หยางโปหยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาเหลือบมองเหลียงหรง “ หลังจากที่พวกเราขึ้นมาถึงบนยอดเขา
ก็ไม่เห็นเงาใครเลย ! ”
“ ศพยังอุ่นอยู่ น่าจะยังผ่านไปได้ไม่นาน รีบค้นหาทั่วเขาเดี๋ยวนี้ ! ” เหลียงหรงสั่ง
ในสถานที่เกิดเหตุมีเสียงดังอึกทึกขึ้นในทันที พ่อแม่ของเด็กเองก็วิ่งกันขึ้นมา เมื่อเห็นสภาพที่อยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นก็เป็นลมล้มพับไปเลย !
เมื่อหยางโปเดินกลับมา ก็เห็นจ้าวคังถูกหลินซุนมัดตัวไว้ เขาก็มีอาการลังเลเล็กน้อย เมื่อเห็นคนด้านข้างถือขวดน้ำอยู่ เขาจึงยืมมันมาสาดใส่หน้าจ้าวคัง !
หลินซุนรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที ” ผมจับตัวนักโทษได้ จะจัดการยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับผม นี่คุณกำลังทำอะไร ? ”
หยางโปไม่สนใจหลินซุนเลย เพราะเขาพบว่าการสาดน้ำใส่มันไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาอะไรได้ เขาจึงอดที่จะหันไปทางเหยียนหรูหยูไม่ได้
เหยียนหรูหยูก้าวขึ้นไปข้างหน้า หลินซุนที่เดิมทียืนขวางอยู่ตรงหน้าหยางโป เมื่อเห็นเหยียนหรูหยูเดินเข้ามา เขาก็รีบหลบทางให้ เหยียนหรูหยูยกเท้าข้างหนึ่งเหยียบไปบนหลังจ้าวคัง จากนั้นก็ได้ยินจ้าวคังร้องครางออกมาเบาๆ และบริเวณหัวไหล่สั่นไหวเล็กน้อย
จากนั้น จ้าวคังก็ได้สติตื่นขึ้นมา เขามองไปรอบๆแต่ดวงตายังแดงเล็กน้อย
หลินซุนกลัวว่าเหยียนหรูหยูจะได้รับเจ็บ เขาจึงยกเท้าข้างหนึ่งเหยียบจ้าวคังไว้พร้อมทั้งทำเสียงฮึดฮัดเหยียดหยาม ” ตอนนี้คุณถูกจับกุมตัวไว้แล้ว บอกผมมา ทำไมคุณต้องทำร้ายเด็กผู้หญิงคนนั้น ? ”
จ้าวคังใช้มือทั้งสองข้างพยุงตัวลุกขึ้น หลินซุนไม่ทันสังเกตเห็น เลยถูกเขาตวัดพลิกตัวล้มลงบนพื้น !
เมื่อชาวบ้านจำนวนมากที่อยู่โดยรอบเห็นเหตุการณ์นี้เข้า ก็รีบพากันวิ่งกรูเข้ามาจับหลินซุนไว้ ทางด้านชาวบ้านอีกสี่คนก็เข้าไปจับตัวจ้าวคังกดไว้ เพียงแค่เขาใช้แรงสะบัดตัว ก็หลุดออกมาได้อีกครั้ง !
หยางโปยืนอยู่ด้านข้าง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าในขณะที่จ้าวคังดิ้นหลุดไปได้นั้น ดวงตาทั้งคู่ของเขามีสีแดงเข้มมากยิ่งขึ้นไปอีก สวยหยาดเยิ้มมาก !
จ้าวคังลุกยืนขึ้น และหันมองไปรอบๆ เห็นเหยียนหรูหยูในชุดกระโปรงสีขาวอยู่ไม่ไกล เขาจึงรีบพุ่งเข้าหา
หลินซุนเพิ่งจะพยุงตัวลุกขึ้นได้ เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของจ้าวคังก็หน้าซีดเผือก ร้องตะโกนออกมาสุดเสียงทันที ” คุณเหยียนระวัง ! ”
หยางโปที่ยืนอยู่ข้างเหยียนหรูหยู เขากลับไม่ยืนมือเข้าไปขวางไว้ แต่มองดูจ้าวคังวิ่งพุ่งเข้ามาแบบนั้น
จ้าวคังขู่คำราม ด้วยสีหน้าที่ดุร้ายและหน้าหวาดกลัวพุ่งไปทางเหยียนหรูหยู จนทำให้ทุกคนกรีดร้องด้วยความตกใจ
เสียงกรีดร้องเพิ่งจะดังขึ้น จู่ๆก็อ้างปากค้างกันนิ่งเงียบไปทันที ทุกคนเห็นจ้าวคังวิ่งกรูเข้าไปอยู่ต่อหน้าเหยียนหรูหยู แยกเขี้ยวกางเล็บคิดจะจับตัวเหยียนหรูหยไว้ แต่กลับถูกมือเรียวยาวข้างหนึ่งชี้ยันไปที่หน้าผาก มือคู่นั้นขาวใสนวลผ่อง นิ้วมือหนึ่งอยู่ภายใต้แสงจันทร์ แลดูสะอาดตา
หยุดจ้าวคังไว้อย่างนั้น !
