บทที่ 308 จะสู้เพื่อมันสักยก

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

หญิงสาวกำลังตักข้าว “พี่เชอร์รีน ทานข้าวด้วยไหมคะ?”

“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” เธอปฏิเสธ เธอนั่งอยู่บนโซฟา ความรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูกแผ่ขยายและท่วมท้นในหัวใจอย่างสุดจะพรรณนาได้

นานแค่ไหนกว่าที่บทบาทนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ไม่นานเธอยังยืนอยู่ในตำแหน่งนั้น แต่วันนี้…

ทั้งสองรับประทานอาหารเย็นกันอย่างเงียบมาก เชอร์รีนคิดว่า บางทีอาจเป็นเพราะเธอนั่งอยู่ที่นี่ พวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไรกันมาก

ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็ทานอาหารเย็นเสร็จลง หญิงสาวไปล้างจาน ในห้องนั่งเล่นจึงเหลือเพียงสองคน

ออกัสนั่งลงไขว้ขายาวอย่างสง่างาม มองดูเธอ “คุณเชอร์รีนต้องการคุยเรื่องอะไรกับผมหรือครับ?”

“พวกเรายังมีทางเป็นไปได้ไหม?” เธอถามช้าๆ หายใจอย่างระมัดระวัง

เขาตกตะลึงครู่หนึ่ง ชั่วพริบตาดวงตาลึกราวกับทะเลก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น แต่ไม่นานก็กลับมาเย็นชาดังเดิม “คุณเชอร์รีนหมายถึงอะไรครับ?”

คำพูดของเธอมีความชัดเจนมากพอ เธอไม่เชื่อว่าเขาจะไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร “ก็มันหมายความตามตัวอักษรนั่นแหละ”

มุมปากคลี่ยิ้ม แต่มันกลับไม่มีความอบอุ่น เขาถามกลับอย่างเย็นชา “คุณเชอร์รีนคิดว่ายังไงล่ะ?”

เธอไม่เข้าใจและไม่แน่ใจ ยิ่งไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่ “เป็นไปได้หรือเป็นไม่ได้?”

“คุณเชอร์รีนถามคำถามนี้เพื่ออะไร?” เขาไม่เข้าใจ ไม่ตอบคำถามของเธอ

ฝ่ามือของเชอร์รีนมีเหงื่อออกเล็กน้อย แต่พูดอย่างหนักแน่นว่า “ฉันอยากอยู่กับคุณ”

ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ยังคงเย็นชาเหมือนเดิม จากนั้นสายตาดูสับสนราวกับว่าไม่รู้จักเธอ คำพูดที่ออกมาจากปากเขาแฝงด้วยความประชดประชันว่า “คุณเชอร์รีนคิดว่าผมเป็นหมาปั๊กที่คุณเลี้ยงไว้หรอ ที่จะเรียกแล้วก็มา โบกมือไล่ก็ไป?”

“ฉันรู้ว่าตัวเองทำเกินไป รู้ว่าฉันเองทำผิดมามากมาย แต่ว่าฉันรู้สึกผิดแล้ว”

ริมฝีปากบางของออกัสยกขึ้นอย่างเย็นชา ไม่พูดอะไร สีหน้าที่แก้มล้ำลึก ไม่มีใครสามารถเดาได้ว่าในตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่

เขาเข้าใจยากและมีความลึกลับอยู่แล้ว เชอร์รีนเดาไม่ออก ไม่ถอย แล้วเปลี่ยนเรื่อง “คุณกำลังคบกับเธออยู่หรือเปล่า?”

