บทที่161

ผู้แปล : N.

ซู่เซ๋วเหมิงพูดอย่างรุนแรงว่า: “ฉันจะไม่ขอโทษ!”

เซี่ยยูพูดว่า: “คุณพูดอะไรนะ!”

“ได้…ตั้งแต่วันนี้ไปบริษัทลู่เทคโนโลยี และพันธมิตรของเราจะปฏิเสธที่จะร่วมมือกับคุณและบริษัทบันเทิงชั้นนำที่อยู่ข้างหลังคุณ!”

“ฉันต้องเตือนคุณว่า คุณได้ทำเรื่องที่สกปรกมาเยอะถึงแม้บริษัทของคุณจะช่วยคุณปกปิดมันไว้ แต่เราไม่ใช้ เราคือบริษัทลู่เทคโนโลยี เราจะไม่ยอมทนกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ”

หูจิงได้ฟังแบบนั้นก็หน้าซีดขึ้นมาทันที สิ่งที่อีกฝ่ายบอกมานั้นถือว่าเป็นคำขาด หากซู่เซ๋วเหมิงยังคงตั้งใจที่จะไม่ขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรับรองว่าเรื่องนี้ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน

ช่องทางและเครือข่ายของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นแข็งแกร่งกว่าของพวกเธอมาก หากบริษัทของพวกเขากดดันบริษัทของเธอขึ้นมาจริงๆ มันคงเป็นความสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะเธอรู้ว่าซู่เซ๋วเหมิงนั้นทำเรื่องสกปรกไว้มากขนาดไหน ที่มันไม่เป็นข่าวมาถึงทุกวันนี้นั้นเพราะบริษัทได้ทำการปกปิดให้เขา แต่ถ้าบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการขุดคุ้ยความผิดเก่าๆของซู่เซ๋วเหมิงขึ้นมาละก็ บริษัทของเธอต้องถูกผลกระทบอย่างแน่นอน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คือซู่เซ๋วเหมิงเป็นคนผิด นี่จึงทำให้เธอไม่มีเงื่อนไขที่จะเจรจากับอีกฝ่าย

“ซู่เซ๋วเหมิง! คุณยืนอยู่นิ่งๆได้ไหม!” หูจิงตะโกนออกมาและเธอเดินไปหยุดอยู่หน้าซู่เซ๋วเหมิงจากนั้นกระซิบว่า: “คุณยอมทำเพื่อบริษัทได้ไหม คุณไปขอโทษพวกเขาหน่อยนะ!”

“เป็นไปไม่ได้!” ทัศนคติของซู่เซ๋วเหมิงแสดงออกมาชัดเจน

หูจิพูดว่า: “ฉันรู้ว่าคุณไม่ต้องการเสียหน้า แต่เรื่องนี้มันส่งผลต่อภาพรวมของบริษัท…”

ระหว่างที่เธอกำลังพูดก็ได้มีสายเรียกเข้าจากซีอีโอของบริษัทซุปเปอร์สตาร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์

บริษัทซุปเปอร์สตาร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นอุตสาหกรรมบันเทิงที่ใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ พวกเขานั้นมีศิลปินแนวหน้ามากมาย เคลือโรงละครภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ขนาดใหญ่เป็นของตัวเองอีกด้วย

เมื่อซีอีโอได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเขาก็โกรธทันทีและพูดว่า “ฉันจะถามเธอว่าเรื่องในครั้งนี้ใครผิด ถ้าเป็นบริษัทลู่เทคโนโลยีเราจะสู้เรื่องนี้ให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน…”

“อะไรนะ เรื่องทั้งหมดเกิดเพราะซู่เซ๋วเหมิง!”

“เธอส่งโทรศัพท์ไปให้มันคุย! “

หูจิงได้ยื้นโทรศัพท์ไปให้กับซู่เซ๋วเหมิง เธอพูดว่า:” เจ้านายต้องการคุยกับคุณ “

ซู่เซ๋วเหมิงถอนหายใจถอนและพูดว่า” สวัสดีครับ “

อีกฝั่งได้พูดขึ้นมาทันที “ซู่เซ๋วเหมิง นายทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม ในสายตาของนายทุกคนต้องอยู่ต่ำกว่าตัวนายเสมอเลยใช้ไหม!”เขาพูดต่อว่า “ฉันจะถามนายประโยคเดี่ยว นายไปทำร้ายน้อยสาวของประธานลูทำไหม นายคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหรือไง? ”

