บทที่ 330 ไม่อนุญาตให้แจ้งตำรวจ

รักหวานอมเปรี้ยว

เขาอุตส่าห์คิดว่า เธอต้องการเขาแล้ว คิดไม่ถึงว่าเธอจะโอนค่าอาหารส่งมาให้

เธอไม่อยากจะเป็นหนี้เขาขนาดนี้เลยเหรอ ค่าอาหารไม่กี่สิบบาทเธอก็ยังต้องแยกแยะชัดเจนแบบนี้

เปปเปอร์อ่อนเพลียเล็กน้อย นวดขมับ เก็บโทรศัพท์มือถือ

ค่าอาหารเขาไม่รับ คิดเสียว่ามองไม่เห็น รอจนยี่สิบสี่ชั่วโมงให้หลัง ก็จะโอนกลับไปอัตโนมัติ

“ประธานเปปเปอร์ครับ กำหนดการต่อไป……” เสียงผู้ช่วยเหมันต์ดังขึ้นมาด้านหลัง

เปปเปอร์ยกมือขึ้นมาตัดบทเขา “อันไหนไม่สำคัญก็ยกเลิกไป ที่สำคัญก็เลื่อนออกไปก่อน”

เขารู้ว่าทำไมเปปเปอร์ถึงทำแบบนี้ ผู้ช่วยเหมันต์ปิดตารางงาน “เข้าใจครับ ต่อไปคุณจะไปที่โรงพยาบาลเหรอครับ”

เปปเปอร์ส่งเสียงอืม “เตรียมรถ”

“ครับ” ผู้ช่วยเหมันต์ดันแว่นตา

ตอนมาถึงโรงพยาบาล ท้องฟ้าก็มืดแล้ว และยังมีฝนตกปรอยๆด้วย

ผู้ช่วยเหมันต์จอดรถเรียบร้อยแล้ว เปปเปอร์เปิดประตูรถ ดึงร่มคันหนึ่งออกมาจากในรถแล้วลงจากรถ “นายเลิกงานได้แล้ว พรุ่งนี้ตอนเช้ามารับผมด้วย”

คืนนี้ เขาก็จะนอนที่โรงพยาบาล

ผู้ช่วยเหมันต์ค่อยๆพยักหน้า “รับทราบครับประธานเปปเปอร์”

เปปเปอร์กางร่ม เดินไปทางอาคารผู้ป่วยในของโรงพยาบาล

มาถึงด้านนอกห้องพักของมายมิ้นท์ พยาบาลที่มาตรวจเช็คตามห้องเพิ่งออกมาจากห้องพอดีมองเห็นเปปเปอร์ ก็ค่อยๆโค้งคำนับทักทายว่า “คุณเปปเปอร์มาแล้วเหรอคะ”

เปปเปอร์ถามกลับว่า “เธอหลับแล้วเหรอคะ”

พยาบาลรู้ว่าเขาถามถึงใคร ส่ายหน้าแล้วตอบว่า “คุณมายมิ้นท์ยังไม่นอนค่ะ เมื่อกี้เพิ่งทานยาแก้อักเสบไปค่ะ”

“ผมเข้าใจแล้ว คุณไปทำงานเถอะครับ” เปปเปอร์โบกมือ

พยาบาลร่ำลาเดินจากไป

เปปเปอร์ยืนอยู่หน้าประตู เคาะประตูห้อง

ภายในห้อง มายมิ้นท์มองดูผลตรวจ ยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นมาก็ตอบว่า “เชิญเข้ามาค่ะ”

ได้ยินเสียงเธอ เปปเปอร์หมุนลูกบิดประตู เปิดเข้าไป “กำลังดูอะไรอยู่จริงจังขนาดนี้”

มายมิ้นท์สีหน้าตื่นตกใจ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมา ไม่ตอบแต่ย้อนถามว่า “คุณมาได้ยังไง”

ฟังออกถึงความไม่ยินดีต้อนรับในน้ำเสียงเธอ เปปเปอร์สีหน้าหมองลงเล็กน้อยเพื่อ เอาร่มใส่ในกล่องที่ประตู “ผมบอกแล้ว คืนนี้จะมาหาคุณ”

มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว

เธอนึกออกแล้ว ตอนกลางวันที่เขาจะไป ได้บอกไว้อย่างนั้นจริงๆ

แค่ว่าตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจเท่านั้น

มายมิ้นท์ก้มหน้าลงเหมือนเดิม มองผลตรวจในมือใหม่อีกครั้ง “ใช่เหรอ ตอนนี้คุณก็มาแล้ว กลับไปได้แล้ว”

เธอแสดงท่าทางไม่รับแขก

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบาง “มายมิ้นท์ คุณอย่าเสียดสีประชดประชันผมแบบนี้ได้มั้ย”