“เหมือนว่าผมไม่มีเหตุผลที่จะตอบคำถามคุณ…”

“มันสำคัญมากกับฉัน! มันสำคัญมากจริงๆ!” เธอกล่าวด้วยอารมณ์เล็กน้อย

สายตาของออกัสเลื่อนมาบนใบหน้าเธอแล้วมองอยู่อย่างนั้น ราวกับจะมองทะลุร่างกายเธอ แล้วทิ้งท้ายประโยคหนึ่งไว้ว่า “ถ้าต้องการให้ผมยกโทษให้ มันก็ต้องขึ้นอยู่กับการแสดงออกของคุณ ตอนนี้ผมง่วงแล้ว อยากพักผ่อน…”

เชอร์รีนไม่ได้อยู่ต่อหลังจากถูกเอ่ยปากไล่ แต่เธอก็พอใจมาก

เขาบอกว่าถ้าต้องการให้ผมยกโทษให้ มันก็ต้องขึ้นอยู่กับการแสดงออกของคุณ ซึ่งหมายความว่าเธอยังมีโอกาส

เพียงแต่ผู้หญิงคนนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกับเขา?

แต่เธออยากจะทำเรื่องเลวๆสักครั้ง ไม่ว่าพวกเขาจะคบกันหรือไม่ก็ตาม เธอต้องการต่อสู้เพื่อมันอย่างสุดกำลัง!

สาวตาเธอมองกระจก ยิ้มอย่างเยาะเย้ย เหอะเหอะ เชอร์รีน เธอกลายเป็นคนที่ทำน่ารังเกียจเช่นนี้ไปตั้งแต่เมื่อไร!

เช้าวันรุ่งขึ้น

หญิงสาวเดินตามออกัส เธอพบว่า อารมณ์ของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปดีขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนนี้

หลังจากเดินออกจากคอนโด เชอร์รีนก็รออยู่ข้างนอกคอนโดแล้ว เมื่อเห็นทั้งคู่ออกมา เธอก็ถูมือที่เย็นเฉียบของเธอ

ออกัสเหล่ตามองเธอแล้วพูดอย่างเฉยเมย “คุณเชอร์รีนนี่คือ?”

“ฉันมาส่งคุณไปบริษัท” เธอยืนนิ่งอยู่นาน ทำให้ขาของเธอชาเล็กน้อย จึงเหยียบเท้าเบาๆ

“พี่เชอร์รีนคะ ฉันกับพี่ออกัสกำลังจะไปโรงเรียน” หญิงสาวออกมาอธิบาย “พี่ออกัสช่วยฉันหามหาวิทยาลัย เราจะไปกันวันนี้ค่ะ”

เชอร์รีนไม่ยอม “ถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งพวกคุณ”

ระหว่างทางทั้งสามคนเงียบ เชอร์รีนขับรถ ออกัสหลับตาผล็อยหลับไป มุมปากของหญิงสาวยิ้ม ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

อธิการบดีรออยู่นอกมหาวิทยาลัยแล้ว พอเห็นประธานออกัสผู้สง่างามสูงศักดิ์ลงมาจากรถเฌอรี่ เขาก็กระแอมทันที

ออกัสไม่ได้เรียกให้เชอร์รีนไปด้วย แต่เธอก็เดินตามเขาไปเอง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอต้องเรียนรู้ที่จะเป็นหน้าด้านเข้าไว้ ยิ่งด้านมากยิ่งดี

ที่เข้าไปนั่นคือเขามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองS อธิการบดีแนะนำพลางพาพวกเขาเที่ยวชม

สุดท้ายหญิงสาวอยู่มหาลัยเพื่อเรียนหนังสือต่อ เหลือเพียงพวกเขาสองคน เชอร์รีนหันศีรษะเล็กน้อยมองที่ชายที่นั่งอยู่ข้างคนขับ “ไปที่บริษัทไหม?”

เขาเอนตัวพิงเบาะนั่งดูเหนื่อยมาก ตอบรับอย่างแผ่วเบา

พอถึงบริษัท เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัย กวาดตามองเธอแล้วพูดว่า “ซื้ออาหารเช้ามาชุดหนึ่ง”

น้ำเสียงเหมือนกำลังสั่งคนใช้ แต่เชอร์รีนไม่โกรธ อืม ตอนนี้หน้าของเธอหนาขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ช่วยเตโชไม่กล้าไปยั่วยุเขาง่ายๆ ทุกวันนี้อารมณ์ของท่านประธานออกัสเหมือนแผ่นดินไหว มีสัญญาที่ค้างอยู่มากมายที่เขายังไม่ได้เซ็น

