บทที่ 421 ลาก่อน แสนรัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 421 ลาก่อน แสนรัก
เส้นหมี่ที่โดนกระสุน สุดท้ายก็เอาเข็มในมือแทงเข้าไปในตัวชายหนุ่มที่เสียการควบคุมนี้

เข็มแทงไป สุดท้ายแสนรักก็ล้มไปที่ไหล่ดลธี

ทั้งสองเห็น จึงสูดหายใจลึกๆ ……

ตอนที่เส้นหมี่มา ที่จริงคิดหลายวิธีเลยที่จะช่วยชายคนนี้ แต่ว่า เธอไม่มีความสามารถ เธอไม่ได้เรียนจิตวิทยา เธอช่วยเขาไม่ได้

ดังนั้นสุดท้ายแล้ว เธอได้แต่เลือกวิธีโง่ๆ แบบนี้

“เอาล่ะ คุณพาเขากลับไป ส่งต่อให้แครอท แล้วเขาก็จะไม่เป็นอะไร”

เธอปราบเขา ในที่สุดก็ไถลลงจากขอบประตูทีละน้อยอย่างหมดเรี่ยวแรง โดยไม่ขมขื่น

ดลธีเห็น ก็รู้สึกผิดอีกครั้ง:“คุณเส้นหมี่ ขอโทษครับ คือเมื่อคืน เอ่อ……ผมบอกประธานว่า คุณอยู่ที่ร้านกาแฟกับคณาธิป”

“อะไรนะ?”

เส้นหมี่เงยหน้าขึ้นมองเขา

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้

ไอ้ระยำนี่ ดังนั้นเขาจึงโมโหขนาดนั้น?

เธอเจ็บปวดจนทนไม่ไหว นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทันใดนั้น น้ำตาแห่งความน้อยใจก็ไหลลงมาทันที

“แสนรัก คุณ……คุณมันระยำ เมื่อคืนนี้ แค่เพราะว่าเรื่องโง่ๆ ถึงกับต้องรังแกฉัน……รังแกได้โหดร้าย ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลย ตอนนี้กลับยัง ……ยังมาช่วยคุณอีก คุณพูดถูกแล้ว ฉันนี่มัน ……ไร้ค่าจริงๆ เลย”

“……”

ดลธีก้มหน้าลง ในที่สุด น้ำตาก็ไหลลงมา

“คุณเส้นหมี่ ผม……”

“เอาล่ะ เลิกไร้สาระได้แล้ว เร็ว……รีบไปเถอะ คนของคณาธิป จะมาถึงแล้ว คุณรีบพาเขาออกไป ไปหา ……หาคุณท่าน เขาจะจัดการทุกอย่างนี้เอง”

เธอยันตัวเองไว้แล้วนั่งอยู่ตรงนั้น สุดท้ายก็เตือน

ดลธีพูดไม่ออกอีกครั้ง สักพัก ในที่สุดเขาก็กัดฟันแล้วดึงเข้ายืนขึ้นมา:“คุณเส้นหมี่ คุณยืนหยัดไว้นะครับ เดี๋ยวผมจะรีบมารับคุณไป”

จากนั้น เขาก็พาเขาออกไปอย่างรวดเร็ว

เส้นหมี่นั่งฉีกยิ้มอันขาวซีดออกมาตรงนั้น……

ยืนหยัด?

ไม่ เธอยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่ใช่เพราะแผลบนตัว แต่เป็นเพราะว่า อีกแป๊บเดียวก็จะมีคนมาพาเธอไป

แสนรัก ถ้าคุณอยากจะลืมจริงๆ งั้นครั้งนี้ ก็ลืมซะเถอะ ต่อไปพวกเรา น่าจะไม่เจอกันอีกแล้ว ……

——

สามวันถัดมา ในที่สุดแสนรักก็ฟื้น

คุณท่านนั่งอยู่ในห้องของเขา พอเห็นว่าเขาฟื้นแล้ว เขาก็เอาน้ำมาให้เขาแก้วหนึ่ง แล้วจับไม้เท้านั่งลงตรงหน้าเตียงเขา

“รู้สึกอย่างไรบ้าง?ดีขึ้นไหม?”

