บทที่ 526 เยี่ยมเยือนต้ากั๋วจิ้ว

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

มองประตูห้องขังที่ปิดสนิทแน่นเรียบร้อยแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นเลยเดินไปนั่งลง

หวังฮวายเต๋อชำเลืองมองเธอ ยังคิดว่าเธอคงจะต้องการกล่าวพูดอะไร ผลสรุปคือเธอนั่งโดยที่ไม่กล่าวอะไรออกมาเลย

ราชครูจวินมองอยู่ด้านนอกห้องขัง มองแล้วสักพักหนึ่งก็รอจนหมดความอดทน จากนั้นจึงหมุนตัวเดินออกไปทางด้านนอก

อาอวี่เห็นราชครูจวินออกมาเพียงลำพัง เลยรีบเดินเข้าไปไตร่ถามว่า“ราชครูจวิน พระชายาเย่เล่าขอรับ?”

อาอวี่เกิดความเป็นห่วงกังวลใจ เหตุใดเมื่อตอนเข้าไปเป็นสอง ตอนออกมากลับกลายเป็นลำพังผู้เดียว ไม่ใช่ว่าขังคนไว้ด้านในแล้วหรือนี่?

ราชครูจวินมองอาอวี่ด้วยสายตาหยามเหยียด กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ตอนที่ข้ามาเห็นอยู่ชัดเจนว่ามาเพียงลำพัง เจ้าเห็นข้าเอาคนมาอีกคนด้วยตอนไหนหรือ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นพระชายาเย่นายของเจ้าด้วยหรือ?”

“ห๊ะ?”อาอวี่ชะงักงัน ได้สติกลับมาเลยกล่าวว่า“การล้อเล่นของราชครูจวินครั้งนี้หยอกล้อซะยิ่งใหญ่เชียว เห็นอย่างชัดเจนว่าพระชายาเย่เข้าไปพร้อมกับท่าน ระหว่างเดินทางมานี้ได้นั่งรถม้าของราชครูจวินตลอดการเดินทางด้วย เหตุใดถึงกล่าวว่าไม่ได้มาด้วยกันเสียแล้วหรือขอรับ?”

ราชครูจวินกวาดสายตามองอาอวี่อย่างเรียบเฉย จากนั้นกล่าวขึ้นว่า “ข้าบอกว่าไม่มีก็คือไม่มี ข้ายังจะสามารถหลอกเจ้าได้หรือ”

“ราชครูจวิน นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นนะขอรับ เห็นชัดเจนว่าพระชายาเย่ร่วมเดินทางมากับท่าน แต่ทว่าท่านกลับกล่าวว่าไม่พบเจอ เรื่องนี้หากว่าท่านอ๋องทราบแล้วแน่นอนว่าไม่มีทางยินยอมลดละ”อาอวี่กล่าวด้วยสีหน้าอึมครึมเหี้ยมโหด. แน่นอนว่าราชครูจวินไม่สนใจเขา เดินอ้อมแล้วจากไป อาอวี่ขวางทางราชครูจวินไว้ ราชครูจวินสีหน้าอึมครึม เงยหน้าขึ้นมองอาอวี่

“เจ้าเป็นเพียงองครักษ์กระจอกงอกง่อยของจวนอ๋องเย่ผู้หนึ่ง กล้าที่จะมาขวางทางข้า ข้าจะต้องไปกราบทูลฝ่าบาท แม้แต่ชีวิตน้อยๆของเจ้า จวนอ๋องเย่ของเจ้าก็ไม่สามารถหนีพ้นความรับผิดชอบนี้ได้ “ราชครูจวินกำกำปั้นขึ้นสองด้านวางแนบข้างหู แสดงให้เห็นถึงความเคารพนับถือฝ่าบาท

อาอวี่สีหน้าดูไม่ได้ไปชั่วพริบตาเดียว เขาหันไปมองที่คุก นึกได้เวลาไม่ใช่เวลาที่จะมุทะลุบุ่มบ่าม ต้องช่วยพระชายาออกมาถึงจะถูกต้อง!

“ได้ เชิญท่านราชครูจวินขอรับ เรื่องนี้ไม่มีทางผ่านไปเยี่ยงหรอก ข้าจะกราบทูลรายงานแก่ท่านอ๋อง เพื่อไปพบราชครูและทวงคืนพระชายา”

ราชครูจวินมองอาอวี่ที่ท่าทางเหี้ยมโหด จากนั้นก็เดินไป

อาอวี่เห็นราชครูจวินเดินไปแล้วจึงต้องการเข้าไปในคุก แต่คนที่เฝ้าคุกได้รั้งอาอวี่ไว้”

“คุกเป็นสถานที่สำคัญ เจ้าอยากจะถลันพุ่งเข้าไปก็เข้าได้เลยที่ไหนกัน ถอยออกไป ไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้าเข้าไป”

อาอวี่สับสนวุ่นวายใจ พอได้ยินว่าจะจับเขาเข้าไป เลยส่งเสียงเอะอะโวยวายขึ้นว่า“ได้ เช่นนั้นก็จับข้าเข้าไปเลย ข้าอยากจะรู้นักว่าพวกเจ้าใครมันจะรับผิดชอบได้”

