ตอนที่ 509: ฟีนิกซ์น้ำเงินคราม

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 509: ฟีนิกซ์น้ำเงินคราม

 

อี้เทียนหยุนคิดว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะตราบเท่าที่เขาใช้ความสามารถจับสัตว์ออกไป ฟีนิกซ์พวกนี้ก็จะกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่อฟังของเขา ยังไงก็ตาม นี่ก็ออกจะเกินไปหน่อย เพราะเหมือนกับไม่ได้ใช้พลังของตนเพื่อให้ได้รับการยอมรับเลย

 

ยิ่งกว่านั้น ต่อให้ใช้ความสามารถจับสัตว์ ก็ใช่ว่าจะสำเร็จในทันที เพราะความยากในการจับสัตว์เทวะไม่ใช่น้อยๆ จำเป็นต้องทำให้บาดเจ็บก่อนถึงจะจับได้อย่างง่ายดาย

 

แต่ไม่ว่าจะจะยังไง เขาก็ไม่คิดที่จะใช้ความสามารถจับสัตว์ แต่คิดจะพึ่งพลังของตน เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากพวกเขาแทน!

 

“เจ้าคิดว่าง่ายอย่างงั้นเหรอ? เผ่าฟีนิกซ์ของเรานั้นค่อนข้างสัมผัสไว เจ้าต้องปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา แบบนั้นถึงจะสามารถทำให้พวกเขาสัมผัสได้ว่าเจ้านั้นเหมาะสมหรือไม่ ขนาดพวกข้าเองยังไม่ได้รับการยอมรับจากเผ่าโบราณง่ายๆ เลย” ไป๋สุ่ยหวงบอกวิธีการออกมา

 

“เจ้าเองก็เป็นเผ่าฟีนิกซ์ แบบนั้นก็ยังต้องเข้าทดสอบด้วยเหรอ?” อี้เทียนหยุนส่ายหัวแล้วพูดขึ้น

 

“พวกเราเผ่าฟีนิกซ์ ก็มีหลายเหตุผลที่ไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นฟีนิกซ์ได้ ดังนั้น การได้รับการยอมรับจากฟีนิกซ์โบราณ ก็เท่ากับได้คู่หูร่วมสู้ แล้วทำไมพวกเราถึงจะไม่ทำล่ะ?” ไป๋สุ่ยหวงพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“อืม” อี้เทียนหยุนคิดว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนร่างกลับเป็นฟีนิกซ์ได้เสียอีก แต่เพราะว่าวิวัฒนาการมากเกินไป ดังนั้น การคิดจะกลับเป็นฟีนิกซ์จึงเป็นไปไม่ได้ อย่างมากก็แค่เรียกปีกของตนออกมาได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นฟีนิกซ์ได้ทั้งตัว

 

“แน่นอนว่าหากต้องการจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ว่าไม่มีใครคิดจะทำกัน” ไป๋สุ่ยหวงพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “เพราะบางการเคลื่อนไหวแล้ว มันให้ความรู้สึกที่สะดวกกว่า เพราะอย่างนั้น ทำไมถึงต้องเปลี่ยนร่างด้วย?”

 

ร่างมนุษย์นั้นค่อนข้างยอดเยี่ยม ทั้งพลังก็ไม่ได้อ่อนแอ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อยากจะกลับไปยังสภาพเดิม

 

และตอนนี้ ผู้อาวุโสทั้งหลายก็พากันบินมา พร้อมกับร่อนลงใกล้ๆ กับการทดสอบรับตำแหน่งทูตศักดิ์สิทธิ์นี้ พวกเขาจำต้องมาตรวจสอบให้ดี ดูว่าอี้เทียนหยุนจะทำสำเร็จจริงๆ หรือเปล่า

 

“ท่านหัวหน้าเผ่า พวกเราเหล่าผู้อาวุโสที่เป็นพยานได้มาถึงหมดแล้ว ตอนนี้สามารถเริ่มการทดสอบได้” พวกเขามาเป็นพยานในการทดสอบของอี้เทียนหยุน หากว่าสำเร็จ พวกเขาก็จะยอมรับฐานะของอี้เทียนหยุน

 

จากนั้นพวกเขาก็จะพากันประกาศออกไปทั่วทั้งเผ่า ให้ผู้คนในเผ่าได้รู้ทั่วๆ กัน

 

“เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าเริ่มได้แล้ว หวังว่าเจ้าจะได้รับการยอมรับจากฟีนิกซ์อย่างราบรื่น” ไป๋สุ่ยหวงบอกเขาให้เริ่มได้

 

อี้เทียนหยุนพยักหน้า และในขณะที่กำลังจะกระโดดลงไปนั้น เหยียนเอ๋อที่อยู่ใกล้ๆ ก็ร้องให้กำลังใจว่า “ท่านพ่อจะต้องทำได้อย่างแน่นอน!”

