ตอนที่ 1057 ซูหลีผู้ว่าง่าย
คำพูดนี้เมื่อพูดออกมา ทำให้ทุกคนมองนางพร้อมกัน
สีหน้าของใต้เท้าซ่งดูแย่เป็นพิเศษ
“ขอถามใต้เท้าซ่ง คล้ายจะใช้เรื่องนี้หาข้ออ้างตามสบาย ในการแย่งชิงสมบัติของผู้อื่น มิหนำซ้ำยังมีการทำร้ายผู้อื่น นี่ถือว่าถูกต้องเหมาะสมแล้วกระมัง” ขณะที่นางพูดประโยคสุดท้ายออกมา มุมปากจึงค่อยๆ ยกขึ้น จนมุมที่เป็นรอยยิ้มที่ถากถาง
ใบหน้าของใต้เท้าซ่งไม่น่าดูจนถึงที่สุด จากเขียวคล้ำไปขาวซีด จากขาวซีดไปแดงก่ำ สายตาคนชาวบ้านโดยรอบล้วนจับจ้องที่ร่างของเขา เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามเช่นนี้ของซูหลี เขาก็ไม่สามารถทำตัวไกล่เกลี่ยเรื่อยเปื่อยเหมือนดังแต่ก่อนได้!
“แน่นอนว่าไม่ใช่!” ใต้เท้าซ่งสูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ความประพฤติเช่นนี้ ตามกฎหมายแล้ว สมควรถูกลงโทษ!”
“แปะๆๆ!” ที่ใต้เท้าซ่งคิดไม่ถึงก็คือ ตนพูดตามคำพูดของซูหลี นางกลับไม่ทำอะไรทั้งสิ้น แต่กลับยกมือขึ้นปรบมือสองสามครา
เขาขมวดคิ้ว ขณะนี้ไม่เข้าใจนี่ซูหลีหมายความว่าอะไร เดิมยังคิดว่านางจะใช้คำพูดนี้มาประชดประชันเขา ทว่าบัดนี้ดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้น!
“ใต้เท้าซ่ง ไม่เสียแรงที่เป็นผู้อาวุโสที่ยุติธรรมแห่งจวนซุ่นเทียน เป็นผู้ที่สมเหตุสมผลโดยแท้” ไม่เพียงเท่านั้น ซูหลียังเอ่ยปากชมใต้เท้าซ่งอีก!
ใบหน้าของใต้เท้าซ่งมีความประหลาดใจ
“เรื่องเช่นนี้ทั้งไม่มีเหตุผลและไม่สมควร อีกทั้งยังผิดกฎหมายอีกด้วย การแย่งชิงสมบัติของคนอื่น ก็ควรจะนำของเหล่านั้นมาคืนเจ้าของใช่หรือไม่”
สร้างความวุ่นวายอยู่นาน ที่แท้ความหมายของซูหลีก็คือเช่นนี้!
ดวงตาของใต้เท้าซ่งเปล่งประกาย ทั้งร่างผ่อนคลายลง เขายังคิดว่าซูหลีจะสู้กับเขาจนตายไปข้างหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่นางคิดจะเป็นเช่นนี้
หากเป็นเช่นนี้แล้วล่ะก็ เช่นนั้นก็สามารถจัดการได้ง่ายแล้ว
คนที่ผ่อนลมหายใจออกมาเช่นกัน ยังมีกู่ซู่คนนั้นไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่เขาออกไป เพื่อนำคนเหล่านี้กลับมายึดพื้นที่นี้คืน ทว่าหลังจากเห็นดวงตาที่แฝงไปด้วยอันตรายคู่นั้นของซูหลี จิตใต้สำนึกกลับรู้สึกว่า คนที่เสียเปรียบคือตัวเขาเอง
เขาชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง พลันเงยหน้าขึ้นมองเซียวเสวียนที่อยู่ด้านข้าง เป็นประจวบที่เซียวเสวียนกำลังมองเขาพอดี ชำเลืองเห็นใบหน้าที่มีคำถาม เซียวเสวียนเพียงพยักหน้าเบาๆ
ซูหลีเพิ่งออกมาจากเรือนจำ ได้รับตำแหน่งขุนนางคืนแล้ว มีปัญหามากขึ้นไม่ดีเท่ากับมีปัญหาน้อยลง
จะว่าไปสมบัติเหล่านั้นเดิมเขาอยากให้กู่ซู่คืนให้กับพวกเขาไป สมบัติอยู่ในมือของซูหลี หากวันไหนซูหลีต้องการก่อความวุ่นวายขึ้นมาอีก พวกเขาก็ไม่สามารถจัดการได้
ถือโอกาสนี้คืนสมบัติให้กับซูหลี หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นหลังจากนี้ เช่นนั้นก็ถือว่าจัดการปัญหาแล้ว
