ตอนที่ 376 แววตานั้นอ่อนหวาน / ตอนที่ 377 ห้ามใจไม่อยู่ ทำอย่างไรดี

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 376 แววตานั้นอ่อนหวาน

 

 

“เรื่องนี้ปิงอวิ๋นบอกข้าเอง จิ่วซือ คราวนี้พระอัยกาทรงมีรับสั่งไว้ พระองค์จะไม่ทำอันตรายเจ้าอีก ขออภัย จิ่วซือ ข้าไม่ได้ปกป้องเจ้าให้ดี ทำให้เจ้าเจออันตรายทันทีที่ออกจากเมืองหลวงจิงเฉิง”

 

 

ฟู่เฉินหรงไม่ได้ปิดบังซูจิ่วซือ เขารู้สึกผิดต่อซูจิ่วซือ รู้สึกละอายใจ เดิมทีเขาอยากปกป้องซูจิ่วซือ นึกไม่ถึงว่ากลับทำให้ซูจิ่วซือตกอยู่ในอันตราย

 

 

“ข้าเข้าใจความลำบากใจของเจ้า และคาดเดาไว้แล้ว เฉินหรง เจ้าไม่ต้องขอโทษข้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า”

 

 

ซูจิ่วซือเองก็ไม่ได้โกรธซุ่นตี้ พระองค์ทำอย่างนี้ก็ไม่ผิด เพื่อให้ฟู่เฉินหรงครองตำแหน่งรัชทายาทอย่างมั่นคง การที่ฟู่เฉินหรงยืนยันและทูลซุ่นตี้ให้ทรงยอมรับ นางรู้สึกซาบซึ้งมาก

 

 

เขาสามารถทำตามที่ซุ่นตี้ทรงจัดการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา แต่เขากลับยอมรับสภาพเช่นนี้เพื่อนาง นางเองก็จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างเขา

 

 

“เจ้าไม่โทษข้าหรือ”

 

 

“โทษอะไรเจ้า เฟิงชิงสุ่ยสามารถช่วยเหลือเจ้าได้จริงๆ”

 

 

“แล้วจะเป็นอย่างไร ข้าไม่มีวันแต่งงานกับนาง เรื่องนี้ข้าพูดกับนางชัดเจนแล้ว จิ่วซือ เจ้าอย่าเข้าใจผิด เรื่องนี้พระอัยกาทรงจัดการหมั้นหมาย ไม่ใช่ความต้องการของข้า พระอัยการมีพระบัญชาได้ แต่ข้าไม่มีวันแต่งงานกับนาง คนที่ข้าต้องการแต่งงานด้วยตั้งแต่ต้นจนถึงเดี๋ยวนี้ก็คือเจ้า”

 

 

ซูจิ่วซือไม่เคยสงสัยในความจริงใจของฟู่เฉินหรง พอได้ยินอย่างนี้จึงหัวเราะ “ไม่แต่งกับนาง เจ้าจะเสียหายใหญ่หลวง”

 

 

“ไม่แต่งกับเจ้าต่างหากที่จะเสียหายใหญ่หลวง ชีวิตนี้ ถ้าแต่งงานกับคนที่ตนไม่รัก จะอยู่ด้วยความรู้สึกอย่างไร แม้เป็นฮ่องเต้ ก็เป็นคนเหมือนกัน”

 

 

ฟู่เฉินหรงพูดจบก็จ้องมองซูจิ่วซือ แววตานั้นอ่อนหวาน ยื่นมือมาจับมือซูจิ่วซือ พอนึกขึ้นได้ว่ากู้หลียวนกับเผยปิงปิงก็อยู่ด้วย ซูจิ่วซือก็รู้สึกเขิน แต่พอจะดึงมือกลับ ฟู่เฉินหรงก็จับมือนางไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย

 

 

ซูจิ่วซือไม่รู้จะทำอย่างไร จึงปล่อยให้เป็นไป เพราะถ้าขัดขืน ก็ยิ่งขัดเขิน

 

 

และมือของฟู่เฉินหรงก็อบอุ่นมาก

 

 

ในที่สุดกู้หลียวนก็ทนดูไม่ไหว “เฉินหรง จิ่วซือ ข้ากับปิงปิงไม่ใช่อากาศธาตุ เจ้าสองคนนึกถึงข้าสองคนหน่อย ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไป เฉินหรง เจ้าไม่โจ่งแจ้งเกินไปหรือ”

