ตอนที่ 380
ใช้ความสามารถ
ร่างของชิงชิวขึ้นมายืนบนกำแพงหินบริเวณด้านหลังนางพญาผีเสื้อที่กำลังพยายามสลัดร่างของราชสีห์เพลิงออกไป แต่เพราะมีอาจูเข้ามาช่วยอีกแรงทำให้นางพญาผีเสื้อเสียเวลากับราชสีห์เพลิงมากขึ้น หากไม่ใช่เพราะอสูรนกโจมตีจนไป๋ไป่ร่วงลงพื้นละก็ไป๋หลินคงหนีไปได้นานแล้วแท้ๆ
ชิงชิวกำอาวุธในมือแน่นพลางจ้องมองไปที่ร่างของนางพญาผีเสื้อ ปีกของนางเป็นเปลวเพลิงจะเข้าใกล้ก็คงไม่รอด แถมกำลังของชิงชิวไม่ทราบจะทำให้นางพญาผีเสื้อบาดเจ็บได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นชิงชิวไม่สามารถทำอะไรนางพญาผีเสื้อได้เลย เรื่องนี้ไม่ต้องมีใครบอกชิงชิวก็ทราบดี แต่ที่มันออกมานั้นไม่ได้มีจุดประสงค์ที่การสังหารนางพญาผีเสื้อแต่อย่างไร
ชิงชิวหลับตาลงช้าๆสูดกลิ่นรอบกายเข้าจมูก แต่กลิ่นที่ได้ก็มีแต่กลิ่นหอมกลิ่นเดียวที่ปกคลุมไปจนทั่ว แต่ถึงอย่างนั้นชิงชิวก็เพ่งสมาธิไปที่จมูกของตนเองต่อไป
“แยกให้ออกสิ”ชิงชิวพึมพำพลางพยายามหาต้นทางของกลิ่นหอมที่กระจายอยู่รอบๆ กลิ่นนี้ปกคลุมไปทั่วเขตอสูร แทบจะระบุไม่ได้เลยว่ากลิ่นมันมาจากที่ไหนกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นชิงชิวก็ยังพยายามแยกให้ออกว่าต้นตอของกล่นอยู่ทางไหน
ฟุบ!! อยู่ๆร่างของชิงชิวก็ทะยานวาบไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นของกลิ่นที่ต่างกัน แม้จะหากลิ่นอื่นนอกจากกลิ่นที่ตลบอบอวลอยู่นี้ไม่ได้ แต่ก็พอจะสามารถแยกความรุนแรงของกลิ่นได้ในระดับละเอียดอ่อนได้
“…….”ชิงชิววิ่งผ่านเหล่าอสูรที่เป็นอสูรในเชตอสูรหุบเขาผีเสื้อแห่งนี้ไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่นางพญาผีเสื้อยังจับสัมผัสของชิงชิวไม่ได้ อสูรลูกน้องก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ขอเพียงระวังพวกที่มีหูที่ไวกว่าปกติเท่านั้นเพราะในพื้นที่เขตอสูรนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกลิ่นเลย ทำให้ชิงชิวไม่ต้องห่วงว่าตนอยู่เหนือหรือใต้ลมกันแน่
“นี่เอง…”ในที่สุดชิงชิวก็เจอต้นตอของกลิ่นเสียที ภายในหุบเขามีพื้นที่วงกลมอยู่จุดหนึ่งซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นหอมรอบๆทั้งหมด เพียงแต่ชิงชิวก็ยังไม่ทราบว่าดอกไม้ชนิดไหนภายในวงกลมนี้กันแน่ที่ส่งกลิ่นออกมา
