ตอนที่ 512 ครั้งนี้หนีไปได้ แต่หนีไปตลอดชีวิตไม่ได้
ตรงจุดนี้เฉินปี้กลับไม่ได้กังวล ใจเย็นลงโดยสิ้นเชิง
“สืบรู้ถึงจวนท่านเว่ยอ๋องแล้วจะทำอะไรพวกเราหรือ ฟังดูจากเจตนาของพี่สาวแล้ว ท่านเว่ยอ๋องกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์กำลังจะแตกคอกัน มิน่าพี่สาวถึงลงมือกับหลิงอวี้จื้อตอนนี้ ข้าดูแล้ว หากปะทะกันจริงๆ ทางจวนเว่ยอ๋องถึงคราวแพ้แน่นอน
ยังดีที่ท่านพ่อมิได้สนิทสนมกับทางจวนเว่ยอ๋องนัก ข้ามีความสัมพันธ์ดีกับพี่สาวก็มิได้มีความหมายอะไร การไปมาหาสู่ของญาติผู้หญิงมิได้มีความเกี่ยวข้องอะไรใหญ่โต ช่วงเวลานี้ ข้าจะไปจวนเว่ยอ๋องน้อยลง การแกว่งเท้าหาเสี้ยน ไม่เป็นผลดีกับพวกเรา”
เฉินปี้ตัดสินใจจะขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจน อย่างไรไม่นานก็จะแต่งงานกับอู๋อ๋องแล้ว เช่นนี้ก็จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับทางจวนเว่ยอ๋องอีก
เรื่องของทางจวนเว่ยอ๋อง นางจะไม่เข้ามาช่วย และไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย จะทำเพียงดูไฟจากชายฝั่งเท่านั้น นางเป็นแค่ญาติฝ่ายหญิง ถึงแม้ไม่สนใจ ก็คงไม่มีใครมาตำหนิอะไรนาง
เช้าตรู่วันถัดมา หลิงอวี้จื้อไปเยี่ยมมู่หรงนี่อวิ๋นที่จวนมู่หรง
มู่หรงนี่อวิ๋นนอนอยู่บนเตียง ขยับตัวไม่ได้ พันผ้าพันแผลสีขาวทั้งตัว เห็นหลิงอวี้จื้อมา ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มดีใจ
“นึกไม่ถึงว่าจะมาเช้าขนาดนี้ อวี้จื้อ คุณชายคนนี้ถึงกับซาบซึ้งทีเดียว”
“เจ้าซาบซึ้งง่ายขนาดนี้เชียวหรือ”
หลิงอวี้จื้อรู้ว่าตอนนี้มีหลายอย่างมากที่มู่หรงนี่อวิ๋นกินไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่นำมาให้ทั้งหมดจึงเป็นวัตถุดิบทำยาปรับสภาพร่างกาย ตอนนี้เธอเป็นเศรษฐินี เงินเยอะจนใช้ไม่หมด เอาวัตถุดิบทำยาชั้นดีมาไม่น้อย เธอเอาวัตถุดิบทำยาให้สาวใช้ของมู่หรงนี่อวิ๋น แล้วถามด้วยความเป็นห่วงว่า
“ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง”
“ไม่เป็นอะไรมาก”
หลิงอวี้จื้อนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง เห็นมู่หรงนี่อวิ๋นเจ็บหนักขนาดนี้ ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิด
“ขอโทษนะ นี่อวิ๋น ข้าพาเจ้ามาลำบากอีกแล้ว”
“ขอโทษอะไร ข้าเป็นผู้ชาย เจออันตรายจะไปหลบหลังเจ้าคงไม่ได้กระมัง! คุณชายคนนี้มิได้ขี้ขลาดขนาดนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็มีความสามารถมากกว่าเจ้า”
เพื่อไม่ให้หลิงอวี้จื้อรู้สึกผิด มู่หรงนี่อวิ๋นใช้น้ำเสียงแบบผู้ชายรุ่นใหญ่ ดวงตาลูกท้อแฝงรอยยิ้ม
“ถ้าจะขอบคุณจริงๆ ข้าควรขอบคุณเจ้าถึงจะถูก
ท่านพ่อข้าบังคับให้ข้าแต่งงาน ข้าหาเหตุผลมาปฏิเสธไม่ได้แล้ว เกิดเหตุเช่นนี้แล้ว คงจะหยุดพูดเรื่องนี้ไปอีกสักพัก เจ้าช่วยข้าไปเปลาะหนึ่ง เจ้าว่าข้าควรขอบคุณเจ้าหรือไม่ ถือว่าเป็นทุกขลาภ”
หลิงอวี้จื้อมองมู่หรงนี่อวิ๋นด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ และเริ่มเป็นกังวลแทนมู่หรงนี่อวิ๋นแล้ว
