ตอนที่ 419 ล้วนเป็นคนธรรมดา / ตอนที่ 420 ส่งคลิปมา

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ตอนที่ 419 ล้วนเป็นคนธรรมดา

 

 

ชวีไหน่ก็ไม่รู้ว่าตนควรจะพูดอะไรต่อ เหยียนเค่อแสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้ว หากเธอยังรั้นจะอยู่ที่นี่ต่อไปก็มีแต่จะทำให้จะทำให้คนหัวเราะเยาะ

 

 

“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”

 

 

เหยียนเค่อยกแก้วกาแฟไปไว้อีกทาง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานในมือต่อ ไม่ได้สนใจเธออีก

 

 

ชวีไหน่ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงหมุนตัวเดินจากไป บางทีก็คงต้องโทษที่เธอหัวใจไขว้เขวกลางคัน ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เกิดสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจแบบนี้หรอก

 

 

ท่าทางของเหยียนเค่อมองเพียงผิวเผินแล้วเหมือนกำลังตั้งอกตั้งใจดูเอกสารอยู่ แต่ความจริงตอนนี้เขากำลังตั้งใจนั่งเหม่ออยู่ต่างหาก  เขายังจดจำภาพที่ซย่าเสี่ยวมั่วอยู่โต้รุ่งกับเขาเพื่อวางแผนพิธีหมั้นให้สวีรั่วชีได้อยู่เลย

 

 

ตอนนั้นซย่าเสี่ยวมั่วยังพูดเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่ยอมแต่งงานอยู่เลย

 

 

ความจริงตอนนั้นเขาก็มีความคิดที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในสมองแล้ว เขายิ้มเยาะตัวเอง บางครั้งคนเราเลือกที่จะปากไม่ตรงกับใจเพื่อป้องกันตัวเองหรือจะด้วยเหตุผลอื่นก็ตาม แต่เขาจำต้องยอมรับว่า ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในความทรงจำของเขา ก็คือตนได้อยู่กับซย่าเสี่ยวมั่ว

 

 

เขายังจดจำคนที่นอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของเขา พอกอดแล้วก็รู้สึกเบาบางนุ่มนิ่ม ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอ้วนขึ้น แต่ความรู้สึกที่ได้สัมผัสก็ยังดีต่อใจอยู่

 

 

เคอร์เซอร์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ยังคงกะพริบอยู่ จำนวนอีเมลล์ที่ได้รับก็ยังอัปเดตอยู่ตลอดเวลา แต่ปากกาในมือกลับนิ่งค้างไว้ราวกับเป็นเพียงของประดับเท่านั้น

 

 

เราเกิดมาเป็นคนธรรมดา ล้วนต้องมีความคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นบ้างประปราย ดังนั้นเหยียนเค่อจึงไม่ได้ตำหนิชวีไหน่ หรือเฉลยความรู้สึกในใจของเธอ เขาสามารถเข้าใจความรู้สึกนี้อยู่บ้าง แต่เราควรจะกำจัดความรู้สึกนั้นให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้มันรุนแรงมากยิ่งขึ้นแบบนี้

 

 

สำหรับเหยียนเค่อแล้ว ชวีไหน่เป็นเพียงลูกน้องที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น พวกเขาไม่เคยได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวเลย เขาไม่มีทางชอบผู้หญิงแบบนี้ ก็เหมือนกับสวีอิ๋งอิ๋ง ที่เห็นเพียงครั้งแรกก็รู้ทันทีว่าเธอไม่ใช่คนที่เขาเลือกจะเก็บไว้ในชีวิต

 

 

เขาหวังเพียงแค่ชวีไหน่จะวางตัวให้เหมาะสม อย่ามาสร้างความปวดหัวให้เขาในช่วงที่มีเรื่องวุ่นวายมากมายแบบนี้เลย

 

 

ชวีไหน่ไม่รู้ว่าเหยียนเค่อคิดอย่างไร ชวีไหน่รู้เพียงแค่ว่าคนที่เหยียนเค่อชอบคือซย่าเสี่ยวมั่ว แถมเขายังปฏิเสธความปรารถนาดีจากคนอื่นเพราะเธอคนนั้นอีกด้วย

 

 

ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีพื้นฐานครอบครัวอย่างสวีอิ๋งอิ๋ง ไม่มีความสามารถเท่ากับเธอ นอกจากพอมีชื่อเสียงเล็กน้อยในวงการการ์ตูนแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าซย่าเสี่ยวมั่วยังมีความสามารถอะไรให้เหยียนเค่อเอาแต่คิดถึง ยากที่จะลืมเลือนเช่นนี้

 

 

วันต่อมา เหยียนเค่อที่ไม่ได้นอนทั้งคืนนั่งเท้าแก้มรอให้ผู้ช่วยหวังมารายงานตัวกับเขา

