CLS ตอนที่ 479: รับสามแม่ทัพ!
หลังจากที่พวกนั้นจากไป ก็เหลือเพียงพวกลู่เฟิง ส่วนคนอื่นต่างก็พากันหนีไปอย่างหน้าตั้ง ไม่กล้าหยุดอยู่ที่นี่ต่อ
“น้องอี้ ครั้งนี้เจ้าไปยังโลกวิญญาณ ไม่ทราบว่าไปทำอะไร พอจะบอกข้าสักอย่างสองอย่างได้หรือไม่?” ลู่เฟิงถาม
“ก็ไปทำเรื่องบางอย่างแหละ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่า?” อี้เทีนยหยุนมองเขาพร้อมกับถามขึ้น
“ไม่มีอะไร ข้าอยู่ที่นี่ ไม่ได้ตั้งใจจะไปโลกวิญญาณ หากว่าระหว่างทางสามารถมีเพื่อนร่วมทางไปด้วย นั่นก็คงเป็นเรื่องดี” ลู่เฟิงยิ้ม “ไม่ทราบว่าเจ้าพอจะรับข้าไปด้วยได้หรือเปล่า?”
“เรื่องนี้คงไม่ได้ชั่วคราว เรื่องของข้าในคราวนี้ มันคงไม่สะดวกเท่าไหร่” อี้เทียนหยุนปฏิเสธ เขาต้องไปยังรังฟีนิกซ์ ไม่สามารถพาคนอื่นไปได้เหมือนที่ผ่านมา เริ่นเหลียงเฉินกับพวกก็เช่นกัน
พูดได้ว่า นอกจากเขาแล้ว คนอื่นล้วนเชื่อไม่ได้ รังฟีนิกซ์นั้นรังเกียจมนุษย์แบบสุดๆ การพาคนไปด้วย กลัวว่าจะทำให้มีปัญหามากกว่า ดังนั้น คนน้อย ปัญหาก็น้อยตาม
“งั้น หรือว่าน้องอี้จะคุ้นเคยกับโลกวิญญาณดี?” ลู่เฟิงพลันจับใจความสำคัญบางอย่างได้
หากว่าไปยังโลกวิญญาณครั้งแรก แน่นอนว่าย่อมไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ สิ่งสำคัญคือต้องคุ้นเคยกับสภาพรอบๆ ดังนั้นจึงได้มีแผน การที่อี้เทียนหยุนบอกว่ามีเรื่องต้องทำ คำนี้ทำให้ลู่เฟิงพลันจับใจความได้
“ก็ไม่ถึงกับคุ้นเคย เพียงแต่พอรู้อยู่บ้าง จึงต้องไปจัดการ” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเฉยชา
“อืม…..” ลู่เฟิงมองไปยังอี้เทียนหยุนแล้วไม่พูดอะไรอีก “เมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าก็จะไม่ตื้อ ไว้เจอกัน!”
พูดจบ ลู่เฟิงก็เดินเข้าไปยังค่ายกลเคลื่อนย้าย อย่างรวดเร็ว เขาก็หายไปจากสายตาของพวกเขา
หลังจากเขาจากไป เริ่นเหลียงเฉินกับพวกก็พากันก้าวออกมา หลังจากมองตากันคราหนึ่ง ก็มองมาที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “น้องอี้ พวกเราวางแผนว่าจะติดตามเจ้า ที่ไหนที่เจ้าไป พวกเราก็จะไปด้วย! หากว่าไม่สะดวก พวกเราสามารถรอเจ้าอยู่ที่นี่ได้!”
พวกเขามองมาที่เขาอย่างมุ่งมั่น เท่ากับยอมรับเขาโดยสมบูรณ์
“ทำไมถึงทำอย่างนี้ล่ะ? ไม่ว่าวางแผนกันว่าหลังจากนี้จะแยกกันไปใครไปมันหรอกเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“พวกเรามีแผนเช่นนั้นจริง แต่ว่าตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว น้องอี้ ตลอดทางเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเรา ซึ่งนี่ทำให้พวกเราซาบซึ้งใจอย่างมาก พวกเราจึงวางแผนว่าจะติดตามเจ้า พร้อมใจทำงานเพื่อเจ้า!” เริ่นเหลียงเฉินพูดอย่างจริงจัง “พวกเราเป็นผู้ฝึกตนพเนจร ล้วนแต่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ดังนั้น พวกเราจึงวางแผนว่าจะทำงานรับใช้เจ้า! โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ พวกเราคิดว่าเจ้าสามารถสั่งการพวกเราได้ เหมาะที่จะเป็นพี่ใหญ่ของพวกเรา!”
