ตอนที่ 404 : ตระกูลหลักและตระกูลสาขา

The Strongest Hokage

โคนัน สังเกตเห็นว่า ไนโตะ ดูเป็นกังวลซึ่งทำให้เธอประหลาดใจเล็กน้อย

 

เธอแน่ใจว่า ไนโตะ เป็นคนฆ่า นินจาคุโมะ ใน โคโนฮะ เมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อช่วยลูกสาวของ ผู้นำตระกูลฮิวงะ ตอนแรกเธอคิดว่า ไนโตะ แค่รู้สึกอยากช่วยเธอ ไม่ได้คิดที่จะดูแลเธออย่างจริงจัง

 

แต่เมื่อคิด ๆ ดูอีกทีแล้ว ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นั้นและเหตุการณ์นี้ มั้ง 2 เหตุการณ์มีความเกี่ยวข้องกับ เนตรสีขาว ของ ตระกูลฮิวงะ

 

“ลูกสาวของ ผู้นำตระกูลฮิวงะ , ฮิวะ ฮินาตะ เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่…” เมื่อพูดแบบนั้น โคนัน ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “แต่สภาพจิตใจเธอไม่ค่อยดีนัก”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของ โคนัน ไนโตะ ก็เลิกคิ้วขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างจากคำพูดของเธอ จากนั้นสายตาที่เย็นชาก็ปรากฏขึ้นที่เปลือกตาของเขา

 

ฮินาตะ เป็นลูกสาวคนโตของ ผู้นำตระกูลฮิวงะ ตามทฤษฎีแล้วเธอจะได้เป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปต่อจากพ่อของเธอ

 

แต่ปัญหาก็คือพ่อของเธอดันมาเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อเธออายุเพียงแค่ 5 ขวบ เห็นได้ชัดว่าเธอจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งดังกล่าวในตระกูลได้

 

การต่อสู้ภายใน ตระกูลฮิวงะ นั้นดุเดือดมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตระกูลสาขาของพวกเขาที่ถูก ผนึกปักษาในกรง ผนึกไว้ตั้งแต่กำเนิด

 

เพราะสมาชิกกว่าครึ่งหนึ่งของตระกูลเป็นผู้ที่มีอำนาจทางการเมืองภายในหมู่บ้าน และด้วยวิกฤตดังกล่าวทำให้แน่ใจได้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น โฮคาเงะ หรือตระกูลอื่น ๆ หรือแม้แต่สมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลฮิวงะ เองก็ตาม ดังนั้น ฮินาตะ จึงเป็นคนที่ต้องรับแรงกดดันจากหลายฝ่าย

 

ยิ่งไปกว่านั้น ไนโตะ ก็รู้จักนิสัยใจคอของ ฮินาตะ เป็นอย่างดี เธอไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญกับอำนาจและสถานะ และเธอคือเด็กสาวที่อายุแค่ 5 ขวบที่ตกอยู่ในการแย่งชิงอำนาจ ซึ่งแน่นอนว่าเธอตามไม่ทันแน่นอน

 

นอกจากนี้ ไนโตะ ก็ได้ช่วย ฮินาตะ ไว้เมื่อ 2 ปีก่อน แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนออกมา แต่การที่เขาห่วงใย ฮินาตะ ก็ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายในตระกูลมากขึ้น

 

“สถานการณ์แย่กว่าที่คิด ฉันคิดว่าเธอเองก็คงเข้าใจว่าหมายถึงอะไร!”

 

ไนโตะ ออกมาเสียงดัง จากนั้นยืนขึ้นและเดินออกไปข้างนอก

 

……..