” ฉันต้องการให้นายไปขอโทษพวกเขาทันที หากนายทำให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทละก็ ฉันจะไล่นายออก! นายเข้าใจไหม? ”

ซู่เซ๋วเหมิงได้ยินแบบนั้นก็แสดงหน้ามืดมนออกมา แต่เขาก็ไม่กล้าเถียงกลับไปเพราะเขารู้ดีว่าคำพูดของเจ้านายของเขานั้นมีผลยังไงในวงการบันเทิง ถ้าเขาไม่ทำตามที่เจ้านายบอกเขาต้องจบอนาคตในวงการอย่างแน่นอน!

ดวงตาของเขาเป็นสีแดงและเขามองไปที่ลูชิน  ตอนนี้ลูชินยังคงนั่งอยู่บนโซฟาและด้านข้างของเขาก็มีซู่สี่ยวและลูเหว่ยนั่งอยู่ด้วย

ซู่เซ๋วเหมิงยังคงนิ่งอยู่ ทันใดนั้นหูจิงได้เดินมาผลักเขาไปยืนต่อหน้าลูชิน เขาจำต้องพูดว่า “ประธานลู! ผมต้องขอโทษด้วยกับการกระทำของผมก่อนหน้านี้”

“ขอโทษฉัน?” ลูชินถาม

“ใช่ … ” ซู่เซ๋วเหมิงได้พูดออกมาด้วยความไม่เต็มใจ ทางด้านหลิงยูเฟิงก็ได้เดินออกไปด้านข้างและแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร

“และฉันไม่ควรดูถูกพวกคุณ!” ซู่เซ๋วเหมิงหายใจเข้าลึกๆและพูดต่อว่า“ ฉันต้องขอโทษคุณจากใจจริง”

“ โอ้”

หากมีโอกาสซู่เซ๋วเหมิงต้องการชกลูชินซักครั้ง แต่เขาไม่กล้าเพราะเขาเพิ่งได้ยินคำพูดของเจ้านาย เขายังต้องการที่จะสนุกกับชีวิตการเป็นดาราอยู่ ดังนั้นเขาต้องทนกับเรื่องนี้เท่านั้น

เขาหันไปหาลูเหว่ยและกระซิบว่า: “ขอโทษที่ผมได้ผลักเธอไป มันเป็นความผิดของผม”

ดวงตาของลูเหว่ยเบิกกว้าง เธอไม่เคยคิดเลยซู่เซ๋วเหมิงจะมาขอโทษตัวเอง!

ด้านหลังของซู่เซ๋วเหมิงนั้นคือหลิงยูเฟิง ตอนนี้เขากัดริมฝีปากของเขาแล้วมองไปที่ซู่เซ๋วเหมิงซึ่งยังขอโทษในการกระทำของตัวเอง เขาต้องยอมรับว่ามุมมองที่เขามองซู่เซ๋วเหมิงได้พังทลายลงมา!

เขาได้มองเห็นความกลัวในสายตาของมองซู่เซ๋วเหมิง โชคดีที่เขายังไม่ได้ทำอะไรผิดออกไป ไม่เช่นนั้นตอนนี้คงเป็นเขาที่ต้องทำเรื่องน่าอายนี้!

ซู่เสี่ยวดูตื่นเต้นมาก เธอไม่คิดเลยว่าพี่เขยของเธอจะเป็นคนที่สุดยอดขนาดนี้!

“ฉันจะรับไว้ ถึงรู้ว่านั้นคือคำขอโทษที่นายพูดส่งๆมาก็ตาม พวกนายไปได้แล้ว!” ลูชินโบกมือไล่ให้ออกไป เขาได้ใช้น้ำเสียงที่หูจิงและซู่เซ๋วเหมิงเคยใช้พูดกับเขา!

