บทที่ 418 การเต้นแอโรบิคแบบหมู่

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 418 การเต้นแอโรบิคแบบหมู่

กว่าที่หลินเป่ยเฉินจะกลับมาถึงสถานศึกษากระบี่ที่สามอีกครั้ง ก็เป็นเวลาเย็นย่ำแล้ว

อากาศช่วงปลายเดือนกันยายนค่อนข้างเย็นสบาย

การเรียนประจำวันนี้จบลง

แต่บรรยากาศในสถานศึกษากลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา

หวังจง อากวง เซียวปิงและคนอื่นๆ ยืนอยู่ข้างสนามหญ้าเฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น

เพราะบัดนี้ สนามหญ้าซึ่งเดิมทีเคยเป็นพื้นที่ของสนามประลองยุทธ์หมายเลข 1 ได้มีการขยายอาณาเขตและสร้างเวทีต่อสู้ขึ้นมาใหม่ด้วยความรวดเร็ว แต่ได้มาตรฐานสากล

คนงานก่อสร้างถูกส่งมาจากสำนักโยธาชื่อดังประจำเมือง

ผู้ควบคุมการก่อสร้างเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกส่งมาจากจวนผู้ว่าโดยตรง

“กำลังสร้างอะไรกันอยู่เนี่ย?”

หลินเป่ยเฉินเดินเข้าไปสอบถามด้วยความสงสัย

“เวทีประลองสำหรับแข่งจตุรมิตรสามัคคีไงขอรับ”

เซียวปิงแทะเม็ดแตงโมเล่น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวจากการฝึกประจำวันกับเจ้าหนูอากวง เด็กหนุ่มร่างอ้วนยิงฟันยิ้มและกล่าวต่อไป “เวทีประลองสร้างเสร็จเมื่อไหร่ มันก็จะกลายเป็นสมบัติของสถานศึกษากระบี่ที่สามไปทันที อาจารย์ฉู่ดีใจมากเลยล่ะขอรับ เช่นเดียวกับลูกศิษย์ร่วมสถาบันของท่านพี่คนอื่นๆ ไม่มีอะไรจะน่าดีใจมากไปกว่าการได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้อีกแล้ว”

หืม?

ถึงกับมาสร้างเวทีประลองขนาดใหญ่ให้กับสถานศึกษากระบี่ที่สามเลยหรือนี่?

ต้องใช้งบประมาณไม่น้อยเลยนะ

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ

ไม่ว่าจะเป็นคนงาน วัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์การถ่ายทอดสด…

สิ่งของเหล่านั้นต่างก็มีราคาแพง แถมค่าแรงคนงานก็ไม่ใช่ถูกๆ หลินเป่ยเฉินมองไม่เห็นความคุ้มค่าเลยที่กระทรวงศึกษาจะทุ่มงบประมาณให้แก่สถานศึกษากระบี่ที่สาม ซึ่งเป็นเพียงโรงเรียนฝึกกระบี่บ้านนอกแห่งหนึ่งเท่านั้น

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะกระทรวงศึกษาเห็นแก่หน้าเขาสินะ

หลินเป่ยเฉินคิดเข้าข้างตนเองโดยทันที

“นายน้อยกลับมาแล้วหรือขอรับ ไม่ทราบว่าคืนนี้จะรับประทานอะไรดี?”

หวังจงรีบวิ่งเข้ามาประจบ

หลินเป่ยเฉินหันกลับไปยกเท้าถีบชายชราแทนคำทักทาย ก่อนตอบว่า “เจ้าไปแจ้งเตือนทุกคนว่าวันพรุ่งนี้ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ให้พวกเขามารวมตัวกันที่ตำหนักไม้ไผ่และเริ่มการฝึกฝนพิเศษของพวกเราได้แล้ว อย่าลืมบอกด้วยว่าใครมาสาย ก็จะต้องพบเจอกับคำสาปของเทพีกระบี่แน่นอน…”

เมื่อสั่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มก็ลากเซียวปิงออกมาที่ด้านข้าง

“เจ้ามาฝึกกับข้าหน่อยซิ”

