กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 850
“เจ้ายังยืนลุกไม่ขึ้นเลย จะไปอย่างไร?กระจกหงษ์เป็นสิ่งล้ำค่า ตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลจะปล่อยไปได้อย่างไร เจ้าไปคือความตายอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งกว่านั้นยังมียอดฝีมือระดับห้ามากมายรอเจ้าปรากฎตัวแล้วสังหารเจ้า”

“ข้าจะต้องได้กระจกหงส์มาอย่างแน่นอน”

ต่อให้ไม่ได้ขวานผานกู่มา เขาก็ยอมละ

อย่างมากพวกเขาก็แค่กลับสถานที่อันใหญ่โตของพวกเขาไม่ได้ แต่แม่สาวอัปลักษณ์จะต้องมีชีวิตรอดฟื้นคืนชีพ

เซี่ยวอวี่เซวียนยืนหยัดแน่วแน่

กู้ชูหน่วนเลยทำให้เขาสลบไปจากทางด้านหลัง

“ขอโทษด้วย ข้าสูญเสียพละกำลังมากมายถึงช่วยเจ้าได้ ข้าไม่สามารถทนมองดูเจ้าไปตายได้หรอก เจ้าต้องการกระจกหงส์ ข้าช่วยเจ้าแย่งมาก็จบ”

“โฮก นายท่าน เหตุใดท่านถึงได้ดีกับเขาเสียเหลือเกิน”เจ้าเสือน้อยกล่าวอย่างใสซื่อ

เหตุใดถึงได้ดีกับเขาหรือ?

กู้ชูหน่วนจับสัมผัสที่หน้าอกของตนเองอย่างไม่เข้าใจ

เหตุใดถึงได้ดีกับเขา นางก็ไม่รู้ แต่จากความรู้สึกภายในนั้น นางอยากทำดีกับเขา

จนกระทั่ง นางมีความรู้สึกละอายแก่ใจกับเซี่ยวอวี่เซวียน ความละอายใจมาจากจิตวิญญาณก้นบึ้งหัวใจของนาง แต่นางคิดไปคิดมา ก็ไม่มีตรงไหนที่ต้องละอายใจต่อเขานะ

“ดูแลเซี่ยวอวี่เซวียนดีๆ ข้าไปแล้วจะกลับมา”

ไม่รอการตอบกลับของเจ้าเสือน้อย

กู้ชูหน่วนพาร่างกายบอบช้ำมีรอยแผลออกไปอีกครั้ง

นางเดินไปสู่จุดที่มีแสงส่องออกมาแล้วหายไป

นั่นคือจุดทางเข้าที่ลึกสุดของซากปรักหักพัง

ทางเข้าได้ถูกปิดกั้นโดยฉากกำบังที่มองไม่เห็น

แต่ละตระกูลใหญ่ สำนัก อสุรกายแต่ละประเภทยืนหยัดแน่วแน่ แบ่งยืนอยู่สองด้าน

ทั้งสองด้านล้วนมีการบาดเจ็บล้มตาย ดูออกเลยว่าเมื่อครู่พวกเขาผ่านการสู้รบมาอย่างหนักหน่วง

การปรากฏตัวของกู้ชูหน่วน ทำให้คนทั้งสองฝ่ายต่างมองมาที่นาง

ท่านผู้เฒ่าหนิงทั้งตื่นตะลึงทั้งสงสาร กล่าวขึ้นว่า“เด็กน้อย เหตุใดเจ้าถึงได้บาดเจ็บสาหัสเช่นนี้?ผู้ใด ผู้ใดมันทำร้ายเจ้า บอกท่านปู่หนิงมา ปู่หนิงจะจัดการแทนเจ้า”

“ถูกพวกบ้าระห่ำกัดมาเท่านั้นเอง วางใจ รอยบาดแผลบนตัวข้า หมาเหล่านั้นที่มันกัดข้า เกรงว่ามันก็ไม่ได้ดีไปไหนหรอก”

กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเยือกเย็น และแววตาอันเย็นชากวาดมองไปทางตระกูลไป๋หลี่ด้วย

เพียงแต่คนที่มีสมองสักหน่อยล้วนรู้ว่าเป็นตระกูลไป๋หลี่ลงมือ

ไป๋หลี่เจิ้นกล่าวด้วยความโมโหว่า“เจ้ามองพวกข้าทำไม หรือคิดว่าตระกูลไป๋หลี่อันยิ่งใหญ่ของพวกข้าจะลงมือกับเจ้าหรือ?”

“ตลก ดวงตาอยู่บนตัวข้า ข้าอยากมองสิ่งใดยังต้องถามความยินยอมกับเจ้าหรือ แล้วอีกอย่างนะ พวกเจ้าได้ลงมือกับข้าหรือไม่ ตนเองไม่ใช่รู้ดีที่สุดหรือ?”

