CLS ตอนที่ 502: ผนึก!
ด้วยฉายาผู้ส่งวิญญาณ จึงทำให้การโจมตีของวิญญาณร้ายไม่เป็นผล หากว่าถูกพลังนั้นโจมตีเข้ามา เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ยังไงก็ตาม วิญญาณร้ายถือเป็นหนึ่งในสิ่งชั่วร้าย จึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปใกล้เขาได้ จึงได้ถูกพลังของตนสะท้อนกลับไปทางเดิม!
ฉายาผู้ส่งวิญญาณนี้ เพียงแต่ยับยั้งไม่ให้สิ่งชั่วร้าย เข้ามาใกล้ร่างกายเขาเท่านั้น เป็นการสะท้อนสิ่งชั่วร้ายออกไป ดังนั้น ยิ่งวิญญาณร้ายโจมตีเข้ามารุนแรงเท่าไหร่ ก็จะถูกสะท้อนกลับด้วยความแรงเท่านั้น
ตอนนี้เมื่ออยู่ๆ วิญญาณร้ายก็ระเบิดพลังสังหารออกมา จึงทำให้ถูกพลังสังหารนั้นของตนสะท้อนกลับจนได้รับบาดเจ็บหนัก แทบต้องหาหลุมมากลบฝัง
“นี่ นี่มันพลังอะไรกัน ทำไมพลังข้า พลังของข้า…..” วิญญาณร้ายกรีดร้องโหยหวน เขาบาดเจ็บเพราะพลังของตัวเอง ทันใดนั้น พลังก็ได้อ่อนแอลงขั้นใหญ่ ซึ่งไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้เขามีพลังระดับราชาเซียน แต่ตอนนี้กลับลดลงไปที่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ หลังจากซ่อมแซมค่ายกล พร้อมกับสภาพถูกพลังสะท้อนกลับ จึงทำให้พลังของเขาลดลงอย่างมหาศาล
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ผู้อาวุโสใหญ่กับพวกมีสีหน้าตกตะลึง พวกเขาไม่คิดจริงๆ ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ ทั้งหมดนี้มันแปลกมากจริงๆ
พวกเขาคิดว่าวิญญาณจะฝืนเข้าไปในร่างของอี้เทียนหยุนได้สำเร็จ จากนั้นก็ทำการควบคุมร่างของเขา หรือไม่ก็ฝืนฝังวิญญาณอยู่ในร่างของเขาไม่ยอมออกมา เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้อี้เทียนหยุนจะไม่ถูกชิงร่างไป แต่อย่างน้อยก็ต้องได้รับบาดเจ็บทางวิญญาณจากการโจมตีนี้
และเมื่อวิญญาณได้รับบาดเจ็บ เขาก็จะไม่สามารถซ่อมแซมค่ายกลได้ต่อ ทำให้ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผนึกได้
แต่ใครจะรู้ว่าวิญญาณร้ายที่ระเบิดความแข็งแกร่งออกมาอยู่ๆ จะถูกสะท้อนกลับมา ทำให้พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตกลงแล้ววิญญาณร้ายทำได้สำเร็จหรือไม่สำเร็จ?
“เร็ว เร็วเข้า…. รีบผนึกเร็ว!” ในตอนนี้เอง ผู้อาวุโสใหญ่ก็พลันได้สติ พร้อมกับรีบตะโกนออกไป
หลังจากวิญญาณร้ายอยู่ในสภาพอ่อนแอ ก็จำเป็นต้องรีบผนึก ซึ่งคราวนี้ไม่จำเป็นต้องใช้แก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์เพื่อสะกดอีกฝ่ายไว้แต่อย่างใด เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการประหยัดทรัพยากรไปได้มาก
อี้เทียนหยุนพยักหน้า เขาไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สามารถซ่อมแซมผนึกนี้ได้อย่างแน่นอน
เขาเดินไปที่ใต้รูปปั้นนี้ ตรงนี้มีมหาค่ายกลขนาดใหญ่อยู่ ตอนนี้ค่ายกลแทบถูกทำลายจนหมดสิ้น หากช้ากว่านี้สักหน่อยล่ะก็ มันจะต้องถูกทำลายอย่างสมบูรณ์อย่างแน่นอน
เขาก็ไม่พูดมาก พร้อมกับเริ่มทำการซ่อมแซมในทันที ด้วยการเปิดใช้งานโหมดคลั่งหมวดสลักอาคม ทำให้ความเร็วในการซ่อมแซมของเขาเร็วจนน่าตระหนกอย่างไม่ต้องสงสัย
