บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 646

ปัจจัยอื่น?

ก่อนที่เจเรมี่จะดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความคิด ภาพของเมเดลีนปรากฏขึ้นภายในจิตใจ

‘ลินนี่ นี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วนะ ผมอยากรู้ว่าคุณเป็นอย่างไรบ้าง?’

มีบางคนวิ่งผ่านร่างเจเรมี่ไปอย่างไว คนนั้นกระแทกไหล่และเอกสารข้อมูลการรักษาร่วมถึงรายงานตรวจร่างกายของเขาหล่นเกลื่อนพื้น “ขอโทษครับ ผมกำลังรีบ”

ชายหนุ่มที่ชนเขาขอโทษและวิ่งหายไป

เจเรมี่รู้สึกขุ่นเคืองอยู่ภายในเพราะว่าความคิดของเขาถูกขัดจังหวะอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาก้มลงไปเก็บเอกสารที่เกลื่อนพื้น

“คุณคะ นี่ของคุณค่ะ”

เสียงอันอ่อนหวานและอ่อนโยนของหญิงสาวดังขึ้นตรงหน้าเขา จากนั้นเธอส่งเอกสารข้อมูลบันทึกการรักษาที่เจเรมี่ทำตกคืนมา

เจเรมี่กำลังจะเงยหน้าขึ้นไปขอบคุณเธอ แต่ทันใดนั้นเธอดึงแขนเขามาทางด้านหลัง

“ระวังรถค่ะ” เธอเอ่ยอย่างอ่อนโยน

หลังจากที่เจเรมี่ทรงตัวได้แล้ว เขาก็รีบดึงแขนเขากลับมา “ขอบคุณครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เธอมองไปยังเจเรมี่อย่างใกล้ชิดด้วยดวงตาคู่งามรูปทรงอัลมอนต์ “คุณคะ หรือว่าคุณจะมองไม่เห็น?”

เมื่อไม่ได้ยินคำตอบใดออกจากปากเจเรมี่ หญิงสาวคนนั้นรีบกล่าวคำขอโทษ “ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงคุณ”

วินส์ตันขับรถมารับลูกชายและเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพูดคุยอยู่กับเจเรมี่ เขาเดินลงจากรถและเดินตรงไปหา “คุณคือ…”

เขาพูดยังไม่ทันจบประโยค เขาก็มีท่าทีชะงักไปถนัดตา

หญิงสาวคนนั้นยิ้มและยื่นนามบัตรมาให้ “สวัสดีค่ะ นี่เป็นนามบัตรของฉันนะคะ”

วินส์ตันมองหน้าเธอขณะหยิบนามบัตรมาจากมือ และชำเลืองมองอีกครั้ง “เฟลิซิตี้ วอล์คเกอร์ จิตแพทย์?”

“คุณเป็นจิตแพทย์เหรอครับ?” เจเรมี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

เฟลิซิตี้พยักหน้าพลางยิ้ม “ค่ะ ฉันเป็นจิตแพทย์และคุณลุงของฉันทำงานอยู่ที่นี่ ฉันมาพบเขาช่วงเสาร์อาทิตย์นี้น่ะค่ะ ถ้างั้น ฉันไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ” เธอหันหลังเดินเข้าไปหลังจากพูดจบ

แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่เจเรมี่สามารถรับรู้ความผิดปกติของวินส์ตันได้

“เป็นอะไรไปครับพ่อ? ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรรึเปล่า?”

วินส์ตันรีบส่ายหัวอย่างไวและมองไปทางที่เฟลิซิตี้เดินเข้าไป จากนั้นเปิดประตูรถฝั่งผู้โดยสาร “เปล่า ลูกขึ้นรถเถอะ”

แม้ว่าจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง แต่เจเรมี่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออีก “ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย ไปส่งผมที่คฤหาสน์มอนต์โกเมอรีหน่อยครับ ผมอยากจะเจอแจ็ค”

วินส์ตันตอบรับและส่งเจเรมี่ตรงที่ที่ไม่ไกลจากประตูคฤหาสน์มากนัก

“เดี๋ยวพ่อค่อยกลับมารับก็ได้ครับ ผมอยากอยู่คนเดียวสักพัก” เจเรมี่พูดและรถจากรถไปอย่างเงียบ ๆ”

วินต์สันไม่ได้พูดอะไรและขับรถออกไปคนเดียว

ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา เจเรมี่มาทีนี่บ่อยมาก แต่เขาไม่เข้าไปเลยสักครั้ง เขาทำได้เพียงยืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่ไม่ไกลจากประตูบ้านและหันหน้าไปทางนั้น

สามเดือนผ่านไป

‘ลินนี่ คุณคิดถึงผมบ้างไหม?

‘คงจะไม่

‘ทำไมคุณต้องคิดถึงคนไม่เอาถ่านอย่างผมด้วยล่ะ?’

เจเรมี่หัวเราะกับตัวเอง พลางจับและหมุนแหวนแต่งงานที่นิ้วนางอย่างเบามือ

ตลอดสามเดือนที่ผ่านมานี้เขาซูบผอมลงไปเยอะ แต่เขาไม่คิดว่านิ้วเขาจะเล็กลงขนาดนี้

ในขณะนี้กำลังคิดถึงเรื่องเธอย่างเพลินใจ แหวนแต่งงานก็หลุดออกนิ้วเขา

สายตาของเขาเปลี่ยนทิศทางในทันที เขาได้ยินเสียงแหวนตกกระทบกับพื้น

เขารีบก้มตัวลงและพยายามคลำหาไปรอบ ๆ แต่ไม่เจออะไรเลยนอกจากขี้ดินและใบไม้แห้ง

คิ้วของเขาผูกกันเป็นปมและเขาเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ

เขาพลันคิดถึงและเข้าใจความรู้สึกในช่วงเวลาเดียวกันกับตอนที่เมเดลีนต้องก้มลงไปหาของที่พื้นอย่างกังวล

แหวนแต่งงานวงนี้เป็นเพียงสิ่งที่เดียวที่สามารถยืนยันสายสัมพันธ์ที่เขาเคยมีต่อเมเดลีน

สำหรับเขาแล้ว สิ่งนี้เป็นสมบัติล้ำค่าเพียงชิ้นเดียว

เขากวาดมือหาจนฝุ่นตลบ หลังจากนั้นไม่นาน เสียงก้าวเดินที่คุ้นหูเดินแหวกใบไม้เข้ามาใกล้เขาอย่างไม่คาดคิด

“กำลังหาแหวนวงนี้อยู่เหรอ?”