ตอนที่ 419: โอโรจิมารุ และ คาบูโตะ

The Strongest Hokage

เมื่อพูดถึงวิชานินจาแพทย์ ซึนาเดะ อยู่ในระดับที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงกับในการ์ตูน ไม่มีใครสามารถเทียบเธอได้ในด่านวิชานินจาแพทย์ เธออยู่ในจุดสูงสุด แต่เธอก็ยังไม่เก่งเรื่องค้นคว้าเท่าไรนัก

 

คุชินะ เองก็ไม่ใช่นักวิจัยที่ยอดเยี่ยมเช่นกันและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการวิจัยในตัวของผู้ใช้ความสามารถพิเศษอย่าง คาริน ดังนั้นทั้ง 2 จึงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับเธอ แม้ว่ารอยฟันบนแขนของเธอจะหายไปแล้ว แต่พวกเธอก็ยังไม่สามารถเข้าใจความสามารถหรือวิธีการทำงานของเธอได้

 

ซึนาเดะ สอนวิชานินจาแพทย์ให้เธอ แต่การเรียนรู้ของเธอก็ไม่ได้รวดเร็วมากนัก ดูเหมือนว่า คาริน จะมีความสามารถในการรับรู้ แต่การรักษาของเธอไม่ได้มาจากวิชานินจาแพทย์ที่ ซึนาเดะ สอน ความสามารถในการรักษาที่น่าทึ่งของเธอมาจากร่างกายที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง

 

ในทางตรงกันข้าม คุชินะ สอนวิชาสะกดให้กับเธอและเธอก็เรียนรู้ได้เร็วมาก ท้ายที่สุดแล้วเธอก็มีสายเลือดของ ตระกูลอุซึมากิ

 

ไนโตะ เองก็สอนวิชาเซียนให้เธอด้วยเหมือนกัน ทำให้เธอผ่านขั้นแรกได้อย่างรวดเร็วและเข้าสู่ขั้นที่ 2 ของการเรียนวิชาเซียนได้อย่างรวดเร็ว

 

สิ่งนี้ทำให้ ไนโตะ ค่อนข้างประหลาดใจ ดูเหมือนว่าเธอจะเก่งกว่า คุชินะ ในเรื่องของวิชาเซียน หรือว่าเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษของเธอ?

 

เธออายุน้อยกว่า ฮาคุ และ คิมิมาโร่ ไม่กี่ปี แต่ความแข็งแกร่งของเธอก็ใกล้เคียงกับพวกเขา และเธอก็สามารถแซงหน้าพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว ในแง่ของความแข็งแกร่ง คิมิมาโร่ เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ตามมาด้วย คาริน จากนั้นก็ ฮารุ เป็นคนสุดท้าย

 

แต่นั่นก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากมายนัก เพราะในแง่ของความรุนแรงในการโจมตี คิมิมาโร่ นั้นแข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย และแม้ว่าความสามารถของ ฮาคุ จะมีศักยภาพมากแต่เขาก็ให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่าซึ่งทำให้เธอทำงานกับ คิมิมาโร่ ได้เป็นอย่างดี

 

และหลังจากเพิ่ม คาริน เข้าไปในทีมเล็ก ๆ นี้ การผสมผสานระหว่างทั้ง 3 จึงกลายเป็นความสมบูรณ์แบบระหว่างการโจมตีที่สุดยอด การป้องกันที่แน่นหนา และการรักษาที่แข็งแกร่ง

 

ไนโตะ พยายามศึกษาขีดจำกัดสายเลือดของ คาริน เพื่อช่วยพัฒนาความสามารถพิเศษของเธอ แต่เรื่องแบบนี้ซับซ้อนกว่าการสอนวิชาเซียนให้เธอมาก

 

ท้ายที่สุดแล้ว ไนโตะ ก็ไม่สามารถพูดได้จริง ๆ ว่าเขาเป็นนักวิจัยที่ดี กล่าวคือ ไนโตะ เชื่อว่าไม่มีสิ่งที่เรียกว่าข้อจำกัดในโลกนี้และเขาก็จะขยายความสามารถของเขาไปในทุก ๆ ด้าน

 

แต่ถ้าคุณกำลังมองหานักวิจัยที่เก่งที่สุดก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือ โอโรจิมารุ

 

แน่นอนว่า ไนโตะ ไม่สามารถส่ง คาริน ให้ โอโรจิมารุ ค้นคว้าได้ ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะไม่ได้รับเธอไว้ในฐานะศิษย์ แต่เธอก็เป็นสมาชิก ตระกูลอุซึมากิ และเธอก็เป็นเหมือนน้องสาวของ คุชินะ

 

เพราะ คุชินะ ไม่เคยพบใครที่มาจาก ตระกูลอุซึมากิ มาก่อน เธอจึงจำ คาริน ได้อย่างรวดเร็วว่าเป็นน้องสาวของเธอและแน่นอนว่า คาริ ก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอ

 

คุชินะ จะไม่เห็นด้วยแน่นอนที่จะส่ง คาริน ไปให้ โอโรจิมารุ เพื่อทำการค้นคว้า และถ้าเป็นแบบนั้นแม้ว่า โอโรจิมารุ จะมีพลังมากขึ้นหลังจากที่ปลูกถ่ายเซลล์ของ ฮาชิรามะ และได้ครอบครอง เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผา คุชินะ ก็จะสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายหากเธอต้องการ

 

ใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเซียน 6 วิถี พวกเขาจะพบว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายที่จะเอาชนะ คุชินะ ได้ ท้ายที่สุดแล้ว คุชินะ ก็เป็นผู้ที่สามารถบรรลุการเปลี่ยนแปลงของโหมดเซียนได้และสามารถควบคุมจักระของ 9 หางได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าลึก ๆ แล้ว คุชินะ จะไม่อยากเสี่ยงที่จะส่ง คาริน ให้กับ โอโรจิมารุ แต่ก็คงจะไม่เป็นอะไรหากให้แค่เลือด เซลล์และจักระจำนวนเล็กน้อยของเธอให้เขาไปวิจัย

 

………

 

หมู่บ้านโอโตะ

 

หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ถูกสร้างขึ้นโดย โอโรจิมารุ เพื่อเป็นสถานที่ใช้ในการทดลองต่าง ๆ และในเวลาเดียวกันก็ได้พัฒนาคาถานินจาและเก็บวัตถุดิบสำหรับใช้กับ คาถาสัมภเวสีคืนชีพ ไว้

 

ชาวบ้านและนินจาในหมู่บ้านนี้ทั้งหมดต่างก็ถูกเขาล้างสมองและพวกเขาก็ภักดีต่อเขาอย่างมาก

 

ในห้องทดลองในหมู่บ้าน โอโรจิมารุ ยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าครุ่นคิด

 

“อย่างนั้นเหรอ? น่าสนใจมาก”

 

โอโรจิมารุ ยืนอยู่ตรงหน้าร่างหนึ่ง เขายืนอยู่ที่นั่น แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังเลือกใช้คำพูดอย่างระมัดระวัง

 

“ถ้านายให้ฉันศึกษาร่างของเธอ ฉันก็อาจจะหาคำตอบที่นายต้องการเจอก็ได้”

 

ในขณะที่ฟัง ไนโตะ ก็พยักหน้าเบา ๆ แน่นอนว่า โอโรจิมารุ ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของ ไนโตะ ได้

 

ไนโตะ ส่ายหัวและพูดว่า “ฉันไม่สามารถเอาตัวเธอให้คุณได้ แต่ฉันเอาตัวอย่างเลือดและจักระของเธอมาให้”

 

“ถ้ามีแค่นี้ก็คงจะยากหน่อย…” โอโรจิมารุ รับม้วนหนังสือจาก ไนโตะ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าอุณหภูมิของอากาศลดลง 2 – 3 องศาซึ่งทำให้เขาพูดได้ทันทีว่า “แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้”

 

“ก็ดี”

 

ไนโตะ พยักหน้า

 

ซึนาเดะ และ คุชินะ เถียงกันอยู่พักใหญ่ในขณะที่ ไนโตะ ช่วย คาริน ฝึกโหมดเซียนจนสำเร็จขั้นที่ 2 แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถ ช่วยให้เธอพัฒนาความสามารถของเธอได้

 

แน่นอนว่า คุชินะ ไม่เต็มใจที่จะให้คนอื่นจับ คาริน แต่เธอก็ต้องการช่วย คาริน ดังนั้นเธอจึงเป็นฝ่ายที่มาขอให้ ไนโตะ ตามหา โอโรจิมารุ เพื่อช่วยเธอ

 

โดยธรรมชาติแล้ว ไนโตะ ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของ คุชินะ ได้ ดังนั้นเขาจึงมาหา โอโรจิมารุ ที่ หมู่บ้านโอโตะ

 

หลังจากมอบตัวอย่างเลือดและจักระให้กับ โอโรจิมารุ แล้ว ไนโตะ ก็ไม่อยากรออยู่ในห้องทดลองของ โอโรจิมารุ เพื่อรอผล เพราะในห้องนี้มันเต็มไปด้วยสิ่งแปลก ๆ ทุกประเภท

 

อย่างไรก็ตามการวิจัยประเภทนี้ไม่สามารถทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว ต้องใช้เวลาสักครู่

 

เมื่อ ไนโตะ กำลังจะจากไปเขาก็ได้ยินเสียงแว่ว ๆ มาจากข้างนอก

 

“ท่านโอโรจิมารุ มีตัวอย่างการทดลองใหม่มา…”

 

เด็กชายใส่แว่นกำลังพูดขณะที่เดินเข้ามาในห้องและทันทีที่เขาเห็น ไนโตะ คำพูดของเขาก็ขาดหายไปและม่านตาของเขาก็จ้องเขม็ง

 

นี่เป็นห้องทดลองลับของอาจาร์ของเขา มีเพียงเขาและ โอโรจิมารุ เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่ชายผมขาวคนนี้เข้ามาได้ยังไง?!

 

แต่วินาทีต่อมาเขาก็รู้ตัวตนของคนคนนี้

 

ดวงตาของเขาเฉียบคมขึ้นเมื่อเขาระบุตัวตนของ ไนโตะ ได้ ทันใดนั้นเขาก็ดูตกใจ

 

อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของเขารวดเร็วมาก เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็โค้งคำนับให้กับ ไนโตะ ทันที

 

“ท่านไนโตะ!”

 

เขาไม่กล้าที่จะดูหมิ่น ไนโตะ เลยแม้แต่น้อยและคิดว่าควรสงบปากสงบคำไว้เป็นดีที่สุด เห็นได้ชัดว่าในใจของเขารู้ดีว่า ไนโตะ มีพลังมากเกินไปและไม่ใช่คนที่สามารถต่อกรได้ แม้แต่ โอโรจิมารุ ก็ไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับ ไนโตะ ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหน้า!