บทที่ 632 ให้โอกาสพวกคุณสักครั้ง

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 632 ให้โอกาสพวกคุณสักครั้ง

  ภายใต้ความบุ่มบ่าม ซูซูกิคิดอยากจะยิงฉินเทียนดูสักครั้งจริงๆ

  แต่ว่า เขากลับไม่ได้สูญเสียสติสัมปชัญญะสุดท้ายไป

  โมริโอ ชิชิมะมอบหมายให้เขามาเพื่อเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของฉินเทียน ไม่ได้ให้เขาฆ่าฉินเทียน ดังนั้น ถึงแม้ฉินเทียนจะถูกตัดสินให้ตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่ควรเป็นเขาที่ลงมือ

  “คนสกุลฉิน แกคิดจริงๆหรือว่า ฉันมาก็เพื่อปล่อยแกออกไป?”

  “ตอนนี้ฉันบอกแกได้เลยว่า ตามคำสั่งของหัวหน้า มีฉันมารับช่วงต่อให้ดูแลคุกแห่งนี้”

  “นั่นก็หมายความว่า ตอนนี้ แกคือนักโทษของฉัน”

  “วางใจ แกฟันแขนของฉันข้างหนึ่ง ฉันจะต้องตอบแทนแกเป็นอย่างดีแน่นอน”

  “นำมันไปขังไว้ที่เรือนจำหมายเลข3 การปฏิบัติทั้งหมด เป็นแบบเดียวกันกับนักโทษทั่วไป!”

  เรือนจำหมายเลข3 เป็นห้องเดี่ยวสิบห้องที่ทะลุถึงกัน เป็นห้องขังขนาดใหญ่ห้องหนึ่งที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด

  ด้านในคุมขังนักโทษเอาไว้ยี่สิบกว่าคน ทั้งหมดล้วนเป็นนักโทษที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง วิธีการโหดเหี้ยมป่าเถื่อนที่สุด

  ที่นี่ ก็คือคุกฝึกฝนของเทพลักซ่อนที่ใช้สำหรับจัดการกับนักโทษที่ไม่เชื่อฟังเหล่านั้น

  ซูซูกินำฉินเทียนออกจากห้องขังเดี่ยว โยกย้ายมายังที่นี่ จุดประสงค์ไม่สามารถชัดเจนกว่านี้ได้อีกแล้ว

  เมื่อเห็นผู้คุมนักโทษสองคน ดันฉินเทียนที่เหมือนกับบัณฑิตหน้าขาว ที่ใส่กุญแจมือเอาไว้เดินเข้ามา ในดวงตาของนักโทษที่โหดเหี้ยมและเลวทรามที่สุดของเรือนจำหมายเลข3 ล้วนเผยความโหดร้ายออกมาให้เห็น

  ก่อนหน้านี้ พวกเขาอิจฉาที่ฉินเทียนได้อาศัยในห้องเดี่ยว เสพสุขกับอภิสิทธิ์ต่างๆ

  ตอนนี้ สถานะของทุกเท่าเทียมกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเทียนได้ล่วงเกินซูซูกิ สถานะยังไม่เทียบเท่าพวกเขา

  นี่ไม่ใช่ว่าโอกาสในการระบายอารมณ์มาถึงแล้วหรอกหรือ?

  คนเหล่านี้ถูกขังอยู่ในสถานที่ที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันแบบนี้มาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว จิตใจมีความผิดเพี้ยนไปในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน ความสนุกสนานเพียงอย่างเดียวในตอนปกติ ก็คือการต่อยตีทะเลาะวิวาท รังแกและยั่วเย้านักโทษที่อ่อนแอ

  ตอนนี้ ฉินเทียนที่อยู่ในสายตาของพวกเขา ก็คือของเล่นที่แปลกใหม่ชิ้นหนึ่ง แกะขาวตัวน้อยที่สามารถเล่นได้ตามอำเภอใจตัวหนึ่ง

  “เทพลักซ่อนของพวกเรามีกฎระเบียบ ระหว่างนักโทษ ไม่อนุญาตให้ต่อยตีทะเลาะวิวาทกัน!”

  “ถึงแม้ว่าไอ้หมอนี่จะไม่ใช่คนญี่ปุ่นแบบพวกเรา ทั้งยังก่ออาชญากรรมที่ไม่สามารถยกโทษให้ได้ในที่แห่งนี้”

  “แต่ว่า ฉันขอเตือนพวกแก ไม่อนุญาตให้ทำอะไรส่งเดช!”

