บทที่ 1403 วิญญาณอมตะรักตัวเอง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ที่ราบภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ในห้องหลอมรวม หลังจากหลอมรวมวิญญาณมานานหลายเดือน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายืนอยู่ในค่ายกลวิญญาณและเฝ้าสังเกตดวงไฟสีฟ้าที่ลุกไหม้ขึ้นด้านหน้า

 

คิ้วและเคราของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำค้างแข็งสีฟ้าอ่อนบางๆ

 

แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้ เขาจดจ่ออยู่กับเปลวไฟด้านหน้าเท่านั้น

 

หากกล่าวให้ถูกต้องมากขึ้น มันเป็นก้อนน้ำแข็งที่อยู่ใจกลางกองไฟ

 

น้ำแข็งในกองไฟละลายแต่มันก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

 

“ประตูวายุทั้งห้า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าว

 

ผมที่หกรีบทำตามคำสั่งโดยใช้วิธีการพิเศษเพื่อจัดการกับทรัพยากรอมตะ

 

ประตูวายุเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด

 

มันเป็นทรัพยากรที่พิเศษมาก

 

มันไม่ได้เติบโตขึ้นในป่าลึกหรือบนท้องฟ้า แต่มันเติบโตขึ้นในประตูบ้านของมนุษย์

 

เมื่อใดก็ตามที่ทรัพยากรอมตะชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้น ประตูบ้านของมนุษย์จะไม่สามารถปิดได้ มันจะเปิดอยู่ตลอดเวลา

 

ปรากฏการณ์พิเศษนี้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้วิญญาณรวมถึงผู้อมตะมากมาย

 

เดิมทีพวกเขายังไม่สามารถใช้งานทรัพยากรอมตะชนิดนี้ ไม่มีผู้ใดเข้าใจการทำงานของมัน แต่ในปัจจุบันบางคนพบวิธีใช้งานมันเรียบร้อยแล้ว

 

ประตูวายุทั้งห้าถูกส่งเข้าไปยังใจกลางของกองเพลิงอย่างระมัดระวัง

 

ในไม่ช้าสายลมทั้งห้าก็พุ่งเข้าโอบล้อมก้อนน้ำแข็งเอาไว้

 

“โอ้ ไม่!” แต่การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

 

ผมที่หกรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติเช่นกัน

 

เขาเห็นเปลวเพลิงดับลงขณะที่ก้อนน้ำแข็งแตกออกพร้อมกับสายลมที่หายไป

 

“อ๊าก…ล้มเหลวอีกครั้ง!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากระทืบเท้าและตะโกนด้วยความโกรธ

 

ผมที่หกถอนหายใจ

 

มันน่าเสียดาย

 

พวกเขามาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

 

แต่พวกเขากลับล้มเหลว

 

หลายเดือนของการทำงานหนักกลับจบลงด้วยความล้มเหลว

 

“หากข้าใช้วิธีของมนุษย์ขน เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก่นเสียงเย็น

 

ผมที่หกเตือน “แต่ผู้อาวุโสสูงสุด ตามกฎของนิกาย ผู้อาวุโสฟางหยวนจ่ายแต้มผลงานมากมายเพื่อสิ่งนี้ เราต้องปฏิบัติตามคำขอของเขา”

 

“ฮืม! ฟางหยวนผู้นี้เสียสติไปแล้ว เหตุใดเขาถึงต้องการให้ข้าใช้วิธีหลอมรวมของมนุษย์? เขาพยายามสร้างปัญหาให้ข้างั้นหรือ?” ความล้มเหลวทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกไม่ดี

 

ผมที่หกเร่งกล่าวเพื่อฟางหยวน “ผู้อาวุโสฟางหยวนเป็นคนลึกลับ แม้ข้าจะไม่ชอบเขา แต่เขาใช้ทรัพย์สินทั้งหมดกับเรื่องนี้ หากเขาต้องการสร้างปัญหาให้ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งจริง เขาคงไม่จ่ายด้วยราคามหาศาลเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่?”

 

“เห้อ…ข้าแค่อยากระบายอารมณ์” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกท้อแท้ เขาโบกมือ “พักก่อนเถอะ นี่เป็นความล้มเหลวครั้งที่ห้าแล้ว แต้มผลงานของฟางหยวนไม่เพียงพอ ติดต่อเขาและบอกผลลัพธ์ให้เขารู้ หากเขาต้องการให้ข้าพยายามต่อไป เขาต้องจ่ายแต้มผลงานเพิ่ม!”

 

“ทราบแล้ว!” ผมที่หกตอบรับ

 

…..

