ตอนที่ 687

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“บัดซบ เรือรบทองคำของข้า!” หลิงฮันร้องโอดครวญ

นี่เขาทำเวรทำกรรมอะไรไว้รึไง?

เรือรบทองคำลำแรกของเขาถูกระเบิด และลำที่สองก็ถูกระเบิดเช่นกัน

“เหอะ เจ้าควรเป็นห่วงชีวิตของเจ้าเอาไว้ดีกว่า” หูเจียนอี่กล่าวอย่างเย็นชา “การระเบิดเมื่อครู่ข้าไม่ได้หวังจะเอาชีวิตของเจ้า มันเป็นแค่การกล่าวเตือน”

หลิงฮันยิ้มและพูด “เจ้าทำลายทรัพย์สินของข้า แถมยังเป็นทรัพย์สินชิ้นใหญ่อีกด้วย!”

“ปรมาจารย์หลิง ข้ายังคงขอพูดคำเดิม จ่ายค่าชดใช้ให้ข้าผู้นี้ซะ แล้วความแค้นระหว่างเราจะสะสาง” หูเจียนอี่พูดอย่างเย็นชา แน่นอนว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นคำโกหก เขาตั้งใจจะหาผลประโยชน์จากหลิงฮันให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะสังหารหลิงฮัน

หูเจียนอี่ยิ้มและกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าขอเตือนอะไรกับปรมาจารย์หลิงซักอย่าง เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสำคัญมากรึไง? นักปรุงยาก็เปรียบเสมือนกับสุนัขของจอมยุทธ ถ้าหากไม่มีการสนับสนุนจากจอมยุทธ สุนัขจะกล้าทำเห่าใส่ผู้อื่นรึงไง?”

หลิงฮันแคะหูและพูด “แล้วเจ้ากินเม็ดยาที่หลอมมาโดยสุนัขมากี่เม็ดแล้วล่ะ? ข้าไม่นึกเลยว่าผู้อาวุโสหูจะตกอับจนถึงขนาดต้องมากินเม็ดยาที่สุนัขเป็นคนหลอม”

ความเกรี้ยวกราดของหูเจียนอี่ปะทุออกมาและโจมตีโดยใช้มือเอื้อมออกไปคว้าร่างหลิงฮัน

ผู้ลงมือคือจอมยุทธระดับสวรรค์ การโจมตีนี้จะทรงพลังขนาดไหน?

หลิงฮันไม่คิดจะป้องกัน เขาหันหลังเพื่อเตรียมตัวหนีทันที

‘พรึบ’ ร่างของเขากลายเป็นสายฟ้าและพุ่งหนีอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเส้นแสง

พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้เหนือกว่าจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาขั้นปลายไปแล้ว ดังนั้นความเร็วของเขาจึงน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก

หูเจียนอี่แสยะยิ้มและเริ่มไล่ตาม

หลิงฮันมีกายาสายฟ้าจากทักษะศักดิ์สิทธิ์ แต่หูเจียนอี่เป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ แน่นอนว่าเขาต้องเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าหลิงฮันอยู่แล้ว แต่หลิงฮันไม่ได้หนีโดยบินทะยานขึ้นฟ้า เขาพุ่งตัวไปตามพื้นดินและใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศโดยรอบให้เป็นประโยชน์ ทิศทางของเขาหักเหไปมาอย่างต่อเนื่องทำให้ระยะห่างของทั้งสองคนห่างไกลกัน

หูเจียนอี่ตกตะลึง เขาไม่คาดคิดเลยว่าหลิงฮันจะรวดเร็วเช่นนี้! แต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก ถ้าหากเขาจับตัวหลิงฮันได้ ทักษะนี้ก็จะเป็นของเขา

ในมือของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ ทักษะนี้ช่วยให้มีความเร็วทัดเทียมกับจอมยุทธระดับสวรรค์ แล้วว่ามันอยู่ในมือของจอมยุทธระดับสวรรค์ล่ะ? ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วเหมือนกับจอมยุทธระดับทลายมิติเลยรึ?

“ฮ่าๆๆ เจ้าหนีไปไหนไม่พ้นหรอก!” หูเจียนอี่แสยะยิ้ม “ทักษะกายาและทักษะยุทธก็เหมือนกัน ยิ่งรวดเร็วและทรงพลังมากเท่าไหร่ พลังปราณที่ต้องสูยเสียไปก็มากขึ้นเท่านั้น เจ้าจะใช้ทักษะนั่นไปได้นานซักเท่าไหร่กันเชียว?”

การที่ใช้ทักษะจนสามารถทำให้จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณเคลื่อนที่ได้รวดเร็วกว่าจอมยุทธระดับสวรรค์นั้นเป็นการกระทำที่ทำให้สูญเสียพลังปราณอย่างมหาศาล แม้ตันเถียนของหลิงฮันจะมีขนาดใหญ่กว่าคนทั่วไปร้อยเท่า แต่หากยื้อต่อไปเรื่อยๆเขาก็ต้องรู้สึกเหนื่อยอยู่ดี

แต่ในตอนนี้ แม้เขาจะใช้ทักษะนี้ต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็ไม่ใช่ปัญหา และถ้าหากตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตเช่นถูกหูเจียนอี่ไล่ตามทัน เขาก็ยังมีไพ่ลับที่เอาไว้ช่วยเหลือชีวิตอย่างยันต์อาคมเคลื่อนที่ในพริบตาและหอคอยทมิฬอยู่

ที่หลิงฮันยังไม่ใช้ไพ่ลับเช่นนั้นเพราะเขาไม่อยากเผยความลับของตนเองออกไป

หลิงฮันเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ บางครั้งเขาจะหันกลับมาและโคจรศรฆ่ามังกรทะลวงดารา ถึงแม้เขาจะใช้มือแทนคันศรและใช้พลังปราณแทนลูกศร แต่ด้วยพลังอำนาจของมันก็ยังทำให้หูเจียนอี่ต้องหยุดชะงักเพื่อป้องกัน

