“อย่า … อย่าเพิ่งกินมัน ฉันมีวิธีลับที่สามารถปรุงรส … ให้มันอร่อย …ได้” เย่ฉางอยากจะหยุด ThornyRose ไว้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว อูนาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอเฝ้าดู ThornyRose ที่กำลังสาปแช่งเย่ฉาง ก่อนที่เธอจะนอนแน่นิ่งไป
เย่ฉางเอาหนวดของ Marshwalker ออกมาบดเป็นผงและโรยใส่ในสตูว์นรกโหยหวนที่ราดอยู่บนข้าวต้มกุ๊ย ทันใดนั้น มันก็เริ่มที่จะส่องแสงและโชยกลิ่นหอมหวนออกมา มันดูน่าจะอร่อยมาก! ทุกคนมองร่าง ThornyRose ที่นอนแน่นิ่งอยู่อย่างมีความสุข พวกเขาดีใจที่ยังไม่รีบกินอาหารไปก่อน จนได้รู้ถึงวิธีลับที่สามารถปรุงรสให้มันอร่อยได้ ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของสตูว์นรกโหยหวนจะดูน่าขยะแขยง แต่อย่างน้อยมันก็ยังพอกินได้อยู่ กลุ่มของเย่ฉางมีภูมิคุ้มกันอาหารที่เปรียบเสมือนอาวุธชีวภาพนี่อยู่แล้ว พวกเขาจึงกินอาหารกันอย่างชิวๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับ ElegantFragrance และพวกสาวๆที่เหลือแล้ว พวกเธอยังไม่ได้ผ่านการทดลองกินอาวุธชีวภาพของเย่ฉางเลยสักครั้ง มันน่าขยะแขยงมากพอที่จะทำให้พวกเธออาเจียนออกมา SpyingBlade ถอนหายใจ ‘พวกทหารผ่านศึกเหล่านั้น มีการพัฒนาภูมิคุ้มกันไปหมดแล้ว ซึ่งแตกต่างจากพวกทหารหญิงใหม่พวกนี้ พวกเธอแทบจะไม่สามารถทนต่อมันได้’ เขาไม่รู้ว่าจะสุขหรือเศร้าใจดี จากนั้นเขามองไปที่ ThornyRose และหัวเราะอย่างขมขื่น เธอโชคดีที่ยังไม่ตาย พลังชีวิตของเธอเหลืออยู่ประมาณ 5% เท่านั้น
ThornyRose ตื่นขึ้นมาและได้เห็นท่าทางที่ดูเป็นห่วงเป็นใยของเย่ฉาง เธอรีบพุ่งใส่เขาทันที “ไอบัดซบ!!”
“หน้า หน้าของฉัน!” เย่ฉางกรีดร้อง FrozenBlood พยักหน้าเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องที่คุ้นเคยแบบนี้ ครั้งสุดท้ายที่เธอได้ยิน มันนานมากแค่ไหนกันแล้วนะ!