“……ก็ดี”

เสียงแสนรักแหบเล็กน้อย ฟังออกว่า ยังไม่หายดีเท่าไหร่

คุณท่านเห็นแบบนี้ หลังจากครุ่นคิดสักพัก เขาจึงพูดว่า:“เรื่องราวจัดการเรียบร้อยแล้ว ที่งานประชุมสุดยอดนั้น ฉันหาหน่วยงานสื่อหลายแห่งที่มีอำนาจมากวาดล้างเรื่องนี้ ตอนนี้จะไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว แล้วก็……”

ทันใดนั้นเขาก็หยุดลง:“เนติสมรู้ร่วมคิดกับสมมาตรไว้นานแล้ว พ่อคิดไม่ถึงเลยว่า ชีวิตของพ่อนี้ สิ่งที่ทำผิดพลาดมากที่สุด ก็คือผู้หญิงคนนี้”

“งั้นหรือ?”

แสนรักตอบเบาๆ

คุณท่านพยักหน้า:“ตอนนั้นที่ฉันรู้ว่าตระกูลแม่แกมีโรคพันธุกรรมทางจิต เคยคิดจะหย่ากับเธอครั้งหนึ่งจริงๆ และก็รู้จักเนติตอนนั้น แต่ต่อมาพอแกเกิด ฉันก็ตัดขาดกับเธอ ฉันบอกกับเธออย่างชัดเจนว่า ฉันแต่งงานกับเธอไม่ได้อีก ให้เธอกลับไปใช้ชีวิตให้ดี”

“แต่ตอนนั้น เธอมีลูกคนนั้นแล้ว ไม่ใช่หรือ?”

“ใช่ ดังนั้นฉันเลยให้เธอเอาออก และยังให้เงินก้อนใหญ่แก่เธอ เธอยังไม่แต่งงาน มีลูกก่อนแต่ง ฉันไม่แต่งงานกับเธอ งั้นต่อไปเธอจะแต่งงานกับใครได้อีก?”

คุณท่านพูดเรื่องที่ตัวเองเคยทำในตอนนั้นออกมา

ในฐานะลูกผู้ชายคนหนึ่ง มีชู้กับผู้หญิงคนอื่นในชีวิตแต่งงาน ช่างไม่สมควรจริงๆ แต่ต่อมา เขาจัดการเรื่องนี้ ถือว่าทำได้ดียังสามารถทำอะไรกับมันได้

ไม่ถ่วงคนอื่น เอาเด็กอ่อน

แต่ไม่รู้ว่าทำไม พอถึงเนติ กลับกลายเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็ก จะฆ่าเด็กคนนี้ให้ตาย และเพื่อสิ่งนี้แล้ว ยังให้ญาณีปิดตัวตนของเด็กคนนี้ด้วย

ในที่สุดแสนรักก็ไม่พูด

ในหัว นึกถึงตอนที่เขาสิบเอ็ดปีจริงๆ ค่ำคืนที่นองเลือด ตอนที่แม่เขามาหาเขา สุดท้ายก็ทำให้เธอตายในมือเขา

เธอพูดว่า:“รัก คนรักของพ่อลูก ที่จริงแล้วไม่ได้ทำแท้งเลย เธอคลอดลูกออกมา เป็นเด็กที่แข็งแรงดี รัก ถ้าลูกยังไม่ดีขึ้นอีก ต่อไปเขามาแย่งทุกอย่างของลูกไปจะทำไงล่ะ?”

ไม่มีใครรู้ว่าประโยคนี้ มีความหมายอย่างไรกับเด็กที่จิตใจไม่คงที่

จากถูกคนพบเห็นสิ่งผิดปกติ จนถูกส่งมาขังไว้นี่

แสนรักในตอนนั้น ทุกวันที่เจอเรื่องทุกข์ ก็จะคิดว่าตัวเองจะโดนครอบครัวนี้ทิ้ง ไม่ต้องการเขาหรือเปล่า?

ส่วนแม่ของเขา วันนั้นไปดูเขา กลับพูดแบบนี้กับเขา

จากนั้น เขาก็บ้าคลั่งขึ้นมา!

เขาหวังว่าเธอจะหยุดลง ไม่พูดอีก ดังนั้น เศษแก้วที่เขาถืออยู่นั้น จึงเอาไปปาดคอเธอที่ยังพูดได้

แสนรักหลับตาคู่นั้นที่อ่อนล้าลง……

“วางใจเถอะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้อย่างดี ถึงเขาจะเป็นลูกชาย ……ของฉันด้วย แต่ตระกูลหิรัญชา มีได้แค่แกคนเดียว เขากลับมาเคารพบรรพบุรุษได้ แต่จะไม่ได้อะไรไปเลย”

ประโยคสุดท้ายของคุณท่าน พูดอย่างไม่ไว้หน้า