ฟุบ! ชิงชิวไม่มีเวลามากแล้ว ไม่ทราบว่าท่านราชสีห์เพลิงจะยื้อเวลาได้นานแค่ไหน ชิงชิวจึงจัดการเก็บเอาดอกไม้ทั้งหมดในพื้นที่วงกลมเข้าแหวนมิติให้หมด ด้วยความเร็วของชิงชิวเพียงอึดใจเดียวดอกไม้ทั้งหมดก็โดนถอนจนเกลี้ยง เพียงแต่กลิ่นกลับยังไม่หายไป
“กลิ่นมันมาจากไหนกันแน่”ชิงชิวอึ้งไปเพราะตนเองเก็บดอกไม้มาจนหมดแล้วแต่กลิ่นก็ยังไม่ลดลงเลย
“หรือว่ามันจะไม่ใช่ดอกไม้”ชิงชิวคิดพลางมองไปรอบๆ นอกจากก้อนหินธรรมดาแล้วที่นี่ก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้วนี่นา ชิงชิวครุ่นคิดพลางหลับตาลงเพื่อสัมผัสกลิ่นรอบๆอีกครั้ง ที่มาของกลิ่นอยู่ในจุดนี้แน่ๆ
“นั่น..”ชิงชิวอุทานออกมาพลางมองขึ้นไปด้านบน ที่เนินเขาด้านบนนั้นมีกลิ่นแรงกว่าด้านล่างเสียอีก ทำให้ชิงชิวรีบกระโดดขึ้นไปเพื่อตรวจสอบทันที
“เป็นสิ่งนี้ไม่ผิดแน่”ชิงชิวว่าพลางเอามีดแทงเข้าไปในชั้นหินของเนินเขา ตรงจุดที่ชิงชิวอยู่ปรากฏกิ่งไม้กิ่งหนึ่งงอกออกมา กิ่งไม้นี้ส่งกลิ่นหอมออกมาตลอดเวลา เดาว่าน่าจะเป็นไม้หอมชนิดหนึ่ง ภายนอกมันดูธรรมดาราวกับกิ่งไม้ธรรมดาที่งอกออกมาตามหุบเขาทั่วไป แต่ทันทีที่ชิงชิวถอนรากมันออกมาและเก็บเข้าแหวนมิติ กลิ่นที่กระจายอยู่รอบๆก็เบาลงทันที
“ได้การล่ะ”ชิงชิวยิ้มออกมาพลางวิ่งตรงกลับไปตรงที่ราชสีห์เพลิงกับนางพญาผีเสื้อกำลังต่อสู้กัน
วูม!! ชิงชิวใช้พลังธาตุวายุเพิ่มความเร็วให้ตนเอง มันทะยานผ่านร่างของเหล่าอสูรที่เผ้าดูการต่อสู่เข้าไปยังตรงจุดที่ไป๋ไป่นอนอยู่ โชคดีที่ท่านราชสีห์เพลิงยังแข็งใจสู้อยู่ได้ ไม่อย่างนั้นที่ชิงชิวทำคงไร้ความหมาย
เปรี้ยง!!! ชิงชิวใช้กระสุนวายุยิงใส่นางพญาผีเสื้อทันทีที่กลับมาถึง ตอนนี้รอบๆยังมีกลิ่นตกค้างอยู่ชิงชิวจึงใช้พลังธาตุวายุปัดเป่ากลิ่นที่ตกค้างออกไปให้ไวที่สุด แถมยังล่อนางพญาผีเสื้อให้หันมามองทางไป๋หลินอีกต่างหาก
วูม!!! ชิงชิวใช้วิชาควบคุมวายุทั้งหมดที่ตัวเองรู้ออกไปเพื่อกระจายกลิ่นที่ปกปิดพลังของไป๋หลินเอาไว้ ต่อให้เป็นอสูรที่น่ากลัวแค่ไหน แต่หากโดนพลังดึงดูดเหล่าอสูรเข้าก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป
“พี่ชิว ท่านทำอะไร”ไป๋หลินถามพลางมองชิงชิวที่กำลังล่อความสนใจจากนางพญาผีเสื้อเอาไว้ นางที่ไม่ทราบว่าชิงชิวไปทำอะไรมาได้แต่มองชิงชิวด้วยท่าทีงุนงง
“นี่มัน….”ไป๋ไป่ที่อยู่ข้างๆไป๋หลินย่อมสัมผัสได้แล้วว่าตอนนี้พลังของไป๋หลินกลับมาแล้ว ทำให้นางเข้าใจได้ในทันทีว่าชิงชิวทำอะไรลงไป
