เฉาหยวนเต๋อเข้าใจว่าที่นี่คืองานจัดแสดงสินค้าวัตถุโบราณ แต่เมื่อเข้ามาเห็นสภาพแบบนี้ เขาก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย และอดไม่ได้ที่จะมองมาทางหยางโป “ ทำไมที่นี่ถึงมีโบราณวัตถุของจริงอยู่น้อยมากเลยล่ะ ? ดูเหมือนว่าข้อมูลที่ฉันได้มาจะผิดพลาดไป มีคนบอกฉันว่าอาจมีวัตถุโบราณของชาติอยู่ก็เป็นได้ ฉันถึงได้ลากนายมาที่นี่ด้วยไง ”
“ ลากผมมาทำไม ? จ่ายเงินงั้นเหรอ ? ” หยางโปพูดพลางยิ้ม
เฉาหยวนเต๋อไม่มีทางเลือกอื่น เขาจ้องหน้าหยางโป ” นายคิดกับฉันให้มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง ในสายตาของนาย ฉันเป็นคนแบบนั้นจริงๆหรือไง ? ”
หยางโปหัวเราะดังลั่น “ ล้อเล่นนะ คุณไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน แต่ใครเป็นคนบอกคุณว่าที่นี่มีของวัตถุโบราณ ? ”
เฉาหยวนเต๋อไม่มีทางเลือกอื่น “ อย่างที่นายรู้พวกเราในฐานะหัวหน้าแผนก ก็มีช่องทางอยู่มากมาย มักจะได้รับจดหมายรายงานจำนวนมากทุกวัน ตอนที่จดหมายฉบับนี้ถูกส่งมา ก็มีบัตรเชิญอยู่ในนั้น วันนี้ฉันไม่ค่อยยุ่งมากเลยมาดูน่ะ ”
หยางโปยักคิ้วขึ้น เขานึกว่าจะมีคนวงในที่รู้รายละเอียดของสำนักโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมอยู่ซะอีก แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายก็ไม่รับรู้อะไรเลยเช่นกัน
หยางโปมองไปรอบๆ ที่นี่มีเพียงห้องโถงนี้เท่านั้นที่ดูคึกคักและแปลกตา
ฮัวชิงหยุนถือจี้หยกและหันไปถามหยางโป ” ทำไมฉันรู้สึกว่าพอสัมผัสจี้หยกชิ้นนี้แล้วรู้สึกสดชื่น รู้สึกว่ามันแตกต่างไปจากจี้หยกชิ้นอื่นอย่างสิ้นเชิงเลยนะ ! ”
หยางโปยิ้ม “ จี้หยกนี้เดิมมันก็ความแตกต่างอยู่แล้ว คุณใส่ไปนานวันเข้าเดี๋ยวก็จะรู้เอง ”
หยางโปมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบโจวซินทั้งสองคน เขานิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ปกติแล้วพวกเขาก็น่าจะเดินเล่นอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือไง ?
แต่จู่ๆหยางโปก็นึกขึ้นมาได้ว่าสภาพแวดล้อมข้างในนั้นแย่มาก ฝูงชนก็พลุกพล่าน เสียงก็ดัง
ถ้าพวกเขาไม่อยากอยู่กันในนี้มันก็เป็นเรื่องปกติ แต่พวกเขาไปที่ไหนกันนะ ?
ดูเหมือนเฉาหยวนเต๋อก็ตระหนักถึงปัญหานี้ด้วยเหมือนกัน ” เพื่อนทั้งสองคนของนายไปไหนแล้ว ? ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้รับบัตรเชิญ ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเขาอาจจะรู้เรื่องราวภายในดีกว่าเราก็ได้ ”
หยางโปพยักหน้า “ พวกเราออกไปดูกันก่อน ผมรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนทิ้งเราไว้ ต้องรู้อะไรมาแน่นอน ? ”
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้องจัดงาน ยามรักษาการสองคนที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูก็เข้ามาขวางพวกเขาไว้ ” สวัสดีครับคุณผู้ชาย ที่นี่ไม่อนุญาตให้เข้าออกตามใจชอบ ! “.ไอลีนโนเวล.
หยางโปและเฉาหยวนเต๋อมองหน้ากัน ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าน่าจะต้องมีสถานที่จัดงานอื่นอยู่แน่นอน ถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พวกเขาถึงได้ห้ามไม่ให้คนข้างในออกไป ก็เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาค้นพบความลับนี้
หยางโปขมวดคิ้วขึ้น ” ผมกับเสวียนจงอยู่ด้วยกัน เขาเพิ่งจะออกไป และโทรมาเรียกให้ผมออกไป ”
ยามรักษาการทั้งสองคนมองหน้ากัน และมีอาการลังเลเล็กน้อย
เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ หยางโปก็ตระหนักได้ทันทีว่าทั้งสองคนนี้ต้องรู้จักเสวียนจงแน่นอน
อีกทั้งยังรู้ถึงสถานะของเขาอีกด้วย !
“ อะไรเนี่ย ? แขกของประธานเสวียนออกไปข้างนอกกันไม่ได้รึไง ? ” หยางโปพึมพำไม่พอใจ พลางก้าวเดินออกไป
ฮัวชิงหยุนเดินตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด เฉาหยวนเต๋อก็เดินตามออกมา ” ดูเหมือนว่าเพื่อนของนายจะมีอิทธิพลมากพอตัวอยู่นะ ! ”
หยางโปเหลือบมองเฉาหยวนเต๋อ ” ผมคิดว่าชุมนุมยุทธภพอาจเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มงานนี้ขึ้นมา ! ”
“ ชุมนุมยุทธภพ ? ” เฉาหยวนเต๋อค่อนข้างที่จะแปลกใจไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยจะเข้าใจความหมายของชื่อนี้มากสักเท่าไหร่
หยางโปโบกมือ ” องค์กรท้องถิ่นหนึ่งในหยูหาง คนอายุมากหน่อยที่เราเจอหน้าเมื่อสักครู่
คือประธานของชุมนุมยุทธภพ ! ”
หยางโปพูดเพียงไม่กี่คำ ก็มายืนอยู่บนทางเดินและมองไปรอบๆ แสงสว่างกระพริบวาบผ่านตาไป ทะลุผ่านกำแพงที่หนาทึบ หยางโปก็เห็นสภาพต่างๆ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ไม่นานก็พบโจวซินทั้งสองคน
“ ไป พวกเราขึ้นไปอีกชั้น ! ” หยางโปกล่าว
เฉาหยวนเต๋อประหลาดใจมาก ไม่รู้ว่าหยางโปที่เพิ่งจะเดินออกมา เอาความมั่นใจในตัวเองมาจากไหน จู่ๆก็รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน หรือเขาติดต่อกับสองคนนั้นแล้ว ?
เฉาหยวนเต๋อส่ายหัว เขาเชื่อในตัวหยางโป คิดว่าหยางโปคงไม่มาเล่นมุกนี้ เขาจึงรีบเดินตามขึ้นไปชั้นบน
เมื่อมาถึงชั้นบนของตึก หยางโปก็หาห้องจัดงานชั้นบนที่พวกเขาเคยอยู่มาก่อนเจออย่างรวดเร็ว เขามองไปที่หมายเลขประตู ก็เห็นว่ามียามรักษาการหลายคนยืนเฝ้าอยู่นอกประตู หยางโปจึงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เฉาหยวนเต๋อกลับไม่ได้ตระหนักถึงปัญหานี้เลย เขายื่นบัตรเชิญให้ ยามรักษาการที่เฝ้าอยู่นอกประตูก็พูดจาอย่างเย็นชา “ ขอโทษด้วยคุณผู้ชาย ที่นี่เป็นงานเลี้ยงส่วนตัว บัตรเชิญของคุณไม่สามารถเข้ามาในนี้ได้ กรุณาออกไปด้วย ”
เฉาหยวนเต๋อตกตะลึง ” แล้วพวกเขาเข้าไปได้ยังไง ? ”
