ตอนที่ 280 แผนจับคู่ / ตอนที่ 281 เดินต่อไปด้วยกันลำบาก

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 280 แผนจับคู่

 

 

           แต่เธอเองก็มาที่นี่ในฐานะแขกคนหนึ่งเหมือนกัน และเป็นแขกที่ไม่ได้รับการต้อนรับเสียด้วยสิ เธอจึงไม่มีสิทธิ์ออกเสียงอะไร จึงแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเสีย

 

 

           ฉินเพ่ยหรงเห็นท่าทางลูกชายเย็นชามาก จึงหันไประบายความไม่พอใจใส่เฉียวซือมู่แทน แต่เห็นแก่หน้าจิ้นหยวน เธอจึงเพียงแค่ทำเสียงฮึอย่างไม่พอใจเท่านั้น “อาหยวนทำไมไม่มีมารยาทอย่างนี้? คนหนุ่มสาวทำไมถึงพูดน้อยแบบนี้ล่ะ? กว่าจะถึงเวลาอาหารยังอีกนาน เอาอย่างนี้ ลูกพาคุณเจียงออกไปเดินเล่นในสวนก่อน แม่จำได้ว่าดอกทิวลิปบานแล้ว จะได้พาเธอไปชมดอกไม้ด้วย เดี๋ยวถึงเวลาแล้วแม่จะไปตามลูกเอง”

 

 

           ฉินเพ่ยหรงเอ่ยอย่างกระตือรือร้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ จิ้นหยวนมองเธอแวบหนึ่งแล้วจับมือเฉียวซือมู่เอาไว้ “ครับ เดี๋ยวเราพาคุณเจียงออกไปเดินเล่นกันครับ”

 

 

           ฉินเพ่ยหรงร้อนใจ “แม่ให้ลูกพาคุณเจียงออกไปเดินเล่น แล้วลูกจะพาเธอไปด้วยทำไม?”

 

 

           จิ้นหยวนเลิกคิ้วมองคุณแม่ที่แฝงเจตนาอื่นอย่างชัดเจน “ทำไมครับ แขกของคุณแม่เป็นแขก แต่แขกของผมไม่ใช่แขกเหรอครับ? ผมพาไปทั้งสองคน แบบนี้จะได้เท่าเทียมกัน จริงไหมครับ?”

 

 

           ฉินเพ่ยหรงพูดไม่ออก เธอรู้ดีว่าปกติแล้วลูกชายเป็นคนกตัญญูมาก แต่เขาก็เป็นคนที่ยึดมั่นในความคิดของตัวเอง เรื่องไหนที่เขาตัดสินใจแล้วจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาด

 

 

           เฉียวซือมู่แอบยิ้มในใจ ถ้าเธอยังดูไม่ออกว่าฉินเพ่ยหรงกำลังคิดอะไรอยู่เธอก็คงโง่มาก ฉินเพ่ยหรงแสดงออกชัดเจนว่าอยากจะจับคู่จิ้นหยวนกับผู้หญิงที่ชื่อเจียงจื่อเสียน เจียงจื่อเสียนสวยใช้ได้ ท่าทางสง่างาม ถือว่าฉินเพ่ยหรงตาถึงไม่เบา แต่จิ้นหยวนก็ไม่ใช่คนที่ใครจะบงการได้ง่ายๆ เช่นกัน

 

 

           จิ้นหยวนเดินจูงมือเฉียวซือมู่ออกไป เพื่อเป็นการแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดี เขายังอุตส่าห์หยุดยืนรอเจียงจื่อเสียนตรงประตูเพื่อให้เธอเดินตามมา จากนั้นก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อยตามมารยาท “คุณเจียง”

 

 

           แม้จะบอกว่าเจียงจื่อเสียนสอนหนังสืออยู่ที่อเมริกา แต่ท่าทางเธอดูอ่อนแอไม่เบา ไม่เหมือนกับหญิงสาวชาวตะวันตกที่เฉียวซือมู่เคยเห็นสักนิด เจียงจื่อเสียนได้ยินจิ้นหยวนขานเรียกเธอแล้วหน้าแดงระเรื่อ “ไม่ต้องเรียกเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้ พวกคุณเรียกฉันว่าจื่อเสียนดีกว่าค่ะ”

 

 

           น้ำเสียงเธอฟังเหมือนไม่ได้สนใจจิ้นหยวนนี่นา? เฉียวซือมู่เปลี่ยนความคิด

 

 

           จิ้นหยวนมองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นจูงมือเฉียวซือมู่เดินเข้าไปในสวนดอกไม้ ฉินเพ่ยหรงมองตามแผ่นหลังทั้งสามคนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

 

           เธอระบายลมหายใจแล้วหันไปคุยกับฝานหลานหลานที่เป็นแม่ของเจียงจื่อเสียน “เธอดูสิ ยังไม่ทันแต่งงานก็ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาแล้ว ถ้าแต่งงานกันแล้วจะขนาดไหน?”