หลินเป่ยเฉินว่า

เขาติดตั้งแอปพลิเคชันกระบี่เร้นกายกลับลงไปในโทรศัพท์อีกครั้ง จึงอยากจะทดสอบประสิทธิภาพของมันว่ายังยอดเยี่ยมอยู่เช่นเดิมหรือไม่

ไม่นานหลังจากนั้น เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของเซียวปิงก็ดังกังวานไปทั่วสถานศึกษา ราวกับเป็นเสียงกรีดร้องของวิญญาณร้ายที่ต้องพบกับการลงทัณฑ์ในนรกอย่างไรอย่างนั้น

การรับประทานอาหารค่ำผ่านพ้นไป

เซียวปิงเดินทางกลับพร้อมด้วยใบหน้าที่บวมช้ำและขาที่เดินกะเผลก

หลังอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินกลัวว่าจะต้องมานั่งตอบคำถามเกี่ยวกับการฝึกวิทยายุทธ์จากฮันปู้ฮวย เพราะฉะนั้น เขาจึงพาใบหน้าที่บวมช้ำของตนเองกลับขึ้นห้องนอนไปเสียเลย

หลินเป่ยเฉินพยายามจะทักวีแชทไปหาเทพีกระบี่หิมะไร้นามอยู่หลายครั้ง เพื่อให้นางช่วยจัดการเรื่องของเว่ยหมิงเฉิน

แต่เทพีฝึกหัดจอมต้มตุ๋นก็ไม่ยอมตอบกลับมาเลยสักครั้ง

ไม่แม้แต่จะอ่านข้อความเลยด้วยซ้ำ

การดาวน์โหลดหมดเวลาตอนเที่ยงคืน

ปรากฏว่าการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน QQ ไม่สำเร็จ

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้ว

“จัดการอัปเดตแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่มีอยู่ในเครื่องได้”

เขาออกคำสั่งกับเสี่ยวจี้อยู่ในใจ

“รับทราบเจ้าค่ะ”

เสียงของเสี่ยวจี้ตอบรับกลับมา

หลินเป่ยเฉินเผลอหลับไปก่อนที่ตนเองจะรู้ตัว

วันต่อมา

ดวงตะวันยังไม่ขึ้น

มีเสียงดนตรีลอยออกมาจากตำหนักไม้ไผ่

ผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกันออกกำลังกาย

“ฉันจะเป็นคนดูแลทุกอย่างเอง…”

“มากับฉันแล้ววาดมังกรด้วยมือซ้าย…”

“มากับฉันแล้ววาดสายรุ้งด้วยมือขวา…”

“มากับฉันแล้ววาดสายรุ้งด้วยมือซ้าย…”

“มากับฉันแล้ววาดมังกรด้วยมือขวา…”

เสียงเพลงนั้นดังออกมาจากห้องนอนของหลินเป่ยเฉิน

แต่มันดังกังวานทั่วสนามหญ้าด้านหน้าตำหนักไม้ไผ่

นี่คือเพลงใหม่ที่หลินเป่ยเฉินดาวน์โหลดมาจากแอป NetEase Cloud Music

ด้วยตัวแอปพลิเคชันที่ได้รับการอัปเดตใหม่ นั่นทำให้ในขณะนี้คลังเพลงของหลินเป่ยเฉินมีเพลงป๊อปร่วมสมัยของโลกมนุษย์ให้เลือกฟังได้ถึง 20 เพลง

และเพลงนี้ก็คือหนึ่งในนั้น

มันคือเพลงที่มีชื่อว่า Wild Wolf disco

เพลงนี้ก็มีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มพลังเช่นเดียวกับเพลงกระบี่ไร้เทียมทานและยอดคนไร้เทียมทาน โดยอานุภาพของเพลง Wild Wolf disco จะโดดเด่นเรื่องการช่วยเพิ่มพละกำลังและความแข็งแรงของร่างกาย

หลินเป่ยเฉินไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเพลงเสริมพลัง เพราะเขาต้องทำภารกิจเพิ่มพลังแบบก้าวกระโดดให้สำเร็จ

