ตอนที่ 1719

Monster Paradise

ตอนที่ 1719 การผสานของดาบหนึ่ง

 

การดําเนินงานทั้งหมดกําลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าในด้านของเผ่าเนฟิลิก

 

ไม่มีใครรู้ว่าท่านหญิงศักดิ์สิทธิ์ที่เข้าร่วมงานเลี้ยงบ่อยครั้งในช่วงนี้ไม่ใช่ตัวไคลี่เอง แต่เป็นหนึ่งในร่างแยกของเจ้าแดดแง

 

ในขณะเดียวกัน ร่างแยกของเจ้าแดงที่ปลอมตัวเป็นไคลีก็มีลูกน้องด้วย-คีน่า ทายาทของไคลี

 

คีน่าคือทายาที่ไคลี่พูดถึงกับหลินฮวง ชนชั้นนางคือถึงจิตวิญญาณบริสุทธิ์ ส่วนระดับพลังก็คือเทพสวรรค์ขั้นหก

 

ภายใต้การจัดการของเจ้าแดง ไม่เพียงแต่คืน่าจะเข้าร่วมเผ่าเนฟิลิกได้สําเร็จ นางยังถูกมองว่าเป็นน้องสาวของไคลี่แล้ว

 

นางได้กลายเป็นท่านหญิงของเผ่าที่มีสถานะเป็นรองแค่ไคลี่

 

พอท่านหญิงไคลี่ของเผ่าจัดการ ไม่ช้าเผ่าเนฟิลิกก็ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเชิงลึกกับพันธมิตรดาบ

 

ทุกอย่างเป็นไปได้ดีกว่าที่เจ้าแดงคาดไว้

 

ในขณะเดียวกัน ไคลี่ก็กลายเป็นรังไหมยักษ์ นางเริ่มต้นการวิวัฒนาการ

 

เจ้าแดงคอยยืนเฝ้าตลอด

 

คนที่พันธมิตรดาบไม่อาจอยู่เฉยได้เลย

 

การประเมินสําหรับสมาชิกใหม่กาลังด่าเนิน

 

แม้หลินฮวงจะปลดปล่อยตัวเองออกมาได้แล้ว เขาก็พักผ่อนได้ไม่ถึงสองวันก่อนจะต้องหมกมุ่นกับงานของพันธมิตรดาบอีกครั้ง

 

เหตุผลเพราะการปรึกษาเรื่องความร่วมมือกับเผ่าเนฟิลิกและเคียวแห่งความตาย

 

เนื่องจากการเจรจาดังกล่าว ดาบหนึ่งจึงให้ดาบสองมารับช่วงการประเมินสมาชิกใหม่ทั้งหมด

 

แม้ดาบสองจะไม่เต็มใจ เขาก็ได้แค่ขมวดคิ้ว

 

เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ หลินฮวงกับดาบหนึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในการประชุมทางวิดีโอ

 

ทางฝั่งเดียวแห่งความตายไปได้ดี แต่ทว่าเผ่าเนฟิลิกเพิ่งลงนามหลังผ่านการแก้ไขกว่าสิบฉบับ

 

การเจรจากับเผ่าเนฟิลิกยากมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าแดงที่ช่วยแก้ไขข้อกําหนดและไกล่เกลี่ยสิ่งต่างๆด้วยสถานะของไคลี่ มันอาจไม่ได้รับการลงนามแม้จะผ่านไปครึ่งเดือน

 

นอกจากความร่วมมือนี้แล้ว ความร่วมมือที่พันธมิตรดาบมีกับองค์กรระดับหกและเจ็ดอื่นก็กําลังค่อยๆพัฒนา

 

พวกเขามีข้อมูลและช่องทางค้าขายมากขึ้น

 

เวลาล่วงเลยไปกว่าเดือน

 

พันธมิตรดาบได้ก่อตั้งในแดนเทพมาได้สามเดือนแล้วและก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง

 

พวกเขามีสมาชิกเกินล้าน ท่ามกลางพวกเขามีเทพสวรรค์กว่าสี่พัน

 

พวกเขายังมีใบสมัครทุกวัน แต่จํานวนได้ลดลงมาเหลือแค่หมื่นกว่าต่อวัน

 

เนื่องจากหยางหลิงได้สร้างโปรแกรมคัดกรองอัจฉริยะแล้ว ใบสมัครที่ดาบหนึ่งได้รับจึงลดลงไม่ถึงหนึ่งในสิบของใบสมัครที่ส่งมา มันลดภาระงานเขาไปได้มาก

 

หลินซินกับคนอื่นก็ได้รับการละเว้นจากหน้าที่นี้ด้วย

 