 

 

“ไม่เป็นไร เพราะข้ามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

 

 

เผยปิงปิงยักไหล่ ท่าทางเหมือนไม่เห็นอะไร

 

 

ฟู่เฉินหรงหัวเราะร่า “เจ้าพูดกับข้าว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไปไม่รู้สึกหรือว่าไม่สมควรพูด เมื่อก่อนเจ้ากับแม่นางที่อยู่ด้วยกันใกล้ชิดกันอย่างไรเวลาอยู่ต่อหน้าข้า เจ้าไม่น่าจะลืมเลย! ข้าถูกบังคับให้ดูตั้งนานยังไม่พูดอะไร ตอนนี้เจ้ายังมาบ่น”

 

 

“เมื่อก่อนเขามีแม่นางมากใช่ไหม”

 

 

เผยปิงปิงสีหน้าไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด

 

 

“กู้เฉินหรง หุบปาก”

 

 

กู้หลียวนพูดตัดบทฟู่เฉินหรงอย่างไม่พอใจ

 

 

“พี่ใหญ่ ข้าเปลี่ยนสกุลแล้ว เวลานี้ข้าสกุลฟู่”

 

 

“เจ้าสกุลฟู่ มิน่าถึงได้ลืมบุญคุณ” กู้หลียวนต่อว่า

 

 

ซูจิ่วซือไม่ได้พูดแทรก แต่มุมปากผุดรอยยิ้มน้อยๆ ไม่รู้ทำไม พอเห็นฟู่เฉินหรงกับกู้หลียวนก็รู้สึกมีความสุขมาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 377 ห้ามใจไม่อยู่ ทำอย่างไรดี

 

 

เวลานี้ลูกสาวนางได้เป็นกุ้ยเฟยแล้ว ซูเฉิงก็สืบทอดจวนอันผิงโหว ลูกชายอยู่ใกล้ตัว ลูกสะใภ้ในอนาคตก็อาจจะอยู่ที่นี่ พอนึกอย่างนี้ นางก็พอใจมาก ชีวิตกำลังจะดีขึ้นเรื่อยๆ

 

 

วันหลังนางอยากอยู่เคียงข้างฟู่เฉินหรง ผู้ชายคนนี้คู่ควรที่นางจะรักอย่างเต็มที่

 

 

ความจริงแล้วฟู่เฉินหรงก็เพิ่งมาถึงเมืองชินโจว ทันทีที่มาถึงก็ไปที่คฤหาสถ์ตระกูลจง นึกไม่ถึงว่าจะเจอหลี่ฉางกุ้ยพาคนมาล้อมคฤหาสถ์ตระกูลจง เวลานี้พวกเขาไม่มีที่พัก จึงไปที่โรงเตี๊ยมใหญ่ที่สุดในเมืองชิงโจว

 

 

ขณะที่มาถึงหน้าประตูโรงเตี๊ยม กู้หลียวนก็รีบลงจากมา เดินนำเข้าไปในโรงเตี๊ยม ตลอดทางเขาเห็นอะไรมามาก เวลานี้ดึกแล้ว เขาอยากพักให้เร็วหน่อย

 

 

กู้หลียวนไปแล้ว เผยปิงปิงก็ตามไป ขณะนั้นในรถม้าเหลือแต่ซูจิ่วซือกับฟู่เฉินหรง

 

 

ซูจิ่วซือถลึงตาใส่ฟู่เฉินหรง พูดสีหน้าจริงจัง “ต่อหน้าลูกไม่รู้จักสำรวม”

 

 

ฟู่เฉินหรงทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว สายตาจ้องมองซูจิ่วซือ “อดใจไม่อยู่ ไม่รู้จะทำอย่างไร”

 

 

“ลงรถเถอะ”

 

 

ซูจิ่วซือเริ่มรู้สึกแก้มร้อนผ่าว เตรียมลงจากรถม้า จะได้ไม่หน้าแดงอีก

 

 

จู่ๆ ฟู่เฉินหรงก็ยื่นมือมาจับมือซูจิ่วซือ

 

 

