กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 866
เสียงดังปัง ประตูถูกเปิดออก
ผู้นำรองและผู้นำสามบุกเข้ามาอย่างรีบร้อน และเสียงดังมาแต่ไกล
“อาหน่วน ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าเจ้าฟื้นแล้วหรือ?”
“หลานสาวของข้า อาสามเฝ้าภาวนากับดวงจันทร์ ในที่สุดก็เจ้าก็กลับมาแล้ว”
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น นางเห็นใบหน้าของผู้นำรองและผู้นำสามเต็มไปด้วยความดีใจ และเปลี่ยนจากการดูถูกเหยียดหยามก่อนหน้านี้ เป็นความสนิทสนมใกล้ชิด
“อาหน่วน เจ้าดีขึ้นแล้วหรือ?อยากกินอะไรหรือไม่ อารองจะให้ห้องครัวทำมาให้”
“อารองกับอาสามเกลียดช่างข้าที่สุดไม่ใช่หรือ และยังไล่ข้าออกไปจากตระกูลมู่อีกด้วย?นี่มันเรื่องตลกอะไร?”
“พูดเรื่องไร้สาระอะไร พวกเรามีสายเลือดใกล้ชิดกัน พวกเราเพียงแค่พูดจาเลอะเลือนด้วยความโกรธ จะไล่เจ้าออกไปจากจวนมู่จริง ๆ ได้อย่างไร ท่านพ่อของเจ้ามีเจ้าเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว พวกเรารักและเอ็นดูเจ้า”
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ
รักและเอ็นดู?
นางไม่รู้สึกถึงความรักและความเอ็นดูเลยแม้แต่น้อย
ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ผู้นำรองและผู้นำสามจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับนางมากนัก และมักจะเข้มงวดกับนาง ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว และถามอย่างสนิทสนม
“อาหน่วน เจ้าได้รับบาดเจ็บที่หุบเขาอสุรกายหรือ?อารองได้ยินมาว่าอสุรกายจำนวนไม่น้อยยอมรับเจ้าเป็นนาย ใครกันที่มีพลังมากพอที่จะทำร้ายเจ้าจนกลายเป็นเช่นนี้?”
“ใช่ ๆ ๆ อาสามยังได้ยินมาว่าราชางูเหลือมหยกเก้าเศียร และเสือดำโบราณก็ยอมรับเจ้าเป็นนายด้วย อาสามไม่เคยเห็นสัตว์เทพสองตัวนี้มาก่อนเลยในชีวิต เจ้าให้พวกเราดูหน่อยได้หรือไม่?”
กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ และกล่าวด้วยความสงสัย “พวกเรากำลังพูดเรื่องอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ”
ผู้นำสามยังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ผู้นำรองกระทุ้งแขนเพื่อบอกใบ้ไม่ให้เขาพูด
และเขากล่าวเองว่า “อาหน่วน พวกเราล้วนแต่ได้ยินเรื่องที่เจ้าอยู่ที่หุบเขาอสุรกายมาหมดแล้ว ตระกูลมู่ของเรามีผู้ที่พรสวรรค์เช่นเจ้าเช่นคุณ นั่นถือเป็นความโชคดีของพวกเราตระกูลมู่”
“ข้าไม่เข้าใจที่พวกท่านพูด หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ข้าขอพักผ่อนก่อน”
“อาหน่วน อารองรู้ดีว่าเมื่อก่อนอาเข้มงวดกับเจ้ามากเกินไป แต่เป็นเพราะอารองรักอย่างสุดซึ้ง และเป็นหน้าที่ เจ้าอย่าโกรธอารองเลย”
“อาสามก็เช่นกัน อาสามรักและเอ็นดูเจ้ายิ่งกว่าบุตรสาวของตัวเองเสียอีก”
กู้ชูหน่วนกลอกตา และปล่อยให้พวกเขาพูดว่าพวกเขารักและเอ็นดูนางอย่างไร
แม้แต่มู่ซินก็ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงยับยั้งการพูดจู้จี้ของพวกเขา