อาอวี่ส่งเสียงดังโวยวายพร้อมกับหันพุ่งกระโจนเข้าไปในคุก พอผู้คุมเห็นอาอวี่ต้องการพุ่งทะยานเข้าไป จึงได้รีบเรียกคนมา จับอาอวี่ไว้

อาอวี่ไม่ได้ทำการต้อต้าน เขาต้องการเข้าไปดูพระชายาเย่ ผลสรุปอาอวี่ถูกจับเข้าไปขังอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคุกที่ฉีเฟยอวิ๋นอยู่

ระหว่างทางเข้าไปอาอวี่เสียงดังลั่นเรียกฉีเฟยอวิ๋น เขาอยากจะมั่นใจว่าฉีเฟยอวิ๋นอยู่ตรงสถานที่ไหน ฉีเฟยอวิ๋นได้ยินเสียงเรียกของอาอวี่ยังนึกว่าเขาเข้ามาเพื่อต้องการพาเธอออกไป เธอลุกขึ้นแล้วมองไปดูถึงได้รู้ว่าอาอวี่ถูกจับเข้ามา

เห็นอาอวี่แล้วเธอรู้สึกห่อเหี่ยวใจ ความสามารถที่จะทำให้งานสำเร็จนั้นมีไม่พอ แต่ความสามารถที่จะทำลายงานนั้นมีอยู่เหลือเฟือเสียจริงๆเลย อย่างนี้ก็สามารถถูกจับเข้ามาได้

ต่อให้ไม่สามารถทลายคุกเข้ามาช่วยเธอได้ ไม่ว่าอย่างไรยังสามารถกลับไปรายงานท่านอ๋องได้นิ

ตอนนี้เป็นอย่างนี้นับว่าเป็นอะไรเกิดสิ่งใดขึ้นหรือ?

ฉีเฟยอวิ๋นมองอาอวี่ด้วยความห่อเหี่ยวใจ เธอเกียจคร้านที่จะกล่าวพูดคุยกับอาอวี่ สีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยามดูไม่ได้เลย

เป็นอย่างนี้เกรงว่าจะไม่ได้เมียหรอก นอกจากหญิงผู้นั้นจะตาลาย ถึงได้เอาเขา

อาอวี่เห็นฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกตื่นเต้นเหลือล้น รีบดินริ้นขัดขืนต้องการไปหาฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นกล่าวว่า “พระชายา พระชายาเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

ฉีเฟยอวิ๋นผ่อนลมหายใจอย่างแผ่วเบา อีกนิดหนึ่งก็ถูกอาอวี่ทำให้โมโหจะแย่แล้ว

“ข้าสบายดีมาก ยังไม่ถูกเจ้าทำให้โมโหจนตายหรอก!”

ฉีเฟยอวิ๋นไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไร เหตุใดเธอถึงได้มีอาอวี่ที่เป็นเยี่ยงนี้มาเป็นองครักษ์นะ

อาอวี่กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า“พระชายา พระชายาไม่เป็นไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวกลับไป อาอวี่ยังมึนงงด้วยความไม่เข้าใจ ดิ้นรนขัดขืน แต่คุก อาอวี่จะดิ้นรนขัดขืนออกไปได้ที่ไหนกันเล่า เขาคิดว่าความสามารถของเขาอยากเข้ามาก็เข้ามา อยากออกไปก็ออกไปได้เลยสินะ

ผลสรุปมีชายร่างกำยำสองคน คนหนึ่งในนั้นถือลูกเหล็กหนัก ปลายด้านหนึ่งของลูกเหล็กขนาดใหญ่มีกุญแจมือใส่เท้าด้วย เขาก้มลงสวมใส่มันให้กับอาอวี่ ตอนที่ก้มลงมองลูกเหล็กหนักสองอันได้อยู่บนขาของอาอวี่เรียบร้อยแล้ว

อาอวี่กล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า“ข้ามิใช่นักโทษประหารนะ พวกเจ้าใส่สิ่งนี้ให้แก่ข้าทำไมกัน?”

อาอวี่เห็นสิ่งนี้ก็มีความรู้สึกหวาดกลัวแล้ว ลูกเหล็กลูกหนึ่งน้ำหนักยี่สิบกว่าชั่ง ของสิ่งที่เป็นสิ่งที่ท่านอ๋องคิดค้นขึ้นมาเมื่อสมัยนั้น เขาอุ้มอันหนึ่งนี่ลำบากมาก เอาของสิ่งนี้มาอยู่ที่เท้า เขาจะเดินอย่างไร?