“เจ้าเด็กน้อย ข้าว่าเจ้าใช้ชีวิตอยู่จนเบื่อแล้ว”

“ไป๋หลี่เจิ้น อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายเจ้ายังกล้ากล่าวยะโสโอหังเช่นนี้ ลับหลังยังไม่รู้ว่าเจ้าใช้แผนการมากมายแค่ไหน ท่านผู้อาวุโสไป๋หลี่ ท่านสั่งสอนลูกน้องเช่นนี้หรือ?”

ผู้นำตระกูลไป๋หลี่จ้องเขม็งใส่ไป๋หลี่เจิ้น ไป๋หลี่เจิ้นถึงได้สงบสติอารมณ์ ถอยไปอีกด้าน

หลานชายของเขาไป๋หลี่หมิงออกไปนานแล้วยังไม่มีข่าวคราวเลย และไม่รู้ว่าความเป็นจริงแล้วเป็นอย่างไร

ทำให้คนเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก

ผู้นำตระกูลไป๋หลี่ กล่าวว่า“เรื่องนี้ข้าจะตรวจสอบให้อย่างชัดเจน หากว่าตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราทำอะไรกับแม่นางมู่จริง ข้าจะไม่ปล่อยเขาอย่างแน่นอน”

กู้ชูหน่วนเพียงแค่ยิ้มออกมา แม้แต่ลืมตามองผู้นำตระกูลไป๋หลี่นางยังขี้เกียจ เลยเพิกเฉยต่อเขา

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คือผู้นำตระกูลคนหนึ่ง แต่ทว่าถูกคนเมินเฉยใส่ ไม่เพียงแต่เขาที่อับอายขายหน้า แม้แต่ตระกูลไป๋หลี่ยังขายหน้ากันไปถ้วนหน้าเลย

ราวกับว่าทุกคนกำลังรอดูความตลกขำขัน

พวกไป๋หลี่เจิ้นอยากจะโมโห ก็ได้ถูกผู้นำตระกูลไป๋หลี่ห้ามรั้งไว้

กู้ชูหน่วนทำราวกับไม่เห็นใบหน้าอึมครึมของพวกเขา มองไปทางกระทิงไฟเก้าเขาที่หลบอยู่อีกด้าน

“เจ้ากระทิงทึ่ม พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”

กระทิงไฟเก้าเขายิ้มหน้าเหยเก“ใช่แล้ว เจอกันอีกแล้ว”

อสุรกายระดับสูงต่างมองไปทางกระทิงไฟเก้าเขา

อย่างไรก็ตามมันก็เป็นอสุรกายระดับสูงตัวหนึ่ง จะให้คนผู้หนึ่งมาเรียกว่าเจ้ากระทิงทึ่มได้อย่างไร?

หรือว่ามันถูกคนผู้นี้ทำสัญญาแล้ว?

มองดูแล้วก็ไม่เหมือนนะ…..

“เจ้าทำอะไรอยู่ด้านหลัง เห็นพี่หญิงมาแล้ว ก็ไม่ยอมทักทาย ต้อนรับอย่างดีงามเลย”

ซือ…..

ทุกคนกับอสุรกายต่างมองกู้ชูหน่วน และมองไปทางกระทิงไฟเก้าเขา นัยน์ตามีความไม่เข้าใจปรากฎออกมา

พี่หญิง?

พวกเขาฟังไม่ผิด?

บนใบหน้าของกระทิงไฟเก้าเขาค่อนข้างเหยเก

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“พี่หญิงของข้า น้ำเสียงของท่านนั้นเอ่ยเบาๆหน่อยได้ไหม?”

“เพราะเหตุใดจะต้องเสียงเบา?หรือว่าข้าทำเจ้าขายหน้า”

ไร้สาระ…..

แน่นอนว่าขายหน้า…..

สหายมากมายมองอยู่ ต่อไปเขาจะเป็นราชากระทิงไฟได้อย่างไร?

สี่ตระกูลใหญ่ต่างมีปรมาจารย์ควบคุมสัตว์ร้าย มีปรมาจารย์ควบคุมสัตว์ร้ายแปล ดังนั้นพวกเขาเลยฟังออก แต่ละคนมองมาที่กู้ชูหน่วนอย่างไม่เข้าใจ

โดยเฉพาะผู้นำสี่ตระกูลใหญ่

พละกำลังของพวกเขาสูงมาก จะไม่รู้ดูไม่ออกได้อย่างไร ว่าวรยุทธ์ของกู้ชูหน่วนอยู่ระดับสองแล้ว

ก่อนหน้านั้นนางเพิ่งจะจุดวรยุทธ์ระดับชั้นหนึ่ง นี่เพิ่งจะเท่าไหร่เองก็ระดับสองแล้ว?

นางปกปิดความแข็งแกร่ง หรือว่าช่วงนี้พุ่งทะยานแล้ว?