ผลลัพธ์ที่เกิดก็คือหูเจียนอี่เข้าใกล้หลิงฮันได้ยากขึ้น เขาจำเป็นต้องระมัดระวังทักษะของหลิงฮันให้ดี ศรฆ่ามังกรทะลวงดาราไม่ใช่ทักษะศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป มันคือมรดกสืบทอดจากเขตแดนลี้ลับสิบสองพระราชวัง

มันคือทักษะของพระเจ้าที่แท้จริง

“ตาแก่หู ในอนาคตเจ้าจงหมั่นบ่มเพาะพลังด้วยความพยายามมากกว่านี้ อย่าคิดแต่จะใช้สตรีเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มพลังบ่มเพาะของเจ้า ไม่เช่นนั้นรากฐานพลังของเจ้าก็จะอ่อนแอเช่นนี้!” หลิงฮันยังคงพูดจาหยอกล้อ

หูเจียนอี่รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก การบ่มเพาะพลังของนิกายวายุจันทราเป็นสิ่งที่บ่มเพาะพลังได้เร็วที่สุด เขาเองก็เป็นบุรุษที่มีความใคร่ แล้วในเมื่อความใคร่สามารถทำมาใช้บ่มเพาะพลังได้ ทำไมถึงไม่นำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ล่ะ? “เจ้าหนู รอให้ข้าจับตัวเจ้าได้ก่อนเถอะ ไม่เพียงแค่ข้าจะรีดความลับทั้งหมดจากวิญญาณของเจ้า แต่ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่และให้หมูป่าหนึ่งร้อยตัวขย่มรูทวารของเจ้าทุกวัน!”

หลิงฮันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ไม่นึกเลยว่าจอมยุทธระดับสวรรค์ที่สูงส่งจะมาสูญเสียความเยือกเย็นง่ายๆเพียงเพราะคำพูดแค่นี้

“ที่แท้เฒ่าหูก็มีงานอดิเรกเช่นนี้เอง เมื่อกี้เจ้าบอกว่าจะให้หมูป่าหนึ่งร้อยตัวทำอะไรนะ?” หลิงฮันทั้งพุ่งหลบและและพูดหยอกล้อไปพร้อมๆกัน

หูเจียนอี่โกรธจนเกือบจะคลั่ง ทำไมปากของเด็กหนุ่มคนนี้ถึงได้หยาบคายเช่นนี้? หูเจียนอี่ไม่กล่าวอะไรอีกต่อไปและพุ่งไล่ตามหลิงฮันอย่างสุดกำลัง เขารู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ในการโต้เถียงกับหลิงฮัน

เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาจริง หลิงฮันก็ไม่มีเวลาแม้แต่จะกลืนน้ำลายและรีบเผ่นอย่างรวดเร็ว

พลังอำนาจของจอมยุทธณะดับสวรรค์เริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้ว หลิงฮันในตอนนี้เริ่มแสดงอาการเหนื่อยหอบ แต่หูเจียนอี่กลับไม่มีท่าทางอะไรเปลี่ยนไป ราวกับว่าเขาไม่ได้สูญเสียพลังปราณแม้แต่นิดเดียว

ถ้าจะเปรียบเทียบปราณก่อเกิดของทั้งสองคนล่ะก็ พลังปราณของหลิงฮันจะมีหนึ่งร้อย ในขณะที่หูเจียนอี่มีหนึ่งร้อยล้าน เมื่อทั้งสองคนใช้พลังปราณเท่ากันในเวลาเท่ากัน การเผาผลาญจึงต่างกันอย่างสิ้นเชิง

จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของหลิงฮันคือระดับพลังบ่มเพาะที่ต่ำเกินไป

ถึงแม้พลังต่อสู้ของเขาจะเทียบได้กับระดับก้าวสู่เทวาขั้นปลาย แต่พลังปราณของเขายังห่างไกลกับระดับก้าวสู่เทวาขั้นปลายที่แท้จริง

โชคดีที่หลิงฮันเป็นนักปรุงยา เขากลืนเม็ดยาลงไปยังต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูปราณก่อเกิด

หูเจียนอี่ไม่เร่งรีบ การใช้เม็ดยาเองก็มีข้อจำกัด ถึงแม้หลิงฮันจะเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์ แต่ถ้าหากกินเม็ดยามากเกินไป แทนที่มันจะช่วยบำรุงร่างกายมันจะกลายเป็นยาพิษแทน!

นอกจากตัวตนระดับทลายมิติอันน้อยนิด ใครจะมาหยุดยั้งเขาไม่ให้สังหารหลิงฮันได้?

นี่คือลูกไก่ในกำมือของเขา!

หลิงฮันถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว ไม่เพียงแค่ปราณก่อเกิดในร่างเขาแห้งเหือด แต่พลังกายก็ยังล้าเป็นอย่างมาก ร่างของเขาอ่อนแรงจนอยากจะปิดตาเพื่อนอนพัก

เขาตั้งใจจะนำยันต์เคลื่อนที่ในพริบตาออกมาและแสร้งทำเป็นใช้งานมัน จากนั้นค่อยหลบหายเข้าไปในหอคอยทมิฬ แต่ทันใดนั้นเองร่างของเขาก็ชะงักและหยุดเคลื่อนไหว “ผีเฒ่า เจ้ากล้ารับดาบของข้ารึไม่?”

ว่าไงนะ! หูเจียนอี่เกือบจะสำลักน้ำลายออกมา นี่เขาได้ยินผิดไปรึเปล่า?