“น่ารำคาญ”นางพญาผีเสื้อคำรามพลางปัดกระสุนวายุของชิงชิวออกไป แต่เมื่อหันมามองทางไป๋ชิงชิวนางก็สัมผัสได้ถึงพลังของอสูรแมงมุมอีกครั้ง แถมยังมองเห็นตัวไป๋หลินแล้วอีกต่างหาก ทำให้นางรีบสะบัดร่างของราชสีห์เพลิงก่อนจะพุ่งเข้ามาหาไป๋หลินอย่างรวดเร็ว
วูม…เพียงแต่นางเข้ามาได้เพียงครึ่งทางร่างของนางพญาผีเสื้อก็ชะงักไป ดวงตาท่าทางดุร้ายของนางลดลง ก่อนจะมองมาทางไป๋หลินด้วยท่าทีลังเล
“ไป๋น้อย ชิงชิวไล่กลิ่นที่บดบังพลังของเจ้าออกไปแล้ว”ไป๋ไป่เห็นไป๋หลินยังไม่เข้าใจก็อธิบายให้นางฟัง เมื่อได้ยินเช่นนั้นไป๋หลินก็เดินออกไปทันที
“ท่านน้า”ไป๋หลินไม่สนใจนางพญาผีเสื้อที่ยืนนิ่งอยู่แต่ออย่างไร นางวิ่งเข้าไปหาราชสีห์เพลิงที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น การรับมือกับนางพญาผีเสื้อเป็นงานหนักมากจริงๆ
“ท่านน้า ท่านไม่เป็นไรนะ”ไป๋หลินถามพลางใช้ดวงตาสีม่วงและเขียวเพื่อตรวจสอบร่างกายของราชสีห์เพลิง
“น้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นเสียหน่อย”ราชสีห์เพลิงว่าพลางยื่นมือมาลูบเส้นผมของไป๋หลินเบาๆ
“ท่านราชสีห์”อาจูที่อยู่หลบอยู่ด้านหลังเดินออกมาพลางมองราชสีห์เพลิงที่ร่างกายย่ำแย่อย่างมากด้วยท่าทีเจ็บปวด นางพยายามบังคับรากไม้เพื่อช่วยเหลือราชสีห์เพลิง แต่รากไม้พวกนั้นก็เหมือนจะไร้ผล พวกมันโดนไฟเผาในพริบตา แถมยังรั้งนางพญาผีเสื้อได้ไม่นานอีกต่างหาก
“อยู่นิ่งๆนะเจ้าคะ ข้าจะรักษาท่านเอง”อาจูว่าพลางเรียกเอากิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์ออกมาพันรอบตัวราชสีห์เพลิงอีกครั้ง พลังศักดิ์สิทธิ์ของกิ่งไม้ที่อาจูเรียกออกมาทำให้ราชสีห์เพลิงผ่อนคลายลงมากทีเดียว
“ขอบใจ”ราชสีห์เพลิงว่าพลางมองไปทางนางพญาผีเสื้อที่กำลังมองไปทางไป๋หลินด้วยสายตาสับสน
“เจ้าล้างแค้นไม่ได้แล้วสินะ”ราชสีห์เพลิงว่าพลางยิ้มออกมา มันเข้าใจความรู้สึกยามโดนพลังดึงดูดเหล่าอสูรดี ความแค้นระหว่างอสูรด้วยกันหายไปหมด เหลือแต่ความพยายามจะอยู่ร่วมกับผู้มีพลังดึงดูดเหล่าอสูรเท่านั้น
“เจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีต่างไปราวกับอสูรคนละตน นางดูเรียบร้อยลงมากทีเดียวเมื่อไม่คิดจะแก้แค้นไป๋หลินแล้ว
“ทำไมเจ้าถึงแค้นอสูรแมงมุมได้ล่ะ”ราชสีห์เพลิงลุกขึ้นนั่งหลังจากอาการบาดเจ็บเริ่มเบาขึ้นแล้ว
“นาง…บุกเข้ามาในหุบเขาของข้า สังหารคนของข้า แถมยังทำเหมือนข้าเป็นแมลงกระจอกอีกต่างหาก”นางพญาผีเสื้อเล่าพลางเดินเข้ามาหาราชสีห์เพลิงช้าๆ