 

“ขอบใจสำหรับกำลังใจนะ เหยียนเอ๋อ” อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็กระโดดลงไปข้างล่าง และเพิ่งจะกระโดดลงไป ฟีนิกซ์ที่อยู่ในภูเขาทั้งลูกก็พากันสั่นเบาๆ จากนั้นก็พากันปล่อยเปลวเพลิงออกมาในทันที

 

ราวกับสัมผัสได้ว่ามีคนบุกรุกเข้ามา ลาวาที่อยู่ในนั้นก็เริ่มโจมตี สร้างเป็นเสาไฟที่น่าสะพรึงพรวดขึ้นมา อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไปรับ พร้อมกับใช้ออกด้วยเคล็ดวิชากลืนสวรรค์ ทำการดูดกลืนเพลิงพวกนั้นที่พ่นเข้ามาเข้าไปในร่าง

 

“ท่านได้รับค่าความชำนาญ 600, 800, 1,000….”

 

เปลวเพลิงที่พ่นเข้ามานี้ ก็ได้ถูกดูดเข้าไปเป็นค่าประสบการณ์ในพริบตา สำหรับเขาแล้ว เปลวเพลิงพวกนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย

 

“ใครที่อยากเป็นคู่หูของข้า ก็ออกมาได้เลย!”

 

อี้เทียนหยุนปลดปล่อยเปลวเพลิงนิรันดร์ในร่างออกไป ทำให้เปลวเพลิงนิรันดร์กระจายออกทุกที่รอบๆ ด้วยความร้ายกาจของมัน ทำให้เปลวเพลิงนิรันดร์สะกดเปลวเพลิงอื่นๆ ได้อย่างอยู่หมัด เปลวเพลิงพวกนี้มีระดับที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสะกดมัน ไม่ให้กลับมาสร้างคลื่นลมอะไรอีก!

 

เพิ่งจะลงมา อี้เทียนหยุนก็พลันเปิดด้วยพลังสุดอหังการแล้ว ทำให้ไป๋สุ่ยหวงกับพวกพากันยิ้มออกมา ใช้พลังของตนเพื่อดึงดูดฟีนิกซ์มาเป็นพวก นี่เป็นการกระทำที่ฉลาดมาก

 

ฟีนิกซ์เป็นสัตว์ที่มีสติปัญญาชาญฉลาด ดังนั้น อย่างแรกจึงต้องเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความแข็งแกร่งไม่ต่ำทรามมาเป็นคู่หู หากว่ามีพลังไม่ได้ครึ่งของตน แล้วอย่างนั้นจะต่อสู้เคียงข้างกันได้ยังไง?

 

“วิธีนี้ดีมาก แต่ว่าเผ่าฟีนิกซ์ของพวกเราไม่ได้ดูแค่พลังเท่านั้น การจะเป็นคู่หูกันได้ จำต้องมีความจริงใจให้แก่กัน!”

 

“ขนาดพวกเราที่มีจิตวิญญาณของฟีนิกซ์ยังผ่านได้โดยบังเอิญ? แล้วเขาที่เป็นเผ่ามนุษย์ที่ฟีนิกซ์เกลียดตั้งแต่เกิดจะทำสำเร็จง่ายๆ ได้ยังไง”

 

“การเลือกแต่ก่อนนั้นเพราะมีการกระทำที่ถูกต้อง แต่การรอให้ฟีนิกซ์เข้ามาเลือกนี้ ช่างเป็นอะไรที่หาดูได้ยากจริงๆ?”

 

ผู้อาวุโสพากันส่ายหัว พร้อมกับรู้สึกสงสัยในมันสมองของอี้เทียนหยุนที่เลือกจะทำอย่างนี้ คิดว่าการกระทำของอี้เทียนหยุนนั้นไร้ความหมาย จะต้องไม่มีฟีนิกซ์ตนไหนบินมาอย่างแน่นอน

 

เหล่าฟีนิกซ์ต่างพากันมองมาที่อี้เทียนหยุน หลังจากมองอยู่สักพัก ก็ได้มีฟีนิกซ์ตัวหนึ่งร้องออกมา ก่อนที่จะบินขึ้นมาด้วยความเร็วที่ไวกว่าจะคาดถึง!

 

เมื่อมีตัวแรกก็มีตัวที่สอง จากนั้นตัวที่เหลือก็บินตามกันมา บินเข้ามาหาอี้เทียนหยุนอย่างหยุดไม่อยู่

 

ผู้อาวุโสมองดูด้วยความตกใจ พร้อมกับคิดขึ้นว่า เป็นแบบนี้ได้ยังไง?

