เสียงครวญครางในกระท่อมเบื้องหลังชินเหลียงหยูมีแต่จะดังขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตามความเป็นจริงมันดังเสียจนถึงจุดที่คนอื่นๆที่อยู่ภานในกระท่อมของตนเองก็สามารถได้ยินเสียงครางนี้อย่างชัดเจน
“พระเจ้าช่วย ข้าจักต้องยืนอยู่ที่นี่ฟังเสียงเหล่านี้จนกระทั่งพวกเขาเสร็จสิ้นกันเลยรึ นี่เรียกได้ว่าเป็นการทรมาน” ชินเหลียงหยูร่ำร้องในใจในเมื่อเธอไม่มีอำนาจที่จะหยุดเสียงรบกวนที่ดังมาจากด้านหลังเธอ
ครึ่งชั่วโมงถัดมาเสียงครวญครางก็ส่งผลกระทบกับชินเหลียงหยูมากเสียจนกระทั่งจิตใจของเธอไม่มีอะไรไปนอกจากความคิดลามก จินตนาการว่าตัวเธอเองได้อยู่ในฐานะเดียวกับคนที่กำลังครวญครางอยู่ในที่กำบังนั้น
ในความคิดของเธอนั้น เธอกำลังถูกซูหยางกอดและทั้งคู่ก็ล้วนเปล่าเปลือย เขาได้โลมเลียไปทั่วสรรพางค์กายของเธอ และเธอก็ทำเช่นเดียวให้กับเขา จากนั้นเธอก็จินตนาการว่ากลีบดอกไม้ของเธอได้ถูกซูหยางลูบไล้ จากนั้นก็เป็นตาของเธอใช้ปากโลมเล้าเจ้าโลกของเขา สุดท้ายเธอก็จินตนาการว่าซูหยางได้สอดใส่อวัยวะเพศของเขาเข้าไปในอวัยวะเพศของเธอ รวมเป็นหนึ่งเดียวกันในเวลานั้น
แต่ทว่าท่ามกลางความฝันของเธอ ถังหลินชีได้ปรากฏตัวต่อหน้าเธอและกล่าวว่า “ข้าลืมปิดล้อมสถานที่แห่งนี้ด้วยค่ายกลปิดเสียง”
ไม่นานนักหลังจากนั้น เกราะที่มองไม่เห็นก็ปิดล้อมกระท่อมทำให้เสียงครวญครางทั้งหมดจากภายในหมดสิ้นไป
“เจ้ายังดีอยู่ไหม เจ้าดูหอบหายใจค่อนข้างหนัก” ถังหลินชีกล่าวกับเธอหลังจากนั้นพร้อมกับรอยยิ้มลึกลับบนใบหน้า
“ข-ข้าสบายดี” ชินเหลียงหยูตอบอย่างเร่งร้อน เธอไม่อาจปล่อยให้ถังหลินชีรู้ว่าเธอได้รับผลกระทบจากเสียงครวญครางและฝันกลางวันว่าได้ร่วมเรียงเคียงคู่กับซูหยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ปฏิเสธที่จะเป็นคู่ให้กับเขาเนื่องมาจากตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านของเธอ
“เช่นนั้นถ้าเจ้าต้องการอะไร เจ้าสามารถไปหาข้าได้ที่เรือบิน” ถังหลินชีกล่าวกับเธอก่อนที่จะจากไป
“…”
ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าถังหลินชีได้ป้องกันไม่ให้เสียงครวญครางเล็ดลอดออกมาจากกระท่อมและทรมานเธออีกต่อไปแล้วก็ตาม ร่างของชินเหลียงหยูก็ยังคงไม่อาจจะเยือกเย็นลงไปได้ ตามความเป็นจริงเธอยิ่งรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นกว่าเดิมจากความเงียบนั้นเมื่อมันทำให้เธอจินตนาการสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้น
“อา… นี่ไม่เข้าท่าแล้ว… ข้ามิอยากจะเชื่อว่าข้าจักมีความคิดหยาบคายเช่นนี้กับผู้อาวุโสซู”
กระทั่งชินเหลียงหยูยังรู้สึกประหลาดใจในความสามารถในการคิดลามกของจิตใจตนเองในเมื่อสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ราวกับว่าเธอเป็นคนที่ลามกนานมาแล้ว และการได้ยินเสียงครวญครางก็เป็นการปลุกความลามกของเธอที่หลับไหลอยู่ในสันดานให้ตื่นขึ้น
ท้ายที่สุดแล้วถึงแม้ว่าเธอจะถือตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านระดับสูงแห่งหนึ่งภายในทวีปใต้ ชินเหลียงหยูก็ยังคงเป็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆที่มีจิตใจและร่างกายที่สมบูรณ์ จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอจะมีความคิดปรารถนาแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเธอได้อยู่ตรงหน้าชายในฝันอย่างเช่นซูหยาง
ในเวลานั้นภายในกระท่อม ซูหยางเพิ่งได้สอดใส่ลึงค์ของเขาเข้าไปในหญิงคนที่สิบสาม
“โอพระเจ้า มันรู้สึกใหญ่กว่าเดิมเมื่ออยู่ในตัวข้า” หญิงสาวครางออกมาเสียงดังลั่นเมื่อรู้สึกว่าแท่งสังวาสอวบใหญ่ขอบซูหยางได้เต้นตุบตับอยู่ภายในช่องสังวาสเปียกแฉะของเธอ
