บทที่ 312 พวกหน้าไหว้หลังหลอก

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

เชอร์รีน ส่ายหัว “ไม่ หลังจากผ่านเหตุการณ์นี้มา ฉันพบว่าการที่ผู้หญิงทำตัวสบายๆเกินไปไม่ใช่เรื่องดี บางทีในอนาคตคุณอาจจะชอบผู้หญิงคนนั้นจริงๆก็ได้ และคุณก็จะให้เธอเข้ามาพักที่นี่ แล้วตอนนั้นฉันก็คงจบลงเหมือนครั้งนี้ ฉันต้องมีชีวิตและความคิดของตัวเอง”

“ผมบอกแล้ว เธอเป็นน้องสาว น้องชายของเธอหัวใจวาย และช่วงนี้อาการโคม่า เธอไม่สามารถทนแบกรับคนเดียวได้ ผมจึงปล่อยให้เธออยู่ที่นี่…”

“ฉันรู้แล้ว และฉันก็พบว่าคุณไม่ใส่ใจและเอาใจใส่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว คุณละเลยฉันมากขึ้นเรื่อยๆ จนฉันไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่ ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยพูดอย่างนี้กับฉันมาก่อน และไม่เคยให้ฉันขับรถมาเอาเสื้อผ้าและรับซาราง ฉันรู้สึกว่าคุณเปลี่ยนไปแล้ว…”

บนหัวของออกัสเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยเมฆสีดำ ทั้งมืดและทึบ การแสดงสมจริงเกินไป นี่เขาหาเหาใส่หัวหรือเปล่า

นี่คืออะไร มันคืออะไรกันแน่ เห็นได้ชัดว่าคนที่ถูกลงโทษคือเธอ แต่ทำไมเขาถึงเป็นคนเดียวที่ทนทุกข์และไม่พอใจ

“แสดงสมจริงเกินไปก็ผิดด้วยหรอ” ฝูงกาบินเหนือศีรษะของเขา เหมือนสติเขาหลุดไปแล้ว

“ไม่ผิด ฉันตอนนี้แค่ตั้งคำถามกับความรู้สึกของคุณ ว่าจริงๆแล้วคุณแสดงได้ดี หรือว่าคุณเบื่อฉันแล้วกันแน่ ถึงได้ทำให้คุณแสดงออกมาได้อย่างราบรื่นและง่ายดาย”

ระหว่างพูดเชอร์รีนก็กอดเสื้อผ้าซารางไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดว่า “ดึกแล้ว คุณไปนอนเถอะ ฉันจะกลับแล้ว”

คิ้วหล่อเหลาของออกัสยกขึ้น แขนแกร่งโอบรอบเอวของเธอ “อยู่ก่อน”

“ไปนอนเถอะ ซวนซวนกับแม่ของฉันยังรอฉันกลับอยู่” เธอตัดสินใจ

“ผมไร้วุฒิภาวะจริงๆ ผมสาบานว่าจะไม่ใช้อุบายแบบนี้อีก!” ณ.เวลานี้ เขารู้แล้วว่าอะไรคือความเสียใจ!

เชอร์รีนยกมือขึ้นมาตบหน้าเขาเบาๆ ก่อนจะพูดแบบขอไปที “ฉันรู้แล้ว”

เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย หยิบเสื้อคลุมสีดำด้านข้างขึ้นมา และนวดหน้าผากก่อนจะพูด “ผมไปส่ง”

“ฉันขับรถมา อยู่ข้างล่าง” เธอปฏิเสธ เลิกคิ้วขึ้น และพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องไปส่งจริงๆนะ ฉันไปแล้วนะ”

ฝีเท้าของเธอเร็วมาก เชอร์รีนเดินออกจากคอนโดอย่างรวดเร็ว และปิดประตูห้อง ขณะที่ออกัสช้าไปหนึ่งก้าว และเมื่อเขาออกมา ประตูลิฟต์ก็ปิดลงแล้ว

