ตอนที่ 1715 เรื่องเล็กน้อยในอดีต
ตอนหลินฮวงก้าวไปข้างหน้า หลังหมุนตัวกลับ เขาก็เห็นสาวผมดําเดินมาทางเขา
หญิงสาวมีผมดํากับตาดํา เรือนร่างน่ามอง นางยังสวมชุดดําด้วย
ความหนาแน่นของกลิ่นอายนางถือเป็นจ้าวเทวะขั้นต่ํา ไม่ใช่แค่นั้น นางมอบความประทับใจให้หลินฮวงว่า นางเพิ่งเลื่อนระดับไม่นาน
“หัวหน้าหลิน ข้าชื่นชมเจ้ามานาน ไม่คิดเลยว่าการพบกันครั้งแรกของเราจะเป็นแบบนี้ หญิงสาวผมดําเดิ นมาหาหลินฮวงพร้อมแก้วไวน์ในมือ
หลินฮวงพยายามนึกให้ดี แต่ก็ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นใคร
หลังเห็นความสงสัยบนหน้าเขา หญิงสาวผมดําก็แนะนําตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเกือบลืมแนะน่าตัวเองไปข้าเบ็ธจากชีโน่”
“สวัสดี คุณเบ็ธ”
หลินฮวงจําได้ว่าคนคนนี้คือรองประธานสหพันธ์คนใหม่ของซีโน่
เขายังจําได้ว่า ในข้อมูลที่ดาบหนึ่งส่งมา คนคนนี้คือคนที่ไม่มีภาพติด
เหตุผลคือเบ็ธปิดประตูบ่มเพาะหลายปีเพื่อทะลวงเป็นจ้าวเทวะ ข้อมูลของนางไม่มีบนเครือข่ายเลย
นางเพิ่งปรากฏตัวในช่วงเดือนนี้ ไม่ใช่แค่นั้น นางยังกลับมาซีโน่ในฐานะจ้าวเทวะ และจากนั้นก็เลื่อนเป็นรองประธานโดยตรง
“การพบกันของเราถือเป็นโชคชะตาจริงๆ หัวหน้าหลิน”เบ็ธจิบไวน์เล็กน้อย
“โชคชะตา?”หลินฮวงตกตะลึง เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน
เบ็ธยื่นนิ้ว หมอกดํากระจายออกจากปลายนิ้วนาง
หลินฮวงขมวดคิ้วขณะสัมผัสถึงกลิ่นอายของพลังเทวะนาง
กลิ่นอายนั้นคุ้นเคยมาก หลังรับรู้ถึงกลิ่นอายและคิดทบทวนผ่านสมอง เขาก็จําได้ว่ามันคือมอนสเตอร์ของเขา-จอมปีศาจ!
“เจ้า..”
โดยไม่รอให้หลินฮวงพูดจบ เบ็ธเชิดตาและกระซิบข้างหูหลินฮวง”ข้าคือเทพีแห่งความตายที่ทิ้งตราประทับไว้บนหลังเจ้าในตอนนั้น…”
ทันทีที่เบ็ธพูดจบ นางก็ถอยออกไปขณะจังอหลินฮวงด้วยตาคู่งาม รอการตอบของเขา
“กลิ่นอายของเจ้าต่างไปเล็กน้อย ไม่ใช่แค่นั้น เจ้ายังทรงพลังกว่านาง”หลินฮวงกําลังคาดเดา
“พูดตามตรง เทพีแห่งความตายคือร่างแยกของข้า หลังข้าปิดประตูบ่มเพาะ ข้าก็ทิ้งร่างแยกไว้หลายร่าง เพื่อช่วยข้าจัดการเรื่องต่างๆ ในโลกภายนอก เทพีแห่งความตายคือหนึ่งในนั้น ระหว่างสองสามปีสุดท้ายของการปิดประตูบ่มเพาะข้า ข้าเรียกร่างแยกทั้งหมดกลับเพราะข้ารู้สึกว่าขาอาจสามารถทําการผสานได้แล้ว ดังนั้น ข้าจึงดูดซับประสบการณ์กับความทรงจําของร่างแยกทั้งหมด และข้าก็พบส่วนนี้ของความทรงจําานาง”
“ข้าก็สงสัยว่าทําไมนางถึงทิ้งตราประทับไว้ทั้งๆที่นางไม่คิดทําอะไรข้า งั้นข้าก็ควรขอบคุณเจ้าสินะ”สุดท้ายหลินฮวงก็รําลึกถึงเรื่องราวได้ทั้งหมด
ตอนเขาฆ่าจอมปีศาจในโลกกรวดตอนนั้น ยอดฝีมือนามเทพแห่งความตายได้ทิ้งตราประทับไว้บนตัวเขา
ในความเป็นจริง หลังมาถึงมหาพิภพ เขาก็กังวลเล็กน้อยว่าเทพีแห่งความตายจะมายุ่งกับเขา เหตุผลเพราะเขามั่นใจว่าอีกฝ่ายคือเทพแท้จริงขั้นสูงเป็นอย่างน้อย หรือแม้กระทั้งเทพสวรรค์ แต่ทว่า จนกระทั่งเขาถอนตราประทับ เทพีแห่งความตายก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย เขาเลยสับสนไปพักใหญ่
ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าเบ็ธเรียกร่างแยกกลับ เขาถึงรอดหายนะมาได้
“ถ้าข้ารู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์กับศักยภาพเช่นนี้ ข้าคงเรียกร่างแยกขากลับช้ากว่านี้”เบ็ธปิดปากพลางหัวเราะ