เด็กหนุ่มถึงกับยอมเสียเงิน 500 เหรียญทองคำเพื่อดาวน์โหลดเพลงใหม่ 5 เพลง

การฟังเพลงพร้อมกับออกกำลังกาย คือเรื่องปกติสำหรับโลกมนุษย์

อีกอย่าง บทเพลงที่ถูกเปิดออกมาจากแอป NetEase Cloud Music ก็มีความพิเศษเหมือนเวทมนตร์

บัดนี้ หลินเป่ยเฉินกำลังเปิดเพลง Wild Wolf disco ผ่านทางแอป NetEase Cloud Music

เขาสั่งให้เสี่ยวจี้เปิดเพลงลงมาจากห้องนอน

ท่วงทำนองและบทเพลงที่โดนใจวัยรุ่นลอยเข้ามาถึงหูของทุกคน

หลังจากนั้นไม่นาน

“บัดซบ ผู้ใดจะสามารถวาดมังกรกับสายรุ้งในเวลาเดียวกันได้?”

ฉู่เหินคำรามด้วยความหงุดหงิด

หลินเป่ยเฉินยืนอยู่ด้านหน้าทุกคน รับหน้าที่เป็นผู้นำในการออกกำลังกายประจำเช้ามืดวันนี้ “หยุดพูดจาเหลวไหลได้แล้วขอรับ…เนื้อหาในบทเพลงไม่สำคัญสักหน่อย ช่วยตั้งใจฝึกฝนหน่อยขอรับอาจารย์ฉู่ ได้โปรดทำตามข้าให้ดี เราต้องก้าวเท้าออกมาข้างหน้า…สูดหายใจลึก ยกเข่าขึ้นมาสลับข้างกัน ใช้มือซ้ายตบลงไปที่หัวเข่าขวา และใช้มือขวาตบลงไปที่หัวเข่าซ้าย…”

หลินเป่ยเฉินสาธิตวิธีการออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิค

กลุ่มคนนับสิบคนกำลังทำตามสิ่งที่เด็กหนุ่มทำทุกประการ

“เฮ้อ น่าอับอายยิ่งนัก”

ติงซานฉือถึงกับบ่นออกมาแล้ว

“แน่ใจนะว่านี่เป็นวิธีการฝึกฝนที่เทพีกระบี่สอนเจ้ามา?”

ไป๋ชินหยุนถามด้วยความไม่เชื่อใจ

“นั่นน่ะสิ”

ฮันปู้ฮวย เฉียนเหมยและเฉียนเจินต่างก็สงสัยเรื่องนี้อยู่ในใจเช่นกัน

“หรือนี่จะเป็นเคล็ดลับที่ทำให้หลินเป่ยเฉินแข็งแกร่งถึงระดับนี้?”

ฉุยหมิงโหลวถามตัวเองอยู่ในใจ

“อิอิ ตราบใดที่ข้ายังมีของให้กินอยู่เสมอ ไม่ว่าท่านพี่สั่งให้ทำอะไร ข้าก็จะทำทั้งนั้น…”

เซียวปิงไม่เห็นว่าการเต้นด้วยท่าทางแปลกประหลาดเหล่านี้จะเป็นปัญหาแต่อย่างใด

“เราเป็นใคร? เรามาทำอะไรที่นี่? เราอยู่ที่ไหน?”

ฉู่เหิน พานเว่ยหมิน หลิวฉีไห่ต่างมีสีหน้าว่างเปล่าด้วยกันทั้งหมด

เกือบทุกคนไม่เข้าใจว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่

พวกเขาอดถามตัวเองไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดจึงต้องทำตามคำสั่งของหลินเป่ยเฉิน ซึ่งใครๆ ก็รู้ดีว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน เขายังเป็นคนที่มีสติไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยสักเท่าไหร่ แม้บัดนี้เด็กหนุ่มจะมีสถานะเป็นผู้ที่ถูกเลือกของเทพีกระบี่ แต่ก็ใช่ว่าพฤติกรรมแปลกๆ จะหายไปสักหน่อย