คนที่กดอาอวี่ไว้ได้สวมใส่กุญแจมือให้อาอวี่อีก จากนั้นได้ผลักอาอวี่เข้าไป โดยไม่กล่าวอธิบายอะไรเลย

อาอวี่กล่าวด้วยความเดือดดาลว่า“ไปเรียกข้าหลวงประจำเมืองอวิ่นเวยฉือมา ข้าเป็นองครักษ์ของจวนอ๋องเย่ ข้าต้องการพบเขา”

ถึงแม้อาอวี่จะเป็นองครักษ์ แต่เวยฉือกลับให้ความเคารพนับถือเขา อยู่ต่อหน้าเขายังมีความมั่นใจตัวเองบ้าง

ที่คุกเวยฉืออสามารถมาได้ แน่นอนว่าเขาต้องพบเวยฉือ

แต่ทว่าคนคุมคุกกับไม่สนใจ ปิดประตูห้องขังแล้วเดินจากไปเลย

อาอวี่ไม่สามารถเดินเคลื่อนไหวได้ เขาพยายามเคลื่อนมาที่หน้าประตูเรียกฉีเฟยอวิ๋น จนฉีเฟยอวิ๋นเกิดความหงุดหงิดใจ

หวังฮวายเต๋อชำเลืองมองฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นกล่าวด้วยความตลกขบขันว่า “คนของจวนอ๋องเย่นี่ฉลาดรู้ความเสียจริง”

“เช่นเดียวกัน ที่ยังมีข้อบกพร่อง อย่างน้อยที่สุดก็มิกล้าที่จะรับสินบนบิดเบือนกฏหมาย ก็แค่สมองไม่ได้ดี แล้วบุ่มบ่ามบ้าง”ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวอย่างไม่ไว้หน้า

หวังฮวายเต๋อโกรธจนหน้าแดงก่ำ ผลสรุปคือโกรธจนพลังลมปราณชี่และเลือดไม่สามารถไหลเวียนขึ้นได้ เกือบจะล้มพับตาย มองด้วยตาคือคนไม่ไหวแล้ว ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ไม่สามารถนั่งได้อย่างมั่นคงก็ล้มไปบนพื้น พอฉีเฟยอวิ๋นเห็นอาการของหวังฮวายเต๋อเลยรีบเดินเข้าไปดูเขา

พอจับแมะชีพจรแล้วถึงได้รู้ คิดไม่ถึงเลยว่าหวังฮวายเต๋อยังมีอาการหอบหืดด้วย

ฉีเฟยอวิ๋นรีบนำเขานอนราบ หยิบเข็มเงินที่พกติดตัวออกมาฝังให้หวังฮวายเต๋อ ใบหน้าม่วงคล้ำของหวังฮวายเต๋อค่อยๆดีขึ้น ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า“กั๋วจิ้วรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”

หวังฮวายเต๋อพยักหน้า ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า“ท่านนอนก่อนสักครู่หนึ่ง รอข้าเอาเข็มออก ท่านค่อยลุกขึ้นนะ”

หวังฮวายเต๋อมองที่แขน จากนั้นพยักหน้าแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความร่วมมือแก่ฉีเฟยอวิ๋น

ฉีเฟยอวิ๋นคำนวนเวลา แล้วถอนเอาเข็มเงินออก

หวังฮวายเต๋อนอนสักพัก รู้สึกว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้วถึงได้ลุกขึ้น ฉีเฟยอวิ๋นได้ประคองหวังฮวายเต๋อไปนอนบนเตียง

หวังฮวายเต๋อนอนเรียบร้อยแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นเลยหมุนตัวไปเคาะตบที่ประตูคุก แล้วกล่าวว่า“ทหาร ทหาร!”

คนภายในคุกไม่มีผู้ใดสนใจเรื่องนี้เลย ฉีเฟยอวิ๋นโมโหเป็นอย่างมาก

“ทหาร!”ฉีเฟยอวิ๋นโมโหตะคอกเสียงดังลั่น แต่ยังคงไม่มีผู้ใดสนใจ

หวังฮวายเต๋อกล่าวว่า “ไม่ต้องร้องแล้ว ที่นี่เป็นสถานที่แบบไหน คนที่มาเป็นคนแบบไหน เจ้าเข้าใจคำว่าคุกหรือไม่?คนที่สามารถถูกจับเข้ามาขังได้ล้วนไม่ใช่คนที่ธรรมดา พวกเขาจะมาสนใจความเป็นความตายของเจ้าที่ไหนกัน?”

ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวมองไปทางหวังฮวายเต๋อ ถือว่าเป็นคนที่ฉลาดเข้าใจคนหนึ่งเลย

ละทิ้งความพยายามที่จะเรียกคน ฉีเฟยอวิ๋นเดินกลับไปแล้วหยิบยายัดเข้าไปในปากของหวังฮวายเต๋อ กล่าวว่า“นี่เป็นยาที่เกี่ยวกับความทุกข์ใจหนักใจ แต่สามารถให้กั๋วจิ้วใช้ได้สักหน่อย กั๋วจิ้วจะมิเป็นไรเป็นการชั่วคราว แต่ปัจจัยของที่นี่แย่มาก นานมากไปก็ยากที่จะกล่าว”

หวังฮวายเต๋อมองฉีเฟยอวิ๋นสักครู่หนึ่ง รู้สึกตลกขบขัน แต่ทว่ากลับทอดถอนหายใจออกมาโดยไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเลย