ตอนที่ 486 จูบกับผมแล้วน่าขยะแขยงขนาดนี้เลยเหรอ / ตอนที่ 487 ปวดใจ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 486 จูบกับผมแล้วน่าขยะแขยงขนาดนี้เลยเหรอ

 

 

           “อ่อ” ฉู่เจียเสวียนตอบเสียงเบา ที่จริงเพียงแค่บอกซูซานสักคำก็พอแล้ว เธอไม่กลัวว่าเธอจะเป็นห่วง เพราะว่าบางครั้งเธอต้องจัดการเรื่องงานไม่ก็ไปทริปธุรกิจ และไม่กลับไปนอนที่บ้าน

 

 

           ท่าทางที่เย็นชาของฉู่เจียเสวียนทำให้เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกหงุดหงิดอย่างประหลาด ผู้หญิงคนนี้ ถ้าไม่ให้บทเรียนแก่เธอสักหน่อยเห็นทีเธอคงไม่รักดีจริงๆ

 

 

           คิดพลางโน้มตัวเข้าไปหาฉู่เจียเสวียน หันศีรษะของฉู่เจียเสวียนมาที่ตัวเอง ก่อนที่ฉู่เจียเสวียนจะสามารถทำอะไรได้ เขาก็ประกบริมฝีปากของเธอโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยแล้ว

 

 

           “อือ…” ฉู่เจียเสวียนถูกเขาจูบโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยใช้กำลังจู่โจมโดยตรงและไม่สนว่าฉู่เจียเสวียนจะยินยอมหรือไม่ รสชาติช่างดีจริงๆ เผยหนานเจวี๋ยคิดอยู่ในใจ จูบเสร็จก็ยังไม่ลืมที่จะบอกกับฉู่เจียเสวียน “หวานจัง!”

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยสูดอากาศทั้งหมดออกจากตัวฉู่เจียเสวียนแล้ว ทันใดนั้นฉู่เจียเสวียนก็รู้สึกแน่นหน้าอก และรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย

 

 

           “ฉันอยาก…ลงรถ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยอย่างยากลำบาก ข่มความรู้สึกไม่สบายท้องไว้ พร้อมกับพูด

 

 

           “เป็นอะไรไป?” เผยหนานเจวี๋ยประหลาดใจเล็กน้อย ราวกับว่าไม่เข้าใจคำขอฉับพลันของเธอ

 

 

           “ฉัน…” ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่ายิ่งรู้สึกไม่สบายท้องขึ้นทุกที สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว ท่าทางน่าสงสารมาก

 

 

           เมื่อเห็นท่าทางของฉู่เจียเสวียนแบบนี้ เผยหนานเจวี๋ยได้แต่จอดรถข้างทาง ทันทีที่รถจอด ฉู่เจียเสวียนก็เปิดประตูรถแล้ววิ่งออกไปทันที

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนที่วิ่งลงจากรถราวกับโผบินอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ลงจากรถตามไปมองดูฉู่เจียเสวียนที่กำลังโก้งโค้ง อาเจียนอย่างทรมานอยู่ตรงนั้น

 

 

           เขาสีหน้ามืดมนลงทันที ผู้หญิงคนนี้ จูบกับเขาแล้วรู้สึกขยะแขยงเพียงนี้เชียวเหรอ ถ้าผู้ชายคนอื่นเห็นท่าทางของเธอแบบนี้ก็คงไม่มีความสุขเหมือนกันสินะ? เรื่องนี้มันทำลายศักดิ์ศรีมากแค่ไหน?

 

 

           “จูบกับผมแล้วน่าขยะแขยงขนาดนี้เลยเหรอ” เสียงที่มืดมนของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้นเหนือศีรษะของเธอ

 

 

           “ขอโทษนะ ฉัน…” เมื่อเห็นสีหน้าที่มืดมนจนน่ากลัวของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนก็รู้สึกผิดอยู่ในใจเล็กน้อย

 

 

           ที่จริงช่วงนี้เธองานยุ่งมาก กินข้าวไม่ตรงเวลา และเพราะว่าว่าเรื่องงานเธอจึงเป็นโรคกระเพาะหลายต่อหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ฉู่เจียเสวียนก็เพียงอาเจียนเอาน้ำกรดออกมา ยังไม่มีอะไรตกถึงในกระเพาะเลย เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในรถ เธอก็ต้องการจะบอกกับเขาแล้ว แต่เธอกลัวว่าจะอาเจียนบนรถ จึงรีบร้อนลงจากรถแบบนั้น

 

 

           เขาหยิบผ้าที่เป็นเครื่องประดับออกมาจากกระเป๋าสูท ยื่นให้ฉู่เจียเสวียนที่ยืนตัวตรงอยู่ตรงหน้า

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยื่นมือรับด้วยความซาบซึ้ง ทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกว่าเผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้น บางครั้งก็ยังเป็นสุภาพบุรุษ อย่างน้อยเขาในตอนนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเกลียดชัง

 

 

           “ขอโทษนะ สำหรับพฤติกรรมของฉันเมื่อกี้” ฉู่เจียเสวียนพูดด้วยความอึดอัดเล็กน้อย หลังจากเธอหายใจได้เป็นปกติแล้ว เธอรู้สึกว่าพฤติกรรมเมื่อกี้ช่างทำร้ายศักดิ์ศรีของผู้ชายคนหนึ่งเหลือเกิน และรู้สึกว่าตัวเองเมื่อครู่น่าขายหน้ามาก

 

 

           “ขึ้นรถ” เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นอีก หลังจากพ่นคำที่เย็นชาออกมาสองคำก็เปิดประตูรถ

 

 

           “อืม” ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า แต่ว่าเธอก้าวเดินไปได้เพียงก้าวเดียว จู่ๆ เธอก็รู้สึกปวดกระเพาะ ร่างกายแทบจะล้มลงไปโดยไม่รู้ตัว พระเจ้า โรคเก่าของเธอกำเริบอีกแล้ว

 

 

           โชคดีที่เผยหนานเจวี๋ยมือไว ยื่นมือไปประคองฉู่เจียเสวียนอย่างรวดเร็วแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมอก เมื่อก้มหน้ามองเธอจึงพบว่าใบหน้าน้อยๆ ของเธอนั้นไร้สีเลือด

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยยืดเหยียดมือช้อนอุ้มฉู่เจียเสวียนขึ้นมา แล้วเดินไปที่รถ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนคิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้ตัวเองจะมีสภาพแบบนี้ เธอที่เป็นแบบนี้ไม่มีความมั่นใจต่อหน้าเผยหนานเจวี๋ยเลยสักนิด

 

 

 

 

       ตอนที่ 487 ปวดใจ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยอุ้มฉู่เจียเสวียนไปยังเบาะหลังด้วยความระมัดระวัง เมื่อเห็นสภาพของเธอก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย

 

 

           “นอนลงสบายๆ” เผยหนานเจวี๋ยขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ พูดขึ้นอย่างเฉยเมย แล้วสตาร์ทรถ เขาเร่งความเร็วขึ้น ครั้งนี้เขาร่นระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้าน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนต้องเวลาถึงสองชั่วโมงครึ่ง

 

 

           ขณะที่รถจอด ฉู่เจียเสวียนคิดว่าจะลุกขึ้นทันที เธอต้องการจะลงจากรถ แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าเผยหนานเจวี๋ยไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ให้เธอ ขณะที่เธอพยายามจะลุกขึ้นมานั้น เผยหนานเจวี๋ยก็เปิดประตตูรถแล้ว

 

 

           เขาก้มตัวแล้วยื่นมือออกไป ต้องการจะอุ้มฉู่เจียเสวียนลงจากรถ ฉู่เจียเสวียนเบือนหน้าด้วยความกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย เพียงพริบตาเธอก็ถูกเผยหนานเจวี๋ยอุ้มอยู่ในอ้อมแขน

 

 

           “ซ่งฉือ” เผยหนานเจวี๋ยอุ้มฉู่เจียเสวียนเข้าไปในบ้าน แล้วตะโกนเรียกคนที่อยู่ข้างใน

 

 

           ทันใดนั้น ผู้ชายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากในบ้าน ผู้ชายคนนี้ก็คือซ่งฉือ

 

 

           สำหรับซ่งฉือคนนี้ ฉู่เจียเสวียนยังพอจำเขาได้เล็กน้อย เขาคือหมอประจำบ้านของเผยหนานเจวี๋ย เมื่อก่อนตอนที่เธอเป็นภรรยาของเผยหนานเจวี๋ย เขาก็เคยรักษาเธอมาก่อน

 

 

           ซ่งฉือเดินเข้ามา เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนในอ้อมกอดของเขาแล้ว ได้แต่ประหลาดใจ ไม่ได้พูดอะไรมาก

 

 