ยามรักษาการส่ายหน้า “ บัตรเชิญต่างกัน ของคุณเป็นสีอะไร ? ของคุณเป็นบัตรเชิญสีแดง
ที่ตรงนี้น่าจะเป็นที่ของบัตรเชิญสีเขียว ดังนั้นคุณจึงเข้าไปไม่ได้ ”
เฉาหยวนเต๋อยังคงคิดที่จะโต้เถียง แต่หยางโปกลับคว้าเขาไว้ จากนั้นหยางโปก็เหลือบมองไปทางยามรักษาการ ยามรักษาการที่นี่ร่างกายแข็งแรงกำยำมาก ถ้าพูดไม่เข้าหูมีแนวโน้มว่าอาจจะลงไม้ลงมือกันได้
หยางโปห้ามเฉาหยวนเต๋อไว้และเอ่ยออกมาว่า “ ถ้าผมเดาไม่ผิด ดูเหมือนที่นี่จะมีวิธีอื่นที่จะเข้าไปอยู่ ”
ยามรักษาการตกตะลึงไปครู่หนึ่ง มองสำรวจหยางโปขึ้นลง และพยักหน้าลงเล็กน้อย
“ คุณผู้ชาย เชิญ ! ”
พอพูดจบ ยามรักษาการก็เชิญหยางโปให้เดินเข้าไป ในขณะที่เฉาหยวนเต๋อกลับถูกกั้นตัวไว้
ยามรักษาการยิ้ม “ ตราบใดที่คุณผ่านการทดสอบไปได้ ก็สามารถเข้าไปได้ ”
“ แล้วถ้าไม่ผ่านล่ะ ? ” หยางโปถาม
ยามรักษาการส่ายหน้า ” ถ้าไม่ผ่านก็เข้าไปไม่ได้ ”
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูงาน หยางโปก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะเขาเห็นว่าบนโต๊ะทางด้านซ้ายมีดาบไม้วางอยู่เล่มหนึ่ง ด้านล่างดาบไม้มีเสาไม้ต้นหนึ่งวางอยู่ !
ห้องจัดงานที่นี่มีขนาดใกล้เคียงกับชั้นล่าง แต่จำนวนคนที่ยืนอยู่ในนั้นน้อยกว่ามาก มีเพียงยี่สิบสามสิบคนเท่านั้น พอหยางโปเดินเข้าไปก็ดึงดูดสายตาของผู้คนส่วนใหญ่ในทันที แต่เมื่อเห็นเขา หยิบดาบไม้ขึ้นมา ทันใดนั้นในงานก็เงียบลง ทุกคนต่างพากันมองมาทางเขา !
โจวซินเห็นร่างของหยางโปก็ตกใจมาก เขาหันไปมองเสวียนจง ” คุณเป็นคนบอกเขาใช่ไหม ? ”
เสวียนจงส่ายหัว “ ผมไม่ได้พูด ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่น่าจะมีบัตรเชิญ ไม่อย่างนั้น เขาจะมาตัดเสาไม้ได้ไง ! ”
โจวซินขมวดคิ้ว แต่กลับไม่ได้พูดอะไรมาก ดาบไม้เป็นดาบไม้ท้อ เสาไม้เป็นเสาไม้หวางฮวาหลี ตามเนื้อไม้หวางฮวาหลี เนื้อแน่นและแข็งแรง ขนาดใช้ขวานตัดยังต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก นับประสาอะไรกับแค่ดาบไม้ท้อ ?
หยางโปหันหน้าไปมองยามรักษาการที่อยู่ข้างๆ “ ตัดให้เป็นรอยเดียวออกมาใช่ไหม ? ”
ยามรักษาการแสยะยิ้ม เผยให้เห็นฟันที่เรียงตัวสวย ” ไม่ใช่ ต้องตัดเป็นรอยลึกออกมาสามข้อนิ้ว ! ”
หยางโปชะงักไปครู่หนึ่ง สามข้อนิ้วมันลึกสามเซนติเมตรแล้ว ดาบเล่มนี้ก็กว้างแค่นี้ เขาลังเลเล็กน้อย หันไปข้างหลัง ประกายแสงกระพริบวาบผ่านตาไป หยางโปเห็นแสงกระพริบจางๆของล้ำค่ามากมายในงาน เขาจึงหันกลับมา และยกดาบไม้ท้อขึ้น !
ทุกคนในงานต่างจับตาดู รายการตัดเสาไม้นี้มีการตัดเดิมพันกันมาช้านาน แต่ไม่มีใครลองมาหลายปีแล้ว เพราะทุกคนต่างอยู่ในแวดวงเดียวกัน ถ้าไม่มีบัตรเชิญก็ไม่มากัน เช่นอย่างหยางโปที่มาเองโดยไม่มีบัตรเชิญ ก็มีกันอยู่น้อยมาก !