ขนาดมองด้วยตาเปล่ายังเห็นว่าค่ายกลได้ถูกซ่อมแซมคืนมาอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะดูสักกี่ครั้ง ก็น่าตกใจไม่ต่างกัน หากว่ามีปรมาจารย์สลักอาคมคนอื่นอยู่ข้างๆ ล่ะก็ พวกเขาจะต้องอับอายเพราะความเหนือชั้นนี้อย่างแน่นอน
หากว่านี่เป็นแค่การซ่อมแซมค่ายกลระดับอาจารย์ หรือ ค่ายกลชั้น 5 การที่จะให้แสดงความเร็วแบบนี้ออกมา สำหรับพวกเขาย่อมไม่มีปัญหา เพราะปรมาจารย์สลักค่ายกลส่วนใหญ่ล้วนแต่ทำได้ แต่นี่เป็นการซ่อมแซมค่ายกลระดับปรมาจารย์ ทั้งความเร็วยังสูงขนาดนี้ นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
นอกเสียจากว่านักสลักอาคมระดับผู้สร้างจะมาเอง แต่นี่ก็มีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น ยังไม่มีใครเคยเห็นนักสลักอาคมระดับผู้สร้างด้วยตาตัวเองมาก่อน
“เจ้า หยุด หยุดเดี๋ยวนี้…..” วิญญาณร้ายที่ได้สติ เมื่อเห็นว่ามหาค่ายกลเริ่มฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว ก็เริ่มกรีดร้องออกมา
เขาไม่อยากถูกผนึกอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว อยู่ที่นี่มีเพียงแต่ความเหงาและโดดเดี่ยว ทั้งพลังของเขายังอ่อนแอถึงขีดสุด อยากจะดิ้นให้หลุดจากมหาค่ายกลนี้ก็ทำไม่ได้
พร้อมๆ กับที่มหาค่ายกลถูกซ่อมแซมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เสียงของวิญญาณก็ค่อยๆ เบาลง จนในที่สุดก็เหลือเพียงเสียงกระซิบออกมา
“ข้า วันหนึ่ง ข้าจะต้องออกไปให้ได้ ผนึกนี่ ไม่มีทางขังข้าได้ตลอดไป…..” เสียงวิญญาณร้ายครางออกมา จนสุดท้ายก็หายไปในที่สุด ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้แม้แต่น้อย
ตราบเท่าที่ไม่สังหารวิญญาณร้ายตนนี้ มันก็สามารถทำลายผนึกออกมาได้ และเมื่อถึงตอนนั้น ก็จะไม่สามารถขังมันไว้ได้อีก จำเป็นต้องหาวิธีสังหารมันให้ได้อย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีหนทางอื่น
ในตอนนี้พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะสังหารมัน การสังหารวิญญาณร้ายเป็นอะไรที่ยากมาก ยังไงก็ตาม ในใจอี้เทียนหยุนก็มีความคิดหลายๆ อย่าง หากว่าระดับของเขาเพิ่มขึ้น เขาย่อมสามารถสังหารวิญญาณร้ายตนนี้ได้อย่างแน่นอน!
สำหรับเขา การสังหารวิญญาณร้ายตนนี้ก็เทียบได้กับสมบัติกล่องใหญ่ ภายใต้ดวงตาประเมิน ข้อมูลของวิญญาณร้ายตนนี้ ได้มีสมบัติแต่โบราณอยู่จริงๆ ความหายากของมัน เทียบกับแผ่นหินวิญญาณทรราชแล้ว มากกว่าไม่รู้กี่เท่า
ตราบเท่าที่สังหารมันได้ เขาก็จะได้รับมันมา ส่วนของอื่นๆ นั้น มีกระทั่งอุปกรณ์ระดับเทวะ แล้วอย่างนี้จะไม่อยากสังหารวิญญาณร้ายตนนี้ได้ยังไง?
ไม่เพียงแต่ช่วยขจัดปัญหาให้กับเผ่าฟีนิกซ์ แต่ยังได้ปลาตัวใหญ่ด้วย แต่ว่าตอนนี้เขายังไม่มีความสามารถที่จะทำมัน ต้องรอให้ระดับของเขาสูงกว่านี้ก่อน จากนั้นค่อยว่ากันทีหลัง
ซึ่งการจะทำอย่างนี้ได้ อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับราชาวิญญาณขั้นสุดท้าย ซึ่งตอนนี้เขายังทำไม่ได้ชั่วคราว แต่ตราบเท่าที่พลังเขาเพียงพอเมื่อไหร่ เขาจะต้องกลับมาที่นี่อีกอย่างแน่นอน
และเมื่อถึงตอนนั้น เขาไม่ใช่จะมาซ่อมแซมค่ายกล แต่จะมาทำลายค่ายกลเพื่อพามันออกมา!