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วพูดถูก ถ้าผู้ชายที่เอะอะก็ทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่นแบบเขามีครอบครัวจริงๆ ล่ะก็ คนเป็นภรรยาต้องทนไม่ไหวแน่นอน

 

 

“บอสไม่ได้นอนทั้งคืนอีกแล้วหรือครับ” ผู้ช่วยหวังไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก เพียงแต่ทุกครั้งที่เหยียนเค่อทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่นก็มักจะเรียกเขามาที่บริษัทตั้งแต่หกเจ็ดโมงเช้า นานแล้วที่เขาไม่ได้เข้าบริษัทหลังแปดโมง เพราะต้องเข้าบริษัทล่วงหน้าตลอด

 

 

“อืม”

 

 

ความจริงมองเพียงผิวเผินนั้นดูไม่ออกเลยว่าเขาไม่ได้นอนทั้งคืน ผู้ช่วยหวังก็อิจฉาเช่นกัน ทุกครั้งหลังจากที่เขาอยู่ทำงานจนดึกดื่นก็มักจะรู้สึกว่าตัวเองแก่ลงไปหลายปี มีแต่เหยียนเค่อนี่ล่ะที่อยู่โต้รุ่งแล้วแต่กลับดูไม่ออกเลย

 

 

เหยียนเค่อแค่รู้สึกเหนื่อยใจเท่านั้น แต่อย่างอื่นปกติดี อาจจะเป็นเพราะช่วงก่อนหน้านี้มีเวลาพักผ่อนนาน ทำให้ตอนนี้ยังรู้สึกว่ามีกำลังวังชาอยู่

 

 

“ผมเห็นชวีไหน่หลับอยู่ข้างนอก” ผู้ช่วยหวังเอ่ยถึงชวีไหน่ที่หลับอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงานขึ้นมาลอยๆ โดยไม่ได้ใส่ใจจนัก

 

 

เหยียนเค่อยังไม่ได้ออกไปจากห้องจึงไม่รู้ว่าในบริษัทยังมีคนอื่นอยู่ ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็พยักหน้าเบาๆ “วันนี้ให้เขากลับไปพักผ่อนแล้วกัน เป็นแบบนี้แล้วประสิทธิภาพในการทำงานจะแย่ลง”

 

 

“…” นี่เป็นการพูดเสียดสีคนอื่นหรือเปล่านะ แต่ท่านก็ไม่ได้นอนทั้งคืนเหมือนกันไม่ใช่หรือไง ผู้ช่วยหวังรู้สึกแปลกๆ ในใจ

 

 

“ผมไปงีบในห้องพักผ่อนสักครู่นะ” เหยียนเค่อก็ไม่ใช่เครื่องจักรเครื่องยนต์ที่ไหน เมื่อถึงเวลาที่ควรนอนก็ต้องนอนเหมือนกัน

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 420 ส่งคลิปมา

 

 

ยังรู้จักพักผ่อนด้วยเหรอ ผู้ช่วยหวังได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็ตกใจ เมื่อก่อนเหยียนเค่อไม่เคยพักผ่อนเลยสักครั้ง ถึงแม้ว่าจะเจรจาธุรกิจหรือดำเนินการตามขั้นตอนได้อยู่ แต่ตอนนั้นเขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากสนใจใคร เขาจำต้องออกไปกำชับคนอื่นอีกที

 

 

เหยียนเค่อโบกมือให้เขาออกไป “บอกพวกเขาว่าห้ามเข้ามา”

 

 

“ครับ” ผู้ช่วยหวังหยิบงานที่เขาสั่งออกมาด้วย ก่อนจะนึกได้ว่าตอนสิบโมงยังมีนัดอยู่ จึงสอบถาม “ต้องการให้ผมมาปลุกท่านไหมครับ”

 

 

“ไม่ต้อง” เหยียนเค่อคิดเผื่อความปลอดภัยในชีวิตของเขา กลัวว่าตัวเองจะลุกขึ้นมากระทืบคน

 

 

ผู้ช่วยหวังพยักหน้าแล้วถอยกลับออกไป

 

 

เหยียนเค่อบิดขี้เกียจ พรูลมหายใจอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนอนหลับยังห้องพักผ่อน เขานั่งอยู่กับที่นานไปหน่อย พอลุกขึ้นมาแล้วจึงรู้สึกเวียนหัวนิดๆ

 

 

ส่วนอีกคนใช้ชีวิตแตกต่างกับเหยียนเค่อโดยสิ้นเชิง สวีอันหรานตื่นขึ้นในเช้าอันสดใส ที่มีสวีรั่วชีนอนทับร่างอยู่ไม่ยอมลุกออกไปสักที

 

 

“ส่งของของพี่ออกมาเดี๋ยวนี้” สวีรั่วชีเอ่ยขู่เสียงดุ เธอจำได้ว่าเมื่อคืนสวีอันหรานหาคลิป

 

 

เหยียนเค่อแข่งม้าเจอแล้ว

 