เธอในตอนนี้ กลับไปเป็นเหมือนตอนที่เพิ่งหย่ากัน เธอที่เย็นชา ประชดประชัน ทั้งยังทำท่าทางแปลกประหลาด

“เสียดสีประชดประชัน” มายมิ้นท์ยิ้ม ทิ้งผลตรวจในมือทันที

ผลตรวจตกลงจากข้างเตียงไปอยู่ที่พื้น เธอไม่ได้มอง ได้แต่มองเปปเปอร์อย่างเยือกเย็น “แล้วคุณอยากให้ฉันทำยังไงกับคุณ อ่อนโยนกับคุณ หรือว่าทำตัวเป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใสกับคุณ ช่างน่าขำจริงๆ คุณทำให้ฉันกลายเป็นชู้รักของคุณในขณะที่คุณกำลังจะแต่งงานกับส้มเปรี้ยว แล้วยังปิดบังฉันอยู่จนถึงตอนนี้ คุณมีสิทธิ์อะไรให้ฉันต้องทำตัวเป็นมิตรพูดจาอ่อนหวานกับคุณ คุณอยากให้คนอื่นเขาทำตัวดีๆกับคุณ งั้นคุณก็ไปคนอื่นเถอะ ฉันคิดว่าคงมีคนมากมายที่เขาจะยอมทำแบบนี้กับคุณ”

ตอนนี้เธอนึกถึงคืนวันนั้นเมื่อสามเดือนก่อนก็รู้สึกขยะแขยงและเสียใจภายหลัง เสียใจที่ทำไมตัวเองต้องดื่มจนเมา เมาแล้วยังนิสัยเสีย วิ่งไปให้ท่าผู้ชาย

ให้ท่าก็ให้ท่า แต่ทำไมยังโชคร้าย ดันไปให้ท่าเปปเปอร์ จากนั้นก็กลายเป็นชู้รักของเปปเปอร์

ตอนนั้น การหมั้นหมายของเปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวก็ต้องล้มเลิกไม่สามารถจัดได้สำเร็จเพราะเธอ เลื่อนออกไปถึงตอนตรุษจีน แต่การหมั้นหมายของเปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวกลับถูกกำหนดไว้แล้ว พวกเขาก็เป็นว่าที่สามีภรรยากันแล้วจริงๆ

แต่เธอกลับมีความสัมพันธ์กับเปปเปอร์ หลังจากที่พวกเขาหมั้นหมายกันได้ไม่นาน ก็กลายเป็นมือที่สามระหว่างเปปเปอร์และส้มเปรี้ยวไม่ใช่หรือ!

สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดในชีวิตก็คือมือที่สาม แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เพราะการเมาเหล้า จะทำให้เธอกลายเป็นมือที่สามไปโดยไม่รู้ตัวหนึ่งครั้ง ……ไม่สิสองครั้ง

ครั้งแรกคือเมื่อหกปีก่อน เธอไม่รู้ว่าตอนนั้นเปปเปอร์และส้มเปรี้ยวคบหากันแล้ว หลังจากที่ส้มเปรี้ยวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอก็พูดเรื่องแต่งงานกับเปปเปอร์

ครั้งที่สอง ก็คือคืนนั้นเมื่อสามเดือนก่อน

สองครั้งนี้ พูดได้ว่า เปปเปอร์ล้วนเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ ครั้งแรกตอนที่เธอเอ่ยเรื่องแต่งงานกับเขา เขาไม่บอกเธอ เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับส้มเปรี้ยว และก็ไม่ปฏิเสธการขอแต่งงานของเธอ

ครั้งที่สอง เห็นชัดว่าเขารู้ดีว่าเธอเมา คนที่เธอให้ท่าก็ไม่ใช่เขา แต่เขาก็ไม่ผลักไสเธอ กลับพาเธอเข้าไปในห้อง

ดังนั้นเธอจึงมีความผิด แต่ความผิดของเปปเปอร์ ไม่ได้มากกว่าหรอกเหรอ!

มายมิ้นท์หัวเราะเยาะเหล่มองเปปเปอร์

เห็นความขยะแขยงในแววตาเธอ เปปเปอร์หลุบเปลือกตาลงอย่างรู้ตัวว่าตัวเองผิด ในใจไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจ แต่เป็นความสำนึกผิด

เขากำลังเริ่มคิด คืนนั้นเมื่อสามเดือนก่อน เขาน่าจะมีสติมากกว่านี้หน่อย

ถ้าเป็นแบบนี้ เธอก็จะไม่ตั้งท้อง แล้วก็จะไม่ถูกวางยาพิษ ในตอนแรกความสัมพันธ์พวกเขาก็ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่เหมือนในตอนนี้ กลับมาเป็นเย็นชาใส่กันอีกครั้ง

