เช้าตรู่

เย่ฉางเฝ้าดูจางเจิ้งเฉียง และหลินหลี่ที่ลานบ้าน แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองออกไปไกล เขามองเห็นอาคารหลายหลังในมหาวิทยาลัย เขาจึงตัดสินใจที่จะออกไปเดินเล่น

มหาวิทยาลัย เขตวิหคเพลิง

เย่ฉางมีชื่อเสียงมากแม้แต่ในเมืองหลวง ที่ร้านขายของริมถนน เขาซื้อไอติมด้วยความตั้งใจที่จะได้รับรางวัล แต่เขากลับได้รับแผ่นกระดาษที่เขียนเอาไว้ว่า ‘โปรดบริจาคอีก 5 เหรียญเพื่อการกุศล’

“……”

เย่ฉางหันหลังกลับ และเห็นว่าในบริเวณไม่ไกลนัก มีนักศึกษาหลายคนกำลังเดินเข้าไปในอาคารเรียน เขามองไปที่ป้าย ‘มันเป็นคลาสเรียนสาธารณะ ลองไปดูกันดีกว่าว่าอาจารย์ผู้มีคุณวุฒิในเมืองหลวงเป็นอย่างไรกัน’ ด้านในเป็นอาคารที่สวยงาม เย่ฉางเดินขึ้นไปหาคนแปลกหน้าในแถวแรก และยิ้มออกมาอย่างแจ่มใส ผู้ชายคนนั้นรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และเสนอที่นั่งของเขาให้กับเย่ฉางทันที

เย่ฉางเอื้อมมือออกไปแตะบ่าของเขา “นักศึกษาของเมืองหลวงช่างเป็นคนที่ใจดีมากจริงๆ…”

“ไม่เป็นไรครับ…” ผู้ชายคนนั้นมีความสุขมากที่ได้รับลายเซ็นจากเย่ฉาง จากนั้นเขาก็หันไปรอบๆ และโยนนักศึกษาบางคนออกจากแถวนั่งที่สอง จากนั้นเขาก็นั่งลงแทนที่คนที่เขาโยนออกไป

เย่ฉางสงสัยว่าทำไมการบรรยายสาธารณะจึงมีผู้คนจำนวนมากเช่นนี้ จนทำให้พวกเขาแก่งแย่งกันเพื่อที่นั่ง แต่เมื่อเขาเห็นอาจารย์กำลังเดินขึ้นไปบนเวที ไอติมที่เขากำลังกินอยู่เก็ได้ตกลงไปที่พื้น สิ่งแรกที่เข้าตาของเขาคือ หน้าอกขนาดมหึมาที่เหมือนกับลินดาภายในเกม จนทำให้เขารู้สึกเหมือนกับโดนคลื่นสึนามิถาโถมใส่ ขณะที่เธอค่อยๆเดินขึ้นไปบนเวที เขาจึงได้เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ และมีใบหน้าที่สวยงามมาก รูปร่างของเธอกลมกลึงดีมาก และช่วยเพิ่มความงดงามของเธอ จนยิ่งทำให้เธอดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เย่ฉางเห็นว่ามีผู้ชายบางคนในแถวนั่งที่สองได้หยิบเอากระดาษทิชชูบางส่วนออกมาอย่างใจเย็น และวางไว้ที่ด้านข้างของเขา ราวกับว่าเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับพิธีชั่วร้ายบางอย่าง แต่สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความจริงใจอย่างมาก ราวกับดวงตาของพระพุทธรูป

เย่ฉางหันไปหาคนหยาบคายที่นั่งอยู่ข้างเขา “นายได้ลงคลาสเรียนของเธอไปกี่ตัว”

“ทุกๆตัวที่ฉันสามารถลงเรียนได้…” ผู้ชายคนนั้นตอบอย่างภาคภูมิใจ

“แล้วเธอสอนเกี่ยวกับอะไร?” เย่ฉางยังคงถามต่อ

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สิ่งที่เธอสอนไม่สำคัญหรอก…” ผู้ชายคนนั้นยังคงตอบกลับมาด้วยความภาคภูมิใจ

