ตอนที่ 368 ไม่ต้องการพึ่งพา / ตอนที่ 369 ถูกล้อมอย่างแน่นหนา

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 368 ไม่ต้องการพึ่งพา

 

 

 

 

เวลานี้ซูจิ่วซือยังไม่มั่นใจ ได้แต่เสี่ยง สำหรับนางแล้วสกุลมู่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

 

ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ซิ่วหลานก็ยกยาเข้ามา แม้ไม่ชอบซูจิ่วซือ แต่เพราะจงมั่วเจียง นางจึงเกรงใจซูจิ่วซือ “คุณหนูซู ดื่มยาเจ้าค่ะ”

 

 

“คงไม่ใช่ยาพิษนะ!”

 

 

พอเห็นซิ่วหลานยกยามา กู้หลียวนก็รีบพูดขึ้น

 

 

“คุณหนูซูถ้าไม่วางใจก็ไม่ต้องดื่ม บ่าวรับผิดชอบเอายามาให้เท่านั้น” ซิ่วหลานพูดจบก็วางชามยาลงบนโต๊ะ แล้วออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

“เป็นสาวใช้ของจงมั่วเจียงยังวางท่าโอหังขนาดนี้ จิ่วซือ ยานี้เจ้าอย่าดื่มเลย ข้ากลัวว่าจงมั่วเจียงจะวางยาเจ้า”

 

 

“วางใจเถอะ! ตอนนี้เขาไม่วางยาแน่” เผยปิงปิงยกชามยาบนโต๊ะขึ้น เดินไปหาซูจิ่วซือ “ให้ข้าชิมก่อนก็ได้”

 

 

ซูจิ่วซือรับชามยาจากมือเผยปิงปิง “ข้าก็เชื่อว่าเขาคงไม่วางยา เอามาให้ข้า!”

 

 

พอรับชามยาแล้ว ซูจิ่วซือก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด จู่ๆ  เผยปิงปิงก็พูดขึ้น “เจ้ารู้สึกไหมว่าซิ่วหลานหน้าตาดีจริงๆ  ชื่อซิ่วหลาน เป็นชื่อที่เหมาะกับนางมาก”

 

 

กู้หลียวนเข้าใจความหมายของเผยปิงปิงทันที “ลูกสาวคนโตสกุลมู่อาจจะหน้าตาดี แต่เจ้าไม่ควรเห็นใครก็สงสัยไปหมด”

 

 

“จงมั่วเจียงมีสาวใช้มากมาย ในเมื่อเราอยู่ที่นี่ ก็ควรเริ่มต้นสืบที่นี่ก่อน”

 

 

ซูจิ่วซือไม่อยากละโอกาส สำนักวิหคเขียวเป็นองค์กรมือสังหารที่ใหญ่ที่สุดในวงการนักเลง สาวใช้ของสำนักวิหคเขียวอย่างน้อยก็มีเป็นร้อย แม้จะเป็นการค้นหาแบบเดาสุ่ม แต่ซูจิ่วซือก็อยากลอง

 

 

“ข้าไปหาจงมั่วเจียง พวกเจ้ารอก่อน”

 

 

เผยปิงปิงพูดจบก็ออกไปจากห้อง ชั่วพริบตานางก็หายไปไม่เห็นแม้แต่เงา

 

 

“เด็กคนนี้ทำอะไรใจร้อนจริงๆ ” กู้หลียวนส่ายหน้า “เจ้าพักผ่อนให้ดี รอเจ้าดีขึ้นเราค่อยออกไปจากที่นี่ ไม่ต้องรีบร้อนเดินทาง รักษาแผลให้หายก่อน เจ้าคงไม่อยากให้เฉินหรงเห็นเจ้าในสภาพนี้”

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า นางเองก็ไม่อยากให้ฟู่เฉินหรงเห็นนางได้รับบาดเจ็บ อาการไม่เบา ฟู่เฉินหรงมีภารกิจรัดตัว นางไม่อยากเพิ่มความลำบากให้ฟู่เฉินหรง หลายเรื่องนางทำเองได้ และไม่จำเป็นต้องพึ่งฟู่เฉินหรง

 

 

วันข้างหน้านางได้แต่ยืนอยู่ข้างกายฟู่เฉินหรง จับมือเขาเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ามีเขา นางก็ยิ่งพอใจ ถ้าเขาไม่อยู่ นางก็สามารถจัดการปัญหาได้มากมาย

