280 (1) พินาศย่อยยับ

เมื่อซูฉินกระตุ้นปราณชีวิตและเลือดเนื้อของเขาเกาะหมื่นดาบทั้งเกาะก็กลายเป็นดั่งดวงอาทิตย์อีกดวง พลังอันน่าพรั่นพรึงของเลือดเนื้อเติมเต็มพลังชีวิตให้กับพื้นที่ทุกตารางนิ้ว แม้แต่เหล่าบรรพชนที่หนีห่า งออกไปหลายก็ยังรู้สึกว่าแก่นแท้แห่งพลังและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตนหยุดนิ่งและโคจรช้าลงเพียงเท่านั้น

ในช่วงเวลาต่อมา

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน

ซูฉันค่อยๆ เหยียดมือขวาออกมา กางนิ้วทั้งห้าออกราวกับเป็นภูเขานิ้วห้ายอดตามตํานานองค์ยูไลพลัง จิตวิญญาณแรกกําเนิดระเหยออกมาอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้มีเพียงบรรพชนดาบขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้ นที่อยู่บนฝ่ามือนี้

ในสายตาของทุกคน ฝ่ามือของซูฉินมีขนาดเพียงไม่กี่ตารางนิ้ว แต่ภายในนั้นเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งไม่ว่า บรรพชนดาบจะต่อสู้หนักแค่ไหนภายในฝ่ามือนี้เขาก็ไม่สามารถบินหนีออกจากฝ่ามือขนาดไม่กี่ตารางนิ้ว นี้ไปได้

“เป็นไปได้อย่างไร?!”

ดวงตาของประมุขพรรคหมื่นดาบจ้องมองไปยังบรรพชนดาบที่กําลังดิ้นรนอยู่ภายในฝ่ามือของซูฉันรู้สึก ว่าทัศนคติของเขาทุกอย่างถูกล้มล้างโดยสมบูรณ์

นี่คือบรรพชนดาบแห่งพรรคหมื่นดาบผู้ที่ทําให้พรรคหมื่นดาบแข็งแกร่งจนถึงขีดสุด แปลงจิตวิญญาณแร กกําเนิดได้ตั้งแต่พันกว่าปีที่แล้วมีพลังอํานาจมากมายในต่างดินแดน ไม่รู้ว่าทรง พลังขนาดไหน?

แต่ในเวลานี้ บรรพชนดาบราวกับนกที่ถูกจับอยู่ในกํามือช่างน่าตกใจยิ่ง

บรรพชนพรรคหมื่นดาบทั้งหลายต่างใบหน้าแข็งเป็นหิน

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้แม้ว่าบรรพชนดาบจะสูญเสียร่างกายไป ความแข็งแกร่ง ของจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็เพียงพอจะกวาดล้างตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่ยังไม่แปลงจิตวิญญาณแร กกําเนิดได้ทั้งหมดแม้ร่างกายของซูฉินจะแข็งแกร่งมากเพียงไรแต่จิตวิญญาณแรกกําเนิดนั้นไร้รูป ลักษณ์รวมตัวได้กระจายตัวได้ ล่องหนได้ยังจะถูกกักขังอยู่ในฝ่ามือของซูฉินได้อย่างไร?

“ถอยกลับ”

“รีบกลับไปที่ยอดเขาดาบ”

ท่าทีของบรรพชนพรรคหมื่นดาบเปลี่ยนไปพวกเขาเลิกคิดที่จะต่อสู้กับซูฉินเพื่อช่วยบรรพชนดาบออกมา

ซูฉินน่ากลัวเกินไป

แม้แต่บรรพชนดาบที่เคยครองพิภพอยู่ยุคสมัยหนึ่งยังตกอยู่ในกํามืออีกฝ่าย พวกเขาจะไปเหลืออะไร?

กล่าวอีกครั้ง

แม้บรรพชนพรรคหมื่นดาบต้องการจะโจมตีซูฉินจริงมันก็จะไม่เป็นผล ในตอนนี้ซูฉินนั้นเต็มไปด้วยพลัง งานเลือดเนื้อครอบคลุมรัศมีกว่าร้อยเมตร พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในระยะร้อยเมตรนี้ได้เลย…

“ใช่”

“กลับไปยังยอดเขาดาบ”

ประมุขพรรคหมื่นดาบและคนอื่นๆ ก็พลันรู้สึกตัวขึ้นมาได้เมื่อได้ยินสิ่งนี้

อาคารดาบเก้ายอดพันจ้างใจกลางเกาะหมื่นดาบถูกทิ้งไว้โดยนักพรตหมั่นดาบกว่าสี่พันปีก่อนแม้จะเป็น พ่อมดราชันจากสํานักผู้วิเศษเมื่อสาม พันปีที่แล้วก็ต้องหยุดอยู่ต่อหน้ายอดเขาดาบ แห่งนี้