เขายืนอยู่หน้าลิฟต์ รอลิฟต์ตัวถัดไป เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง รถสีแดงก็ได้แล่นออกไปแล้ว

คิ้วของออกัสย่นสูงขึ้นเรื่อยๆ นี่เขาลงโทษเธอ หรือเธอลงโทษเขากันแน่

ตอนที่เชอร์รีนอุ้มซารางที่กำลังหลับสะลืมสะลือเดินออกจากห้อง ตาของเธอก็บังเอิญเหลือบไปเห็นออกัสนั่งอยู่บนโซฟา ทำให้เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

“ตื่นแล้วหรอ เมื่อคืนหลับสบายไหม” ริมฝีปากบางของเขาโค้งขึ้นและทักทายเธอ

เมื่อดึงสติกลับมาได้ เธอก็เหลือบมองนาฬิกาที่ผนังอย่างว่างเปล่า แต่เพิ่งจะหกโมงเช้าเอง เขามาทำอะไรที่นี่เช้าขนาดนี้

เธอพาซารางไปล้างหน้า แปรงฟัน และหวีผม เมื่อเธอออกมากนกอรก็เตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว และชายคนนั้นก็นั่งที่โต๊ะอาหาร

ทั้งสี่นั่งล้อมโต๊ะอาหาร บรรยากาศดูกลมกลืนมาก แม้ว่าท่าทีของกนกอรจะไม่ได้เป็นมิตรหรือเย็นชา แต่เธอก็ไม่ได้อารมณ์เสียอีก

“คุณป้า กินข้าวเสร็จแล้วพวกเราออกไปข้างนอกกันเถอะ” ออกัสจิบนมถั่วเหลืองไปพลางๆ

กนกอรแสดงท่าทีเย็นชา “ทำอะไร”

“วันนี้วันเกิดคุณป้า ไม่ใช่หรอครับ”

เชอร์รีนยกมือขึ้นมาตบหน้าผากของเธอ ให้ตายสิ! เธอเกือบลืมเรื่องสำคัญเรื่องนี้ไป!

กนกอรปฏิเสธที่จะไป อารมณ์ของเธอไม่ค่อยดี แถมจักรกฤษเพิ่งจากไปเมื่อไม่นานมานี้ เธอจึงไม่มีอารมณ์หรือเวลาว่างที่จะฉลองวันเกิดของเธอ

แต่ซวนซวนไม่เห็นด้วย เธอใช้สองมือกอดขากนกอร แล้วอ้อน “คุณยาย! คุณยายคนดี! คุณยายที่แสนดีของหนู!”

หัวใจของกนกอรอ่อนลงเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ยอม

“คุณยาย ถ้าคุณยายไปวันนี้ หนูจะให้ของขวัญวันเกิด จะให้ทุกอย่างที่คุณยายต้องการ! ไม่อย่างนั้นหนูจะไม่ซื้ออะไรให้เลย!”

เมื่อไม่สามารถทนคำรบเร้าของซารางได้ กนกอรจึงถอนหายใจเบาๆ อุ้มซาราง ขึ้นมาแล้วตอบว่า “โอเค โอเค!”

รถเบนท์ลีย์สีดำจอดรออยู่แล้ว และออกัสก็ได้ขอลาให้เชอร์รีนกับซารางแล้วเป็นเวลาหนึ่งวัน

เมื่อได้ยินเช่นนี้เชอร์รีนก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตา ด้วยความรู้สึกว่านี่เขาให้พวกเธอสองแม่ลูกโดดเรียนหรอ

ไปที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ก่อนเป็นที่แรก ออกัสให้เชอร์รีนเลือกเสื้อผ้าให้กนกอร ซึ่งทั้งหมดเป็นเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่สำหรับฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าสี สไตล์ หรือเนื้อผ้าต่างดีทั้งสิ้น