 

 

           ฝานหลานหลานคิดบางอย่างในใจ จากนั้นพยักหน้าเห็นด้วยกับฉินเพ่ยหรง “ใช่ เมื่อกี้ก่อนจะออกไปก็ไม่เห็นพูดอะไรกับเธอสักคำ ไร้การอบรมสั่งสอนที่สุด”

 

 

           พูดถึงเรื่องการอบรมสั่งสอนขึ้นมา ยิ่งทำให้ฉินเพ่ยหรงไม่พอใจหนักเข้าไปอีก ใช่ว่าเธออยากจะแทรกแซงเรื่องการแต่งงานของลูกชาย แต่จิ้นหยวนก็ไม่คิดเสียบ้าง นอกจากใบหน้าสวยๆ แล้วเฉียวซือมู่ก็ไม่มีอะไรดีอีก แถมครอบครัวยังเป็นแบบนั้นอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าลูกชายช่วยปลดหนี้ให้บ้านนั้นไปเท่าไหร่ ผู้หญิงที่เติบโตมาในครอบครัวแบบนี้จะไปมีดีอะไร?

 

 

           ไม่รู้ว่าเธอให้อาหยวนกินยาเสน่ห์หรือเปล่า เขาถึงได้หลงเธอมากขนาดนั้น

 

 

           ไม่ได้ เธอจะไม่ยอมให้ลูกชายถูกเฉียวซือมู่หลอกเด็ดขาด

 

 

           เธอถอนหายใจอีกระลอกด้วยความเหนื่อยหน่าย “แล้วใครบอกว่าไม่ใช่ล่ะ แต่อาหยวนหลงเธอขนาดนั้น แล้วตอนนี้ยังพามาถึงบ้านอีกต่างหาก ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป คงได้แอบไปจดทะเบียนสมรสกันแน่”

 

 

 

 

ตอนที่ 281 เดินต่อไปด้วยกันลำบาก

 

 

           ฝานหลานหลานเอ่ยปลอบใจ “คนหนุ่มสาวก็ใจร้อนแบบนี้แหละ เธอไม่ต้องเป็นห่วง รอให้ผ่านช่วงโปรโมชั่นไปก่อน เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”

 

 

           ฉินเพ่ยหรงมองเธอแวบหนึ่ง “ถ้าอาหยวนชอบลูกสาวเธอก็ดีนะสิ ฉันคงดีใจมาก”

 

 

           ฝานหลานหลานยิ้มบางๆ “ลูกสาวฉันคงไม่มีวาสนาหรอก”

 

 

           “ก็ไม่แน่นะ” ฉินเพ่ยหรงวางแผนในใจ สองคนมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ต่างคิดแผนในใจ

 

 

           ทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย หลังจากพวกจิ้นหยวนกลับมาแล้ว ทั้งสองจึงเริ่มเข้าแผน ฉินเพ่ยหรงเป็นคนเริ่มก่อน “ซือมู่ มานั่งข้างๆ ฉันนี่”

 

 

           เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น พ่อครัวทำอาหารเลิศรสมากมายมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ จิ้นเฮ่าและฉินเพ่ยหรงนั่งประจำหัวโต๊ะ ฝานหลานหลานและเจียงจื่อเสียนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทั้งสอง เฉียวซือมู่ที่กำลังจะนั่งลงข้างจิ้นหยวนกลับถูกฉินเพ่ยหรงเรียกให้ไปนั่งข้างเธอเสียดื้อๆ

 

 

           เฉียวซือมู่ไม่เข้าใจว่าเธอทำเช่นนั้นเพื่ออะไร จึงค่อยๆ เดินไปหาเธอ ฉินเพ่ยหรงดึงเธอลงนั่งข้างตัวเองทันที “มานี่ มานั่งข้างๆ ฉัน”

 

 