แน่นอนว่าเพราะไม่มีสิ่งใดในยอดเขาดาบที่ดึงดูดใจพ่อมดราชันได้ แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัว ของยอดเขาดาบสูงพันจ้างนี้ได้อย่างดีอย่างน้อยๆแม้แต่ผู้ที่เป็นเซียนเทพปฐพีอย่างพ่อมดราชันก็ไม่สา มารถเข้าออกได้ตามใจต้องการ

เมื่อคิดได้ดังนี้ ประมุขพรรคหมื่นดาบและคนอื่นๆ ก็มองซูฉินอย่างระมัดระวังแล้วรีบกลับไปยัง ยอดเขา

ดาบ

การกระทําเล็กๆ น้อยๆ ของประมุขพรรคหมุนดาบไม่สามารถหลบซ่อนจากซูฉินได้ แต่ซูฉินขี้เกียจเกินก ว่าจะจัดการพวกเขาในยามนี้

ปัจจุบันพลังงานส่วนใหญ่ของซูฉินกระจุกตัวอยู่กับบรรพชนดาบภายในฝ่ามือของเขา

แม้ว่าจิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพชนดาบจะเหลืออยู่น้อยมาก และโดนควบคุมโดยปราณเลือดของ ซูฉินโดยตรง แต่มันไม่ง่ายนักที่ซูฉินจะ สังหารบรรพชนดาบได้อย่างสมบูรณ์

บรรพชนดาบขไม่เหมือนตํานานยุทธขั้นสูงสุดคนอื่นๆ ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดรวมตัวก็ได้กระจา ยตัวก็ได้ หลบซ่อนได้ด้วยซูฉินอาจจะปล่อยให้มันหลบหนีไปได้ หากมีความประมาทแม้เพียงเล็กน้อย

ด้วยสถานะปัจจุบันของบรรพชนดาบแม้เขาจะหลบหนีไปจริงๆก็คาดว่าจะไม่สามารถอยู่รอดต่อไปได้ นานแต่ซูฉินจะปล่อยให้มีอันตรายซ่อนเร้นอยู่ได้เช่นไร?

“สหายเต ทําไมเราไม่ถอยกันคนละก้าวข้าจะปล่อยอนุชนของเจ้าไม่สนใจเรื่องที่เจ้าสังหารตํานานยุ ทธขั้นสูงสุดของพรรคหมื่นดาบอีกต่อไปเจ้าปล่อยข้าไปได้หรือไม่?”

หลังจากที่บรรพชนดาบดิ้นรนอยู่เป็นเวลานานเขาพบว่าตนเองไม่สามารถหนีออกจากฝ่ามือของซูฉินพ้น ดังนั้นเขาจึงต้องอ่อนข้อให้ในทันที

ในความเป็นจริง ถ้าบรรพชนดาบรู้ว่าซูฉินแข็งแกร่งเช่นนี้เขาจะไม่กล้าทําอะไรกับซูฉินแน่นอนแต่โลกนี้ หาได้เมตตากับเจ้าไม่

“ถอยคนละก้าว”

ซูฉินไม่ขยับ แต่กระตุ้นปราณเลือดในร่างค่อยๆกดเข้าไปในฝ่ามือพร้อมทั้งส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ข้าชอบ ที่จะทําสิ่งต่างๆด้วยตนเองมากกว่า”

เสียงพูดเพิ่งจบไป

พลังอันน่าสะพรึงกลัวของปราณเลือดก็พุ่งเข้าใส่ฝ่ามืออย่างบ้าคลั่งค่อยๆ กัดเซาะจิตวิญญาณแรกกําเนิด ของบรรพชนดาบในทุกอณู

ในตอนแรก บรรพชนดาบก็แทบจะไม่สามารถต้านทานได้อยู่แล้วแต่อย่างไรก็ตามเขายังมีจิตวิญญาณแร กกําเนิดเพียงพอจะชดเชยพลังที่ถูกปราณเลือดบุกรุกได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ ลดน้อยลงไปเรื่อยๆและพลังปราณเลือดของซูฉินก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆในที่สุดบรรพชนดาบก็เริ่มหวาดกลัว

“สหายเต ข้ารู้ว่าข้านั้นผิด…”

เสียงของบรรพชนดาบอ่อนลงเรื่อยๆเขายังคงอ้อนวอนขอความเมตตา

อย่างไรก็ตาม ซูฉินไม่ตั้งใจจะหยุดแม้แต่น้อยเนื่องจากเขาได้บุกรุกพรรคหมื่นดาบเสียขนาดนี้แล้วได้สร้าง ความบาดหมางครั้งใหญ่ จําเป็นจะต้องถอนรากถอนโคนเป็นธรรมดา

ซูฉินจะปล่อยบรรพชนดาบไปได้อย่างไร?

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

หลายชั่วโมงผ่านไปภายในพริบตา

ในที่สุดเศษเสี้ยวสุดท้ายของจิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพชนดาบก็หายไปพร้อมกับเสียงสาปแช่งมัน ค่อยๆสลายไปถูกพลังงานอันได้ที่สิ้นสุดของปราณชีวิตและเลือดเนื้อแผดเผาจนสะอาดเอี่ยม