จ้าวคังแยกเขี้ยวกางเล็บพยายามจะเดินหน้า แต่สำหรับคนนอกดูแล้วการเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าและไร้เรี่ยวแรงมาก !.novel-lucky.
หลังจากนั้นไม่นาน จ้าวคังก็ล้มลงหมดแรงไปอย่างช้าๆและหมอบราบไปกับพื้น !
เหลียงหรงรีบวิ่งเข้ามา และเห็นเข้ากับฉากนี้พอดี เขามองเหยียนหรูหยูตาโตด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
หยางโปไม่สนใจคนอื่นๆ เขาสาดน้ำใส่หน้าของจ้าวคังอีกครั้ง จ้าวคังค่อยๆลืมตาขึ้น ดวงตาคู่นั้นกลับมาปกติ เขาเหลือบมองหยางโปด้วยสีหน้าที่ดุร้าย !
“ มันใครกันแน่ที่ฆ่าเด็กผู้หญิง ! ” หยางโปจ้องมองจ้าวคังเขม็งและเอ่ยปากถาม
จ้าวคังจ้องไปที่หยางโปอย่างอาฆาต ” คุณไม่สมควรที่จะรู้ ! ”
หยางโปขมวดคิ้ว “ คุณเป็นคนช่วยเขาลักพาตัวเด็กผู้หญิง ? คุณเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ? ”
จ้าวคังหัวเราะฮ่าๆออกมาเสียงดังแต่ไม่ยอมพูดอะไร
เหลียงหรงมายืนอยู่ข้างหยางโป สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ ฆาตกรคืออีกคน ไม่ใช่จ้าวคังอย่างงั้นเหรอ ? ”
หยางโปไม่พูดอะไร เขาแปลกใจมาก อีกฝ่ายมีพลังอำนาจอะไร ถึงทำให้จ้าวคังกลายเป็นแบบนี้ไปได้ สามารถเพิ่มพลังขึ้นมาได้ในช่วงพริบตาเดียว กองทัพผ้าโพกหัวเหลืองสมัยโบราณก็เป็นแบบนี้ หรือว่าบันทึกทางประวัติศาสตร์มีอยู่จริง ? มีคาถาอาคมแบบนี้อยู่จริงๆ ?
เหลียงหรงสอบปากคำไปสองสามประโยค แต่เมื่อเห็นว่าจ้าวคังไม่ยอมตอบคำถาม เขาจึงต้องโบกมือให้ลูกน้องพาตัวจ้าวคังลงจากเขาไป จากนั้นเมื่อถึงตีนเขาแล้วค่อยตรวจสอบเอกสารใหม่อีกครั้ง
เมื่อเหลียงหรงเห็นหยางโปทั้งสองคนเดินลงเขา เขาก็รีบตามไปทันที เขาค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่จับกุมตัวจ้าวคังไว้ได้ไม่น่าจะใช่หลินซุน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบต้องเป็นหยางโปทั้งสองคนที่พบเบาะแสและรีบมุ่งหน้าเข้ามาตรวจสอบดูก่อน สิ่งนี้แสดงให้เห็นปัญหาที่ชัดเจนและครบถ้วน มันถูกต้องแล้วที่เบื้องบนส่งหยางโปทั้งสองคนมาที่นี่
เหลียงหรงมีคำถามอยู่มากมาย เขาอยากจะไล่ตามหยางโปให้ทัน เพื่อจะได้คุยกับเขา แต่หยางโปที่เดินอยู่ด้านหน้ายิ่งเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนจะไม่สนใจเขาเอาเสียเลย !