เห็นเปปเปอร์ไม่พูดไม่จา มายมิ้นท์เบะปากอย่างไม่สนใจ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเล่น

ห้องพักผู้ป่วยที่กว้างขวางเปลี่ยนเป็นเงียบสงบอย่างยิ่ง มีเพียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ส่งเสียงติ๊ดๆ

ผ่านไปพักหนึ่ง เปปเปอร์ก้าวขาสองข้างไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ก้มตัวลงไปเก็บผลตรวจที่พื้นขึ้นมา

มองเห็นเนื้อหาในผลตรวจ เขาก็ค่อยๆหรี่ตามอง “รายงานผลการวิเคราะห์สารพิษ เป็นผลการวิเคราะห์สารพิษขที่คุณถูกวางยาเหรอ ”

มายมิ้นท์เหลือบมองเขา ถือว่าเป็นการยอมรับ

เปปเปอร์กำผลตรวจในมือแน่น “ของแบบนี้อย่าไปดูเลย ดูแล้วมีแต่จะทำให้อารมณ์เสีย ผมให้คนไปสืบหาตัวคนที่วางยาแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะหาเจอ”

“ไม่ต้องสืบแล้ว ฉันรู้แล้วว่าคนที่วางยาคือใคร” มายมิ้นท์เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ พลางเอ่ยเบาๆ

เปปเปอร์ตกใจ “คุณรู้แล้วเหรอ คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

มายมิ้นท์ไม่สนใจเขา

เปปเปอร์รู้ว่าเธอจงใจไม่บอกเขา คิ้วขมวดเข้าหากัน “ใครเป็นคนทำ ลาเต้ ทามทอย หรือว่าราเม็ง”

ทุกครั้งที่เขาเอ่ยชื่อ ก็จะสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสีหน้าเธอ

ตอนที่พูดชื่อของลาเต้กับทามทอย สีหน้าเธอไม่เปลี่ยน จนกระทั่งพูดชื่อของราเม็ง แววตาเธอกะพริบวูวาบเล็กน้อย

แม้ว่าจะกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว แต่เปปเปอร์ก็จับสังเกตได้ หรี่ตา พูดเสียงขรึม “คือราเม็งถูกมั้ย!”

มายมิ้นท์ตัวแข็งทื่อ มือที่จับโทรศัพท์มือถือ ก็จับแน่นขึ้น

ถูกเขาเดาออกแล้ว!

เปปเปอร์กำหมัดแน่น “มายมิ้นท์ นี่คือน้องชายที่รักของคุณ น้องชายที่รักวางยาคุณ!”

มายมิ้นท์เม้มปาก “ถูกต้อง ราเม็งเป็นคนวางยา แต่……”

พูดยังไม่จบ เธอก็มองเห็นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดเลข110

มายมิ้นท์รีบตะโกนว่า “เปปเปอร์คุณทำอะไร!”

“แจ้งตำรวจ!” เปปเปอร์มองเธอด้วยสีหน้าเย็นเยือก “ผมไม่มีทางปล่อยคนที่วางยาพิษคุณ!”

ยิ่งไปกว่านั้น คนผู้นี้ได้ฆ่าลูกของเขาไปแล้ว!

ได้ยินว่าเปปเปอร์พูดว่าแจ้งตำรวจ สีหน้ามายมิ้นท์ก็เปลี่ยนไปทันที ฝืนทนความเจ็บปวดที่ท้องน้อยลุกขึ้นมานั่งบนเตียง “ไม่อนุญาตให้แจ้งตำรวจ เปปเปอร์ ฉันไม่ให้คุณแจ้งความ!”

เธอจับแขนเขา ท่าทางมุ่งมั่นแน่วแน่อย่างยิ่ง

เปปเปอร์จับโทรศัพท์มือถือไว้แน่น “มายมิ้นท์ คุณรู้มั้ยว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ คุณกำลังปกป้องอาชญากร!”

มายมิ้นท์หัวเราะเยาะ “พูดอย่างกับว่าคุณไม่เคยปกป้องคนผิดอย่างนั้น ทุกอย่างที่ส้มเปรี้ยวทำ ชั่วร้ายเลวทรามยิ่งกว่าที่ราเม็งทำมากนัก แล้วที่คุณปกป้องเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าล่ะ ตอนนี้มาว่าฉัน คุณไม่คิดว่าน่าขำเกินไปหน่อยเหรอ”

“……”ลำคอเปปเปอร์ตีบตัน พูดไม่ออกไปชั่วขณะ

เพราะว่า ที่เธอพูดล้วนเป็นความจริง

แม้ตอนนั้นจะทำเรื่องพวกนั้น แต่ไม่ได้ทำออกมาจากความคิดและจิตใต้สำนึกที่แท้จริงของเขา ทว่าเขาก็ทำจริงๆ