แต่เมื่อทุกคนได้รับฟังบทเพลงที่ลอยอยู่ในอากาศ ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็เกิดขึ้นในจิตใจ

“เดินไปข้างหน้าพร้อมกันกับฉัน ใช้สองมือแหวกว่ายไปพร้อมๆ กัน (ว่ายไปข้างหน้า)…”

“ยกมือปิดหน้า โยกย้ายส่ายเอว สะบัดแขนไปมา ราวกับว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีกแล้ว…”

เสียงเพลงยังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ

กลุ่มคนผู้ออกกำลังกายอยู่ที่สนามหญ้าเริ่มรู้สึกว่าพลังลมปราณในร่างกายร้อนระอุขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

ดูเหมือนดนตรีเหล่านั้นจะส่งผลต่อร่างกายของพวกเขาจริงๆ ด้วย มันทำให้ร่างกายของทุกคนอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมสำหรับการเลื่อนระดับพลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ยากมากในสภาพร่างกายปกติ

แม้แต่ติงซานฉือก็ต้องแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาแล้ว

อาการบาดเจ็บตามร่างกายของเขาหายดีเป็นปลิดทิ้ง

นับตั้งแต่รับประทานโจ๊กวิเศษไปเมื่อวานตอนบ่าย และขับถ่ายออกมาจนหมดไส้หมดพุง ติงซานฉือก็รู้สึกว่าเลือดลมในร่างกายของเขาสามารถไหลเวียนได้อย่างสะดวกมากขึ้น ชีพจรแข็งแรงมากขึ้น พลังลมปราณของจูปี้ฉีและเหล่าคู่ต่อสู้ก่อนหน้านั้นที่เคยหลงเหลืออยู่ในร่างกาย ก็ถูกกำจัดออกไปหมดสิ้นในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชายชรายอมทำตามคำสั่งของหลินเป่ยเฉิน

เช้าวันนี้ เมื่อได้ยินเสียงเพลงและเห็นการเต้นนำของหลินเป่ยเฉิน ดวงตาของติงซานฉือก็เป็นประกายดุดันขึ้นมาทันที แม้รู้ดีว่าตนเองไม่มีทางหลีกเลี่ยงการฝึกฝนครั้งนี้ได้เลย แต่เจ้าลูกเต่านั่นไม่คิดจะไว้หน้าอาจารย์ของตนเองบ้างหรือไร? ทำไมถึงต้องบังคับให้พวกเขาเต้นท่าทางน่าเกลียดเหล่านั้นด้วยนะ

ไม่เห็นจะเหมือนการฝึกฝนที่ถ่ายทอดลงมาจากเทพีกระบี่เลยสักนิด

แต่บัดนี้เล่า?

ด้วยความที่สัมผัสชัดเจนแล้วว่าเสียงดนตรีซึ่งลอยมาเข้าสู่ใบหู ไม่ได้เป็นเพียงเสียงดนตรีธรรมดา และการเต้นระบำของหลินเป่ยเฉินที่ดูโง่เขลานั้น กลับทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสำหรับการเลื่อนระดับพลัง ติงซานฉือจึงไม่มีข้อสงสัยในหัวใจอีกต่อไป เพราะไม่รู้เลยว่าถ้าอาศัยการฝึกฝนวิชาตามปกติ ต้องใช้เวลาเตรียมตัวกี่ปีกัน ร่างกายถึงจะมีความพร้อมได้เช่นนี้…

ร่างกายของทุกคนอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม

พลังลมปราณเต็มอัตรา

สภาพจิตใจสงบนิ่ง

และแล้ว การเลื่อนระดับพลังก็เกิดขึ้นจริงๆ

ใช้เวลาเพียง 2 เค่อเท่านั้น ติงซานฉือก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานบางอย่างในร่างกายที่ไหลล้นออกมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ทุกคนที่อยู่ในสนามหญ้าหน้าตำหนักไม้ไผ่รับรู้ได้ถึงมวลพลังมหาศาลที่แผ่ออกมากดดันบรรยากาศ

“อาจารย์…”