ตอนที่ 1684 ลุกจากที่ (2)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1684 ลุกจากที่ (2)

 

จวินอู่เสียยังคงสังเกตทุกอย่างด้วยท่าทางสงบนิ่ง การลุกออกไปของคู่ยิ่งไม่ใช่เพราะคำพูดไม่กี่คำของอู๋ซินเยียนอย่างแน่นอน

 

แล้วเพราะอะไร?

 

“เจ้าว่า วิหารมารโลหิตกับวิหารมังกรจะมาทะเลาะกันที่นี่รึเปล่า?” จือจินค่อนข้างตื่นเต้นจวินอู่เสียยังไม่ทันทำอะไร นายน้อยทั้งสองของวิหารมารโลหิตกับวิหารมังกรก็มีเรื่องกันแล้ว นี่หมายความว่าพวกเขาอาจไม่ต้องทำอะไรก็นั่งรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้เลยน่ะซิ?

 

จวินอู่เสียส่ายหน้า “อิ่งนี่ช่างเถอะ แต่คู่ชินเยียนจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องขึ้นหรอก ยิ่ง

 

ติอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิด”

 

สิบสองวิหารก็ทะเลาะกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?

 

ตอนอยู่ที่ผาสุดสวรรค์ วิหารปีศาจเพลิงก็เข่นฆ่าวิหารแห่งชีวิต แม้ว่าจะมีคนบาดเจ็บล้มตาย แต่สิบสองวิหารก็ยังไม่ต่อสู้กันอย่างเปิดเผยจริงๆ

 

เว้นแต่ว่า

 

จวินอู่เสียมองไปที่จูเก่ออินซึ่งนั่งหน้าตั้งอยู่

 

ได้บ้าง แต่หน้าของจูเก๋ออินก็ยังไม่น่าดูอยู่ดี

 

เฟยเหยียนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเจ้าหมอนี่เลย แต่เพื่อแผนการของพวกเขา เฟยเหยียนจึงยิ้มออกมาและหลอกล่อโน้มน้าวเขา

 

“ข้าแค่อยากดื่มกับซินเยียนและคุยกับนางนิดหน่อยเท่านั้น เจ้ายิ่งนั่นตั้งใจจะทำอะไรกันแน่? พูดจาก็แปลกประหลาด อยากฆ่าข้างั้นเรอะ?” ยิ่งคิดจูเก๋ออินก็ยิ่งโมโห เขาเป็นลูกชายคนเดียวของประมุขวิหารมังกร และเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อมาตั้งแต่เด็ก ได้รับยกย่องว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดจากทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา เขาเคยโดนคนทำเช่นนี้ใส่ที่ไหนกัน?

 

เฟยเหยียนเทเหล้าให้จูเก่ออินแล้วพูดอย่างอดทนว่า “นายน้อยอย่าโกรธเลย ยังไงซะอีกฝ่ายก็เป็นคนของวิหารมารโลหิต วิหารมารโลหิตมักจะโม้ว่าตัวเองสามารถเทียบกับวิหารปีศาจเพลิงได้ ก็ย่อมดูถูกวิหารอื่นอยู่แล้ว คนนั้นคือประมุขน้อยของวิหารมารโลหิต ก็เลยหยิ่งยโสพูดจาไม่คำนึงถึงคนอื่น นายน้อยใจเย็นลงก่อนเถอะ”

 

ดูเผินๆเหมือนเฟยเหยียนกำลังเกลี้ยกล่อมจูเก่ออิน แต่ถ้าคิดถึงคำพูดของเขาให้ดีๆ จะเห็นได้ว่าเฟยเหยียนกำลังเติมน้ำมันเข้าไปในกองไฟต่างหาก

 

การพูดกรอกหูจูเก๋ออินถึงความหยิ่งยโสของวิหารมารโลหิตอย่างต่อเนื่องยิ่งทำให้ดูเก่ออินที่ยังหนุ่มและเลือดร้อนโกรธเคืองมากขึ้นไม่ใช่หรือ?

 

“หมอนั่นเนี่ยนะ? ยังนับว่าเป็นประมุขน้อยของวิหารมารโลหิตด้วยหรือ? ล้อเล่นน่า! กู่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด อย่าคิดว่าแซ่คู่ก็จะเป็นประมุขคนต่อไปของวิหารมารโลหิตได้ มีแต่ผีแหละที่รู้ว่าไอ้เวรนั่นมาจากไหน อี้ไม่เคยคิดจะอบรมเลี้ยงดูเจ้านั่นให้เป็นประมุขวิหารคนต่อไปเลย มันยังจะคิดว่าตัวเองสำคัญอยู่อีกเรอะ” จูเก่ออินไม่เพียงรู้สึกโกรธ แต่ยังรู้สึกว่ายิ่งฉีกหน้าเขาต่อหน้าคู่ซินเยียนและเฟยเหยียนด้วย ทำให้ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น

 

คนพูดไม่ได้ตั้งใจพูด แต่คนฟังตั้งใจฟัง มือของเฟยเหยียนที่กำลังรินเหล้าชะงักเล็กน้อย แต่สีหน้าไม่ได้แสดงอะไรออกมา ยังคงใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเดิม

 

จูเก๋ออินกระดกเหล้าเข้าปากเพื่อระงับไฟในใจ

 

“เหยียนเอ๋อร์ ข้าจะบอกให้นะ เจ้าอย่าไปมองไอ้หมาก่อิ่งนั่น หมอนั่นมันไม่ได้สำคัญอะไรต่อวิหารมารโลหิตเลย เจ้าเพิ่งเข้าร่วมวิหารเรา ยังมีอะไรที่เจ้าไม่รู้อีกมาก ในสิบสองวิหารมีเรื่องสกปรกต่ำช้าอยู่เยอะ ถ้าวิหารมารโลหิตจะเลือก พวกเขาก็จะเลือกคู่ซินเยียนเป็นประมุขวิหารคนต่อไป ไอ้เวรนั่นไม่มีโอกาสหรอก”

 

“แต่เขาเป็นลูกชายของประมุขวิหารมารโลหิตไม่ใช่หรือ? ตำแหน่งประมุขวิหารมักสืบทอดจากพ่อไปที่ลูกชายนี่” เฟยเหยียนแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ

 

จูเก่ออินยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ก็ใช่ ปกติตำแหน่งจะสืบทอดไปที่ลูกชาย แต่ลูกชายคนนั้นต้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงของเขาซะก่อน!”