เหลียงหรงไล่ตามหยางโปไม่ทัน จึงทำได้เพียงตะโกนเสียงดัง “ คุณหยาง รอก่อน ! ”
หยางโปเดิมทีไม่คิดที่จะรอเหลียงหรง เพราะเขาเดาได้แล้วว่าเหลียงหรงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ในเมื่ออีกฝ่ายตะโกนเสียงดังออกมาแล้ว เขาจะไม่หยุดรอมันก็ไม่ได้
เหลียงหรงวิ่งตามมา และมีอาการหอบหายใจเล็กน้อย เขาเดินผ่านเหยียนหรูหยูอล้วเดินไปข้าง หยางโป มีอาการลังเลเล็กน้อยและถามไปว่า ” คุณหยาง คุณพอรู้ตัวฆาตกรแล้วใช่ไหม ? ”
ท่าทีของเหลียงหรงเปลี่ยนไปมาก ถึงกับใช้คำพูดที่ให้เกียรติ เขามองหยางโปและถึงขั้นมีอาการตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
หยางโปส่ายหัว “ ผมไม่รู้ว่าใครคือฆาตกรตัวจริง ”
เหลียงหรงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง เขามองหน้าหยางโป “ ท่าทีของจ้าวคังเมื่อตะกี้ดูแปลกมาก ระหว่างนั้นจู่ๆก็มีกำลังขึ้นมาอย่างมหาศาล ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าลือกันมาว่ามีวิชาแปลกๆที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นแบบนี้ได้ ไม่รู้ว่าคุณหยางพอจะเข้าใจไหม ? ”
หยางโปยังคงส่ายหัว “ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็น ”
เหลียงหรงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเหยียนหรูหยู ” แต่คุณเหยียนควบคุมอีกฝ่ายได้ด้วยนิ้วเดียว
ทำได้ยังไง ? ”
สีหน้าของเหยียนหรูหยูเฉยเมย ไม่แม้แต่จะปริปากพูด
หยางโปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอธิบายแทน ” นี่เป็นเพราะจุดรับแรงแตกต่างกัน ทุกครั้งที่คุณค้นพบจุดสมดุลของร่างกายของคู่ต่อสู้ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ”
เหลียงหรงทำหน้าสงสัย “ เป็นไปได้ยังไง ? ทำไมผมไม่รู้เลยล่ะ ? ”
“ พวกเรามาลองดูกันไหม ? ” หยางโปพูด “ คุณสามารถพุ่งเข้ามาหาผม เรามาลองดูกัน แล้วคุณก็จะรู้เอง ”
เหลียงหรงลังเลเล็กน้อย พยักหน้า และเอาหัวพุ่งเข้ามาหาหยางโปทันที !
เพราะฝึกฝนมา ความแข็งแกร่งของหยางโปจึงเพิ่มขึ้นมาก แม้ว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมจ้าวคังได้ แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเหลียงหรง เขายังมีความมั่นใจอยู่มาก เขาเหยียดนิ้วออกมาชี้ไปทางเหลียงหรง
เหลียงหรงดูเหมือนจะเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว เปลี่ยนทิศทางในระหว่างที่วิ่งเข้ามา ทำให้หยางโปไม่ทันระวังตัว แต่โชคดีที่เขาตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนตำแหน่งในช่วงพริบตา
และกดนิ้วลงบนกลางหน้าผากของเหลียงหรงสกัดกั้นเขาไว้ !
เหลียงหรงพยายามอย่างหนักที่จะเดินไปด้านหน้า แต่กลับไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรง เขารีบยอมแพ้อย่างเร็ว และเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเวียนหัวไม่น้อยเพราะว่าใช้แรง
“ นี่เป็นวิธีการที่ร้ายกาจมากจริงๆ ” เหลียงหรงพูดออกมาด้วยสติที่เลอะเลือน
หยางโปพยักหน้า ” จ้าวคังมีนิสัยที่อันตรายมาก เวลาสอบปากคำต้องระมัดระวัง ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีตัวการคอยสั่งการอยู่แน่นอน เขาน่าจะเป็นแค่ผู้สมรู้ร่วมคิด ”
เหลียงหรงพยักหน้าลงช้าๆ “ คุณหยาง ต้องขอบคุณคุณมาก มีคุณอยู่ที่นี่ พวกเราเลยทำงานกันง่ายมากขึ้น ”
“ คุณเกรงใจไปแล้ว ” หยางโปพูด “ ผมของตัวลงเขาก่อน ”
“ ได้ ! ” เหลียงหรงรีบตอบรับ เขามองหยางโปไปจากที่นี่ และทรุดตัวนั่งลงบนพื้นทันที เหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำให้เขาเสียแรงไปมาก เวลานี้เหน็ดเหนื่อยจนแทบทนไม่ไหวแล้ว !