“ที่แท้เป็นเช่นนี้!” คำพูดประโยคนี้ของซูหลี ทำให้คนหลายคนในที่นี้ต่างตกอยู่ในห้วงความคิด อย่างไรใต้เท้าซ่งก็ดึงสติกลับมาก่อน แล้วเอ่ยตอบด้วยใบหน้าผ่อนคลาย
“มีคำพูดของใต้เท้าซ่งเช่นนี้ ข้าก็สบายใจแล้ว” ซูหลีเห็นเช่นนี้จึงยกยิ้มที่มุมปาก มีท่าทางที่ว่าง่ายเป็นอย่างมาก
“พวกเราราษฎรในเมืองหลวงสามารถมีผู้ปกครองที่มีสายตากว้างไกลอย่างใต้เท้าซ่ง ช่างโชคดีโดยแท้!” นางลุกขึ้นยกมือขึ้นน้อมคำนับใต้เท้าซ่งคราหนึ่ง
คนผู้นี้ช่างเปลี่ยนอารมณ์เร็วมาก เมื่อครู่ยังมีท่าทางตำหนิอีกฝ่ายอยู่เลย!
ทว่าใต้เท้าซ่งก็ดีใจที่เห็นนางเป็นเช่นนี้ เมื่อเห็นเช่นนี้จึงหัวเราะเบาๆ รีบยกมือปัดไปมาแล้วเอ่ยว่า
“ใต้เท้าพูดอะไรกัน นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าน้อยพึงกระทำ!”
“ใต้เท้าซ่งถ่อมตัวแล้ว” ฉินม่อโจวเงยหน้ามองซูหลีครู่หนึ่ง อย่าว่าแต่วันนี้ซูหลีทำตัวแปลกประหลาดเลย ครู่หนึ่งมีท่าทางยโสโอหังแทบจะแยกร้านค้าออกเป็นสองส่วน อีกครู่หนึ่งพลันว่าง่ายเช่นนี้แล้ว!
ตอนที่ 1058 พูดเรื่องการชดใช้
“ข้าก็พบข้อผิดพลาดของตนเองเหมือนกัน แม้พ่อค้ากู่จะกระทำมิถูกก่อน แต่ข้าก็ไม่สามารถนำคนถลันเข้ามา ทำร้ายคนอื่น ทุบร้านค้าเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นความเสียหายของหอติ่งไท่ในวันนี้ มาคิดเงินกับข้าซูหลีได้!”
ในเวลานี้ทุกคนล้วนตกตะลึง
แม้แต่เหล่าบุรุษที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันต่างพากันเงยหน้ามองไปยังนาง
นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนโดยแท้! ก่อนเคยได้ยินว่าซูหลีเป็นคนที่จัดการเรื่องอย่างไม่ออมชอม ไม่เคยเห็นนางถอยให้มาก่อน
โดยเฉพาะความมีเหตุผลของตน กลับยังต้องยอมให้
นี่ช่าง…
นี่ช่างเหมือนดังความฝันมิปาน!
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นางว่าง่ายเช่นนี้
“…หากใต้เท้าซูรู้สึกเช่นนี้ เช่นนั้นข้าน้อยก็วางใจแล้ว กู่ซู่ ใต้เท้าซูพูดเช่นนี้แล้ว เจ้ายังไม่รีบคืนของให้ใต้เท้าซูอีก!?” ใต้เท้าซ่งตะลึงงันไปพริบตาหนึ่ง เขาไม่ค่อยเข้าใจซูหลีเท่าไร
หลังจากที่เขาประหลาดใจไปครู่หนึ่ง จึงค่อยๆดึงสติกลับมา ซ้ำยังแสร้งทำเป็นตำหนิกู่ซู่ไปหนึ่งคำรบ
ที่ใต้เท้าซ่งไม่สังเกตเห็นคือ เหล่าบุรุษสูงศักดิ์ที่นั่งอยู่นั้นล้วนใช้สายตาประหลาดใจอย่างยิ่งยวดมองซูหลี
“เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว! เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว!” กู่ซู่ได้ยินเช่นนั้นจึงฉีกยิ้มอย่างฝืนใจ ก้มคำนับและพูดกับซูหลีและใต้เท้าซ่งทั้งสองคน
อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง การโบยอย่างโหดเ**้ยมที่เขาประสบวันนี้ ในใจของเขาไม่อาจรู้สึกดีได้
ทว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หากซูหลียังยืนหยัดต่อไป เขาคงไม่ได้รับผลดีอะไรนัก!