อูนาได้ทำงานร่วมกับ FrozenBlood อย่างรวดเร็ว โดยช่วยกันแยกพวกเขาออกจากกัน อูนาเริ่มเห็นอกเห็นใจ ThornyRose มากยิ่งขึ้น
จางเจิ้งเฉียงเริ่มร่ายเวท [Healing Light] ให้กับเธอ เย่เทียนก็ยังช่วยฮีลให้เธอด้วยอีกแรง
ThornyRose หายใจเข้าลึกๆ เมื่อเธอเห็นว่าคนอื่นๆดูดีกันหมดทุกคน เธอจึงจ้องมองเย่ฉางอย่างโกรธแค้น “ไปกันเถอะ…”
เย่ฉางเฝ้ามองขณะที่ ThornyRose เดินผ่านพุ่มไม้ไป เขาลูบรอยฟันบนใบหน้าและถอนหายใจ “ยัยผู้หญิงบ้าคนนี้ คงลืมกินยามาอีกครั้งแล้วแน่ๆ …”
หลังจากพูดจบ เขาก็ยกบาลิสต้าขึ้นวางไว้บนไหล่และเดินตามเธอไป อูนาอยากรู้ว่าทั้งสองคนได้พบเจอกันอย่างไร FrozenBlood เห็นความอยากรู้อยากเห็นของเธอ จึงเดินเข้าไปกระซิบบอกเธอ ในที่สุดอูนารู้เรื่องเกี่ยวกับลูกศรทั้งสองดอกที่เสียบรูก้นของ ThornyRose และหลั่งเหงื่อออกมาทันทีเย็น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความเสียใจและความอัปยศอย่างสุดซึ้ง … มันน่าเหลือเชื่อมากที่พวกเขายังคงเป็นเพื่อนร่วมทีมกันได้อยู่
ระหว่างทาง พวกเขาสามารถจัดการกับศัตรูที่กระจัดกระจายกันอยู่ได้อย่างง่ายดาย ThornyRose มองเจ้าหมียักษ์และเย่เทียนอย่างชื่นชม ประสิทธิภาพในการจัดการกับพวกอันเดทของพวกเขาดีมากๆ เจ้าหมียักษ์เป็นตัวแท้งค์ก็จริงอยู่ แต่เขาใช้อาวุธเป็นขวานยักษ์สองมือ แถมมันยังสร้างความเสียหายธาตุศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ด้วยการเหวี่ยงขวานของเขาแต่ล่ะครั้ง พวกวิญญาณร้ายจะกลายเป็นฝุ่นละอองทันที เจ้าเสือโคร่งน้อยก็โหดร้ายไม่ใช่เล่น มันอาจจะรวดเร็วที่สุดในทีม และความสามารถในการกระโดดของมันก็ยังน่ากลัวเป็นอย่างมาก มันสามารถกระโดดไปได้ทั่วทุกที่เหมือนเช่นแมวภูเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ดาบคู่ของมันก็สร้างความเสียหายได้อย่างมาก และความเร็วในการโจมตีของมันก็เร็วกว่าพวกแอสซาซินเสียอีก นอกจากนี้ มันยังมีความสามารถในการกดดันคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก สิ่งที่ทำให้เธอพูดไม่ออกมากที่สุดก็คือว่า มันเป็นเทคนิคการต่อสู้ที่ได้รับการสอนจากใครบางคนมา เหมือนว่ามันได้เรียนรู้การโจมตีและการหลบหลีกอย่างคาดไม่ถึงของหลินหลี่ การต่อสู้แบบหยาบโลนแต่รุนแรงของเจ้าหมียักษ์ และการมีความแม่นยำของเย่ฉาง พร้อมกับมันยังมีความสามารถในการสวมใส่อุปกรณ์อีก มันไม่เหมือนสัตว์ตัวอื่นๆเลย เธอกลัวว่าบางทีมันอาจจะแข็งแกร่งกว่าใครหลายๆคนในที่นี่ บางทีทั้งสามพี่น้องและ SpyingBlade ก็อาจไม่สามารถเอาชนะมันได้อย่างง่ายดาย…