ไม่ถูก แต่วันนี้ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติ ดูท่าทางเขาเหมือนจะเปล่งประกายมา ดูอารมณ์ดี

เขาขมวดคิ้ว ส่ายหัว จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เชอร์รีนวิ่งหอบเข้ามา ทักทายผู้ช่วยเตโชอย่างเร่งรีบแล้วเดินเข้าไป

ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นคนจู้จี้จุกจิกมาก ไม่ดื่มน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ไม่กิน ซาลาเปาก็ไม่กิน เธอซื้อมาเยอะมาก แต่กลับไม่มีอันไหนที่เหมาะกับกระเพาะเขาเลย

แต่ตอนนี้ใครใช้ให้เขาเป็นคุณชายล่ะ?

เธอหัวเราะ ไปซื้อที่ร้านอาหารเช้าฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง เธอซื้อโจ๊กและของอื่นๆ

หลังจากไปๆมาๆทรมานอยู่นาน เธอกลับไปถึงโรงพยาบาลเกือบสิบเอ็ดโมง กนกอรกำลังจะออกจากโรงพยาบาล สุขภาพก็ดีขึ้น

แค่ไปรับคำปรึกษาทางจิตวิทยาต่ออีกสักสองสามวันก็โอเคแล้ว เธอพยักหน้า เชอร์รีนขับรถส่งกนกอรกลับบ้านแล้วไปที่บริษัท

“เธอไม่คิดว่านี่เป็นจังหวะรนหาที่ตายเหรอ? ตอนแรกถ้าเธอเชื่อฟังมันก็ดีแล้ว ตอนนี้เป็นไงล่ะ ทำดีกับอีกฝ่ายแต่โดนอีกฝ่ายเย็นชาใส่” นาโนถอนหายใจใส่อย่างอารมณ์เสีย

เชอร์รีนยิ้ม “เธอไม่ได้งอแงกับฉันมาตลอดว่าอยากเห็นฉันไม่เจียมตัวไม่ใช่หรอ ครั้งนี้ก็ยากที่จะได้เห็นแล้วไง รู้สึกว่ามันสนุกมากใช่ไหม?”

“บัดซบ! จริงสิว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นมาจากไหน? ได้ถามเขารึยัง?”

มือที่ถือโทรศัพท์เกร็งเล็กน้อย เธอพูดว่า “ฉันไม่ได้ถาม อันที่จริงฉันตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะคบกับเขาไหม ฉันก็ตั้งใจที่จะสู้ ฉันดูเลวใช่ไหม?”

“เหอะ! เลวคืออะไร ตราบใดที่พวกเขายังไม่แต่งงาน ก็ยังมีโอกาสเท่ากัน!”

“ขอบใจนะ…”

“อ้อนฉันทำไม รีบไปแยกพวกเขาสิ เป็นกำลังใจให้ ฉันให้ความสำคัญเธอมากเลยนะ!”

ตอนเธอมาถึงที่บริษัท ออกัสไปห้องประชุม โชคดีที่ผู้ช่วยเตโชไม่ได้ห้ามเธอไว้ข้างนอก

ตอนเกือบสี่โมงเย็น เขาถึงจะกลับมาจากห้องประชุม เชอร์รีนรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองหนาขึ้นเรื่อยๆ “คุณเลิกงานกี่โมง เดี๋ยวจะไปรับซารางไหม?”

เขาเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือ “อีกเดี๋ยวค่อยดู”

“โอเค จะดื่มชาไหม?” เธอถาม

“ไม่เอา ทำความสะอาดห้องเถอะ ผมไม่อยากเห็นที่ที่มันรก” เขาพูดขณะเซ็นเอกสาร

เธอไม่โต้แย้งใดๆ เทน้ำอุ่นลงในอ่าง แล้วเริ่มทำความสะอาดห้องทำงาน แม้แต่หน้าต่างเธอก็เช็ดอย่างสะอาดสะอ้าน