“ข้าว่านะนี่อวิ๋นเอ๋ย เจ้าเองก็อายุอานามไม่น้อยแล้ว ให้เจ้าแต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องผิด หลายปีมานี้ เจ้านอนกับผู้หญิงไปไม่น้อย ไม่มีคนที่ถูกใจบ้างหรือ”
“เจ้าอย่าเอาแต่ย้ำเรื่องนี้ไม่ปล่อยสิ เมื่อก่อนข้าเจ้าสำราญ แล้วอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ยินยอมกันทั้งสองฝ่าย คุณชายคนนี้ไม่เคยบังคับใคร ผู้หญิงประเภทนี้ ข้าไม่เคยเอามาใส่ใจ เวลาผ่านไปนาน แม้แต่ชื่อข้าก็จำไม่ได้แล้ว จะไปถูกใจใครกัน”
“ยังดีที่เจ้าไม่ได้ไปทำร้ายลูกสาวบ้านไหนเข้า ลูกสาวขุนนางในเมืองหลวงนี้มีตั้งมากมาย หาผู้หญิงน่ารักสักคนก็ไม่ยาก ครั้งนี้เจ้าหนีไปได้ แต่หนีไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ เจ้าเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลมู่หรง พ่อเจ้าย่อมร้อนใจเป็นธรรมดา อย่างไม่ต้องสงสัย”
มู่หรงนี่อวิ๋นหน้างอ
“นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของจวนมู่หรง เจ้าไม่ต้องเข้ามาผสมโรง เจ้ากับท่านอ๋องรักกันขนาดนี้ ตัวข้าเองเห็นกับตาอยู่ทุกวัน ก็ย่อมต้องได้รับอิทธิพล ข้าไม่เชื่อว่าจะหาผู้หญิงที่ใจตรงกันมิได้”
หลิงอวี้จื้อยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมา
“มีปณิธาน แต่เจ้าทนได้หรือ”
“มีอะไรที่ทนไม่ได้”
“ฮ่าๆ ความกดดันจากครอบครัวไม่สามารถมองข้ามได้ พี่น้องเอ๋ย หนทางยังอีกยาวไกล”
คำนี้มู่หรงนี่อวิ๋นไม่เคยได้ยินมาก่อน ถามอย่างใคร่รู้
“หนทางยังอีกยาวไกลคืออะไร”
“ก็ภารกิจหนักอึ้ง บนหนทางไกลไง”
“…”
ตอนที่ 513 ในที่สุดเฉินปี้ก็ไป
มู่หรงนี่อวิ๋นยอมแพ้หลิงอวี้จื้อแล้ว เห็นมู่หรงนี่อวิ๋นทำหน้างง หลิงอวี้จื้อก็ทนไม่ไหว หัวเราะออกมา
ตอนนี้เองสาวใช้ของมู่หรงนี่อวิ๋นเข้ามารายงานอย่างกะทันหัน
“คุณชายเจ้าคะ บ่าวเพิ่งได้ยินข่าว ไทเฮาออกพระราชเสาวนีย์พระราชทานงานอภิเษกสมรสแก่ท่านอู๋อ๋องแล้วเจ้าค่ะ”
ข่าวนี้กระตุกต่อมใคร่รู้ของหลิงอวี้จื้อทันใด ถามต่อทันที
“ไทเฮาพระราชทานใครให้ท่านอู๋อ๋อง”
“คุณหนูใหญ่จวนท่านมหาบัณฑิตเจ้าค่ะ”
สาวใช้พูดจบก็มองหลิงอวี้จื้อแวบหนึ่ง ดูเหมือนจะตกใจมากเช่นกัน
“ก่อนนี้คุณหนูเฉินถูกพระราชทานให้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์”
หลิงอวี้จื้อกับมู่หรงนี่อวิ๋นอึ้งไปพร้อมกัน นี่มันเหตุการณ์อะไรกัน เฉินปี้ติดต่อกับอู๋อ๋องหรือ
จุดเปลี่ยนของเรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกตามไม่ทัน นางเกี่ยวข้องกับเฉินเซี่ยวหรูตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่สำคัญที่สุดคือนึกไม่ถึงว่ามู่หรงกวานเย่ว์จะเห็นด้วย
เธอนึกถึงจุดโส่วกงซาที่หายไปจากข้อมือของเฉินปี้ ก็พอจะเริ่มเข้าใจ หรือว่าเฉินปี้กับเฉินเซี่ยวหรูมีความสัมพันธ์อย่างว่ากัน ดังนั้นเฉินเซี่ยวหรูจึงขอแต่งงานกับนาง
