่งเข้ามา ฉู่อีอีก็เป็นบ้าไปแล้ว
“อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา” ฉู่อีอีส่ายหัวไม่หยุด มองดูผู้ชายเหล่านั้นที่มองเธอเหมือนกำลังดูละครสนุกๆ หัวใจของเธอกลัวจนสั่นเทา
ทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้กับเธอ เพราะอะไร เพราะอะไร
ชายคนนั้นทับอยู่บนร่างของเธอ ทันใดนั้นเธอก็เปิดปากแล้วกัดที่คอของผู้ชายโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ
“อ๊า…” ชายผู้นั้นกรีดร้องและเลือดไหลออกมาจากคอของเขาทันที
ผู้ชายที่กำลังดูละครสนุกเหล่านั้นคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ฉู่อีอีจะคลุ้มคลั่ง สีหน้าเปลี่ยนแล้วเดินเข้ามาทันที
ดึงแขนของฉู่อีอี ต้องการจะแยกเธอออกมา แต่ว่าในตอนนี้ฉู่อีอีเหมือนกับเป็นคนบ้า กัดคนนั้นไม่ยอมปล่อย เลือดของชายผู้พ่นออกมาเหมือนสเปรย์ จนกระทั่งเขาไม่หายใจแล้ว ฉู่อีอีก็ยังไม่ยอมปล่อย
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นไม่ได้คาดหวังว่าฉู่อีอีจะโหดร้ายถึงเพียงนี้ ออกแรงบังคับแยกเธอออกจากผู้ชายคนนั้น
คนนั้นหมดลมหายใจแล้ว
“ฮ่าๆ…ฮ่าๆ…ตายแล้ว ตายแล้ว…” หลังจากฉู่อีอีถูกดึงออกมา ก็หัวเราะทันที
ในตอนนี้ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยเลือด แม้แต่บนตัวและมือก็ด้วย เธอดูเหมือนเป็นผี เมื่อผู้ชายเหล่านั้นเห็นท่าทางของฉู่อีอีแบบนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างประหลาด
ผู้ชายเหล่านั้นพยายามเข้าใกล้ฉู่อีอี เพิ่งจะยื่นมือออกไป ใครจะรู้ว่าฉู่อีอีก็ร้องตะโกนทันที “อ๊า อย่าแตะต้องตัวฉัน ไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่เกี่ยวกับฉัน…”
“ฮ่าๆๆ…พวกแกจะต้องตาย ฉันจะฆ่าพวกแก…”
ฉู่อีอีเดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวหัวเราะ เมื่อมองที่คนข้างๆ เธอก็ยื่นมือไปที่คอของผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนอื่นๆ เห็นแล้ว สีหน้าเปลี่ยนทันที รีบเดินเข้าไปดึงฉู่อีอีออกมา ทั้งรุมเตะและต่อยเธอ
“คนเลว คนเลว…”
“ฮ่าๆๆ…ฉันจะให้พวกแกตาย ไปตายให้หมด” ทั้งๆ ที่ถูกซ้อมขนาดนั้น แต่ว่าฉู่อีอีราวกับไม่รู้สึกเจ็บ ยังคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ฉู่อีอีค่อยสงบลง เธอราวกับว่าตายแล้ว คนเหล่านั้นหยุดกระกระทำ เห็นเพียงฉู่อีอีลืมตาแล้วจ้องพวกเขาตาไม่กระพริบ บนใบหน้ามีรอยเลือด ท่าทางแบบนั้นเหมือนกำลังขอชีวิตจากพวกเขา
ทันใดนั้นก็เหมือนมีลมหนาวพัดมา ผู้ชายพวกนั้นสั่นเทาและรู้สึกหนาวเล็กน้อย
“สงสัยผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว เรียกคนมาส่งเธอไปโรงพยาบาลประสาทเถอะ” ผู้ชายพูด ถ่มน้ำลายใส่ฉู่อีอี หันหลังจากไป หลังจากคนพวกนั้นมองดูแล้วถ่มน้ำลายใส่เธอแล้ว ก็แยกย้ายกันไปจากห้องขังของเธอ