สองวันจากนี้ กนกอรก็บังเอิญต้องกลับบ้านเกิดเพื่อไปร่วมงานแต่งของญาติพอดี จึงควรซื้อเสื้อผ้า

ไม่ไกลกันนั้น สุนันท์และกลุ่มคุณนายไฮโซกลุ่มหนึ่งกำลังช้อปปิ้งกันอยู่ และบังเอิญเห็นคนสี่คนอยู่ข้างหน้า ผู้ใหญ่สามเด็กหนึ่ง

“คุณหญิงสุนันท์ ไหนคุณบอกว่าลูกชายของคุณเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วไง ทำไมยังอยู่ด้วยกันอยู่ด้วยกันอยู่ล่ะค่ะ”

“ใช่ค่ะ ฉันได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนั้นส่งคุณสิงหาเข้าคุก ลูกชายของคุณไม่โกรธ แถมยังสามารถคบกับเธอได้อีกหรอคะ”

“ใช่ค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งเห็นข่าวในทีวีว่าลูกชายของคุณคบกับผู้หญิงสวยๆคนหนึ่ง นี่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน อย่าบอกนะคะว่าเลิกกันแล้ว” คำพูดต่างๆมากมายรอบตัวทำให้อารมณ์ของสุนันท์ดิ่งลง เสียงจอแจที่ดังรอบหูทำให้เธอรู้สึกรำคาญมาก

ที่จริงแล้วพวกคุณหญิงไฮโซพวกนี้ไม่ได้รู้ที่มาที่ไปของเรื่องที่แท้จริงเลย แต่ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกสนาน

แถมยังมีคุณนายหลายคนที่รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง แต่เมื่อเห็นแก่หน้าสุนันท์ ทุกคนจึงโยนความผิดไปให้เชอร์รีน

คำพูดพวกนี้ทำให้สุนันท์หน้าซีด เธอสัมผัสได้ว่าคนพวกนี้กำลังล้อเลียนตระกูลสิริไพบูรณ์อยู่ กำลังดูถูกเธออยู่

เธอหมดอารมณ์ช้อปปิ้งในทันที จึงหยุดเดินและพูด “พวกเธอเดินกันต่อเถอะ ฉันมีธุระต้องไปทำ”

เมื่อเธอเดินห่างไปไกลแล้ว กลุ่มคุณนายเหล่านั้นก็หัวเราะออกมา “ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอยังมีอะไรให้น่าเชิดหน้าชูตาอีก ในเมืองsมีใครไม่หัวเราะเยาะตระกูลสิริไพบูรณ์บ้าง!”

สุนันท์ที่แอบฟังอยู่มุมนึงได้ยินคำพูดเหล่านั้นอย่างชัดเจน จึงกัดฟันด้วยความขุ่นเคือง พวกหน้าไหว้หลังหลอก!

สุดท้ายก็เลือกเสื้อโค้ทสีอิฐ กางเกงขายาวสีดำ ซึ่งมันดูสวยงามมากเมื่อใส่ด้วยกัน ทำให้ดูอ่อนกว่าไวถึงสิบปี เมื่อถึงเวลาชำระเงิน เท้าเล็กๆของซารางวิ่งเร็วกว่าใคร เธอวิ่งไปจนถึงเคาน์เตอร์ และเทเงินค่าขนมทั้งหมดที่สะสมออกมา

ท่าทางของเธอมุ่งมั่นมาก ดูทั้งมีมารยาท ฉลาด น่ารัก จนพนักงานปลื้มเป็นอย่างมาก

แต่เงินค่าขนมของเธอไม่พอ ซารางจึงขมวดคิ้วแล้วหันกลับมามองเชอร์รีน “หม่ามี๊ เงินของหนูไม่พอ หนูขอยืมหน่อย เดี๋ยวหนูโตขึ้นหาเงินได้แล้วค่อยเอามาคืน!