 

 

“เจ้ากับปิงปิงเปลี่ยนไปจากเดิม”

 

 

กู้หลียวนก็สังเกตเห็น แต่ไม่กล้ายอมรับ และไม่ได้ยอมรับ “ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป เพียงแต่พูดคุยกันมากหน่อย ดื่มยาแล้วพักผ่อนให้ดี ข้าจะกลับไปก่อน”

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า กู้หลียวนยออกไป

 

 

พอกู้หลียวนออกไปแล้วซูจิ่วซือก็นอนลงบนเตียง นึกถึงเรื่องราวของสกุลมู่ หวังว่าความคิดของนางจะถูก จะได้พบลูกสาวคนโตสกุลมู่ให้เร็วที่สุด

 

 

 

 

หลังจากเฟิงชิงสุ่ยได้รับจดหมายนางก็ให้ชิวซูเอาไปเผา ชิวซูถามด้วยความประหลาดใจ “คุณหนู จดหมายนี้ใครเป็นคนเขียน”

 

 

“เจ้าสำนักวิหคเขียว เวลานี้ซูจิ่วซืออยู่ที่เมืองชินโจว”

 

 

“ทำไมเจ้าสำนักวิหคเขียวถึงเขียนจดหมายถึงคุณหนู…”

 

 

เฟิงชิงสุ่ยกุมกำไลหยกที่ข้อมือ “จดหมายนี้ไม่ได้เขียนให้ข้า เขียนให้องค์รัชทายาท จงมั่วเจียงให้องค์รัชทายาทไปรับซูจิ่วซือที่เมืองชินโจว

 

 

มีคนจงใจส่งจดหมายนี้ให้ข้า แสดงว่าคนใกล้ชิดจงมั่วเจียงไม่อยากให้ซูจิ่วซือมาที่เมืองหลวง ข้าประเมินซูจิ่วซือต่ำไป จงมั่วเจียงช่วยนาง”

 

 

“คุณหนูมีแผนการอย่างไรเจ้าคะ”

 

 

“องค์รัชทายาทคงไม่รู้ว่าซูจิ่วซืออยู่ที่ไหน ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่จำเป็นต้องบอก ชิวซู รีบฝนหมึกให้ข้า แจ้งหลี่ฉางกุ้ย รีบส่งทหารไปล้อมคฤหาสถ์สกุลจง ข้าจะเอาชีวิตของซูจิ่วซือ”

 

 

 

 

——

 

 

ตอนที่ 369 ถูกล้อมอย่างแน่นหนา

 

 

 

 

หลี่ฉางกุ้ยเป็นผู้ตรวจการเมืองชินโจว เคยเป็นทหารตระกูลเฟิง หากนางเอ่ยปาก หลี่ฉางกุ้ยต้องช่วยแน่

 

 

ไหนๆ ก็ต้องตาย ซูจิ่วซือ เจ้าไม่ต้องมา อยู่ที่เมืองชินโจวนั่นแหละ!”

 

 

วันรุ่งขึ้น เผยปิงปิงมาหาซูจิ่วซือที่ห้อง หลังจากดื่มน้ำอึกใหญ่นางก็เริ่มพูด “ข้าสอบถามแน่ชัดแล้ว สำนักวิหคเขียวมีสาวใช้ร้อยสิบคน ในจำนวนนี้มีคนอายุสิบแปดหกสิบคน

 

 

มีสามคนที่ถูกขาย และมีสิบห้าคนที่บอกว่าเป็นกำพร้า เพื่อความมั่นใจ ข้าให้จงมั่วเจียงตรวจสาวใช้อายุสิบแปดทั้งหกสิบคน เขารู้ว่าเจ้ากำลังสืบหาอยู่ จึงกระตือรือร้นมาก ดูแล้วเขาคงอยากจะไถ่โทษ”

 

 

ซูจิ่วซือไม่พูดไม่จา ได้แต่พยักหน้า

 

 

“ซิ่วหลานก็เป็นลูกกำพร้า แปลกจริงๆ  ทำไมข้าจึงสนใจซิ่วหลานมาก จงมั่วเจียงมอบหมายเรื่องนี้ให้นางทำ เจ้าเด็กนี่ดูเหมือนไม่พอใจเจ้า ข้าเกรงว่านางไม่ตั้งใจทำ ตอนนั้นข้าจ้องนางอยู่ จึงถือโอกาสตรวจนางด้วย”