ก่อนหน้านี้เขายังให้คนไปทำร้ายซูไท่!
สถานะของซูไท่ในราชสำนักในเวลานี้ค่อนข้างกระอักกระอ่วน ทว่าจนถึงบัดนี้ฮ่องเต้ก็ยังมิได้เอ่ยพระโอษฐ์ว่าจะลงโทษเขา ซูไท่เป็นขุนนางมาโดยตลอด เขาปล่อยคนใต้อาณัติทำร้ายขุนนาง นี่ถือว่าเป็นโทษอันใหญ่หลวง
กู่ซู่เป็นพ่อค้าวาณิชคำหนึ่ง ต่อให้มีเรื่องที่ขาดทุนสักเรื่อง เขาจะต้องคิดคำนวณจนถึงที่สุด เพื่อให้ตนเองเสียหายน้อยที่สุด
ดังนั้นการทำร้ายขุนนาง ย่อมได้รับโทษสถานหนักกว่าการโบยอย่างโหดเ**้ยมที่เขาได้รับอย่างแน่นอน!
“ใต้เท้าซูวางใจเถิด ข้าน้อยจะให้คนนำร้านค้า ที่นา อีกทั้งสมบัติอย่างอื่นไปคืนให้ท่าน เป็นการเข้าใจผิดแล้ว! นี่ล้วนเป็นการเข้าใจผิดแล้ว!”
เมื่อคิดเช่นนี้กู่ซู่จึงแหงนหน้าขึ้น จนสามารถแย้มยิ้มให้กับซูหลี
ซูหลีกวาดมองด้วยสายตาเย็นชา เมื่อมองเห็นความประจบสอพลอที่ประดับบนใบหน้า ในดวงตาจึงฉายประกายความเย็นชาออกมา แต่ที่แปลกก็คือ นางได้ยินแล้วกลับไม่พูดอะไรออกมา เพียงพยักหน้าแล้วเอ่ย
“พ่อค้ากู่พูดเช่นนี้ได้ นั่นก็ถือว่าดีที่สุด”
กู่ซู่เห็นอากัปกิริยาของนางดีเช่นนี้ จึงผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ซูหลีคนนี้เป็นคนหัวแข็งอย่างแท้จริง สมบัติเหล่านั้นแม้อยู่ในมือ ก็คงรู้สึกร้อนมือ
จะว่างไป เขาถือเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองหลวง พูดแล้วก็ไม่ได้ขาดแคลนสมบัติเหล่านั้น คืนนางไปก็ดีแล้ว
“เรื่องนี้พูดจบแล้ว เช่นนั้นพวกเรามาพูดเรื่องการชดใช้กันเถอะ!” ขณะที่ทุกคนล้วนคิดว่าเรื่องวันนี้ถูกเปิดเผยเช่นนี้ ซูหลีพลันเอ่ยพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
เมื่อนางเอ่ยพูด นัยน์ตาของฉินม่อโจวฉายแววเข้าใจในทันที
เขาก็รู้สึกอยู่ว่ามีอะไรทะแม่งๆ ซูหลีไม่ใช่คนที่มีอุปนิสัยใจดีขนาดนั้น โดยเฉพาะเรื่องที่มองว่าสำคัญ และจะปล่อยให้จบไปง่ายๆ แต่ไหนแต่ไรไม่ใช่เรื่องที่นางชอบกระทำ
“ชดใช้หรือ” ใต้เท้าซ่งหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง และเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“ใช่แล้ว วันนี้มิใช่ข้าทำร้ายคนของหอติ่งไท่หรือ ยังมีพ่อค้ากู่อีก ห้องโถงใหญ่ของหอติ่งไท่แห่งนี้ดูเหมือนจะถูกข้าทำลายหมดแล้ว ข้ากระทำเรื่องมากมายเสียขนาดนี้ จะสามารถไม่ชดใช้ได้ที่ไหนกัน” ซูหลีพูดเหตุผลออกมาเช่นนี้