แม้จะเป็นเช่นนั้น พวกนางก็ยังมาระบายความผิดหวังกับหลินฮวง

 

“พี่ ข้ารู้สึกเหมือนจะอ้วกทุกคนที่เห็นอีเมลล์เลย..”หลินซินหน้าซีด

 

“อย่าขอให้ข้าทําอะไรแบบนี้อีก”หลินซวนเองก็เช่นกัน

 

“อย่านับข้าด้วย”เฉินเตาดูเย็นชา

 

“เจ้าจะให้ข้าไปสู่ก็ได้ แต่งานพวกนี้ไม่เหมาะกับข้า”เสี่ยวโม่พูด

 

“แค่แสรั้งทําเป็นคิดว่าข้าอ่านหนังสือไม่ออกแล้วกัน”มันเป็นหวงอู่จอที่พูด

 

หลินฮวงใช้เวลาปลอบพวกเขาสักพักและสัญญาว่าจะไม่มอบงานแบบนี้ให้อีก จากนั้นก็ส่งพวกเขากลับไป เขตแดนเทพในตัวเขาเพื่อบดขยี้เผ่าแมลงกันต่อ

 

ในขณะเดียวกัน มอนสเตอร์อัญเชิญอย่างไปกับที่เหลือก็เข้าคิวอีกครั้งเพื่อเข้าอาณาจักรเสมือนไปบ่มเพาะทันทีที่ได้รับการยกเว้นจากงานธุรการ

 

พวกมันทั้งหมดไม่เต็มใจจะบ่มเพาะช้ากว่านี้อีกสักวินาทีเดียว

 

นอกจากพวกที่ยังทําภารกิจไม่เสรจ หลินฮวงให้ทาสดาบที่เหลือเข้าร่วมกลุ่มเทพสวรรค์

 

ทาสดาบแต่ละคนหลังดาบ 38 คือหัวหน้ากลุ่มที่นําหน่วยเทพสวรรค์ 9-10 คน

 

ดาบ 13-37 คือผู้บัญชาการ

 

แต่ละคนจะนํากลุ่มเทพสวรรค์สิบกลุ่ม

 

ดาบ 11 -12 คือผู้บัญชาการใหญ่

 

ตอนแรก สมาชิกใหม่บางคนจากกลุ่มเทพสวรรค์ไม่พอใจกับการจัดการนี้ พวกเขาอยากท้าทายหัวหน้ากลุ่มแต่ก็โดนปราบง่ายๆ

 

เหนือสิ่งอื่นใด ทาสดาบคือเทพสวรรค์ขั้นเก้ากันแล้ว ไม่ใช่แค่นั้น ผู้บ่มเพาะดาบเป็นเด่นในการโจมตี

 

ต่อให้สู้กันคนที่มีระดับพลังเดียวกัน มันก็ยากที่พวกเขาจะเจอคู่ต่อสู้ที่คู่ควร

 

ยิ่งไปกว่านั้น เทพสวรรค์บางคนเหล่านี้ที่เข้าร่วมพันธมิตรดาบ ก็ยังมีพังแค่ขั้นต่ําถึงกลาง มีหนึ่งในสิบเท่านั้นที่เป็นเทพสวรรค์ขั้นสูง

 

มีแค่คนเดียวที่เป็นขั้นเก้า

 

คนคนนี้เป็นผู้บ่มเพาะดาบไร้องค์กรมาก่อน มันแทบถึงขีดจํากัดของเขาแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะมีระดับพลังเดียวกัน ความสาสมารถของเขาก็เทียบกับทาสดาบที่บ่มเพาะมาอย่างดีไม่ได้

 

หลังเริ่มท้าทาย เขาก็แพ้ดาบ 38 ภายในนาที่เดียว

 

พอเห็นว่าเขาพ่ายแพ้โดยตรง พวกที่อยากทําหัวหน้ากลุ่มก็ล้มเลิกแผนทันที

 

หลินฮวงไม่ได้มอบหมายดาบ1-10ให้คุมกลุ่มเทพสวรรค์ เขากลับส่งมอบมรดกเต๋ดาบที่เขาเตรียมไว้อย่างดีให้กับทั้งสิบ หลังจากนั้น เขาก็ส่งทั้งสิบไปวังจอมเทพ เร่งกระแสเวลาให้เร็วขึ้นหมื่นเท่า

 

ต้องรู้ว่าหลินฮวงได้รวมผนึกดาบมากกว่าสองร้อยผนึกแล้ว

 

นี้หมายความว่าเขาสามารถสร้างวิถีของตนในวิถีบ่มเพาะเต่าดาบกว่าสองร้อยวิถีได้

 

