ตอนที่ 636 อยู่ในมิติอื่น

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

ตอนที่ 636 อยู่ในมิติอื่น

 

สองสามชั่วโมงหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ โหลวหลานจีและหญิงสาวคนอื่นๆในห้องของซูหยางก็ตื่นขึ้นจากการหลับใหล ต่างพากันรู้สึกเจ็บไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะส่วนล่าง

 

“ในที่สุดพวกเจ้าก็ตื่น” ซูหยางพูดกับพวกเธอจากโซฟาพร้อมกับถ้วยน้ําชาในมือ

 

“ซูหยาง ทําไมทําหน้าตาเช่นนั้น เราพลาดอะไรไปรึเปล่า” โหลวหลานจีเลิกคิ้ว

 

“นอกจากอาหารเช้าและการสนทนาเล็กๆน้อยๆแล้ว ก็มิได้มีอะไร” เขาตอบอย่างใจเย็น

 

“อะไรนะ เราพลาดอาหารเช้ากับตระกูลซีรี ทําไมเจ้าไม่ปลุกพวกเรา ซูหยาง”โหลวหลานร้องด้วยเสียงอันดังพร้อมกับใบหน้าซีดเซียว เมื่อมาคิดว่าเธอไม่ได้ทานอาหารเช้ากับตระกูลซี เธอไม่เพียงแต่พลาดโอกาสที่หายากเช่นนี้ แต่เธอก็ยังดูถูกตระกูลซี ด้วยการนอนจนเลยเวลาทานอาหารเช้าด้วย

 

“พวกเจ้าทุกคนนอนหลับกันอย่างสงบจนข้ามกล้ารบกวน และนั่นก็เป็นเพียงแค่อาหารเช้าเท่านั้น ใช่ว่าเจ้าจะพลาดสระสวรรค์เสียเมื่อไหร่” ซูหยางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

 

“นี่มิใช่อาหารเช้าธรรมดาของเจ้า ซูหยาง นี่เป็นอาหารเช้ากับตระกูลซี เจ้ามีโอกาสสูงที่จะได้พบกับโชคดีมากกว่าที่จะเจอโอกาสแบบนี้”

 

“มิต้องกังวลยังมีอาหารเย็นอยู่อีก”

 

“……….”

 

โหลวหลานจถอนหายใจเสียงดังก่อนที่จะพูดในเวลาต่อมาว่า “เมื่อรู้จักกับตัวตนของเจ้า การสนทนาเล็กๆ กับตระกูลซี คงมิได้เล็ก อย่างที่เจ้าพูดแน่ เช่นนั้นเจ้าพูดอะไรกับพวกเขารึ”

 

ซูหยางยิ้มเมื่อได้ยินคําพูดของเธอจากนั้นเขาก็พูดว่า “เจ้ารู้จักข้าดี ก็จริง ถึงแม้บทสนทนาอาจไม่สําคัญในสายตาของข้า แต่ข้าก็จินตนาการได้ว่ามันจะมีความหมายสําหรับเจ้ามาก”

 

โหลวหลานจีกลืนน้ําลายอย่างเป็นกังวลและคาดหวังในคําพูดต่อไปของเขาอย่างเงียบๆ

 

“หลังจากการต่อรองกันไปมา ก็มีการตัดสินใจว่าตระกูลซีและนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยของเราจะก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรขึ้นมา”

 

“เมื่อกี้เจ้าพูดอะไร”โหลวหลานจีอุทานด้วยเสียงตกใจ พร้อมกับดวงตาของเธอที่เบิกกว้างกว่าปากล่างของเธอเมื่อคืน

 

“เจ้ากาลังบอกข้าว่าเรากําาลังจะจัดตั้งพันธมิตรกับตระกูลซีรี” เธอถามเขาเพียงเพื่อยืนยันว่าเธอได้ยินไม่ผิด

 

“ใช่ และจะประกาศให้สาธารณชนได้รับรู้หลังจากที่เรากลับไปที่นิกายกุสุมาลย์พันพิสัย” ซูหยางพยักหน้าอย่างใจเย็น

 

โหลวหลานจีและศิษย์คนอื่นๆจ้องมองเขาจากเตียงด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่า ราวกับว่าพวกเธอเพิ่งได้เห็นปาฏิหาริย์

 

นิกายกุสุมาลย์พันพิสัยได้สร้างพันธมิตรกับตระกูลซื้อย่างงั้นรี นี่หมายความว่าตระกูลซียอมรับพวกเขาว่าเท่าเทียมกันใช่หรือไม่ สิ่งนี้เป็นไปได้ด้วยหรือ นี่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันเป็นประวัติการณ์

 

“ตอนนี้เจ้าควรดูใบหน้าของตัวเองในกระจกนะ มันค่อนข้างจะดูน่าสนุก” ซูหยางกล่าวกับพวกเธอด้วยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะจิบถ้วยน้ําชาต่อไป

 

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งโหลวหลานจีก็พูดด้วยเสียงพึมพําว่า “นิกายกุสุมาลย์พันพิสัยได้เป็นพันธมิตรกับตระกูลซี…”

 

จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเพดานและพูดต่อไปว่า “ท่านเห็นสิ่งนี้หรือไม่ ท่านบรรพชน นิกายกุสุมาลย์พันพิสัยของเราได้รับการยอมรับจากตระกูลซีแล้ว”

 

ซูหยางส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอมีปฏิกิริยาตอบรับมากเกินไป แต่เขาก็ไม่สามารถตําหนิเธอได้ที่รู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่เป็นขั้นตอนที่ยิ่งใหญ่สําหรับนิกายกุสุมาลย์พันพิสัย บางทีก็แม้กระทั่งตระกูลซีด้วย ในเมื่อพวกเขาก็จะได้รับประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรนี้ด้วยอย่างแน่นอนเช่นเดียวกัน

 

ในเวลาต่อมาเมื่อพวกเธอสงบลงแล้วซูหยางก็พูดกับพวกเธอว่า “มิมีอะไรต้องทําจริงๆจนกว่าสระสวรรค์จะเปิดขึ้น ดังนั้นจงผ่อนคลายจนกว่าจะถึงเวลานั้น”

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเขาพวกเธอก็พยักหน้า

 

หลายชั่วโมงหลังจากนั้น เมื่อถึงเวลาอาหารค่ํา โหลวหลานจีกล่าวกับตระกูลซีว่า “ขอบคุณที่ยอมเป็นพันธมิตรกับนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยของเรา ข้ามิรู้ว่าจะพูดอะไรอีกนอกจากนั้น…”

 

“มิต้องพูดถึงแล้ว” ซึหวังพูดกับเธอ

 

แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกไป แต่เหตุผลเดียวที่พวกเขาตกลงจะเป็นพันธมิตรกับพวกเธอก็เนื่องมาจากซูหยาง และมันคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าหากปราศจากซูหยาง ตระกูลซีก็จะไม่คิดที่จะจัดตั้ง พันธมิตรกับนิกายกุสุมาลย์พันพิสัย แม้ว่าพวกเธอจะมีความแข็งแกร่งมากก็ตาม อีกนัยหนึ่งตระกูลซีได้จัดตั้งพันธมิตรกับซูหยางและไม่ใช่กับตัวนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยเอง

 

“มาช่วยสนับสนุนกันและกันให้ดีที่สุดกันเถอะท่านผู้นํานิกายโหลว” ซีซิงฟางกล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้ม

 

“แน่นอน”โหลวหลานจีพยักหน้า

 

หลังอาหารค่ําเจ้าซีก็กล่าวกับพวกเธอว่า “เกี่ยวกับสระสวรรค์ หลังจากตรวจสอบผนึกในวันนี้แล้ว ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะเปิดเร็วกว่าที่กําหนดไว้เล็กน้อย ดังนั้นพวกท่านควรจะเข้าสู่สระสวรรค์ได้ภายในเที่ยงวันพรุ่งนี้”

 

“ผนึกรึ สระสวรรค์ถูกปิดผนึกอย่างงั้นรึ” โหลวหลานจีถามด้วยสีหน้าสงสัย

 

เจ้าซีพยักหน้าและกล่าวว่า “สระสวรรค์มิได้มีอยู่จริงในโลกนี้ มันดํารงอยู่ในมิติอื่น ซึ่งเกือบจะเหมือนกับวิธีการทํางานของแหวนและกระเป๋ามิติ ครั้นเมื่อผนึกแตกออกมันก็จะเผยให้เห็นประตูมิติเป็นเวลาเจ็ดวันก่อนที่จะปิดอีกครั้งและพวกท่านก็จะใช้เวลานั้นในการฝึกฝนวิชาในสระสวรรค์”

 

“ร-รอสักครู่… ท่านบอกว่าประตูมิติจะปิดตัวเองงั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรามิได้ออกจากบ่อสวรรค์ในตอนนั้น” โหลวหลานจีถามเขาด้วยความรู้สึกกังวลในใจ

 

“อืม… ท่านจะต้องอยู่ข้างในจนกว่ามันจะเปิดอีกครั้งในรอบถัดไป… ในอีก 100 ปี…” เจ้าซีตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

 

โหลวหลานจีจ้องมองเขาด้วยใบหน้าที่ไร้คําพูด เธอไม่คิดว่ามันจะอันตรายขนาดนี้แม้ว่าจะสามารถฝึกฝนวิชาในสระสวรรค์ได้เป็นเวลา 100 ปี นั่นย่อมไม่คุ้มค่าอย่างที่สุดอย่างงั้นรี

 

อย่างไรก็ตามเจ้าซีก็ยังคงพูดต่อไป “ข้ารู้ว่าท่านกําลังคิดอะไรอยู่ แต่สระสวรรค์จะสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อประตูมิติปิด ดังนั้นท่านสามารถลืมการที่จะฝึกฝนอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 100 ปีไปได้เลย”

 

“แต่อย่างไรก็ตาม ท่านมิต้องกังวลว่าจะถูกขังอยู่ข้างใน ในเมื่อเรามีเครื่องมือสองสามอย่างที่จะแจ้งให้เราทราบว่าเมื่อไหร่ควรจะออกมา”