           “ให้ฉันจัดการเถอะ” พูดจบ ยื่นมือต้องการจะรับฉู่เจียเสวียนไป เผยหนานเจวี๋ยกลับเบี่ยงตัวหลบมือของเขาที่ยื่นออกมา

 

 

           “ไม่ต้อง” เผยหนานเจวี๋ยปฏิเสธทันที

 

 

           แน่นอนซ่งฉือรู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยไม่ยอมให้เขาอุ้มฉู่เจียเสวียน เขาก็แค่ทำท่าทางไปเท่านั้น ลูบๆ จมูก หัวเราะ แล้วเดินตามหลังเผยหนานเจวี๋ยไป

 

 

           เมื่อเห็นว่าฉู่ซ่งก็อยู่ด้วย จู่ๆ ฉ่เจียเสวียนรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย เธอไม่อยากแสดงท่าทีสนิทสนมกับเผยหนานจวี๋ยต่อหน้าคนภายนอก

 

 

           “นายช่วยตรวจเธอที เหมือนว่าเธอจะเป็นโรคกระเพาะ” เขาวางฉู่เจียเสวียนลงบนโซฟา แล้วเอ่ยขึ้น

 

 

           “ดีมาก!” ทันทีที่ซ่งฉือได้ยิน ก็เริ่มช่วยเธอจับชีพจร ฉู่เจียเสวียนต้องการจะดึงมือกลับ

 

 

           “ผมเป็นหมอนะ คุณลืมแล้วเหรอ” รู้สึกได้ถึงปฏิกิริยาของฉู่เจียเสวียน ซ่งฉือรีบพูด ใบหน้าที่หล่อเหลามีรอยยิ้มงุนงงเล็กน้อย

 

 

           เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเผยหนานเจวี๋ยจะพาเธอกลับมา เขาคิดเช่นนี้ในใจ รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งสดใสกว่าเดิม

 

 

           “ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อ ฝากเธอให้นายก็แล้วกัน” เผยหนานเจวี๋ยคลายเนกไท เขาเป็นคนรักความสะอาด เมื่อครู่ตอนที่ฉู่เจียเสวียนอาเจียน เขาก็อุ้มเธอ ตอนนี้เขาได้แต่รู้สึกว่าบนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์

 

 

           หลังจากเหลือบมองฉู่เจียเสวียนแล้ว ก็หันหลังขึ้นชั้นบนไป เขากลับเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว เตรียมตัวอาบน้ำ

 

 

           เมื่อเผยหนานเจวี๋ยอาบน้ำเสร็จและใส่ชุดนอนลงมาชั้นล่างแล้ว สีหน้าของฉู่เจียเสวียนก็ดีขึ้นมาก

 

 

           เห็นว่าเผยหนานเจวี๋ยลงมา ซ่งฉือรีบพูด “คุณหนูฉู่ไม่มีอาการร้ายแรงอะไร ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว” พูดจบ ก็ส่งสายตามั่นใจให้กับเผยหนานเจวี๋ย เขามีความมั่นใจในทักษะการแพทย์ของตัวเองมาก

 

 

           “อืม” เผยหนานเจวี๋ยตอบรับอย่างเฉยเมย แล้วเดินไปนั่งลงข้างฉู่เจียเสวียน เขามองฉู่เจียเสวียนอย่างห่วงใย เมื่อฉู่เจียเสวียนเจ็บ หัวใจของเขาก็เจ็บกว่าสามเท่า

 

 

ทันทีที่เข้าใกล้ฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยก็ได้กลิ่นเหม็นบนตัวของฉู่เจียเสวียนได้อย่างชัดเจน เมื่อครู่เธออาเจียนหนักขนาดนั้น เชื่อว่าเธอจะต้องรู้สึกไม่สบายตัวแน่ คิดว่าถ้าเธออาบน้ำคงจะรู้สึกดีกว่านี้

 

 

           ดังนั้นเผยหนานเจวี๋ยจึงช้อนอุ้มฉู่เจียเสวียนขึ้นมาอีกครั้งทันที ซ่งฉือเห็นการกระทำของเผยหนานเจวี๋ย รอยยิ้มก็ผุดขึ้นในดวงตา ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะชอบเธอหนักเอาการทีเดียว ทั้งๆ ที่เป็นคนรักความสะอาดแบบนั้น แต่ก็ยังอุ้มฉู่เจียเสวียนที่ ‘เนื้อตัวมอมแมม’ ได้ หึหึ ซ่งฉือยิ้มด้วยความชั่วร้าย