 

ฟางหยวนบินอยู่บนท้องฟ้าราวกับลูกศร

 

เขาไม่มีอารมณ์ชื่นชมความงามของทะเลทราย เขากำลังคิดถึงการต่อสู้กับฟงจิวเก้อก่อนหน้านี้

 

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเป็นแหล่งทรัพยากรที่ถูกเก็บเป็นความลับของนิกายเงา

 

‘ก่อนที่ราชันภูเขาม่วงจะเสียชีวิต เขาสั่งให้ข้าไปที่สายธารแห่งกาลเวลาและพบกับเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ’

 

แม้ฟางหยวนจะได้รับมรดกของราชันภูเขาม่วง แต่มันยังเป็นเพียงสมบัติส่วนหนึ่งของนิกายเงาเท่านั้น

 

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลาครอบครองมรดกเกือบทั้งหมดของนิกายเงา มันยังมีมรดกที่แท้จริงบางส่วนของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ด้วย

 

นิกายเงาก่อตั้งมานับแสนปีแล้ว แม้นิกายเงาจะถูกทำลาย แต่พวกเขายังมีข้อมูลเกี่ยวกับการบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่

 

ตัวอย่างเช่นคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

ปัจจุบันฟางหยวนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะถึงสิบสองหลัง อย่างไรก็ตามนิกายเงาและเทพปีศาจจิตวิญญาณมีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนี้มากกว่านั้น

 

ข้อมูลที่เหลือฟางหยวนสามารถรับได้จากใบหน้าภูตผี

 

‘สำหรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา กุญแจสำคัญคือวิญญาณกาลเวลาที่อยู่กับข้า’

 

ฟางหยวนต้องการไปที่นั่นเพื่อรับมรดกอย่างไม่ต้องสงสัย

 

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในห้าภูมิภาคคือทางเข้าของมัน

 

แม้ฟางหยวนจะสูญเสียหนึ่งในนั้นเพื่อกำจัดผู้ไล่ล่าจากวังสวรรค์ แต่มันไม่ใช่ปัญหาเพราะนิกายเงายังมีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเก็บไว้อีกห้าหรือหกสาย

 

‘อย่างไรก็ตามในทะเลทรายตะวันตก นิกายเงามีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในการครอบครองเพียงสายเดียว’

 

‘เพื่อความปลอดภัย ข้าควรไปแหล่งทรัพยากรอีกสองจุดก่อน หากข้ายังไม่พร้อม ข้าไม่ควรไปที่นั่น’

 

ฟางหยวนตัดสินใจ

 

ตอนนี้เขาอยู่ในทะเลทรายตะวันตก มันมีพรมแดนติดกับภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง

 

แต่ฟางหยวนไม่สามารถไปยังภูมิภาคทั้งสาม

 

ภาคกลางมีวังสวรรค์และสิบนิกายโบราณ

 

ภาคเหนือมีถ้ำสวรรค์นิรันดร

 

ภาคใต้มีกองกำลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะ

 

ทะเลทรายตะวันตกเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการซ่อนตัว

 

สำหรับทะเลตะวันออก นิกายเงาครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเพียงสายเดียวและน่าเสียดายที่มันถูกยึดครองไปแล้วโดยเมี่ยวหมิงเฉิน

 

กล่าวถึงเรื่องนี้ มันเป็นความผิดของฟางหยวน เขาเป็นคนมอบสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาให้กับเมี่ยวหมิงเฉินด้วยตนเอง

 

ย้อนกลับไปราชันภูเขาม่วงพยายามใช้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่ทะเลตะวันออกเพื่อเข้าไปพบใบหน้าภูตผี แต่เขากลับไม่พบสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่นั่นและต้องเดินทางไปที่ภาคใต้

 

‘ปัญหาใหญ่ที่สุดของข้าตอนนี้คือท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบ มันกำลังเปิดเผยตำแหน่งที่อยู่ของข้าต่อวังสวรรค์’

 

‘โดยปราศจากวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด เจตจำนงสวรรค์จะวางแผนกำจัดข้าตลอดเวลา’

 

‘ปัญหาคือข้าขาดวิญญาณอมตะที่เกี่ยวข้อง ข้ามีท่าไม้ตายอมตะมากมาย แต่ข้าไม่มีวิญญาณอมตะที่สามารถใช้เป็นแกนกลางของมัน หากข้ามีวิญญาณอมตะที่จำเป็น ข้าจะสามารถกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลและซ่อนตัวจากเจตจำนงสวรรค์’

 

ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ได้รับจดหมายจากผมที่หก

 

เขาอ่านข้อความและขมวดคิ้ว

 

การหลอมรวมล้มเหลวอีกครั้ง

 

บัดซบ!