ซูจิ่วซือหันไปมองฟู่เฉินหรง เตรียมจะถามว่าเขาว่าทำอะไร ฟู่เฉินหรงก็ยื่นมือมาจับเอวซูจิ่วซือไว้ รวบนางไว้ในอ้อมกอด ไม่รอให้ซูจิ่วซือได้สติ ฟู่เฉินหรงก็จูบริมฝีปากซูจิ่วซือ

 

 

จูบนี้ ฟู่เฉินหรงไม่อยากให้จบ ยิ่งจูบยิ่งดูดดื่ม ราวกับจะหลอมความคิดถึงทั้งหมดลงไปในรสจูบ

 

 

ขณะที่ฟู่เฉินหรงปล่อยซูจิ่วซือนั้น ทั้งสองเริ่มหายใจหอบ ซูจิ่วซือหน้าแดงก่ำ เหมือนกุ้งต้มสุก นางไม่กล้ามองหน้าฟู่เฉินหรง

 

 

“ข้าลงไปโรงเตี๊ยมก่อนละ”

 

 

พูดจบฟู่เฉินหรงก็ยื่นมือไปจับข้อมือซูจิ่วซือ “จิ่วเอ๋อร์ เจ้าอายหรือ”

 

 

ซูจิ่วซือเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เดี๋ยวนี้ฟู่เฉินหรงหน้าด้านปานนี้เชียวหรือ

 

 

“เจ้า…”

 

 

ฟู่เฉินหรงหัวเราะร่า ดึงมือซูจิ่วซือไปนั่งข้างๆ พอเห็นซูจิ่วซือหน้าแดง ฟู่เฉินหรงก็พูดล้อ “ในที่สุดก็ได้เห็นเจ้าหน้าแดง โชคดีที่สุดในชีวิต”

 

 

พูดจบก็รู้สึกว่าซูจิ่วซือโกรธแล้ว จึงคิดจะเปลี่ยนเรื่องพูด เขาต้องใจเย็นๆ ไม่งั้นจะทำให้ซูจิ่วซือตกใจหนีคงแย่แน่

 

 

“บาดแผลที่หน้าผากเป็นอย่างไรกันแน่”

 

 

“ใกล้จะหายแล้ว”

 

 

“แผลใหญ่ขนาดนี้จะหายง่ายๆ หรือ เป็นเพราะจงมั่วเจียงใช่หรือไม่ เจ้าช่างมีวาสนากับผู้ชายจริงๆ มาตามหาข้าระหว่างทางยังเจอจงมั่วเจียง”

 

 

ฟู่เฉินหรงพูดด้วยด้วยน้ำเสียงหึงหวง กู้จื่อหยวนเพิ่งตัดความสัมพันธ์กับซูจิ่วซือ เวลานี้กลับมีจงมั่วเจียงอีกคนหนึ่ง

 

 

“เจ้ายังมีหน้ามาว่าข้า คนที่หลงรักเจ้าก็มีไม่น้อยไม่ใช่หรือ แคว้นเว่ยก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว เวลานี้พอมาที่แคว้นเจียง เจ้าก็มีคู่หมั้นอีก” ซูจิ่วซือสีหน้าบึ้งตึงโต้แย้ง

 

 

ฟู่เฉินหรงนึกเสียใจขึ้นมาทันที อยู่ดีๆ ยกเรื่องนี้มาพูดทำไมหนอ นี่ไม่เท่ากับยกหินทุ่มขาตัวเองหรือ เขารีบพูดปลอบทันที “คู่หมั้นมีความหมายอะไร ภรรยาที่แท้จริงของข้าคือเจ้าคนเดียว จิ่วเอ๋อร์ อย่าโกรธนะ ข้าถูกบังคับ ข้าไม่ได้ต้องการจริงๆ”

 

 

“วันหลังต่อหน้าคนอื่นห้ามทำอย่างนั้น อย่างน้อยเจ้าก็เป็นรัชทายาท รักษาหน้าของตัวเองหน่อย”

 

 

ฟู่เฉินหรงไม่ใส่ใจ ถามยิ้มๆ “ลับหลังคนอื่นก็ตามใจตัวเองได้ใช่หรือไม่”

 

 

ซูจิ่วซือรู้สึกเหมือนตัวเองขุดหลุมให้ตัวเองตกลงไป จึงฝืนทำหน้าบึ้ง ให้ดูจริงจังขึ้น “เราสองคนยังไม่ได้แต่งงานกัน”