เต่ดาบที่เขาบ่มเพาะรวมถึงมรดกของทาสดาบและจอมเทพ เขารู้ดีถึงความสามารถของทาสดาบแต่ละคนและเส้นทางไหนที่พวกเขาเหมาะแก่การบ่มเพาะ

 

ตั้งแต่ดาบหนึ่งกับที่เหลือได้รับมรดก พวกเขาก็หมกมุ่นกับมันอย่างรวดเร็ว เหมือนฟองน้ําชุบน้ํา พวกเขาดูดซับสารอาหารในมรดกอย่างบ้าคลั่ง

 

ในมรดกที่หลินฮวงให้ เขาเลือกเส้นทางบ่มเพาะอย่างน้อยสามให้แต่ละคน

 

พวกเขาสามารถสร้างผนึกดาบเองได้ไม่ว่าจะเลือกทางไหนและเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ

 

ท่ามกลางพวกเขา ดาบหนึ่งคือคนที่มีความเข้าใจในเต๋ดาบมากสุด และเขาได้รับเส้นทางที่แตกต่างถึง 12 เส้นทางในการสร้างผนึกดาบจากหลินฮวง

 

คนที่ได้รับมรดกมากเป็นอันดับสองคือดาบแปด นางมีพรสวรรค์และศักยภาพมากสุดในบรรดาทาสดาบทั้งหมด หลินฮวงเลือกเก้าเส้นทางให้นางเพื่อเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ

 

เด็กสาวคนนี้มีจิตใจบริสุทธิ์สุดในบรรดาทาสดาบทั้งหมด สําหรับหลินฮวง นางอาจก้าวแซงหน้าดาบหนึ่งได้ด้วยซ้ําในเส้นทางของเดําดาบ

 

มันไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ แต่เขาแค่ดูแลตามสถานการณ์จริงของทุกคน

 

ตัวอย่างเช่น เต๋ดาบที่ดาบสิบบ่มเพาะนั้นมีได้มากสุดแค่สามเส้นทางเท่านั้นเพื่อสร้างผนึกดาบถ้าเขาจะก้าวเดินต่อ เพื่อรวมผนึกดาบเพิ่ม เขาต้องสร้างรากฐานตัวเองใหม่ และบ่มเพาะวิชาดาบให้มากขึ้น ดังนั้น มรดก ที่หลินฮวงมอบให้เขาจึงมีวิธีรวมผนึกดาบแค่สามผนึกเท่านั้น

 

โดยธรรมชาติ ทาสดาบรู้ว่ามรดกแต่ละอันที่พวกเขาได้รับต่างกัน แต่ทว่า พวกเขาก็ไม่คิดว่าความแตกต่าง จะมากขนาดนี้

 

หลินฮวงต้องใช้ความพยายามเพื่อแจ้งพวกเขาอย่าแบ่งปันมรดกที่พวกเขาได้รับกัน เหตุผลเพราะแต่ละคน มีข้อกําหนดต่างกัน มรดกที่เขาจัดให้ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละคนแล้ว การแบ่งปันกันจะทําให้พวกเขารั้งการบ่มเพาะกันเอง

 

ภายใต้กระแสเวลาเร่งหมื่นเท่า ภายในครึ่งวัน หลินฮวงก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนของดาบหนึ่ง

 

โดยไม่ลังเล เขาย้ายดาบหนึ่งจากวังจอมเทพไปเขตดาวร้างในเขตแดนเทพเขา

 

เขาไม่ได้ย้ายเขามาแดนเทพเพราะการผสานของจ้าวเทวะจะสร้างความวุ่นวายใหญ่โต

 

มันยังไม่เป็นไรถ้ามีแค่หนึ่งหรือสองคนที่ทําการผสาน แต่ถ้าสิบคนติดกัน ผู้คนจะสังเกตเห็นความผิดปกติ แน่

 

การที่ดาบหนึ่งเป็นคนแรกที่ทําการผสานเป็นไปตามที่หลินฮวงคาดไว้

 

ในความเป็นจริง ดาบหนึ่งได้อยู่ในสภาพที่เท่าเขาข้างหนึ่งก้าวไปในการผสานตลอดเวลา เพียงแต่เขาไม่อาจหาทิศทางที่แน่นอนได้ ดังนั้น เขาจึงติดอยู่ในสภาพนั้นมาเป็นเวลานาน

 

ตอนเขาได้รับมรดกของหลินฮวง เขาก็เลือกเส้นทางหนึ่งที่เขามั่นใจสุดจากบรรดา 12 เส้นทางที่หลินฮวงมอบให้ และก็เริ่มซึมซับข้อมูลอย่างบ้าคลั่ง

 

ภายในสิบปี เขาก็ย่อยมรดกของเส้นทางที่เลือกและเริ่มทําการผสาน..