           ฉินเพ่ยหรงไม่พูดพล่ามทำเพลง ดึงเฉียวซือมู่นั่งลงข้างตัวเองทันที เฉียวซือมู่จับต้นชนปลายไม่ถูก ได้แต่ทำตามคำสั่งเธอด้วยความงุนงง แต่พอเหลือบไปเห็นที่นั่งข้างจิ้นหยวนที่ยังว่างอยู่จึงเดาออกทันที

 

 

           ที่นั่งข้างจิ้นหยวนยังว่างอยู่ ชั่วครู่ฝานหลานหลานจึงเอ่ยขึ้น “จื่อเสียน นี่พี่จิ้นหยวนที่ลูกเคยเล่นด้วยสมัยเด็กๆ ไง ลูกจำได้หรือเปล่า?”

 

 

           เจียงจื่อเสียนส่ายศีรษะน้อยๆ “เหรอคะ? หนูจำไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”

 

 

           ฝานหลานหลานยิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกาย “จำไม่ได้เหรอลูก เดี๋ยวแม่เตือนความจำให้เอง ตอนนั้นลูกอายุแค่หกขวบ ตามอาหยวนต้อยๆ ทั้งวัน ทำยังไงก็ไม่ยอมกลับ เอาแต่ร้องไห้บอกว่าโตขึ้นจะแต่งงานกับพี่เขา ลูกจำไม่ได้แล้วเหรอ?”

 

 

           เจียงสื่อเสียนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง “คุณแม่ จะพูดเรื่องนี้ทำไมกันคะ?”

 

 

           ฉินเพ่ยหรงเอ่ยยิ้มๆ “โถ ดูซิเขินใหญ่แล้ว จะอายทำไม ใครไม่เคยเป็นเด็กบ้าง มานี่มา ไหนๆ ก็มีวาสนาต่อกันแล้ว งั้นหนูก็ไปนั่งข้างพี่เขาก็แล้วกัน”

 

 

           นี่สินะแผนของฉินเพ่ยหรง เฉียวซือมู่ฟังคำพูดของเธอแล้วกวาดสายตามองเธอแวบหนึ่ง สายตาเธอเต็มได้ด้วยรอยยิ้ม ซึ่งแตกต่างจากสายตาเย็นชาที่มองตัวเองอย่างสิ้นเชิง

 

 

           เฉียวซือมู่มองดูเจียงจื่อเสียนนั่งลงข้างจิ้นหยวนด้วยท่าทางเขินอาย แม้จิ้นหยวนจะปั้นหน้าเข้ม แต่เขาก็ไม่ได้แย้งใดๆ มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก

 

 

           ที่แท้ในสายตาของคุณแม่จิ้นหยวน ท่านยอมจับคู่จิ้นหยวนกับลูกสาวของเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ยังดีกว่าให้จิ้นหยวนคบกับตัวเอง

 

 

           เฉียวซือมู่คิดแล้วหน้าสลดลง จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าเส้นทางข้างหน้าของเธอกับจิ้นหยวนคงเดินต่อไปด้วยกันลำบาก 

 

 

           ความคิดนี้ทำให้สีหน้าเธอดูแย่มาก ส่วนฉินเพ่ยหรงนั้นยิ้มไม่หุบที่เห็นจิ้นหยวนกับเจียงจื่อเสียนนั่งใกล้กัน

 

 

           ฉินเพ่ยหรงมองเฉียวซือมู่ที่กำลังไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแล้วเบ้ปาก เจตนาคีบซี่โครงหมูเนื้อฉ่ำให้เจียงจื่อเสียน “เด็กดี กินเยอะๆ นะ หนูน่ะอะไรๆ ก็ดี เสียอยู่อย่างเดียวคือผอมเกินไปหน่อย ต้องกินเยอะๆ บำรุงร่างกายนะเข้าใจไหม”          

 

 

           “ขอบคุณค่ะคุณป้า” เจียงจื่อเสียนยิ้มอาย

 

 

           ฉินเพ่ยหรงยิ้มพอใจมาก อยากจะให้เธอเปลี่ยนมาเรียกตัวเองว่าแม่ทันทีด้วยซ้ำ

 

 

           เฉียวซือมู่อดทนอดกลั้น พยายามสะกดกลั้นความคิดนั้นเอาไว้

 

 

           จิ้นหยวนดวงตาเป็นประกายแวบหนึ่ง จู่ๆ เขาก็ยื่นมือออกไปคีบอาหารให้เฉียวซือมู่ “คุณเองก็ต้องกินเยอะๆ นะ”