“ข้าเข้าใจ”ทั้งราชสีห์เพลิง ทั้งอาจูต่างพูดออกมาพร้อมกันพลางพยักหน้าช้าๆ พวกมันต่างเจออสูรแมงมุมกันมาแล้วเข้าใจดีว่าระดับชั้นมันต่างกันขนาดไหน แม้แต่อสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 10 เหมือนกันยังสู้นางไม่ได้ พวกมันจะไปทำอะไรได้
“ของพวกเจ้านะยังดีนางแค่เดินทางผ่าน ของข้านี่สิ….”ราชสีห์เพลิงว่าพลางเริ่มบ่นเรื่องอสูรแมงมุมให้นางพญาผีเสื้อและอาจูฟัง ตั้งแต่ช่วงแรกที่อสูรแมงมุมมาสร้างรังที่เขตอสูรผาไร้ก้น ช่วงที่เริ่มเลี้ยงดูไป๋จูเหวิน ทำเอานางพญาผีเสื้อกระพริบตาปริบๆ
“ท่านเองก็ลำบากกับนางไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อว่าพลางยิ้มออกมาบางๆ ยิ่งอาจูเริ่มเล่าเรื่องของตนเองออกมา นางพญาผีเสื้อก็รู้สึกเหมือนตนเองไม่ใช่ตนเดียวที่โดนอสูรแมงมุมรังแกเอา
“พี่อาจู ท่านช่วยรักษาพี่ไป๋ไป่ให้ด้วยสิ”ไป๋หลินพูดหลังจากอาการของน้าราชสีห์ดีขึ้นแล้ว
“ได้เลย”อาจูว่าพลางลุกไปใช้กิ่งไม้พันรอบปีกของไป๋ไป่อีกตน
“องค์หญิง”นางพญาผีเสื้อพูดพลางนั่งลงข้างๆไป๋หลิน เห็นใบหน้าลำบากใจของนางแล้วราชสีห์เพลิงก็พอจะเข้าใจว่านางอยากพูดอะไร
“เรื่องที่โจมตีพวกท่าน ข้า…”นางพญาผีพูดออกมาด้วยท่าทีอ้ำอึ้งๆเหมือนไม่ทราบจะขอโทษเช่นไรดี ก่อนหน้านี้นางยังโจมตีพวกนางไม่เลิกอยู่เลย ตอนนี้จะมาขอโทษมันจะไม่แปลกเกินไปงั้นหรือ
“ท่านควรถามเรื่องนั้นจากท่านน้ากับพี่ไป๋ไป่นะ”ไป๋หลินตอบพลางมองไปที่น้าราชสีห์ ตัวนางไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย มีแต่น้าราชสีห์กับไป๋ไป่เท่านั้นที่เจ็บหนักกันทั้งคู่
“จะ เจ้าค่ะ….”นางพญาผีเสื้อว่าพลางหันมามองทางราชสีห์เพลิงช้าๆ
“มันก็เป็นเรื่องปกตินี่นะที่เจ้าถิ่นจะโจมตีอสูรที่บุกรุกเข้ามา แถมพวกข้ายังมาชิงของจากพวกเจ้าด้วย ความจริงฝ่ายข้าเป็นฝ่ายผิดเสียด้วยซ้ำ”ราชสีห์เพลิงตอบพลางขยับร่างกายช้าๆเพื่อให้ไป๋หลินเห็นว่ามันไม่เป็นอะไรแล้ว
“ท่านน้าไม่ว่าอะไรข้าเองก็ไม่มีอะไรจะว่าหรอก”ไป๋ไป่ว่าพลางนอนรับการรักษาต่อ น้าราชสีห์โดนอัดเสียเละขนาดนั้นยังไม่ว่าอะไร ตัวนางที่โดนเล่นงานแค่ปีกจะไปพูดอะไรได้ แถมวันนี้ยังทำให้นางได้รู้อีกด้วยว่ายังมีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่านางมากมายนัก แม้แต่อสูรระดับบรรพกาลขั้น 1ยังชนะนางได้ หลังจากนี้นางต้องพยายามไม่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก
“ขอบคุณมาก”นางพญาผีเสื้อถอนหายใจอย่างโล่งอก
.