เย่ฉางมองไปที่คลื่นหน้าอกที่กำลังกระเพื่อมคู่นั้น และพยักหน้าเห็นด้วย “มีเหตุผล…”

“ทำไมคลาสเรียนของฉันถึงมีแต่นักศึกษาผู้ชายกันนะ…” อาจารย์ผู้หญิงคนนั้นยักไหล่ ทำให้คลื่นของหน้าอกกลายเป็นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เสียงที่เหมือนกับเด็กวิตกกังวลของเธอทำให้เย่ฉางรู้สึกเสียวซ่าน จนเขาอดคิดกับตัวเองไม่ได้ ‘ฉันควรย้ายมาเรียนที่นี่ดีไหม…’

เมื่อชั้นเรียนเริ่มต้นขึ้น ผู้ชายทุกคนก็จ้องไปที่ระลอกคลื่นของหน้าอกราวกับกำลังดูหนัง เย่ฉางจึงจ้องตามประเพณีของที่นี่ด้วยเช่นกัน ขณะที่ระลอกคลื่นหน้าอกไปทางซ้าย เขาก็หันไปทางซ้าย หรือขณะที่ระลอกคลื่นหน้าอกไปทางขวา เขาก็ค่อยๆหันไปทางขวาด้วยเช่นกัน ป้ายชื่อของอาจารย์ถูกติดอยู่ระหว่างคลื่นของหน้าอกคู่นั้น ป้ายชื่อของเธอคือ รั่วหงเย่…

ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคนราวกับจมไปในน้ำ และฟังเพลงใต้น้ำของไซเรน รั่วหงเย่มองเห็นชุดของเย่ฉาง ‘เขาไม่ได้มาจากมหาวิทยาลัยของฉันนี่ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นนายพลของสงครามศักดิ์สิทธิ์ – สุภาพบุรุษปีศาจงั้นหรือ? ดูเหมือนว่าคลาสเรียนสาธารณะของฉันไม่เพียงมีดี แต่ยังเป็นที่นิยมมากเช่นกัน จนแม้แต่ผู้ทรงอิทธิพลมากในเมืองหลินไห่ก็ยังมาเข้าร่วมฟังการบรรยายของฉัน’ เมื่อเธอนึกไปถึงการเต้นเพลงวอลทซ์ที่โดดเดี่ยวของเขา… เธอก็เริ่มมีความคิดที่ดีต่อเย่ฉางขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อสิ้นสุดคลาสเรียน ผู้ชายทั้งหมดทุกคนปรบมือ รั่วหงเย่โค้งคำนับและน้ำตาไหลออกมา “อย่าลืมมาเจอกันอาทิตย์หน้า! มาพบกับอาจารย์หงเย่อีกครั้ง!”

เย่ฉางค่อยๆลุกขึ้น และเฝ้ามองดูเธอจากไป เขายืนกอดอก และลูบคางของเขาพร้อมกับใช้ความคิด ‘นั่นเป็นก้นที่ดีที่สุดในโลกเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย แม้แต่คุณป้ากระชับก็ยังไม่มีก้นที่งดงามมากเท่านี้ แต่ก้นของทั้งคู่ก็มีพลานุภาพที่แตกต่างกัน ก้นของเธอดูกลมกลึงและไม่เหี่ยว นี่จัดว่าเป็นอาวุธหนักที่มีพลังทำลายสูงได้เลยทีเดียว แต่สำหรับก้นของคุณป้ากระชับ ก้นของเธอเป็นความคลาสสิกซึ่งยากที่จะเอาไปเทียบกันได้ ด้วยความคลาสสิกนี้ ทำให้ก้นของคุณป้ากระชับได้รับความนิยมมากกว่านิดนึง แต่มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าให้พวกเธอเข้ามาพร้อมกัน และให้ฉันจับก้นทั้งสองได้ในเวลาเดียวกัน เฮ้อ ลืมมันไปดีกว่า คุณป้าก้นกระชับอาจจะไม่ยอมให้ฉันจับก้นของเธออีกต่อไปแล้วก็ได้’ เย่ฉางพึมพำ “ตามที่คาดไว้ เธอสมกับอาจารย์ผู้มีคุณวุฒิของเมืองหลวงมากจริงๆ…”