“น้องรอง น้องสาม อาหน่วนเพิ่งจะกลับมา อีกทั้งนางยังได้รับบาดเจ็บ ปล่อยให้นางได้พักผ่อนก่อนจะดีกว่า หากมีอะไรค่อยว่ากันวันหลัง”
“อ้อ……ดูข้าสิ ข้าลืมไปเลย เจ้าบาดเจ็บอยู่ควรจะพักผ่อนให้มาก ๆ แต่มีเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง อารองคิดว่าบอกกับเจ้าก่อนจะดีกว่า”
ผู้นำรองหยิบภาพเหมือนออกมาจากในอ้อมแขน และภาพเหมือนเหล่านั้นเป็นภาพของบุรุษรูปงาม
เขายิ้มและกล่าวว่า “วันนี้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยมาที่ตระกูลมู่ของเราเพื่อสู่ขอเจ้า อารองจึงช่วยคัดเลือกผู้ที่มีภูมิหลังดี พวกเขาแต่ละคนล้วนมีวรยุทธ์ และภูมิหลังดีเป็นอันดับต้น ๆ”
“อาสามก็ช่วยคัดเลือกมาให้เจ้าเช่นกัน เจ้าดูสิ แต่ละคนรูปงามทั้งนั้นเลย อีกทั้งล้วนแต่เป็นบุตรชายของตระกูลผู้สูงศักดิ์ที่มีชื่อเสียง และไม่เป็นสองรองใครในดินแดนวิญญาณเยือกแข็งของเราทั้งสิ้น”
กู้ชูหน่วนไม่แม้แต่จะมองภาพเหล่านั้น นางเลิกคิ้วและมองพวกเขาอย่างเย้ยหยัน
“อารอง อาสาม พวกท่านยังพยายามจะไล่ข้าออกไปอีกหรือ?”
ผู้นำรองและผู้นำสามตกตะลึงในทันที
“พูดไร้สาระอะไรเช่นนั้น อารองกับอาสามจะไล่เจ้าออกไปได้อย่างไร แค่พวกเรารักและเอ้นดูเจ้า จึงต้องการหาคนที่ดีให้แก่เจ้า”
“อาหน่วน อาสามไม่ได้คุยโว เหล่าคุณชายที่อาสามหามาล้วนแต่เป็นที่ชื่นชอบ แม้แต่คนในราชวงศ์ยังไม่สามารถร้องขอการแต่งงานได้ หากพลาดไปก็น่าเสียดายมาก เจ้าคิดดูให้ดี ๆ ”
“ในเมื่ออารองและอาสามชอบมากขนาดนั้น เช่นนั้นพวกท่านก็แต่งงานกับพวกเขาสิ จะมาคะยั้นคะยอข้าทำไม”
หากเป็นเมื่อก่อน กู้ชูหน่วนกล่าวเช่นนี้ ผู้นำรองและผู้นำสามจะต้องโกรธอย่างแน่นอน
แต่ในตอนนี้พวกเขาไม่กล้า
ตระกูลมู่จะสามารถสืบเชื้อสายต่อไปอีกหลายพันปีหรือไม่ และจะสามารถเจริญรุ่งเรืองได้หรือไม่นั้น ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับนาง
ผู้นำสามหัวเราะแหะ ๆ ด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์
“อาหน่วน หากเจ้าชอบพวกเขาก็ดี แต่หากไม่ชอบ เจ้าก็บอกให้พวกเขาเปลี่ยนไปแต่งงานกับมู่ชิน น้องสาวของเจ้าแทนสิ เรือล่มในหนองทองจะไปไหน”
“และยังมีมู่อินอีกคน นางถึงวัยที่จะต้องออกเรือนพอดี และยังไม่มีผู้ที่เหมาะสม เช่นนั้นเจ้าลองแนะนำดูดีหรือไม่ แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเราจะเข้มงวดกับเจ้าไปบ้าง แต่มู่อินก็จริงใจต่อเจ้ายิ่งกว่าพี่น้องพ่อแม่เดียวกันเสียอีก”
“มู่ชินก็เช่นกัน”
กู้ชูหน่วนเข้าใจแล้ว
จุดประสงค์ที่แท้จริงของจิ้งจอกเฒ่าทั้งสองคือต้องการทำให้นางเป็นแม่สื่อหาคู่ให้บุตรสาวของพวกเขา
นางยิ้ม “ตั้งแต่สมัยโบราณ การเลือกคู่ครองต้องเป็นไปตามที่พ่อแม่จัดการให้ ข้าเป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้อง จะมีอำนาจเช่นนั้นได้อย่างไร”
“มีสิ ๆ เพียงแค่เจ้าพูดคำเดียวก็ได้แล้ว”
มู่ซินกล่าวว่า “น้องรอง น้องสาม อาหน่วนได้รับบาดเจ็บอยู่ เรื่องนี้ค่อยว่ากันวันหลังเถอะ”
“ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ใครจะไปรู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นอีก พวกเรามาจัดการเรื่องแต่งงานกันก่อนเถิด จะได้สบายใจ”
ด้านนอกประตู หญิงสาวสองคนส่งเสียงฮึอย่างโกรธเคือง “ท่านพ่อ พวกเรายังเด็ก และยังไม่อยากแต่งงาน หากจะแต่งพวกท่านก็แต่งเองเถอะ”
“ท่านพ่อ ท่านพ่อไม่อาย แต่ข้าอาย มีใครบ้างอยากจะให้บุตรสาวของตนเองรีบออกเรือน พี่สาม ท่านอย่าไปฟังท่านพ่อของข้าพูดเหลวไหลเลย”
“นี่ เจ้าทั้งสองคน ชายหญิงแต่งงานกัน มีอะไรน่าอับอาย?และผู้ที่พ่อกับอารองของเจ้าหามาให้ล้วนแต่เป็นคุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์ทั้งสิ้น”
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างหงุดหงิด “อารอง อาสาม พวกท่านต้องการให้ข้าช่วยเป็นแม่สื่อหาคู่ให้บุตรสาวของพวกท่าน พวกท่านไปเกลี้ยกล่อมบุตรสาวของตนเองก่อนเถิด และเชิญพวกท่านออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
“อาหน่วน……”
“อาสอง อาสาม บุตรสาวของพวกท่านหายไปแล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกนางเป็นหญิงสาวจากตระกูลชั้นสูงที่ยังไม่ได้แต่งงาน หากถูกใครจับตัวไป……”
ผู้นำรองและผู้นำสามพูดกับนางอย่างสุภาพสองสามคำ แล้วรีบวิ่งออกไป
หลังจากที่พวกเขาจากไป ในห้องก็เงียบสงบลง
มู่ซินกล่าวว่า “น้องรองและน้องสามต่างก็วางแผนการแต่งงานไว้ให้บุตรสาว หากพ่อไม่สนใจเจ้า……”
“ท่านพ่อต้องการให้ข้าแต่งงานจริง ๆ หรือ?”
“ยังจะเสแสร้งอยู่อีก เพียงแค่เจ้าบอกพ่อมาว่าเจ้าชอบคุณชายตระกูลใด พ่อจะบากหน้าไปจับคู่ให้เจ้าเอง”
“ข้าชอบหัวหน้าเผ่าตระกูลเหวิน”
“อะแฮ่ม……”
มู่ซินเกือบจะสำลักน้ำลายตัวเอง
เขารู้ว่าบุตรสาวของตัวเองไม่ได้ตาต่ำ แต่เขาไม่เคยคิดว่านางจะชอบหัวหน้าเผ่าตระกูลเหวินของสี่ตระกูลใหญ่
“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอะไร?”
“ข้ารู้”
“นั่นเป็นหัวหน้าของสี่ตระกูลใหญ่ พวกเรา……”
“นอกจากเขาแล้ว ลูกจะไม่แต่งงานกับใครทั้งสิ้น แล้วต่อไปก็ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กับข้าอีก”
กู้ชูหน่วนไม่ต้องการให้มู่ซินพูดถึงการแต่งงานของนาง นางจึงกุเรื่องขึ้นมา
ไม่คิดเลยว่ามู่ซินจะจริงจัง
“ได้ยินมาว่าหัวหน้าตระกูลเหวินอายุเพียงแค่ยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น หน้าตาของเขางดงามราวกับเทพบุตร ตอนที่เดินทางไปยังหุบเขาอสุรกาย ผู้คนไม่น้อยต่างตกตะลึงกับรูปลักษณ์และความสามารถของเขา แม้แต่ในราชวงศ์ก็ยังมีคนมากมายต้องการที่จะสู่ขอเขา”
“ว่ากันว่าข่าวลือไม่ใช่ว่าจะไม่มีมูล แม้แต่เจ้าก็ยังชอบเขา หวังว่าเขาคงจะไม่เลว แต่สถานะของเขา……ช่างเถอะ ขอเพียงเป็นคนที่เจ้าชอบ พ่อจะพยายามอย่างดีที่สุด แล้วทำให้พวกเจ้าได้คู่กัน”
กู้ชูหน่วนยิ้มและไม่พูดอะไร
หลังจากพักฟื้นอยู่ในตระกูลมู่เพียงไม่กี่วัน ผู้คนก็มาที่ตระกูลมู่เพื่อสู่ขอจนหัวกระไดไม่แห้ง