“ใช่ ระดับของเจ้าแข็งแกร่งที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทอดทิ้งพวกเรา ไม่รังเกียจที่จะแบกพวกเราขึ้นหลัง! เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็ทำให้ข้ายอมรับเจ้าแล้ว มีเจ้าเป็นหัวหน้า พวกเราก็พร้อมที่จะทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด!”
“ข้าก็ด้วย” เหลิงหู่แสดงรอยยิ้มคลุมเครือออกมา แม้จะดูน่าเกลียดไปบ้าง แต่ก็พอจะเห็นได้ถึงความรู้สึกในใจของเขา
สายตาของพวกเขาต่างก็มุ่งมั่น ให้การยอมรับในตัวเขาอย่างสมบูรณ์ เห็นได้ชัดการปีนเขาก่อนหน้านี้ การกระทำของอี้เทียนหยุนได้เขย่าคลอนจิตใจของพวกเขา แค่จุดนี้จุดเดียว ก็ทำให้พวกเขาเลือกที่จะติดตามอี้เทียนหยุนจนหมดใจแล้ว
อี้เทียนหยุนมองไปยังพวกเขาพร้อมกับยิ้มออกมา “ที่จริงแล้วข้าเป็นหัวหน้าขุมอำนาจหนึ่ง ไม่ทราบว่าพวกท่านเต็มใจจะเข้าร่วมสำนักของข้าไหม?”
พวกเขาพากันมองหน้ากัน แต่สีหน้าของพวกเขายังคงไม่เปลี่ยน เริ่นเหลียงเฉินพยักหน้าแล้วพูดกับเขาว่า “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ข้าคิดว่าการได้เข้าร่วมสำนักของเข้า ต้องไม่ทำให้พวกเราผิดหวังอย่างแน่นอน!”
“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้บอกว่ากลัวข้อบังคับอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดพร้อมกับยิ้มออกมา
“นี่…. ตราบเท่าที่สามารถติดตามพี่ใหญ่อี้ ไม่ว่าที่ไหนข้าย่อมมีความสุข! ที่พวกเรากลัวก่อนหน้านี้ก็คือความเน่าเฟะของสำนัก แต่ในเมื่อมีพี่ใหญ่อี้ที่ปราดเปรื่องอยู่ทั้งคน ทำไมยังต้องกลัวความเน่าเฟะอีก?” หยางจื้อเหวินยิ้ม พร้อมกับคำเรียกหาที่เปลี่ยนไป “แล้วไม่ทราบว่าสำนักของพี่ใหญ่อี้คือ? พอจะบอกให้พวกเราฟังได้หรือไม่ ดูว่าพวกเราจะรู้จักหรือเปล่า”
“ชื่อที่แท้จริงของข้าคืออี้เทียนหยุน เป็นประมุขของวังเทียนหยุน ตอนนี้กำลังเตรียมที่จะก่อตั้งอาณาจักรเทียนหยุน อนาคตคือจักรพรรดิผู้หนึ่ง ไม่ทราบว่าพอจะเคยได้ยินกันหรือเปล่า?” อี้เทียนหยุนบอกความจริงออกไปพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“อะไรนะ!?”