ThornyRose เฝ้ามองเย่เทียนที่นั่งบนหลังแมลงคากูที่ชื่อว่าเจ้าอาหารฉุกเฉิน ซึ่งเธอกำลังไล่ตามพวกภูติผีอยู่ในอากาศ สิ่งนี้มันน่ากลัวมากๆ! การที่สามารถบินได้ในช่วงต้นเกมแบบนี้ จะได้เปรียบคนอื่นมากๆ ถึงแม้ว่าจะมีระดับการบินที่ต่ำ แต่มันก็น่าทึ่งมากๆอยู่ดี เมื่อเธอสังเกตดูไปสักพัก เธอสามารถบอกได้ว่า มันมีระยะเวลาการบินที่ไม่นานมากนัก อาจเป็นเพราะมันยังไม่เติบโตเต็มที่ เจ้าเสือโคร่งก็เหมือนกัน ในที่สุด เธอก็มองไปที่การเต้นและการเชียร์ของเจ้าซอสอ่อน เช่นเดียวกับเจ้าฟ้าน้อยซึ่งกำลังเต้นอยู่ข้างๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้มันยังเป็นเพียงลูกเหยี่ยวที่ตัวเล็กๆอยู่ แต่เมื่อไหร่ที่มันเติบโตขึ้น มันน่าจะมีประโยชน์มากๆ ผิดกับปีศาจน้อยตัวนั้น เห็นได้ชัดว่ายังไงมันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เธออยากรู้ว่ามันมาร่วมกลุ่มกับพวกเขาได้อย่างไร … เธอสามารถเห็นภาพในอนาคตได้อย่างง่ายดายว่า เย่ฉางยกหอกของเขาขึ้น และเปลี่ยนมันเป็นค่า Exp …
เย่ฉางยิงบาลิสต้าใส่พวกโครงกระดูกที่เดินเข้ามา ลูกศรเหล็กในราชาผึ้งคากูพุ่งใส่และระเบิดพวกมัน จากนั้นเขาเริ่มที่จะรีโหลดลูกศรใหม่ โดยการใส่ลูกศรธรรมดาลงไป เมื่อ ElegantFragrance ใช้ธนูที่ได้มาจากเย่ฉาง เธอก็เหมือนกับปลาในน้ำ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเธอนั้นรุนแรงมาก และไม่แย่ไปกว่าของเย่ฉางเลย เธอยิ้มอย่างน่ารัก ขณะที่เธอโยนธนูหนักกลับไปให้เย่ฉางและพูดว่า “ให้ฉันเล่นบาลิสต้าบ้าง! เอาลูกศรทุกชนิดมาให้ฉันด้วยล่ะ!”
เย่ฉางยิ้มเจื่อนๆ ‘เธอช่างเป็นผู้หญิงที่ชอบเอาแต่ใจจริงๆ’ เขารับธนูหนักที่เธอโยนมาให้ จากนั้นเขาก็โยนบาลิสต้าพร้อมกับลูกศรหลายๆดอกไปให้เธอ ElegantFragrance จับบาลิสต้าด้วยความยากลำบาก ‘ความต้องการค่าสถานะของบาลิสต้านี้สูงมาก! โชคดีที่ฉันมีความสามารถพิเศษในการลดความต้องการของอาวุธระยะไกล มิฉะนั้นแล้ว ฉันจะไม่สามารถใช้มันได้!’ เธอทุ่มความแข็งแกร่งทั้งหมดและยกมันขึ้นไปวางบนไหล่ของเธอ จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งจับลูกศร 3 ดอกใส่ลงไป เวลาในการรีโหลดลูกศรของเธอช้ากว่าเย่ฉางถึงหนึ่งวินาที จากนั้นเธอเล็งไปที่กลุ่มโครงกระดูกและยิง [Splitting Shot]! สลักเกลียวระเบิดออก จากนั้นลูกศรเวทสองดอกถูกยิงออกมาและแยกออกจากกันเหมือนตรีศูล ภายใต้ความสามารถในการเจาะทะลุทะลวงที่สูง กลุ่มโครงกระดูกทั้ง 10 ตัวหรือมากกว่านั้นก็กลายเป็นค่า Exp ทันที ElegantFragrance เริ่มลูบบาลิสต้าเบาๆ แม้ว่าการบรรจุลูกศรของมันจะยากลำบากมาก แต่เมื่อตอนที่ยิงลูกศรออกไปแล้ว มันให้ความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ!