หากช่วงนี้พุ่งทะยาน เช่นนั้นนางจะเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นในรอบหลายพันปีเชียว

ที่สำคัญคือ คิดไม่ถึงว่านางฟังภาษาของสัตว์ร้ายอสุรกายออก….อีกทั้งสามารถทำให้กระทิงไฟเก้าเขายอมรับนางเป็นนายได้ด้วย

บนใบหน้าอันหล่อเหล่าของซั่งกวนหมิงหลาง มีความสงสัยกับเจาะลึกผุดออกมา

หญิงผู้นี้ดูแตกต่างออกไปจากเมื่อก่อน มีตรงไหนที่แตกต่างกันนะ

“ราชากระทิงไฟ เจ้าคงไม่ยอมรับหญิงผู้นี้เป็นพี่หญิงจริงๆหรอก?”เสือดาวตัวหนึ่งกล่าวขึ้น

“เอ่อ…..คือ…..อันนี้……อันนี้……”

“เอ่ออันนี้คืออะไร พี่หญิงปกป้องเจ้าอยู่ เจ้ากระทิงทึ่มไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนกลั่นแกล้งเจ้า”

กู้ชูหน่วนกุมศีรษะของราชากระทิงไฟไว้ ท่าทางราวกับเป็นคู่พี่น้องที่รักกัน

ราชากระทิงไฟอยากจะถีบนาง

พอนึกถึงเจ้าเสือและราชางูเหลือม มันอดทน ทำได้เพียงปล่อยให้นางโอบกอด เหมือนกับกอดแกะตัวหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

“ราชากระทิงไฟ เป็นราชาเหมือนกับเจ้า เป็นความอัปยศอดสูของข้าเสียจริง”

“เรียกเจ้าว่าพี่น้องเป็นความอัปยศของข้าเช่นกัน”

“หน้าขายหน้าพวกเราชาวอสุรกายมาก ต่อให้ต้องการยอมรับหัวหน้า อย่างไรก็ตามควรที่จะหาคนที่มีความสามารถพละกำลังสูงๆ แต่ทว่าเจ้ากลับหาหญิงผู้หนึ่งที่มีเพียงระดับสองเป็นพี่หญิง สมองของเจ้าถูกลาถีบแล้วหรือ?”

“เจ้าด่าก็ด่าไป ลากกลุ่มลาพวกเราไปทำไม? อยู่พวกเดียวกับเจ้า กลุ่มลาพวกเรายิ่งอัปยศอดสู”

ราชากระทิงไฟร้อนรน กล่าวอธิบายหน้าแดงก่ำ

“นางไม่เหมือนกับคนอื่น ไม่เพียงข้า เสือขาวโบราณ แล้วก็ยังมีราชางูเหลือมหยกเก้าเศียรยังแย่งให้นางเป็นนายเลย อีกทั้งนางยังหน้าตาหยามเหยียด จนถึงตอนนี้ยังไม่ทำพันธสัญญากับราชางูเหลือมหยกเก้าเศียรเลย”

ราชากระทิงไฟไม่พูดยังดี พอพูดแล้วอสุรกายทั้งหมดยิ่งหยามเหยียดมากขึ้น

“ล้อเล่นอะไร เสือขาวโบราณหรือ?สายเลือดของเสือขาวโบราณถูกตัดขาดไปนานแล้ว?เสือขาวโบราณมาจากที่ไหนกัน?”

“แล้วก็ราชางูเหลือมหยกเก้าเศียร นั่นไม่เพียงเป็นราชาของงู แต่เป็นราชาอสุรกายของพวกเราด้วย สูญหายไปหลายพันปีแล้ว ราชากระทิงไฟ เจ้าต้องการหาข้ออ้าง ควรจะหาที่ดีสักหน่อยไหม หามาซะแย่เลย ข้านี่เอือมระอาเจ้าเสียจริง”

“ใช่ ตนเองใฝ่ต่ำ ยังกล้าหาข้ออ้างมากมาย พวกเรา ต่อไปราชากระทิงไฟไม่ใช่สหายของพวกเราแล้ว พวกเราไม่มีสหายที่ไม่มีปณิธานอันเด็ดเดี่ยวเยี่ยงนี้”

ราชากระทิงไฟพูดออกมาได้ไม่ชัดเจน

ทำได้เพียงมองไปทางกู้ชูหน่วนด้วยความอ้อนวอน

“ท่านช่วยข้าอธิบายหน่อยสิ?”

กู้ชูหน่วนลูบจมูก กล่าวขึ้นว่า“อธิบายอะไรหรือ?พวกมันพูดไม่ผิด เจ้าไม่มีปณิธานอย่างแท้จริง และก็ไม่มีความซื่อสัตย์ มีของดีก็ไม่คิดถึงพี่หญิง แต่ทว่าตนเองกลับแอบมาอาหารที่นี่ ชิๆๆๆ นี่เป็นความคุ้นชินผิดๆ จะต้องแก้ไขปรับปรุง”

บทที่ 849
บทที่ 851