 

“เธอจะเอาอะไรล่ะ” สวีอันหรานลวนลามกันด้วยสีหน้าจริงจัง สองมือเริ่มอยู่ไม่สุข

 

 

สวีรั่วชีหลุดพ้นจากเงื้อมมือมารของเขาได้สำเร็จ “เอามาเลย พี่บอกว่าพี่หาเจอแล้วไม่ใช่เหรอ”

 

 

“อืม หาเจอแล้ว” สวีอันหรานยอมรับอย่างใจเย็น ก่อนจะขอผลประโยชน์อย่างหน้าไม่อาย  “แล้วเธอจะตอบแทนฉันอย่างไรดีล่ะ”

 

 

“เหอะ” สวีรั่วชียันหน้าอกเขาแล้วลุกขึ้น คิดว่าจะไปค้นหาด้วยตัวเอง “ถ้าพี่ไม่ให้ฉันไปหาเองก็ได้”

 

 

สวีอันหรานนอนอยู่บนเตียงไม่มีท่าทีรีบร้อน ถ้าสวีรั่วชีเจอว่าเขาซ่อนไว้ที่ไหน ต่อไปเขาคงไม่ต้องซ่อนอะไรแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะซ่อนที่ไหนก็ต้องหาเจอแน่นอน

 

 

สวีรั่วชีหาอยู่ในห้องเก็บของอยู่เนิ่นนาน เธอจำได้ว่าของในห้องเก็บของเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วก็ยังเยอะเหมือนเดิม “เอาไปไว้ที่ไหนกันนะ” เธอพลิกหาอยู่นานก็ไม่เจอสิ่งที่คล้ายคลึงกับแผ่นซีดีเลยแม้แต่น้อย

 

 

สวีอันหรานเดิมตามมาด้านหลัง แล้วยื่นร้องเท้าสลิปเปอร์ให้เธอ “ใส่รองเท้าก่อน พื้นมันเย็น”

 

 

“ไม่!” คนเลว ไม่เอาคลิปให้เธอก็ได้นะ แต่นี่ยังจะมาจุ้นจ้านอีก สวีรั่วชีจะปีนขึ้นบันไดนั่นให้ได้

 

 

สวีอันหรานล่ะยอมใจเธอจริงๆ เขาจึงดึงตัวเธอไว้

 

 

“อย่าดื้อสิ”

 

 

“ไม่”

 

 

คำว่า ‘ไม่’ ลอยกระแทกหน้าสวีอันหรานเข้าอย่างจัง ในที่สุดสวีอันหรานก็รู้แล้วว่าทำไมเหยียนเค่อ

 

 

ถึงปวดหัวกับซย่าเสี่ยวมั่วมากขนาดนั้น ที่ไหนได้…เมียตัวเองก็มีแววจะงี่เง่าเหมือนกัน

 

 

“เอ้า เอาไป เลิกทำตัววุ่นวายได้แล้ว” สวีอันหรานล่ะกลัวเลย ถ้าเกิดตกลงมาจริงๆ นั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย

 

 

สวีรั่วชีพลิกตัวนั่งลงบนขั้นบันไดแล้วต่อรองกับเขา “เอามาให้ฉันก่อน”

 

 

สุดท้ายสวีอันหรานก็ยืนมองเธออยู่นานก่อนจะส่ายหัวแล้วหมุนตัวเดินจากไป

 

 

สวีรั่วชียังนึกว่าสวีอันหรานจะโกรธ จึงรีบลงจากบันไดแล้วพุ่งกอดเขาจากข้างหลังแน่น ก่อนจะเห็นสวีอันหรานเปิดฝาโน้ตบุ๊คเครื่องหนึ่งออก…

 

 

สวีรั่วชีทำหน้ามึนงง “อยู่ในนี้เหรอ”

 

 

“ไม่ใช่” สวีอันหรานหยิบยูเอสบีออกมาจากลิ้นชัก “ในนี้ต่างหาก”

 

 

“หา?” สวีรั่วชีมองยูเอสบีที่เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ก่อนจะลองถามหยั่งเชิง “นี่มัน…ฉัน…”

 

 

สวีอันหรานเอือมระอา “เธอให้ฉันไง”

 

 

ของที่เธอเคยให้สวีอันหรานเมื่อสิบปีก่อน เขายังคงเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน สวีรั่วชีรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย “ว้าว พี่เก็บของเก่าๆ ไว้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ”

 

 

“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าฉันไม่เก็บไว้แล้วเธอจะไปหาคลิปเหยียนเค่อจากที่ไหน” สวีอันหรานเหลือบมองเธอปราดหนึ่ง

 

 

สวีรั่วชีร้องเหอะออกมาอย่างเหยียดหยาม “ในยูเอสบีที่ฉันให้มีคลิปของเหยียนเค่ออยู่ คิดๆ แล้วก็ตลกดีเนอะ”