 

ที่โคโนฮะ

 

ในเขตของ ตระกูลฮิวงะ

 

ณ บ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางอาณาเขตของ ตระกูลฮิวงะ บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ที่ใช้ในการฝึกวิชามวยอ่อน มันกว้างมาก บ้านทั้งหลังถูกปูหินอ่อนลายครามและไม้โอ๊คหรูหรา

 

ภายใต้สถานการณ์ปกติ ที่นี่คือสถานที่ที่ใช้ในการฝึกฝน แต่เวลานี้มันกลับเต็มไปด้วยแรงกดดันของความเกลียดชังและดุร้าย

 

ในห้องที่อยู่ใจกลางบ้าน ไม่มีเก้าอี้หรือเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ มันว่างเปล่าอย่างไม่น่าเชื่อและมีบรรดาสมาชิกของ ตระกูลฮิวงะ นั่งอยู่บนพื้น

 

ในตอนแรกแม้ว่าพวกเขาจะบาดหมางกันแต่ก็ไม่เคยแตกแยกกัน แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องปกป้อง เนตรสีขาว ตระกูลจึงต้องตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่างกับตระกูลสาขา

 

ท้ายที่สุดแล้ววิชาเนตรนั้นหาได้ง่ายมากและสามารถปลูกถ่ายได้ ซึ่งแตกต่างจากขีดจำกัดสายเลือดอื่น ๆ ที่มีเฉพาะผู้ที่มีสายเลือดนั้นเท่านั้นถึงจะใช้ได้

 

เพื่อไม่ให้ เนตรสีขาว ตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู ตระกูลฮิวงะ จึงกำหนดกฎเกณฑ์บางอย่างขึ้น โดยทั่วไปแล้วตระกูลหลักจะไม่ลงสู่สนามรบ และมีเพียงแค่ตระกูลสาขาเท่านั้นที่จะต่อสู้และปกป้องตระกูลหลัก เพราะศัตรูจะไม่มีทางขโมยเนตรของพวกเขาไปได้

 

ดูเหมือนว่ามีเพียงแค่ อาโอ จาก คิริ เท่านั้นที่สามารถชิง เนตรสีขาว ดวงหนึ่งไปได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาได้รับมันมาได้อย่างไร รู้แค่ว่าเนตรนั้นต้องเป็นของตระกูลหลักอย่างแน่นอน

 

เนื่องจากการมีอยู่ของ ผนึกปักษาในกรง จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ตระกูลสาขาจะต่อสู้กับตระกูลหลักได้ และหากพวกเขาต้องการเป็นอิสระ พวกเขาจะต้องกำจัดตระกูลหลักเท่านั้น แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้

 

ท้ายที่สุดแล้วไม่มีผนึกไหนที่จะอยู่ตลอดไป ผนึกสามารถคลายออกได้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่ามันจะไม่สามารถคลายออกได้ แต่คราบใดที่คุณเชี่ยวชาญด้านผนึกและเข้าใจมัน คุณก็อาจจะมีหวังที่จะตอบโต้มันได้

 

ในเวลานี้ชายที่นั่งอยู่ตรงกลางก็คือ ผู้อาวุโสของตระกูลฮิวงะ , พ่อของฮิอาชิ และปู่ของ ฮินาตะ

 

ฮินาตะ ก้มหัวลง ดูเหมือนเธอจะนั่งอยู่ที่นั่นด้วยความกลัว แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเศร้าบนใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะมองไปที่แววตาที่ดุร้ายของคนในตระกูล

 

“ทุกคนก็เห็นสถานการณ์ในตอนนี้อยู่แล้วนิ ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก ทั้งปัญหาภายในและภายนอก เราไม่สามารถมีผู้นำที่อ่อนแอได้และเป็นไปไม่ได้ที่จะรอจนกว่า ท่านฮินาตะ จะโตพอรับตำแหน่ง!” สมาชิกตระกูลสาขาคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างดุเดือด

 

ปู่ของ ฮินาตะ ขมวดคิ้วจนเกือบจะผูกกันเมื่อได้ยินคำกล่าวอ้างนี้ การตายของ ฮิอาชิ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในตระกูล แม้ว่าเขาจะยังสามารถดูแลตระกูลแทน ฮินาตะ ได้ แต่เขาก็อายุมากแล้วและปัญหาก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะควบคุมตระกูลสาขาได้

 

และ ฮินาตะ ก็ยังเด็กเกินไปที่จะรับช่วงตระกูลต่อ

 

ดวงตาที่ดุดันมากมายจ้องมองไปที่ ฮินาตะ เธอนั่งอยู่ตรงนั้นโดยที่ศีรษะเกือบจะแตะพื้นขณะที่เธอกลัวว่าพวกเขาจะทำอะไรกับเธอ

 

“ท่านผู้อาวุโส นี่เป็นสถานการณ์เร่งด่วนและต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเช่นกัน แม้ว่าเราจะไม่เคยเจอกับปัญหาแบบนี้มาก่อน แค่ท่านไม่ควรกังวลกับเรื่องนี้มากนัก ท่านแค่ต้องเลือกคนอื่นให้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปและควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดให้กลับเป็นเหมือนเดิม!”

 

“ฉันขอเสนอน้องชายของ ท่านฮิอาชิ ,ท่านฮิซาชิ ให้รับตำแหน่งผู้นำตระกูลคนใหม่!”

 

“ฉันขอเสนอ…”

 

เห็นได้ชัดว่าในตระกูลสาขาเองก็มีความขัดแย้งด้วยเช่นกัน พวกเขาแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย แต่แกนหลักของการต่อสู้คือการคุมตระกูลและใครควรเป็นผู้ควบคุม

 

เมื่อมีสมาชิกของตระกูลสาขาเปลี่ยนเป็นผู้นำตระกูล เพื่อที่จะดูแลตระกูลพวกเขาจำเป็นต้องคลายผนึกของเขาออก เมื่อเป็นแบบนี้ แม้ว่า ฮินาตะ จะเติบโตขึ้น ก็ไม่มีใครสามารถบังคับให้เขาสละตำแหน่งได้ และใช่ ตระกูลหลักและตระกูลสาขาอาจมีการสลับตำแหน่งกัน

 

เห็นได้ชัดว่าปู่ของ ฮินาตะ ก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็แก่มากแล้วและไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาก็แทบจะไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้อีกแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาอ่อนแอลงไปมากกว่านี้?

 

แม้ว่าจะมีผนึก แต่ก็ต้องใช้เวลาในการเปิดใช้งาน หากตระกูลสาขาทั้งตระกูลลุกฮือขึ้นมา เขาคงจะไม่มีเวลาเปิดใช้งานผนึกและถูกสังหารทันทีแน่นอน

 

หากเขาไม่สามารถควบคุมหรือสังหารตระกูลสาขาได้ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน

 

“แค๊ก! แค๊ก!”

 

เมื่อมองไปที่สมาชิกตระกูลสาขาที่ส่งเสียงโหวแหวก ปู่ของ ฮินาตะ ก็รู้สึกโกรธและอดไม่ได้ที่จะต้องคุมสถานการณ์เอาไว้

 

“ทันทีที่ ฮิอาชิ จากไป พวกท่านก็รวมตัวกันและเริ่มรังแกเด็กอายุ 5 ขวบงั้นเหรอ…? แค๊ก! แค๊ก!…แล้วแบบนี้พวกท่านจะเรียกตัวเองว่าเป็นคนที่คู่ควรได้อยู่อีกเหรอ?!”

 

คำพูดของปู่ของ ฮินาตะ ทำให้สมาชิกตระกูลสาขารู้สึกละอายใจเล็กน้อย แต่ก็เป็นเวลาแค่ครู่เดียวเท่านั้น พวกเขาก็กลับมาโกรธอีกครั้ง

 

มันเป็นการชี้ชะตาของพวกเขา ว่าพวกเขาจะสามารถเอาผนึกออกไปจากตระกูลสาขาของพวกเขาได้หรือไม่ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะต้องกลั่นแกล้งเด็กอายุ 5 ขวบ พวกเขาก็จะทำ!