 

แม้เขาจะประสบความสำเร็จในการวางแผนต่อต้านฟงจิวเก้อ แต่วังสวรรค์ย่อมไม่ส่งฟงจิวเก้อออกมาเพียงผู้เดียว

 

วังสวรรค์ยังมีวิธีอื่น มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น

 

“วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา รักตัวเอง ต้องเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด มันค่อนข้างยาก ข้าเฝ้าสังเกตการหลอมรวมมาโดยตลอด จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทุ่มเทเต็มที่แล้ว” ผมที่หกกล่าว

 

ฟางหยวนไม่สงสัยคำกล่าวของผมที่หก

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเป็นคนตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ ฟางหยวนไม่สงสัยเรื่องนี้

 

ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ

 

ขณะที่โอกาสประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับเจ็ดต่ำเกินไป

 

อย่างไรก็ตามวิญญาณอมตะรักตัวเองเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฟางหยวน เขาต้องได้รับมันอย่างรวดเร็วที่สุด

 

ด้วยสิ่งนี้ฟางหยวนจะสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะของราชันภูเขาม่วงเพื่อกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูล

 

ฟางหยวนมั่นใจกับวิธีนี้

 

‘หลอมรวมต่อไป แม้ข้าจะล้มละลาย เราก็ต้องทำให้สำเร็จ!’ ฟางหยวนกัดฟันและตัดสินใจ

 

ตอนนี้มันเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับแต้มผลงานจากนิกายหลางหยา เหตุผลเป็นเพราะมรดกที่แท้จริงของราชันภูเขาม่วงอุดมสมบูรณ์เกินไป

 

‘แต่…’

 

‘ตอนนี้ข้าไม่สามารถนิ่งเฉย’

 

‘ข้าประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับฟงจิวเก้อเพราะความไม่รู้ของเขา วังสวรรค์ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ’

 

‘แต่ตอนนี้มันถูกเปิดเผยแล้ว ข้าต้องรีบดำเนินการต่อไป’

 

‘ดูเหมือนว่าข้าต้องใช้วิธีนั้น’

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น

 

เขาตอบจดหมายผมที่หกและสั่งให้ผมที่หกเป็นผู้หลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้ขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะเป็นผู้ช่วยอยู่ด้านข้าง

 

ผมที่หกรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้รับคำตอบจากฟางหยวน

 

ทักษะของผมที่หกด้อยกว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่มีความตั้งใจที่จะทำให้การหลอมรวมล้มเหลว แล้วเหตุใดฟางหยวนจึงต้องการให้ผมที่หกเป็นผู้หลอมรวม?

 

…..

 

ในสายธารแห่งกาลเวลา

 

เสียงคลื่นน้ำซัดสาดอยู่รอบตัวเขา

 

ฟงจิวเก้อถูกคลื่นยักษ์กวาดลงไปในแม่น้ำ

 

‘นี่คือสายธารแห่งกาลเวลางั้นหรือ?’ เขาพยายามป้องกันตนเองแต่เขายังรู้สึกถึงพลังงานบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่พุ่งเข้าโจมตีร่างกายของเขาตลอดเวลา

 

ทรงพลังมาก!

 

ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ!

 

การป้องกันของฟงจิวเก้อน่าประทับใจแต่เพียงชั่วครู่การป้องกันของเขาก็พังทลายลง

 

ฟงจิวเก้อเข้าใจเรื่องนี้ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเสียง มันไม่สามารถอยู่ร่วมกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

‘ดังคาด สายธารแห่งกาลเวลาทรงพลังจริงๆ ข้าต้องออกไปอย่างรวดเร็วที่สุด!’ ฟงจิวเก้อต้องการจากไปแต่เส้นทางที่เขาเข้ามาถูกทำลายไปแล้ว มันเหลือเพียงระลอกคลื่นบางๆเท่านั้น

 

ฟงจิวเก้อไม่สามารถเดินทางผ่านเส้นทางสายนี้

 

‘นี่เป็นปัญหา ข้าไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ข้าไม่สามารถออกไปโดยพึ่งพาระลอกคลื่นของกาลเวลา ข้าควรทำอย่างไร?’

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟงจิวเก้อได้ยินเสียงระเบิด

 

อสูรปีขาลโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำ

 

รูม่านตาของฟงจิวเก้อหดเล็กลง เขาเหมือนมดที่อยู่ต่อหน้าช้าง

 

‘อสูรปีแรกกำเนิด!’

 

เงาของความตายกำลังคืบคลานเข้ามาหาฟงจิวเก้อ