ต่อให้ฉู่อีอฝันก็นึกไม่ถึงว่าสักวันหนึ่งตัวเองจะเจอกับการปฏิบัติเช่นนี้ และทุกสิ่งที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานในตอนนี้ก็เป็นเพราะฉู่เจียเสวียนชั่วคนนั้น
ตั้งแต่ที่เธอเข้าคุกมา ก็ถูกคนพวกนั้นทรมานทุกวัน ปล่อยให้เธอทำงานหนัก ไม่ยอมให้เธอกินข้าว เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ราวกับตายทั้งเป็น
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องทำกับเธอแบบนี้ เธอไม่เคยทำสิ่งนี้กับพวกเขา จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้ยินว่ามีคนตั้งใจสั่งให้ดูแลเธอเป็นอย่างดี
หึหึ ตั้งใจ ไม่ต้องเดา ฉู่อีอีก็รู้แล้วว่าเป็นใคร เผยหนานเจวี๋ย คิดไม่ถึงว่าคุณจะโหดร้ายกับฉันถึงเพียงนี้ เพื่อฉู่เจียเสวียนคนเลวคนนั้นแล้ว คุณส่งฉันเข้าคุกอย่างใจจืดใจดำ ตอนนี้ยังให้พวกเขาทำให้ฉันอัปยศถึงเพียงนี้
น้ำตาไหลจากดวงตา เมื่อคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่งดงามและร่ำรวย แต่ตอนนี้กลับต้องมาลงเอยเช่นนี้
สักวันหนึ่ง เธอจะทวงสิ่งเหล่านี้คืนมา
ตอนบ่าย ฉู่อีอีก็ถูกคนส่งตัวไปโรงพยาบาลประสาท
“พี่สาว พี่จะพาฉันไปไหนเหรอ” ฉู่อีอีมองคนที่อยู่ข้างๆ ยิ้มด้วยสีหน้าสดใสราวกับเด็ก
ตอนที่ 481 ต้องเชื่อฟังนะ
“มา ต่อไปเธอก็อยู่ที่นี่ ต้องเชื่อฟังนะ” คนที่เธอเรียกว่าพี่สาว มองเธอด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“อื้ม พี่สาว…พี่ให้ลูกอมฉันกินได้หรือเปล่า” ฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเขาก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย ดวงตาบริสุทธิ์ราวกับเด็กน้อย
คนนั้นลูบผมของฉู่อีอีเบาๆ หันหลังจากไป แล้วปิดประตู
หลังจากคนนั้นไปแล้ว ฉู่อีอีกระโดดอยู่บนเตียงด้วยความดีใจ กระโดดขึ้นลงอยู่บนเตียง ใบหน้าสวยงามน้อยๆ เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
มองดูฉู่อีอีที่บางทีหัวเราะร่าเริง บางทีสีหน้ามืดมน ไม่รู้ว่าเธอบ้าจริงหรือว่าแกล้งบ้า ถึงอย่างไรตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาลประสาทแล้ว ถ้าคิดจะออกไป เกรงว่ามันจะไม่ง่ายแล้ว
ในห้องทำงานท่านประธานบริษัทเผย
“เป็นบ้า?” เผยหนานเจวี๋ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ได้ยินเนื้อหาในสายคิ้วก็ขมวดกันแล้ว
“ใช่ครับ วันนี้ถูกคนส่งไปที่โรงพยาบาลประสาท” คนที่ปลายสายพูดต่อ
“โอเค” พูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็วางสายแล้ว เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าฉู่อีอีจะเป็นบ้า
แต่เป็นบ้าก็ดี ผู้หญิงประเภทนี้ จิตใจเ**้ยมโหดแบบนั้น ทำตัวเองจะโทษคนอื่นไม่ได้
เมื่อคิดว่าถูกเธอหลอกมานาน หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยก็ยังอดไม่ได้ที่จะโมโห โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาคิดถึงสถานการณ์กับฉู่เจียเสวียนในตอนนี้ เขาก็รู้สึกโกรธมากขึ้น
