214อัมพาตครึ่งท่อนล่างหรอ(2)

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 214อัมพาตครึ่งท่อนล่างหรอ(2)

หม่าหลันสีหน้าซีดขาว เอ่ยพูด : “ฮาย แม่ไม่เป็นอะไร ก็แค่ปวดหัวนิดหน่อย หมอได้ตรวจให้แล้วบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก หลักๆเลยก็พ่อของลูกนั่นแหละรถบรรทุกโคลนพุ่งชนด้านที่เขานั่ง……”

เมื่อพูดแล้ว น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาทันที

สามีอาจจะต้องเป็นอัมพาต สำหรับเธอแล้วมันก็ร้ายแรงถึงชีวิตเลยนะ

เย่เฉินสอบถามอย่างละเอียดถึงได้รู้ หลังจากที่เกิดเรื่องรถบรรทุกโคลนที่ฝ่าไฟแดงมานั้นได้หลบหนีไปแล้ว ตอนที่แม่ยายและพ่อตาเพิ่งจะเกิดเรื่องขึ้น แต่ก็หมดสติกันหมด จึงมองเห็นป้ายทะเบียนรถของอีกฝ่ายไม่ชัดเจน

หลังจากนั้น ก็มีคนสัญจรไปมาที่มีจิตใจดีนำตัวทั้งสองคนส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิต

อาการของหม่าหลันดีกว่าหน่อย ที่นั่งข้างเบาะคนขับ เพียงแค่ตอนชนแรกๆทำให้หมดสติไปเท่านั้น บนตัวมากสุดก็แค่รอยขีดข่วน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้วถึงฟื้นขึ้นมา

แต่ตำแหน่งคนขับที่พ่อตานั่ง ได้รับแรงกระแทกค่อนข้างหนักมาก ดังนั้นจึงไม่ได้โชคดีขนาดนั้น โดนรถบรรทุกโคลนชนเข้าโดยตรงจนกลายมาเป็นแบบนี้

เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ : “พระเจ้า ก็ช่างไม่ดูตาม้าตาเรือเลย”

พ่อตาคนนี้ของตัวเอง แม้ว่าปกติจะชอบขี้โม้ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แล้วยังจะเสแสร้งเป็นผู้ชำนาญการอีก แต่พูดจากความในใจ เขาไม่ใช่คนเลวอะไร ก็แค่ไม่เอาไหนนิดหน่อยแค่นั้นเอง

ผลสุดท้าย ตอนนี้พ่อตาเป็นอัมพาตแล้ว ถ้าหากตัวเองไม่ยื่นมือออกไปช่วย งั้นชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาก็คงจะจบเห่แล้ว

ในทางกลับกัน แม่ยายของตัวเอง หญิงชราตัวเหม็นๆที่ในใจคิดแต่จะขายลูกสาวกิน เป็นคนที่ไร้ซึ่งศีลธรรมและต่ำช้ามาก

แล้วผลสุดท้ายล่ะ?เธอกลับไม่ได้เป็นอะไรเลย

คิดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ถอนหายใจอีกครั้ง ในใจคิดชั่วร้าย คนที่ถูกชนให้เป็นอัมพาต ทำไมถึงไม่เป็นหม่าหลันแม่ยายของตัวเองละ?

ถ้าหากว่าเธอโดนชนจนเป็นอัมพาต ต่อไปตัวเองอยู่ที่ตระกูลเซียว ก็ช่วยลดความกังวลไปได้เยอะเลย……

และในเวลานี้ ประตูของห้องICUก็เปิดออก สองเงาร่างก้าวเท้าเดินเข้ามาจากด้านนอกแล้ว

เมื่อเย่เฉินวัยรุ่นเดินมาอยู่ด้านหน้าสุดคนนั้น สีหน้าก็เยือกเย็นขึ้นทันที คนที่เดินเข้ามาคือเกาจวิ้นเว่ยคนที่โดนเขาตบหน้าอย่างแรงที่งานมอเตอร์โชว์เมื่อวานนี้

และคนที่เดินตามหลังเขามา ยังเป็นผู้ชายวัยกลางคน ที่แบกกระเป๋ายาเข้ามา ด้านบนมีตัวกากบาทสีแดงขนาดใหญ่อยู่

เซียวชูหรันอดไม่ได้ที่จะถามออกไป : “แม่คะ เขามาได้ยังไงคะ?”

หม่าหลันพูด : “แม่เป็นคนให้เขามาเอง จวิ้นเว่ยรู้จักคณบดีของโรงพยาบาลแห่งนี้ ตอนที่เราเข้ามาที่โรงพยาบาล เขาก็มาเยี่ยมญาติพอดี เห็นพ่อและแม่ได้รับบาดเจ็บ ก็เลยจัดการเรื่องให้พ่อของลูกเข้าไปยังห้องICU”

พูดจบ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ต้อนรับ พูดเรียกอย่างอบอุ่น : “จวิ้นเว่ย เมื่อกี้ที่คุณช่วยวิ่งขึ้นวิ่งลงจัดการเรื่องให้ ลำบากแล้วนะ รีบเข้ามาพักผ่อนสักหน่อยนะ!”

เกาจวิ้นเว่ยยิ้มเล็กน้อย พูดว่า : “ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมไม่เหนื่อย”

พูดจบ เขาก็เห็นเย่เฉินที่ยืนอยู่ข้างหลังของหม่าหลัน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

คิดไม่ถึง เย่เฉินไอ้เศษสวะที่คอยขวางหูขวางตาก็อยู่ด้วย

เมื่อวานที่งานมอเตอร์โชว์ ก็เพราะมีเย่เฉินที่คอยขัดขวางอยู่ในนั้น ทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าของเซียวชูหรัน

ตั้งแต่นั้นมา เขาก็เกลียดเย่เฉินจนเข้ากระดูกดำ

และเขาไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าเศษสวะอย่างเย่เฉินจะสุดยอดจริงๆ คิดอยากจะหาโอกาสทลายความจอมปลอมของเขา

ตอนนี้ศัตรูก็อยู่ตรงหน้า ก็ยิ่งเกิดความโกรธเคือง ในขณะเดียวกัน เขาต้องดึงสีหน้าสีตากลับมาเมื่ออยู่ต่อเซียวชูหรัน เพื่อให้ได้รับรู้สึกที่ดีจากเธออีกครั้ง

ในเวลานี้ หม่าหลันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เช็ดน้ำตา พร้อมพูดว่า : “จวิ้นเว่ย เมื่อกี้หมอบอกว่า ลุงเซียวของคุณอาจจะเป็นอัมพาตครึ่งท่อนล่างต้องนอนติดเตียง แบบนี้จะให้ป้ามีชีวิตได้อย่างไร……”

เกาจวิ้นเว่ยรีบชี้ไปยังวัยกลางคนคนนั้นที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง พูดแนะนำให้กับหม่าหลัน : “คุณป้าครับ คุณไม่ต้องกังวลไปนะครับ!ท่านนี้คือหลิวจ้งจิ่งหมอเทวดาหลิวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เขาเป็นแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงในประเทศ ผมได้เชิญเขามาเพื่อรักษาคุณลุงโดยเฉพาะ!มีเขาอยู่ คุณลุงจะต้องหายเป็นปกติแน่นอน!”