เย่ฉางเดินออกจากอาคารเรียนด้วยความรู้สึกค่อนข้างผิดหวัง เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “ทำไมมหาวิทยาลัยหลินไห่ถึงไม่มีอาจารย์แบบนี้บ้างนะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกเราถึงไม่เคยเป็นผู้ชนะในการแข่งขันมหาวิทยาลัยทั้งห้าได้เลย เพราะพวกเราขาดแคลนสิ่งเหล่านี้ยังไงล่ะ เฮ้อ…”

ขณะที่เขาพูดจบและวางแผนที่จะออกไป ทันใดนั้น เสียงที่ทำให้ผู้ชายที่ฟังรู้สึกอ่อนแอ และพร้อมที่จะคุกเข่าให้กับเธอได้ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา “นักศึกษาเย่ฉาง…”

เย่ฉางพลันหันกลับมา และเห็นอาวุธทำลายล้างคู่นั้นกำลังกระเพื่อมวิ่งมาหาเขา ‘ไม่ดีแล้ว!’ เขารีบก้าวถอยหลัง และมองไปที่อาจารย์รั่วหงเย่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา “อาจารย์ มีอะไรรึเปล่าครับ…?”

“ฉันของลายเซ็นของนายหน่อยได้ไหม? การเต้นของนายมันน่าอัศจรรย์เกินไป มันน่าเสียดายที่ฉันไม่มีพรสวรรค์ในการเต้น…” รั่วหงเย่หยิบปากกาขึ้นมา และยื่นไปให้กับเย่ฉาง

เย่ฉางมองไปที่คลื่นกระเพื่อม และใช้เวลาสักครู่เพื่อพูดออกมา “ให้ผมเซ็นตรงไหนครับอาจารย์…”

“ฉันลืมหยิบกระดาษออกมาด้วย งั้นเซ็นลงไปที่เสื้อของฉันแล้วกัน” รั่วหงเย่หัวเราะออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

เย่ฉางตกใจ ‘ผู้หญิงคนนี้เธอวางแผนมาเป็นอย่างดีเลยทีเดียว! แต่นี่มันก็ดีสำหรับฉันเช่นกัน! ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาจะถูกทำลายล้างจนกลายเป็นขี้เถ้าด้วยอาวุธคู่นี้ของเธอไปแล้ว’ เขาคว้าปากกาจากมือของเธอ และหมุนวนไปรอบๆตัวเธออย่างรวดเร็วเพื่อเซ้นชื่อลงบนหน้าอกขนาดมหึมาของเธอ เขาเซ็นชื่อลงไปว่า ‘เย่ฉาง <3’

เย่ฉางเฝ้ามองขณะที่เธอเดินจากไปอย่างมีความสุข ‘ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสะพรึงกลัวมากจริงๆ…’

เย่ฉางเดินทางกลับไปที่ตระกูลฉิน พร้อมกับโชว์ให้จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่เห็นภาพบันทึกการสอนของเธอที่เย่ฉางได้อัดเอาไว้ เมื่อได้เห็นภาพบันทึกการสอนครั้งนี้ พวกเขาได้พูดออกมาอย่างพร้อมเพียงกัน “เราไปโอนย้ายมหาวิทยาลัยกันเถอะ…”

“เมืองหลวงมีอาจารย์ผู้มีคุณวุฒิเป็นจำนวนมากจริงๆ…” จางเจิ้งเฉียงกอดอกและพูดออกมา

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใหญ่มากจริงๆ เฮ้ย! เยอะมากจริงๆ…” หลินหลี่พูดด้วยปากที่อ้ากว้างของเขา