  คำพูดนี้ซูซูกิ แทบจะกำลังเป็นการปลุกปั่นนักโทษเหล่านั้น ให้จัดการกับฉินเทียนให้ดีดี นอกจากนี้ เขาจงใจบ่งชี้ให้เห็นว่า ฉินเทียนเป็นคนนอก

  สิ่งนี้ยิ่งเป็นการปลุกระดมจิตใจอันเป็นหนึ่งเดียวของนักโทษเจ้าถิ่นที่มีจิตใจต่อคนนอก

  “ฉินเทียน ขอให้แกโชคดี”สุดท้าย ซูซูกิก็เผยสีหน้าท่าทางที่ชั่วร้ายแบบหนึ่งออกมาให้เห็น หัวเราะอย่างชอบใจ ออกไปด้วยความลำพองใจ

  ในคุกใต้ดิน กลับมาเงียบสงบตามเดิม

  ฉินเทียนยืนอยู่ที่ประตูของเรือนจำหมายเลข3 มองดูดวงตาแต่ละคู่ที่ราวกับเสือจ้องเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า

  เขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เจิดจ้ารอยยิ้มหนึ่ง กล่าว: “ผมขอแนะนำตัวเองหน่อย ผมชื่อฉินเทียน”

  “มาจากอาณาจักรมังกร”

  “ต่อจากนี้ไป พวกเราก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกันแล้ว ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย”

  ไม่มีใครพูดจา ทุกคนกำลังมองเขา เหมือนกับมองไอ้โง่คนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

  ฉินเทียนรู้สึกไม่น่าสนุก ลูบๆจมูก กล่าว: “รบกวนขอถามหน่อย ที่นี่ใครเป็นคนคุม?”

  “ผมนอนตรงไหน?”

  ที่นอนของที่นี่ เป็นแบบเตียงที่เรียงต่อกัน ตรงกลางเป็นที่ที่สบายที่สุด ชายอ้วนแขนลายที่เปลือยท่อนบนคนหนึ่งกำลังนั่งไขว้ขาอยู่

  มองดูไป เหมือนกับนักกีฬาซูโม่ผู้ได้รับการคัดเลือก

  เห็นได้ชัดว่า เขาก็คือพี่ใหญ่ของที่นี่

  ที่ยืนเรียงรายอยู่สองข้างของเขา ยิ่งตำแหน่งเข้าใกล้เตียงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นสมาชิกที่เป็นแกนนำมากเท่านั้น

  ฝั่งตรงข้ามของเตียงที่เรียงต่อกัน ยังมีกองฟางอยู่กองหนึ่ง เหมือนกับรังสุนัข

  ชายแก่ร่างกายซูบผอม ผมเผ้ากระเซิงราวกับสุนัขแก่ตัวหนึ่งคนหนึ่ง นั่งอยู่ตรงกลางกองฟาง

  เห็นได้ชัดว่า เขาคือสมาชิกที่ถูกทุกคนดูถูกเหยียดหยาม ถูกกำจัดออกจากกลุ่ม

  สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ที่อยู่ด้านข้างของกองฟาง ก็คือห้องน้ำ กลิ่นเหม็นเน่าฉุนจมูกเป็นระลอกๆ

  ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างนักกีฬาซูโม่ผู้ได้รับการคัดเลือกคนหนึ่งฉีกยิ้มกว้าง ชี้ไปที่รังสุนัขที่เป็นที่อยู่ของชายแก่ซูบผอมผิวดำคล้ำ พยายามเอ่ยกล่าวด้วยภาษาของอาณาจักรมังกร: “รังสุนัข ของแก”

  เมื่อได้ยินประโยคนี้ ชายหนุ่มที่อยู่บริเวณรอบๆ ทั้งหมดหัวเราะเสียงดัง

  ชายแก่ที่ซูบผอมผผิวดำคล้ำคนนั้น เดิมทีเป็นคนที่ไม่มีตำแหน่ง ที่ต่ำต้อยที่สุดของที่นี่ ในเวลานี้ เขารู้สึกว่าหาคนมาแทนที่ได้แล้ว

  ใช้มือตบๆที่กองฟางด้านข้าง กล่าวอย่างภาคภูมิใจ: “คนมาใหม่ มานี่!”

  “หลังจากนี้ แกก็คือคนรับใช้ของฉัน”

  “จำไว้ ฉันชื่อคาเมดะ ต่อไปแกก็ฟังคำสั่งของฉัน นอกจากเทอึเทฉี่ให้บรรดาพวกพี่ใหญ่แล้ว มีของอร่อย ก็จะต้องยกให้พี่ใหญ่”

  ฉินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อมยิ้มกล่าว: “ผมให้โอกาสพวกคุณได้อีกครั้งหนึ่ง”

  “พวกคุณอยากออกไปจากที่นี่ไหม? อีกไม่นาน พี่ใหญ่ของเทพลักซ่อน จะมาเชิญผมออกไปจากที่นี่ด้วยตนเอง”

  “ตอนนี้ พวกคุณใครที่ยอมรับผมเป็นพี่ใหญ่ เมื่อถึงเวลา ผมจะพาคนนั้นออกไปจากที่นี่ด้วย”

  “เป็นอย่างไร?”

  ผู้ชายกลุ่มหนึ่งนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะ มีหลายคนตบแผ่นกระดานเตียง หัวเราะจนน้ำตาเล็ดออกมา

  ในสายตาของพวกเขา ที่แห่งนี้จะมีไอ้โง่เสียสติที่ไหนมากัน!