ซู่เซ๋วเหมิงปิดตาของเขาและไม่พูดอะไรเลยหูจิงรีบดึงเขาออกมาแล้วพูดว่า: “พวกเราต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันเป็นความผิดของพวกเราทั้งหมดและเจ้านายของเราก็ทราบเรื่องนี้แล้ว เขาฝากมาว่าอีกไม่นานเขาจะมาขอโทษคุณด้วยตัวเองอีกครั้ง “

เธอพูดจบแล้วดึงซู่เซ๋วเหมิงออกไปทันที

สิบนาทีต่อมาดูเหมือนว่าบางคนลืมไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามหลิงยูเฟิงรู้ว่าถึงแม้ซู่เซ๋วเหมิงจะพูดขอโทษออกมา แต่เขาก็ได้สร้างปัญหาใหญ่ขึ้นมาแล้ว

เมื่อรู้ว่าซู่เสี่ยวคือน้องของลูชิน หลิงยูเฟิงก็ถ่ายรูปกับพวกเธอเป็นพิเศษและยังได้รวมพูดคุยกันอีกด้วย ซึ่งทำให้ซู่เสี่ยวนั้นมีความสุขอย่างมาก

ในตอนเย็นวันนั้น เมื่อพวกเขาไปดูคอนเสิร์ตกลับมาที่ห้อง ซู่เสี่ยวยังพูดถึงเรื่องนี้ เธอพูดว่า: “พี่เขย พี่สุดยอดมากเลย พี่เหมือนบอสใหญ่ในหนังยังไงยังงัน!”

“พวกเธออย่าบอกเรื่องนี้กับพี่สาวของเธอละ ฉันไม่อยากจะถูกลงโทษ!” ลูชินพูดออกมา

“พี่เขยสามารถมันใจได้!” ซูเสี่ยวหัวเราะออกมา

ในอีกด้านหนึ่ง ซู่เซ๋วเหมิงได้ย้ายออกจากโรงแรมในวันนั้นทันที !

“คุณได้ทำเรื่องใหญ่แล้ว? ” หูจิงพูดต่อว่า”คุณต้องรู้จักพูดขอโทษบ้าง ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต”

ซู่เซ๋วเหมิงตะโกนออกมาว่า: “ขนาดแม่ของฉันยังไม่กล้าขอให้ฉันขอโทษเธอเลย แล้วพวกนั้นคือใครถึงต้องให้ฉันไปขอโทษ!”

“เฮ้ คุณรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา!” หูจิงมองไปที่หน้าของซู่เซ๋วเหมิงและพูดว่า: “เรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไป ฉันจะไม่สนใจมันแต่ในอนาคตคุณต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดีกว่านี้ ไม่เช่นนั้นฉันคงต้องขอลาออกจากการเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ!”

“เธอว่าอะไรนะ!” ซู่เซ๋วเหมิงถามด้วยความตกใจออกมา

“ตอนนี้ฉันต้องขอเตือนคุณว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ เจ้านายต้องการให้เรารีบกลับไปยังบริษัททันที และครั้งนี้คุณต้องยอมรับความผิดพลาดของคุณต่อเจ้านายทั้งหมด คุณต้องยอมรับอย่างจริงใจด้วย! “หูจิงพูดด้วยความอับจนหนทาง

ซู่เสี่ยวได้อยู่เล่นเพียงหนึ่งวันในเมืองเจียงเฉิง, ก่อนที่จะถูกส่งไปยังสนามบินโดยลูชินในวันถัดไป และเธอดูลังเลอยู่บ้าง เธอพูดว่า “หนูจะมาหาพี่เขยในวันหยุดครั้งต่อไปได้ไหม? ”

” เราจะคุยเรื่องนี้หลังจากจบการสอบเข้าวิทยาลัย! “ลูชินพูดก่อนที่พวกซุ่เสี่ยวจะขึ้นเครื่อง

พายุเล็กๆของเหตุการณ์ของซู่เซ๋วเหมิงไม่มีผลกับบริษัทลู่เทคโนโลยี

ลูชินไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้และพนักงานของบริษัทได้จัดการเรื่องนี้ได้ดี เขาเริ่มให้ความสำคัญกับการวิจัย ‘กล้องถ่ายอัจฉริยะ’ต่อทันที

นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาชิ้นต่อไปของลูชิน กล้องถ่ายภาพอัจฉริยะเป็นเพียงชื่อของโครงการเท่านั้น ที่จริงเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับการฉายภาพด้วยเลเซอร์ การประมวลผลภาพ และชิปการถ่ายภาพอัจฉริยะ สิ่งนี้สามารถใช้ได้ไม่เพียงแต่กับโทรศัพท์ แต่ยังใช้กับอุปกรณ์อัจฉริยะชิ้นอื่นๆได้อีกด้วย เช่นแว่นตาอัจฉริยะ g-551 ที่ลูชินมีอยู่แล้ว