FrozenCloud เอามือก่ายหน้าผากอยู่ข้างๆ ‘นี่เป็นอาจารย์หงเย่ที่สอนคลาสเรียนสาธารณะแน่ๆ ตราบเท่าที่มีเหล่าโอตาคุ คลาสเรียนของเธอจะเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากอย่างแน่นอน เธอเป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขตวิหคเพลิง’ เธอถอนหายใจ “หัวหน้าทีมคะ ฉันเพิ่งย้ายจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงไปมหาวิทยาหลินไห่เองนะคะ”

“เธอมันเป็นพวกสายตาไม่กว้างไกลจริงๆ…” เย่ฉางถอนหายใจ

“เธอเพิ่งทอดทิ้งอนาคตอันสดใสของเธอไป…” จางเจิ้งเฉียงพูดอย่างเศร้าโศก

“ใช่แล้ว! ถูกเผงเลย!” หลินหลี่เดินเข้ามา

ThornyRose มองไปที่กลุ่มของเย่ฉางอย่างกระตือรือร้น เมื่อเธอได้ยินว่าเป็นเรื่องของรั่วหงเย่ “พวกนายกำลังพูดถึงยัยโคนม ยัยโคนมเป็นคนดี แต่เธอก็เป็นคนที่โง่เง่าอยู่เล็กน้อย สมองของเธอทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก ย้อนกลับไปตอนที่เธอเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เธอเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดในชั้นเรียนของพวกเรา แต่เกรดของเธอต่ำ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่เพียงเปิดสอนคลาสเรียนสาธารณะเท่านั้น…”

“อาเฉียง หลินหลี่รีบกลับไปฝึกซะ! โรส ลูกอย่าไปรบกวนพวกเขาสิ!!” ฉินซานตะโกนออกมา ในขณะที่เขากำลังเดินเข้ามา เย่ฉางเห็นหมวกที่เขาถืออยู่ในมือดูคุ้นๆ จากนั้นเย่ฉางก็ย้อนกลับวีดีโอดู ‘ไม่ใช่ว่านี่คือหมวกแบบเดียวกันกับผู้ชายที่แต่งตัวประหลาดที่นั่งอยู่ตรงด้านขวาสุดของแถวหน้า ในคลาสเรียนของรั่วหวงเย่งั้นหรือ?’ เย่ฉางหันกลับไปมองฉินซานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเผยรอยยิ้มที่มีความหมายบางอย่าง ThornyRose ก็สังเกตเห็นเช่นกัน ทุกคนหันกลับไปมองฉินซาน ผู้ที่เพิ่งกลับมาด้วยรอยยิ้มที่มีความหมายบางอย่าง “พ่อ พ่อคิดว่าแม่จะทำยังไงถ้าแม่ได้เห็นสิ่งนี้…”

“ฮ่าฮ่า เซียงน้อย พ่อรักลูกจะตาย ที่พ่อพูดออกไปก่อนหน้านี้ พ่อก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง!!” ฉินซานเปลี่ยนการแสดงออกอย่างทันที เย่ฉางอดรู้สึกประทับใจออกมาไม่ได้ การแสดงออกของเขาคล้ายคลึงกับวลีหนึ่งที่ว่า ‘ลูกผู้ชายตัวจริงสามารถยืดหยุ่นได้’

ThornyRose ได้เงินที่เธอต้องการและเดินจากไป สำหรับฉินซาน เขาทำได้แค่เพียงถอนหายใจออกมาเท่านั้น

“คลื่นสึนามิเป็นอันตรายอย่างยิ่งยวด…” เย่ฉางพึมพำ

ฉินซานพยักหน้าเห็นด้วยอย่างโศกเศร้า

“……” FrozenCloud พูดไม่ออก ‘พวกผู้ชายนี่ก็นะ…’