.
หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บและทำความเข้าใจกับเหล่าอสูรในเขตอสูรหุบเขาผีเสื้อแล้ว สุดท้ายพวกนางก็ขอติดตามไป๋หลินกลับมาที่อาณาจักรไป๋ด้วย เพราะแต่เดิมพวกนางมารวมตัวที่หุบเขาผีเสื้อเพราะกลิ่นหอมของกิ่งไม้ที่ชิงชิวเก็บไป พอไม่มีมันแล้วพวกนางก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อไป และราชสีห์เพลิงยังบอกอีกว่านางพญาผีเสื้อสามารถช่วยเหลืออาณาจักรไป๋ได้
“พี่ชิว”ระหว่างนั่งอยู่บนหลังของไป๋ไป่เพื่อเดินทางกลับอาณาจักรไป๋ ไป๋หลินก็เรียกหาชิงชิวขึ้นมา
“ขอรับองค์หญิง”ชิงชิวว่าพลางมองมาทางไป๋หลินเหมือนจะถามว่าท่านต้องการอะไรงั้นหรือ
“คราวนี้พี่ชิวช่วยพวกเราเอาไว้นะเจ้าคะ”ไป๋หลินพูดออกมาด้วยท่าทีซึ้งใจอย่างมาก ที่รอดมาได้ครั้งนี้ต้องขอบคุณชิงชิวจริงๆ
“ถ้ามีอะไรให้ข้าตอบแทนพี่ชิวได้ละก็”เห็นไป๋หลินถามออกมาแบบนั้นชิงชิวก็กลืนน้ำลายลงคอเสียอย่างนั้น ไม่รู้ทำไมคำว่าตอบแทนของไป๋หลินถึงได้มีผลกับชิงชิวนัก
“อะแฮ่ม…”ราชสีห์เพลิงกระแอมออกมาเบาๆพลางมองมาทางชิงชิวนิ่ง เห็นมันหน้าแดงเพราะคำถามของไป๋หลินแบบนั้นมันก็อดขัดคอไม่ได้
“เอ่อ…..มันเป็นหน้าที่ขององครักษ์อยู่แล้วขอรับ”ชิงชิวว่าพลางหัวเราะเจื่อนๆออกมา อยู่ๆราชสีห์เพลิงก็ปล่อยจิตสังหารออกมา ทำเอาชิงชิวตอบไม่ถูกเลย
“หึหึ ไม่ต้องถ่อมตัวขนาดนั้นหรอกชิงชิว คราวนี้เป็นความดีความชอบของเจ้าจริงๆ”ราชสีห์เพลิงว่าพลางเดินเข้ามากอดคอชิงชิวเอาไว้ ก่อนจะขยี้ผมของชิงชิวด้วยควาหมันไส้ เจ้าหนูนี่คิดจะให้หลานสาวของมันตอบแทนอะไรไม่ทราบ