ผู้หญิงคนนี้โกหกเขามาเป็นเวลาหกปี เขารู้สึกว่าบทเรียนนี้ยังเบาไปสำหรับเธอ
ถอนหายใจเบาๆ ช่างเถอะ เรื่องของฉู่อีอีผ่านไปแล้วก็อย่าไปคิดเลย ตอนนี้เขาแค่ต้องคิดว่าจะทำให้ฉู่เจียเสวียนกลับมาหาเขาได้อย่างไร
เวลาผ่านไปครึ่งเดือนโดยไม่รู้ตัวแล้ว เมื่อฉู่เจียเสวียนรู้ถึงวิกฤตของกลุ่มบริษัทกง ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว
กงจวิ้นฉือที่วางแผนจะกลับประเทศในตอนแรก เนื่องจากเพราะธรุกิจรัดตัวจึงไม่สามารถปลีกตัวได้ และกลุ่มบริษัทกงที่อยู่ต่างประเทศก็กำลังประสบกับวิกฤติครั้งใหญ่
ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาฉู่เจียเสวียนไม่ค่อยเห็นเผยหนานเจวี๋ยเลย ในที่สุดเธอก็โล่งใจเมื่อคิดว่าเผยหนานเจวี๋ยเลิกมายุ่งเกี่ยวกับเธอแล้ว
กงจวิ้นฉือสงสัยว่าการที่บริษัทต่างประเทศถูกโจมตีเป็นไปได้ว่าเผยหนานเจวี๋ยจะอยู่เบื้องหลัง เขากำลังตรวจสอบเบื้องต้น
กงจวิ้นฉือบอกการคาดเดานี้ให้กับประธานซูที่อยู่ในประเทศ และไม่ให้เขาบอกฉู่เจียเสวียน แต่ว่าระหว่างที่คุยกับฉู่เจียเสวียนอีกครั้ง เขาก็ไม่ระวังหลุดปากออกไปแล้ว
หลังจากฉู่เจียเสวียนรู้ข่าวนี้แล้ว ในใจก็โมโห เห็นได้ชัดว่าเผยหนานเจวี๋ยยั่วโมโหกงจวิ้นฉือเพราะเธอ แต่ว่าพวกเขายังเป็นคู่ค้ากับกลุ่มบริษัทเผย ทำแบบนี้แล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไร
ฉู่เจียเสวียนต้องมาพร้อมมาตรการตอบโต้ ตอนนี้ที่บริษัทกงประสบความยากลำบาก ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ เธอจะต้องแก้ไขด้วยตัวเอง
วันรุ่งขึ้น ฉู่เจยเสวียนทนความทุกข์ทรมานในใจไม่ไหว ยังทำงานไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เธอก็ขับรถไปยังบริษัทเผยแล้ว เธอต้องการพบเผยหนานเจวี๋ยเพื่อคลี่คลายเรื่องนี้ ไม่สามารถปล่อยให้เขาโจมตีบริษัทกงแบบนี้ต่อไปได้
ฉู่เจียเสวียนมาถึงชั้นบนสุด เลขาของเผยหนานเจวี๋ยบอกเธอว่าเผยหนานเจวี๋ยกำลังประชุม ประมาณอีกหนึ่งชั่วโมงถึงจะกลับมา
ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็ไปรอเขาในห้องรับรอง
หลังจากครุ่นคิดแล้ว ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าตอนนี้เธอใจร้อน การเจอเขาในตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องคุยกับเขาอย่างไร จึงคิดจะกลับไปก่อน
“ตอนนี้ฉันมีธุระด่วน รอเขาไม่ได้แล้ว คราวหน้าฉันค่อยมาใหม่” พูดจบก็ต้องการจะหันหลังจากไป ตอนนี้เธอนึกวิธีหยุดยั้งเขาไม่ออก
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นบริษัทที่ร่วมมือกัน แต่เขายังคงโจมตีบริษัทกงในทางของเขาเองงั้นเหรอ
“ประธานเผย?” เลขาเห็นเผยหนานเจวี๋ยที่ปรากฏตัวกะทันหัน แววตามีความสงสัย