เล่ห์เหลี่ยมของเฉินปี้ยังชั้นสูงเหมือนเดิม ด้านหนึ่งก็คอยเกาะแกะเซียวเหยี่ยน อีกด้านหนึ่งก็แอบลอบมีอะไรกับเฉินเซี่ยวหรูอย่างลับๆ แล้วยังคิดจะไปนอนกับเซียวเหยี่ยนอีก พยายามสวมเขาให้เซียวเหยี่ยน พอตรงนี้ไม่สำเร็จ ก็ไปหาทางฝั่งเฉินเซี่ยวหรู ผู้หญิงคนนี้เป็นที่สุดของที่สุดจริงๆ
คิดถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อเริ่มสงสารเฉินเซี่ยวหรูแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะได้ผู้หญิงร่านเงียบมาเป็นพระชายา ไม่รู้ว่าเฉินเซี่ยวหรูก็ถูกเฉินปี้ปั่นหัวด้วยหรือไม่ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอแล้ว เพียงแต่รู้สึกน่าเสียดายเท่านั้น
เฉินเซี่ยวหรูผู้มีใบหน้าเหมือนซ่งเฉิง ถึงแม้จะมีอิทธิพลต่อเธอน้อยลงไปมาก แต่ก็ยังมีอิทธิพลอยู่ดี ตอนนี้เธอคิดถึงซ่งเฉิงน้อยมาก บางครั้งบางคราวนึกถึงขึ้นมา ก็ยังทำให้ยิ้มสดใส อย่างไรเสียก็เป็นคนที่แอบชอบมาตั้งหลายปี
“เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือ”
มู่หรงนี่อวิ๋นผู้มีสติกลับคืนมาแล้ว ถามต่อ
สาวใช้พยักหน้าอย่างเคารพนอบน้อม
“บ่าวถามได้ความชัดเจนแล้วเจ้าค่ะ เรื่องนี้จริงแท้แน่นอน ไทเฮาออกพระราชเสาวนีย์มาแล้ว ซ้ำยังแต่งเข้าจวนท่านอู๋อ๋องวันเดียวกับคุณหนูหลิงด้วย”
ได้รับคำยืนยันจากสาวใช้แล้ว มู่หรงนี่อวิ๋นก็ลอบถอนหายใจโล่งอก เขาไม่ได้สนใจเฉินปี้เลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดดูแคลนด้วยซ้ำ ที่มีความคิดเช่นนั้นออกมาก็เพื่อช่วยหลิงอวี้จื้อล้วนๆ ตอนนี้ไม่ต้องแต่งงานกับเฉินปี้ก็แก้ปัญหาได้แล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว
“อวี้จื้อ นี่เป็นเรื่องน่ายินดีนะ เสียดายที่ตอนนี้ข้าดื่มเหล้าไม่ได้ มิเช่นนั้นจะต้องดื่มกับเจ้ายกใหญ่แน่นอน”
หลิงอวี้จื้ออารมณ์ดีมาก ไม่ว่าเรื่องนี้จะมีอะไรอยู่ข้างใน สรุปว่าผลลัพธ์ออกมาดี เรื่องที่กวนใจเธอมานาน ในที่สุดก็คลี่คลายลง
เธอรู้ว่าการแข่งขันระหว่างเธอกับเฉินปี้ยังไม่จบ เฉินปี้ไม่ยอมลดละไปง่ายๆ แน่
ขอเพียงเฉินปี้ไม่แหย่เท้าเข้ามาในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเซียวเหยี่ยน เธอก็ไม่เห็นเฉินปี้เป็นเรื่องใหญ่อะไรแล้ว และจะไม่ยุ่งกับนางอีก โดยสรุปก็คือ สิ่งที่เธอใส่ใจที่สุดก็คือเซียวเหยี่ยน
ในที่สุดก็ได้แต่งงานกับเซียวเหยี่ยนอย่างสบายใจ ดีจริง ขี้หนูก้อนนี้สุดท้ายก็ยังไม่ตกลงมา ดีที่ยังไม่ได้ตกลงมา มิเช่นนั้น จิตใจของเธอ จะต้องมีหนามแหลมทิ่มแทงอยู่แน่นอน
“นี่เป็นข่าวดีที่สุดในช่วงเวลานี้ ในที่สุดเฉินปี้ก็ไปเสียที”
รอยยิ้มบนใบหน้าหลิงอวี้จื้อจะปิดอย่างไรก็ปิดไม่มิด ขาดเพียงแค่ไม่ได้หัวเราะลั่นออกมาเท่านั้น จูจิ่นเดินมาจากข้างนอก ยิ้มกรุ้มกริ่มถามว่า
“อวี้จื้อ เรื่องอะไรทำให้เจ้าดีใจขนาดนี้หรือ”
“เจ้าเพิ่งมาจากข้างนอก เช่นนี้ก็ต้องรู้อยู่แล้วยังมาถามอีกหรือ อดีตคู่หมั้นของข้า ช่วงนี้ยุ่งเรื่องอะไรหรือ ไม่เห็นเจ้าออกมาข้างนอกเลย”
หลิงอวี้จื้อจับไหล่จูจิ่นอย่างใกล้ชิดสนิทสนม และตั้งใจจะหยอกล้อจูจิ่น