  ชายแก่ซูบผอมผิวดำคล้ำที่ชื่อคาเมดะคนนั้นยิ่งทำเกินจริงมากกว่าเดิม ล้มลงไปบนกองฟาง ใช้มือตบๆพื้น หัวเราะจนเกือบเป็นตะคริว

  เมื่อเห็นว่าไม่มีคนสนใจฉินเทียนคาเมดะเพื่อล้อเลียนฉินเทียน เขาโค้งคำนับต่อเขาทีหนึ่ง จงใจทำหน้าเคร่งขรึม กล่าวอย่างนอบน้อม: “พี่ใหญ่ ขอบคุณมากที่อุ้มชู!”

  “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป กระผมก็คือลูกน้องของพี่แล้ว!”

  “ขอให้ท่านได้โปรดพากระผมออกไป!”

  “กระผมจะเชื่อฟังคำสั่งของพี่เพียงผู้เดียว ไม่เปลี่ยนแปลงจนวันตาย!”

  เมื่อเห็นท่าทางที่ตลกขบขันของคาเมดะ ผู้คนเหล่านั้นที่อยู่ด้านบนเตียงที่เรียงต่อกันก็หัวเราะอย่างเสียสติยิ่งกว่าเดิม

  พวกเขาอยู่ที่นี่กลัดกลุ้มมากเกินมากไป นี่ถือเป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นการแสดงที่น่าสนุกถึงขนาดนี้

  ฉินเทียนหัวเราะอย่างเยาะหยัน เอ่ยกล่าวกับคาเมดะ: “ถือว่าแกยังมีประสบการณ์อยู่บ้าง”

  “นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฉันจะคอยคุ้มกะลาหัวแก”

  “ใครกล้ารังแกแก มาบอกฉัน”

  คาเมดะกลั้นยิ้มเอาไว้ แล้วกล่าวเสียงขรึม: “ครับ!”

  “ลูกพี่ เชิญนั่ง!”

  พูดไป วิ่งเข้าไป นำกองฟางที่ยุ่งเหยิงกองหนึ่งจัดให้เป็นระเบียบสักหน่อย เชิญฉินเทียนนั่งลง

  ฉินเทียนนั่งลงสงบ

  ชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามหัวเราะจนเกือบจะเป็นตะคริวไปแล้ว

  พวกเขายังไม่เคยพบเคยเจอ การแสดงของตัวตลกจะน่าสนุกขนาดนี้

  เมื่อคาเมดะเห็นว่าลูกพี่ที่อยู่ตรงข้ามมีความสุข เขาก็ยิ่งมีอารมณ์มีสนุก ยืนอยู่ต่อหน้าของฉินเทียน โค้งตัวกล่าว: “พี่ใหญ่ มีอะไรจะสั่งหรือไม่!”

  ฉินเทียนกล่าวอย่างเย็นชา: “แนะนำให้ฉันรู้จัก ศัตรูที่อยู่ตรงข้ามหน่อย”

  “ครับ!”

  คาเมดะหน้าตาภูมิใจ กล่าว: “ตรงกลางท่านนี้ ก็คือมาซาโอะคุง!”

  “มาซาโอะคุงเป็นซามูไรที่แท้จริง!”

  “เขาคือราชาของที่นี่!”

  คาเมดะโม้จนน้ำไหลไฟดับ คุยโวโอ้อวดเป็นการใหญ่ แล้วก็แนะนำชายหนุ่มคนอื่นๆที่เหลือเหล่านั้น ประมาณว่ามาซาโอะคือพี่ใหญ่ คนเหล่านั้น เป็นลูกน้องผู้พิทักษ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ซาตานผู้ยิ่งใหญ่ทั้งแปดของเขา

  ชื่อที่ยุ่งเหยิงอินุงตุงนัง ฉินเทียนเองก็จำไม่ได้ สรุปแล้วอยู่ที่ข้างนอก แต่ละคนล้วนเป็นบุคคลสำคัญที่มีเล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงไปมาอย่างเหนือชั้น

  ฉินเทียนโบกมือไปมา กล่าวอย่างหมดความอดทน: “พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว”

  “คาเมดะ ตอนนี้ฉันสั่งแก ไปบอกมาซาโอะ แล้วก็ลูกน้องของเขาด้วย”

  “ให้พวกเขายกที่นอนให้ จัดการทำความสะอาดให้เรียบร้อย ให้พวกเราสองคนอยู่”

  คาเมดะนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เรียกง่ายๆว่าสงสัยในหูของตนเอง กล่าวโดยไม่รู้ตัว: “ให้ยกที่นอนให้ แล้วพวกเขาจะอยู่ที่ไหน?”

  ฉินเทียนกล่าวอย่างเย็นชา: “ห้องน้ำทางด้านนี้ที่ตั้งมากมาย พอให้พวกเขาอยู่”

  “ทำไม หรือว่าแกจะขัดคำสั่งฉัน?”

  “ยังไม่รีบไปอีก!”