พวกเขาพากันตกใจจนตาโต ข่าวนี้สร้างแรงกระแทกให้พวกเขาอย่างรุนแรงจริงๆ จนไม่สามารถฟื้นสติกลับมาได้ในระยะเวลาอันสั้น
“ประมุขวังเทียนหยุน อนาคตจักรพรรดิอาณาจักรเทียนหยุน? งั้นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญที่ทำลายอาณาจักรใต้พิภพก็คือท่าน?” หยางจื้อเหวินพูดออกมาด้วยความตกใจ
“ใช่แล้ว” อี้เทียนหยุนยิ้ม ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของเขาจะโด่งดังพอสมควรเลย
“นี่ นี่ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ ตัวตนในตำนานผู้นั้น ที่แท้ก็มาอยู่ข้างกายพวกเรานี่เอง เป็นพี่ใหญ่อี้จริงๆ…..” เริ่นเหลียงเฉินกับพวกพากันตกใจอย่างหนัก คิดว่าไม่นาเชื่ออย่างมาก คิดว่าคงไม่มีทางได้เจอกัน แต่ใครจะคิดว่าคนผู้นั้นจะมาอยู่ข้างๆ พวกเขานี่เอง
“ว่ายังไง สนใจจะเข้าไหม?” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ก็ต้องเข้าอยู่แล้ว!!” พวกเราตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
“ดี งั้นก็ยินดีต้อนรับสู่วังเทียนหยุน” อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็โยนอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำสามชิ้นออกไป “นี่คือของขวัญรับหน้า อย่าเอามันออกมาใช้มั่วๆ ล่ะ”
“อะ อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์!?” พวกเราพากันร้องออกมาด้วยความตกใจ เพียงของขวัญรับหน้าก็เป็นถึงอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว นี่มันไม่ใจกว้างเกินไปเหรอ?
อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์พวกนี้อี้เทียนหยุนดรอปมาได้ ยังไม่ทันได้ขายออกไป เขาวางแผนว่าจะมอบมันให้กับลูกน้องของตน ขายไปก็ได้แค่ความความคลั่ง สู้มอบออกไปให้ลูกน้องเพิ่มความแข็งแกร่งไม่ดีกว่าเหรอ
“เพิ่งเข้าร่วมก็ได้ของขวัญรับหน้าระดับนี้แล้ว สมแล้วที่เป็นพี่ใหญ่อี้…. นี่สิถึงจะรักกันจริง” เริ่นเหลียงเฉินหัวเราะออกมา คิดว่าการเลือกที่จะติดตามอี้เทียนหยุนเป็นตัวเลือกที่ฉลาดจริงๆ
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้รับความภักดีโดยสมบูรณ์จากแม่ทัพเริ่นเหลียงเฉินสำเร็จ ค่าบัญชาการเพิ่มขึ้น 100, พร้อมกับที่แม่ทัพใต้บังคับบัญชาเลื่อนระดับ ท่านก็จะได้รับค่าประสบการณ์ด้วย ไม่มีจำกัด เมื่อแม่ทัพใต้บังคับบัญชาสังหารศัตรู ท่านก็จะได้รับรางวัลดังต่อไปนี้ ค่าประสบการณ์ ค่าความคลั่ง และค่าความชั่ว”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้รับความภักดีโดยสมบูรณ์จากแม่ทัพเหลิงหู่สำเร็จ ค่าบัญชาการเพิ่มขึ้น 100…..”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้รับความภักดีโดยสมบูรณ์จากแม่ทัพหยางจื้อเหวินสำเร็จ ค่าบัญชาการเพิ่มขึ้น 100….”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนมีแม่ทัพที่ภักดีโดยสมบูรณ์เกินสามคนสำเร็จ ได้รับของรางวัลพิเศษ ค่าประสบการณ์ 100 ล้าน, ค่าความคลั่ง 1 ล้าน และได้รับ ป้ายอัญเชิญแม่ทัพเทพ 1 ชิ้น!”
ป้ายอัญเชิญแม่ทัพเทพ : สามารถอัญเชิญแม่ทัพที่ภักดีต่อตนออกมาได้ในทันที ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ไกลแค่ไหน!(หลังจากใช้งานครบ 3 ครั้งจะหายไป, ไม่จำกัดจำนวนคน)
เสียงระบบดังติดๆ กันราวกับพลุที่ดังขึ้นในหู การรับสามคนนี้มาเป็นแม่ทัพไม่ได้มีรางวัลเยอะนัก แต่เมื่อเอาจำนวนที่มีรวมเข้าด้วยกัน ก็ก่อให้เกิดรางวัลใหญ่ตามมา โดยเฉพาะป้ายอัญเชิญแม่ทัพเทพ มันสามารถใช้อัญเชิญแม่ทัพใต้อาณัติของเขาออกมาได้ในทันที โดยที่ไม่สนจำนวนคน ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก
ไว้วันใดที่เขามีแม่ทัพจำนวนมหาศาล แล้วอัญเชิญออกมาพร้อมกัน เมื่อนั้น เขาก็สามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างราบคาบ!