แต่ตอนนี้เขายังจำเป็นต้องพึ่งพาฉายาผู้ส่งวิญญาณ แม้ว่าจะไม่กลัววิญญาณร้ายสิงร่าง แต่การโจมตีของมันน่าสะพรึงอย่างมาก และที่สำคัญคือไม่มีวิธีที่จะจัดการกับมัน หากมันหนีไปได้ นั่นคงเป็นปัญหาใหญ่
“สำเร็จ!”
“ติ๊ง ท่านซ่อมแซมมหาค่ายกลระดับปรมาจารย์สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 10 ล้าน, ค่าความชำนาญ 10,000!”
ยิ่งซ่อมแซมมหาค่ายกลที่ใหญ่เท่าไหร่ ความยากก็จะยากมากเท่านั้น ดังนั้น รางวัลที่ได้จึงสูงขึ้นตาม หากว่ามีค่ายกลให้เขาซ่อมอีก เขาก็จะอยู่ซ่อมมันที่นี่ อย่างนี้ก็จะช่วยให้ระดับของเขาเพิ่มง่ายขึ้น
แน่นอนว่าหากไม่ได้ความช่วยเหลือจากโหมดคลั่ง เวลาที่ใช้ในการซ่อมแซมก็จะนานมาก และจะยิ่งผลาญพลังวิญญาณมากขึ้นไปอีก
“ในที่สุดก็ซ่อมสำเร็จ….” อี้เทียนหยุนใบหน้าซีดขาว การต้องซ่อมแซมมหาค่ายกลจำนวนมากอย่างต่อเนื่องด้วยตัวคนเดียว การที่เขายังยืนอยู่ได้ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
ยิ่งใช้ความเร็วในการซ่อมเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งผลาญพลังวิญญาณมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังจิตที่เสียไป ยิ่งน่าสะพรึงขึ้นไปอีก
นี่ไม่ได้นับตามเวลา แต่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ต่อให้จะใช้เวลาซ่อมเพียง 1-2 วินาที แต่พลังวิญญาณที่เสียไป ก็ถูกนับเท่ากับการซ่อมแซมค่ายกลทั้งอัน
หลังจากซ่อมแซมแล้วเสร็จ เขาก็นั่งขัดสมาธิในทันที พร้อมกับทำการฟื้นฟูพลังวิญญาณของตน เขาเสียพลังวิญญาณไปมากจริงๆ พลังวิญญาณในร่างเขาตอนนี้มีอยู่เพียงนิด หากว่าไม่ฟื้นฟูเสียก่อน แม้แต่เดินยังเป็นปัญหา
พวกผู้อาวุโสใหญ่พากันมองหน้ากัน จากนั้นก็ไม่พูดอะไร แล้วเริ่มจัดการเรื่องที่เหลือ เรื่องที่เหลือก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่การทำความสะอาดเพลิงเทียนหยินที่อยู่รอบๆ นิดหน่อยเท่านั้น หรือไม่ก็ซ่อมแซมพื้นที่ที่เสียหาย แต่นี่ก็เป็นเพียงการจัดการอย่างคร่าวๆ เท่านั้น
หลังจากนั้นสักพัก พลังของอี้เทียนหยุนก็ฟื้นคืนมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมๆ กับที่ในหูของเขามีเสียงระบบดังขึ้นมา
“ติ๊ง ท่านทำภารกิจรอง “ช่วยเหลือเผ่าฟีนิกซ์แก้ปัญหาที่ยากจะจัดการ” ได้รับสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 100 ล้าน, ค่าความคลั่ง 500,000, ค่าความชอบของเผ่าฟีนิกซ์เพิ่มขึ้น 100!”
ในที่สุดภารกิจนี้ก็สำเร็จ และรางวัลก็ไม่ได้ต่ำอย่างที่คาด เพราะยังไงความยากของมันก็ใหญ่มาก จะมีก็แต่ไม่มีภารกิจอื่นต่อนี่ล่ะ ที่ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างเสียดาย
ก็ในเมื่อตอนนี้ไม่มีอะไรให้ช่วย ดังนั้น การที่ไม่มีภารกิจเพิ่มก็เป็นเรื่องธรรมดา