หลังจากที่ทิ่มทะลวงประตูที่ปิดอยู่ของหญิงคนนั้นแล้ว ซูหยางก็เริ่มขยับสะโพกถูไถอวัยวะเพศชายเข้ากับผนังภายในอันอ่อนนุ่มของเธอทำให้เกิดเสียงฉ่ำแฉะ
“อาาา อาาา อาาาาา”
หญิงสาวครวญครางอย่างดิบเถื่อนในขณะที่ดอกไม้ของเธอพ่นฟูฝอยปราณหยินออกมา
เมื่ออาบไปด้วยปราณหยิน ซูหยางก็ดูดซับมันเข้าไปเติมปราณไร้ลักษณ์ของเขาอย่างเงียบๆ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หยุดขยับสะโพกถึงแม้ในขณะที่เขากำลังดูดซับปราณหยินอยู่ก็ตามซึ่งปกติแล้วต้องใช้สมาธิอย่างสูงสุด
นี่เป็นสิ่งที่จะสามารถทำได้ก็เพียงคนที่สามารถร่วมฝึกวิชาคู่ได้อย่างง่ายโดยไม่ต้องคิดนึกเหมือนกับการหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่มีเพียงซูหยางเท่านั้นที่ทำได้
“ข-ข้ามิอาจจะทนได้แล้ว ถ้ามากไปกว่านี้ข้าจักต้องบ้าแน่ๆเลย”
นั่นใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของซูหยางในการยอมแพ้เนื่องจากหมดแรง เมื่อการกระตุ้นนั้นรุนแรงเกินไปสำหรับร่างกายของเธอที่จะรับไหว และครั้นเมื่อเธอถอยไปยังด้านข้างเตียงเพื่อพักผ่อน หญิงคนต่อไปก็เข้าแทนที่เธอในอ้อมกอดของซูหยาง ให้เขาได้ร่วมรักอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดพัก
เวลาสามชั่วโมงหลังจากนั้น หญิงสาวทั้งหมดสามสิบสองคนนั้นต่างก็ล้วนได้รับรู้ถึงกลเม็ดของซูหยางอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และก็ไม่มีพวกเธอคนไหนที่ไม่พึงพอใจกับสัมผัสระดับเทพของเขา
อย่างไรก็ตามซูหยางไม่มีแม้เหงื่อสักหยดหลังจากที่ร่วมรักกํบหญิงสาวทั้งสามสิบสองคนนี้ ตามความเป็นจริงปราณไร้ลักษณ์ของเขาก็ได้ฟื้นคืนมาบ้างประมาณหนึ่งในสิบของปริมาณทั้งหมด
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาคงต้องร่วมฝึกกับพวกเธออย่างน้อยสิบครั้งภายในสองวันถัดไปก่อนที่เขาจะฟื้นคืนปราณไร้ลักษณ์ของเขาได้เต็มที่
แน่นอนว่านี่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับซูหยางซึ่งครั้งหนึ่งเคยรองรับหญิงมากกว่าสามหมื่นคนในครั้งเดียว กลับกันปัญหาตกอยู่กับคู่นอนของเขาทั้งสามสิบสองคนในเมื่อเกือบเป็นไปไม่ได้ที่พวกเธอจะสามารถอยู่ได้นานปานนั้นถึงแม้ว่าพวกเธอจะได้พักระหว่างแต่ละยก
จากสิ่งที่กล่าวมาแล้วนี้ เขาไม่จำเป็นต้องฟื้นฟูปราณไร้ลักษณ์ของเขาจนสมบูรณ์ เพียงแค่พอให้อาการของเขาคงตัว
“ตอนนี้ข้าจักฝึกฝนรวบรวมปราณหยินที่ข้ารวบรวมไว้ได้ ครั้นเมื่อพวกเจ้าได้ฟื้นฟูเรี่ยวแรงมากพอแล้วและต้องการที่จะต่อรอบสองก็เพียงแค่บอกให้ข้ารู้ ถ้าเจ้ามิต้องการที่จะต่อ เช่นนั้นเจ้าก็สามารถจากไปได้ทุกเวลา”
ซูหยางกล่าวกับพวกเธอก่อนที่เขาจะหลับตาลงเพื่อทำสมาธิฟื้นคืนความแข็งแกร่งของตนเอง
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงหนึ่งในบรรดาหญิงสาวในนั้นก็เข้าไปหาซูหยางและพูดว่า “ซูหยางข้าพร้อมสำหรับยกที่สองแล้ว”
หญิงสาวรู้ว่านี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิตและนั่นอาจจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกครั้งตราบเท่าที่พวกเธอยังอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นเธอจึงต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ปัจจุบันให้เต็มที่ในการร่วมฝึกกับซูหยางให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนที่เขาจะจากไปตลอดกาล
ซูหยางลืมตาขึ้นมามองดูหญิงสาวร่างเล็กและเขาก็พยักหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“มานี่สิ”
จากนั้นหญิงสาวจึงทำการกางขาของเธอและนั่งคร่อมลงไปบนตักของเขา ดันศิวลึงค์ขนาดมหึมาตรงเข้าไปยังรูฉ่ำแฉะที่อยู่ระหว่างขาของเธอ
“โอออ”
ครั้นเมื่อเธอรู้สึกว่าเพศชายของซูหยางได้ฝังเข้าไปเต็มร่องหลืบของเธอแล้ว เธอก็เริ่มขี่มันปลดปล่อยตนเองไปกับความหฤหรรษ์ที่ติดตามมาอย่างรวดเร็ว