 

 

“ขอบใจปิงปิง”

 

 

“ไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อข้าเองก็ไม่มีอะไรทำ เพื่อเพื่อน ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร อีกอย่างหนึ่งไม่แน่วันหลังเราอาจจะเป็นครอบครัวเดียวกัน”

 

 

เผยปิงปิงหัวเราะร่า “ข้าอยากให้เจ้ารักษาตัวให้ดี เรื่องนี้มอบให้ข้าจัดการ ต้องทำได้แน่”

 

 

ซูจิ่วซือก็หัวเราะ ถ้าเผยปิงปิงแต่งงานกับกู้หลียวนจริงๆ  วันหลังก็จะเป็นสะใภ้ของนาง คิดแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ นางได้คบเป็นเพื่อนสนิทกับลูกชายและลูกสะใภ้

 

 

นี่เป็นเรื่องที่เมื่อก่อนนางไม่กล้าคิด สวรรค์ทำลายชีวิตซูหลิ่วทั้งชีวิต แต่กลับมอบชีวิตที่ดีกว่าให้นาง

 

 

สามวันต่อมา อาการบาดเจ็บของซูจิ่วซือก็ดีขึ้นมา เผยปิงปิงมารายงานผล นางตรวจสอบคนในสำนักวิหคเขียวทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ไม่พบแม่นางที่มีไฝรูปผีเสื้อ

 

 

ผลนี้ทำให้ซูจิ่วซือผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่เกินความคาดหมาย แม่นางคนนี้ไม่ใช่ตามหาง่ายๆ

 

 

เย็นนั้น ขณะที่ซูจิ่วซือกำลังกินอาหารกับเผยปิงปิงและกู้หลียวนอยู่ในเรือน จู่ๆ  จงมั่วเจียงก็เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ “จิ่วซือ ข้างนอกเกิดเรื่อง หลี่ฉางกุ้ยพาคนมาปิดล้อมพวกเรา กำลังคนไม่น้อย เฟิงชิงสุ่ยลงมือจัดการเจ้าแล้ว”

 

 

หลี่ฉางกุ้ยเคยเป็นทหารตระกูลเฟิง เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นความลับ คฤหาสน์ของจงมั่วเจียงตั้งอยู่ที่เมืองชินโจว จึงเข้าใจสภาพของเมืองชินโจวดี

 

 

ซูจิ่วซือวางชามข้าวลง ทำไมเฟิงชิงสุ่ยจึงรู้ว่านางอยู่นี่

 

 

“เจ้าเป็นคนรายงานเฟิงชิงสุ่ยใช่หรือไม่ จงมั่วเจียง เจ้ามักจะทำเรื่องน่าละอายลับหลังอยู่เรื่อย”

 

 

กู้หลียวนรีบวางตะเกียบในมือ กว่าจะกินข้าวด้วยกันสามคนไม่ใช่ง่ายๆ  แต่กลับไม่ได้กินอย่างสงบ

 

 

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า เจ้าจะเชื่อหรือไม่แล้วแต่เจ้า ปิงปิง เจ้าคุ้มกันจิ่วซือ ถ้ามีโอกาส ข้าจะให้คนมาบอกเจ้า ข้าจะไปพบหลี่ฉางกุ้ยก่อน”

 

 

พอบอกเสร็จ จงมั่วเจียงก็รีบออกไป

 

 

“เฟิงชิงสุ่ยน่ากลัวจริงๆ  นางมีกำลังทหารอยู่ในมือ ที่นี่ไม่ได้อยู่ภายใต้บารมีของฮ่องเต้ ฝ่าบาทไม่อาจดูแลได้ ถ้าพวกที่มาล้อมมีจำนวนมาก เราคงหลบหนียาก

 

 

เผยปิงปิงหนีไปคนเดียวได้ แต่ซูจิ่วซือไม่มีวรยุทธ กู้หลียวนก็ยังไม่เก่ง เผยปิงปิงคนเดียวพาคนสองคนหนีออกไปไม่ไหว

 

 

ซูจิ่วซือลุกขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่นางกับเฟิงชิงสุ่ยต่อกรกัน เฟิงชิงสุ่ยไม่เผยตัว คนที่เสียเปรียบ ก็คือนางเอง