 

“นี่ นี่เป็นไปได้ยังไง ทำไมฟีนิกซ์ถึงได้พากันบินเข้าหาเขาเลยล่ะ ไหนล่ะการตรวจสอบ?”

 

“ด้วยความเย่อหยิ่งของเผ่าฟีนิกซ์เรา ทำไมถึงไม่มีการตรวจสอบศีลธรรมของเขา แม้แต่กลิ่นก็ยังไม่ดม…..”

 

“สวรรค์ บินมาหมดทุกตัวจริงๆ แท้จริงแล้วมันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่……”

 

พวกเขาพากันจ้องมองอย่างตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ทำไมฟีนิกซ์ไม่ค่อยๆ บินมาช้าๆ อย่างแต่ก่อน หรือไม่ก็บินมาดูแค่ตัวสองตัวล่ะ

 

แต่ตอนนี้กลับพากันบินมาเป็นฝูง นอกจากพวกตัวน้อยที่ไม่บินมาแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนแต่บินมากันหมด

 

พวกเขาไม่รู้ว่าค่าความดีของอี้เทียนหยุนนั้นสูงมาก ดังนั้นด้านการตรวจสอบด้านศีลธรรมของเขาจึงถูกตัดทิ้งไปในทันที พร้อมกับได้รับการยอมรับอย่างง่ายดาย!

 

ฝูงฟีนิกซ์พากันห้อมล้อมเขาเอาไว้พร้อมกับร้องออกมา เหมือนกับกำลังบอกว่าให้เลือกตน ยังไงก็ตาม ต่อให้จะมีฟีนิกซ์จำนวนมากบินมา แต่ก็สามารถเลือกได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น เมื่อเลือกเสร็จแล้ว ตัวที่เหลือก็จะกลับไป

 

ฟีนิกซ์ถือเป็นสัตว์เทวะที่มีความเย่อหยิ่งอยู่ในตัว ดังนั้นมีแค่ 1 ตัวก็พอแล้ว หลังจากนั้นพวกมันก็จะแยกตัวกันไปเอง ทั้งยังไม่ปรายตากลับมามองท่านอีกแม้แต่น้อย

 

“โชคดีที่ฟีนิกซ์น้ำเงินครามตัวนั้นไม่เลือกเขา…..”

 

หลายคนเห็นว่าฟีนิกซ์น้ำเงินครามไม่เลือกอี้เทียนหยุนก็พากันโล่งใจ ฟีนิกซ์น้ำเงินครามตัวนี้คือผู้ครอบครองต้นอู่ถงเพลิงที่ใหญ่ที่สุด ตัวมันไม่ได้มีสีขนเหมือนกับฟีนิกซ์ตัวอื่นๆ แต่กลับเป็นสีฟ้าคราม! ซึ่งถือว่าผิดปกติอย่างมาก ไม่คิดว่าจะมีขนสีคราม ซึ่งไม่เหมือนใครจริงๆ

 

ส่วนทางด้านระดับก็ถือว่าน่ากลัวเช่นกัน เพราะมันมีพลังระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 5 ซึ่งหากเทียบกับฟีนิกซ์ตัวอื่นแล้ว ถือว่าแข็งแกร่งกว่ากันขั้นใหญ่ เพราะฟีนิกซ์ส่วนมากต่างก็มีระดับผันแปรวิญญาณเท่านั้น ตัวที่มีระดับวิญญาณเที่ยงแท้มีอยู่น้อยมาก

 

แต่ระดับของฟีนิกซ์น้ำเงินครามตัวนี้กลับเหมือนผู้กล้าที่โดดเด่น ทำการบดขยี้ฟีนิกซ์ทุกตน เป็นฟีนิกซ์ที่แข็งแกร่งที่สุด! แล้วตัวมันยังมีรูปลักษณ์ที่ผิดแปลก จึงทำให้ดูจับตายิ่งกว่าฟีนิกซ์ตัวไหนๆ

 

ตอนนี้ฟีนิกซ์จำนวนมากพากันบินเข้ามาอี้เทียนหยุน มีแต่ฟีนิกซ์น้ำเงินครามตัวนี้ที่ไม่ขยับ ทั้งยังเลือกที่จะนอนเฉย นอกจากที่มองมาที่นี่คราหนึ่ง ก็ไม่มีความสนใจอีก

 

และนี่ก็ทำให้พวกเขาพากันผ่อนคลาย อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำให้ฟีนิกซ์น้ำเงินครามตัวนี้ยอมรับ ไม่อย่างนั้น ชื่อเสียงของพวกเขาคงต้องป่นปี้อย่างแท้จริง

 

“ฟีนิกซ์น้ำเงินครามตัวนี้น่าสนใจจริงๆ…..” อี้เทียนหยุนยิ้มออกมาบางๆ เขารู้แล้วว่าตนจะเลือกตัวไหน