บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 648

“แม่คะ หนูจะได้เจอพี่แจ็คแล้วใช่ไหมคะ?” เสียงอันอ่อนโยนของลิเลียนสดใสราวกับกระแสน้ำในลำธาร ช่างอ่อนหวานเหลือเกิน

ทั้งดวงตาและริมฝีปากของเมเดลีนยิ้มรับพร้อมกัน “แม่จะโกหกลิลลี่ทำไมล่ะจ๊ะ? อีกไม่นานลูกจะได้เจอพี่แจ็คแล้วละ”

“ดีเลยค่ะ หนูอยากจะให้อมยิ้มอันโปรดกับพี่แจ็คไว ๆ” ลิลลี่ปรบมือน้อย ๆ อย่างดีใจ

เสียงปรบมือดีใจกระทบเข้าหูเขา ราวกับเครื่องเคาะจังหวะอันโตที่กระแทกเข้าที่หัวใจของเขา เจเรมี่รู้สึกเจ็บตรงที่หัวใจทุกครั้งที่ได้ยินเสียงปรบมือ

เขาสัมผัสได้ว่าเมเดลีนเดินหัวเราะผ่านหน้าเขาไปไม่ถึงคืบ

เขาจินตนาการถึงรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ และนึกถึงด้านที่อ่อนโยนและใจดีของเธอในฐานะแม่และภรรยาที่ดี เขาจินตนาการว่าเธอกำลังนอนหลับอยู่อย่างสงบในอ้อมแขนของผู้ชายอีกคน ดวงตาของเจเรมี่แดงขึ้นจากสายลมที่พัดผ่านมา

เขาหันหลังและเดินจากเมเดลีนไป…

เมื่อลิเลียนเห็นแจ็คสันเป็นครั้งแรก เด็กน้อยทั้งสองดีต่อกันมาก เมื่อรู้ว่าปาร์ตี้ครั้งนี้จัดขึ้นให้พวกเขาสองคนพี่น้อง ทั้งสองก็ดีใจเป็นพิเศษ

แม้คำว่า ‘ญาติสนิท’ จะมีความหมายที่คลุมเครือสำหรับพวกเขาทั้งสองตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แต่ตอนนี้ความสุขของพวกเขาคือของจริง

ฌอนและเอโลอิสเตรียมของขวัญไว้ให้ลิเลียนเรียบร้อยแล้ว

เมื่อมองไปยังตุ๊กตาน้อยน่ารัก คู่สามีภรรยายิ้มออกมาอย่างเป็นสุข

พวกเขาทั้งสองคิดว่าเด็กน้อยทั้งสองคนเข้ากันได้ดี แม้ว่าจะมีแม่คนเดียวกัน แต่ต่างพ่อก็ตาม

เมเดลีนมองไปยังสองคนพี่สองที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน และหยุดคิดถึงภาพของเจเรมี่ที่อยู่ในใจไม่ได้

เมื่อเห็นว่าเฟลิเป้เดินไปด้านนอกเพื่อคุยโทรศัพท์ เมเดลีนรีบเดินมานั่งด้านข้างเอโลอิสทันที “แม่คะ อาการบาดเจ็บที่ขาของเจเรมี่หายดีแล้วรึยังคะ?”

ในระหว่างที่กำลังมองดูเด็กน้อยสองคนเล่นกันอย่างมีความสุข เอโลอิสพลันได้ยินคำถามจากปากของเมเดลีน

“เขาได้รับบาดเจ็บเพราะเข้ามาช่วยชีวิตหนู คงดีที่สุดถ้าเขาไม่เป็นไรแล้วตอนนี้” เมเดลีนรีบกลบเกลื่อน

เอโลอิสพยักหน้าแสดงความเข้าใจ “ขาของเขาหายแล้วล่ะ แต่ว่าตาของเขา…”

“คุณยาย คุณยาย!” เด็กทั้งสองวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน เข้ามาขัดจังหวะเอโลอิสจนเธอพูดไม่จบ

หลังจากเด็กทั้งสองเข้ามาขัดจังหวะ เอโลอิสจึงนึกขึ้นได้ว่าเจเรมี่สั่งห้ามเอาไว้

เธอพูดอะไรออกไปไม่ได้

เธอไม่สามารถบอกให้เมเดลีนรู้ได้ว่าเขากลายเป็นคนตาบอด

โชคดี เด็กน้อยสองคนนั้นหันเหความสนใจของเมเดลีนไปเสียก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่ทันสังเกตว่าเอโลอิสพูดยังไม่จบประโยค

เมื่อเฟลิเป้คุยโทรศัพท์เสร็จ เมเดลีนจึงรีบลุกขึ้นเดินไปทันทีหาเขา “เฟลิเป้คะ ฉันขอใช้โอกาสเพื่อที่จะไปเยี่ยมคุณปู่นะคะ”

แน่นอนว่า การที่เธอจะเจอนายท่านอาวุโสวิทแมนนั่นหมายความว่าเธอจะเจอเจเรมี่ด้วย

เฟลิเป้ปฏิเสธเธอจากใจจริงของเขา แต่แน่นอน เขาไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่เมเดลีนต้องการได้

เขายิ้มอย่างอ่อนโยน “ผมไม่สะดวกที่จะไปกับคุณด้วย ฝากทักทายคุณปู่แทนผมด้วยนะ”

“ได้สิ” เมเดลีนพยักหน้า ความคาดหวังที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ทะลักออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ

ภายใต้แสงแดดยามบ่าย เธอกล่อมให้เด็กน้อยทั้งสองนอนหลับก่อนที่ขับรถมาที่วิลล่า

หลังลงจากรถ เธอค่อย ๆ เดินผ่านประตูไป

ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าส่งผ่านความรู้สึกคุ้นเคยมาให้เธอ

เจเรมี่กำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านกับนายท่านอาวุโสที่กำลังนอนอาบแดดอยู่ ขณะนั้น มีสายเรียกเข้าจากเบอร์โทรที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น เขาพบว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเฟลิเป้

เฟลิเป้บอกกับเขาว่าเมเดลีนจะเข้าไปเยี่ยมนายท่ายอาวุโสวิทแมนและบอกให้เขาหลบหน้าเธอเสีย

เมเดลีนกำลังมา สิ่งนั้นทำให้หัวใจของเจเรมี่เต้นไม่เป็นส่ำ

เขารีบลุกขึ้นทันทีคลำหาทางที่คุ้นมือ เพื่อจะได้กลับเข้าไปในบ้าน แต่ทันทีที่เขาหันหลังกลับ เขาสัมผัสได้ว่ามีร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา

“ลินนี่?”