สำหรับเย่ฉางที่ได้รับธนูหนักกลับมา เขาก็เริ่มโชว์ทักษะการยิงของเขา เขายิงไปและเคลื่อนที่ไปด้วยอย่างงดงาม ทันใดนั้น เขาเห็นโครงกระดูกชั้นสูงกำลังร่ายเวทอยู่ เขาเก็บธนูและหยิบหอกขึ้นมาและใช้ [Straight Thrust] พุ่งเข้าไปหา และระดมการโจมตีใส่ไม่ยั้ง จากนั้นก็กระโดดถอยกลับเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี ขณะที่เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววิในการเปลี่ยนมาใช้ธนูยิงใส่มัน เมื่อเขาร่อนลงพื้น เขารีบเบี่ยงตัวหลบการโจมตีของโครงกระดูกที่อยู่ข้างหลังเขา เย่ฉางใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาหลบนี้ ง้างธนูและยิงใส่โครงกระดูกชั้นสูงอีกครั้งหนึ่ง จนมันตายลงไป เขาล้มตัวลงกับพื้นและเปิดใช้ [Fire Lotus] ฆ่าฝูงโครงกระดูกทั้งกลุ่ม จากนั้นเขาก็เริ่มใช้เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา [Light Strike Array]! โครงกระดูกนับสิบที่คลานอยู่พื้นดิน ได้กลายเป็นเป้าหมายของสกิล [Light Strike Array] ทันที แสงที่เจิดจ้าและเปลวไฟได้ระเบิดออกมา ก่อให้เกิดความเสียหายหนักและสตั้นพวกมัน …
ThornyRose ที่เพิ่งฆ่าโครงกระดูกไปเพียงไม่กี่ตัว เมื่อเธอเห็นเวทมนตร์ควบคุมขนาดใหญ่ – [Light Strike Array] ที่เย่ฉางใช้ออกมา ‘พระเจ้าช่วย! เวทมนตร์ควบคุมขนาดใหญ่แบบนี้ มันต้องมีระดับ Epic เป็นอย่างน้อย’ GreenDew ได้เห็นกระบวนการโจมตีทั้งหมดของเย่ฉางด้วยเช่นกัน จากเริ่มแรก เขาวิ่งและยิงธนูไปด้วย เขาพุ่งเข้าไปโจมตีอย่างรวดเร็วด้วยหอก เขายิงธนูกลางอากาศ จากนั้นก็กลับมาใช้หอกที่ลุกเป็นไฟโจมตีอีก และสุดท้ายการใช้เวทมนตร์ควบคุมขนาดใหญ่ มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกันการโจมตีด้วยหลายเทคนิคแบบนี้ของเขา ‘หัวหน้าทีม เมื่อมีคุณอยู่ในปาร์ตี้ แม้กระทั่งฉันและนานะร่วมมือกัน ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เท่ากับเวทมนตร์นี้ของคุณได้เลย …’
หลินหลี่มีท่าทางเหมือนไม่มีแรงกดดันอะไรเลย หลังจากที่เขาเปิดใช้งานออร่าแล้ว เขาก็สามารถยืนอยู่ในฝูงอันเดทอย่างสบายใจ เขาทำเพียงแค่แกว่งดาบยักษ์ไปทางซ้ายที ไปทางขวาที ก็ฆ่าพวกโครงกระดูกได้แล้ว พวกโครงกระดูกที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายเขา ทำได้แค่เพียงลดเลือดของไปเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ต้องขอบคุณความสามารถของออร่าที่ดูดพลังชีวิตแบบนี้
ThornyRose หัวเราะอย่างขมขื่น เขาคือเครื่องจักรฟาร์มมอนสเตอร์ชัดๆ เอฟเฟคออร่าของชุดเซ็ทนี้ ทำให้เป็นชุดของนั้นเปรียบเสมือนเป็นอุปกรณ์ระดับพระเจ้าสำหรับการฟาร์มมอนสเตอร์ อย่างไรก็ตาม สำหรับหลินหลี่นั้น ออร่านี้ไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนัก มันเป็นเพราะพลังโจมตีของเขามีมากเกินไปต่างหาก ที่สำคัญเขามีค่า Strength ที่สูงมากๆ แต่เขาก็ไม่ได้เปราะบาง ในเกมตอนนี้ พลังป้องกันของเขาไม่อ่อนด้อยไปกว่าพวกตัวแท้งค์คนอื่นๆเลย เธอยกโล่ฟาดโครงกระดูกที่อยู่ด้านข้าง จู่ๆ FrozenCloud กระโดดลอยตัวเตะใส่มันจนปลิ้วกระเด็นออกไป ThornyRose พยักหน้า นับตั้งแต่ที่ FrozenCloud เริ่มใช้เวลาอยู่กับพวกนั้น แม้ว่าสติปัญญาและศีลธรรมของเธอจะดิ่งลง แต่เทคนิคการต่อสู้ของเธอกลับเพิ่มมากขึ้นเลยทีเดียว …