โดยธรรมชาติ หลินฮวงรู้ว่านางแค่หยอกล้อ
ถ้าเขาพิจารณาให้ดี เขาคิดว่าเขาควรขอบคุณเบ็ธ
เขาฆ่ามอนสเตอร์ประเภทวิญญาณร้ายไปตอนนั้นและได้รับประกายไฟจากไฟเทวะของเบ็ธมา นั่นทําให้เขาสามารถจุดไฟเทวะของเขาได้ตอนเป็นแค่ระดับจักรพรรดิ ได้รับฐานบ่มเพาะที่ไกลกว่าทุกคน
แม้คนที่ทิ้งตราประทับไว้บนตัวเขาจะมีเจตนาร้าย นางก็ไม่ได้ทําอะไร หรือมีอิทธิพลด้านลบต่อการพัฒนาเขาเลย
ดังนั้น เขาจึงไม่มีเจตนาร้ายต่อเบ็ธ
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการที่นางริเริ่มมาบอกเขา นางจึงตั้งใจจะประนีประนอม
“ไม่มีมิตรใดเกิดขึ้นโดยไม่มีการต่อสู้”หลินฮวงยกแก้วไวน์ในมือขึ้น
เบ็ธชนแก้วกับหลินฮวง”ถูกต้อง ข้าแค่เล่าเรื่องเล็กน้อยจากอดีต”
แม้นางจะเลื่อนเป็นจ้าวเทวะแล้ว นางก็สามารถสัมผัสได้ว่านางส์หลินฮวงไม่ได้ นางไม่อยากเป็นศัตรูกับหลินฮวง นางจึงริเริ่มมาอธิบายให้ชัดเจนเพื่อหลินฮวงรู้เรื่องในอนาคต
หลังชี้แจง นางก็ตระหนักว่าหลินฮวงไม่ได้ใส่ใจเลย
หลินฮวงกลับรู้สึกอบอุ่นจากการคุยกับเบ็ธ
มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ร่างต้นของร่างแยกที่เคยทําให้เขากลัวในอดีตตอนนี้กลับมีความสามารถด้อยกว่าเขา
เขายังคิดว่าชะตากรรมนั้นมีมนต์ขลัง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาเคยพบกับเบ็ธมาก่อน และตอนนี้เขากําลังเห็นร่างหลัก
หลายคนเห็นฉากที่ทั้งสองคุยกัน
ด้วยความที่ทั้งคู่คุยกันผ่านคลื่นเสียง คนอื่นจึงไม่ได้ยินเนื้อหา พวกเขาได้แต่เดากัน
พวกเขาคิดว่าเบ็ธกําลังทําจากภารกิจของซีโน่และคุยธุระกับหลินฮวง
“อย่างที่คาด ซีโน่เตรียมตัวมา ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาจะใช้สาวงามเพื่อล่อลวง?!”
“รองประธานคนใหม่ของซีโนมีของจริงๆ หัวหน้าหลินดูเหมือนจะสนใจนางมาก”
“ข้าสงสัยว่าชีโน่กับพันธมิตรดาบจะร่วมมือกันแบบไหน พวกเขาดูเหมือนจะมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
เซ็นถูกําลังจับจ้องการเคลื่อนไหวของหลินฮวง
เขาดูถูกหลินฮวงมากยิ่งกว่าเดิมพอเห็นเขาคุยกับเบ็ธเป็นเวลานาน
“ตามคาด เขาเป็นคนโง่ แค่เจอผู้หญิงก็คล้อยตามแล้ว ตอนผู้ชายมีเงินกับอํานาจ เขาจะมีผู้หญิงได้ตามใจชอบหรือไง ไม่ใช่?!จุดอ่อนของเขาชัดเจนเกินไป”
หลินฮวงกับเบ็ธไม่รู้ว่ากําลังโดนเข้าใจผิด พวกเขาแค่คุยเรื่องส่วนตัวจากอดีตกันเท่านั้น ไม่ได้คุยเรื่องธุระเลย
แม้กระทั่งพวกจากซีโน่ก็ยังอึ้ง มีบางองค์กรที่พยายามไปสอบถามเจตนาพวกเขาถึงความร่วมมือกับพันธมิตรดาบ
แต่ทว่า พวกเขาไม่ได้วางแผนจะร่วมมือกับพันธมิตรดาบจริงจังและก็ยังไม่ได้มอบหมายงานอะไรให้เบ็ธเลย
เมื่อเบ็ธกลับกลุ่ม ประธานลิงค์ก็ถามทันที่ผ่านคลื่นเสียง”เจ้าไปคุยอะไรกับหัวหน้าหลิน?”
“ก็แค่เรื่องส่วนตัว”
งานเลี้ยงกําลังจะสิ้นสุดพบความมืดมาเยือน
การอภิปรายเบื้องต้นเกี่ยวกับความร่วมมือกับองค์กรต่างๆเกือบเสร็จแล้ว หลินฮวงกับดาบหนึ่งได้ส่งแขกออกไปเป็นชุดๆ
แขกส่วนใหญ่ออกไปโดยตรง บ้างเลือกอยู่ในเขตดาวต่อสักสองสามวัน
ดาบหนึ่งให้ทาสดาบจัดเตรียมที่พักสําหรับแขก
ท้ายที่สุด มันคืออาณาเขตของพันธมิตรดาบ พวกเขาต้องทําให้ดีสุดในฐานะเจ้าบ้าน
หลังจัดการทุกอย่าง หลินฮวงก็ติดต่อเจ้าแดงถามถึงไคลี่
“นางพบที่ปลอดภัยและเริ่มทําการทะลวงผ่านแล้ว ข้าจะคอยคุ้มกันนางเอง”
ค่าตอบของเจ้าแดงสั้นและง่าย แต่มันก็ทําให้หลินฮวงโล่งใจ