ตอนที่ 560 ยังเหลือเวลาอีกเท่าไร
ความคิดของมู่หรงนี่อวิ๋นเรียบง่ายมาก เขาอยากทำกับข้าวสักมื้อให้หลิงอวี้จื้อทาน และเป็นกับข้าวมื้อสุดท้าย ต่อไปไม่มีโอกาสเช่นนี้แล้ว ตอนนี้ไม่มีใครอื่น เขาได้เห็นหลิงอวี้จื้อทานกับข้าวที่เขาทำเอง คิดถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกพึงพอใจมาก ตั้งใจทำเต็มที่
หลิงอวี้จื้อเรียกมั่วชิงออกมา พิงไผ่ต้นหนึ่งข้างเรือนไม้ไผ่ ถามด้วยสีหน้าตึงเครียด
“มั่วชิง เจ้าบอกความจริงข้ามา นี่อวิ๋นยังทนได้ไปอีกนานเท่าไร”
“พิษดอกอวี้จีมีฤทธิ์ร้ายแรง เมื่อโดนพิษแล้วฝ่ามือจะมีรอยเส้นสีดำเห็นชัดพาดผ่าน รอเส้นสีดำขยายเต็มทั้งฝ่ามือแล้ว พิษก็จะกำเริบจนตาย ตอนนี้เส้นสีดำบนมือของคุณชายมู่หรงจะถึงขีดสุดแล้ว ข้าน้อยสันนิษฐานว่า อย่างมากที่สุด คุณชายมู่หรงจะทนไปได้อีกประมาณสิบวันเพคะ”
หลิงอวี้จื้อแทบยืนไม่อยู่ ทำไมมีแค่สิบวันเอง เวลาสั้นๆ แค่นี้ ถึงแม้ไปหาแมลงจิ่วเซียงก็ไม่ทันแล้ว ตอนนั้นที่เธอโดนพิษขุยเหล่ยเซียงก็ใช้เวลาตั้งหลายเดือนกว่าจะได้แมลงจิ่วเซียงมาสักตัว จะหาอีกตัวพูดง่ายทำยาก
ประกอบกับไทเฮาก็รู้เรื่องนี้แล้ว หากพอจะช่วยมู่หรงนี่อวิ๋นได้ ไทเฮาก็คงจะไม่ยืนดูอยู่เฉยๆ
ถึงแม้ไม่อยากจะยอมรับ แต่เธอก็ต้องยอมรับ เวลาของมู่หรงนี่อวิ๋นมีไม่มากแล้วจริงๆ
หลิงอวี้จื้อรู้สึกเจ็บปวดมาก นึกถึงมู่หรงนี่อวิ๋นที่ยังสาละวนอยู่ในครัว ที่จริงเธอไม่มีความอยากอาหารเลย ได้แต่รู้สึกผิดต่อมู่หรงนี่อวิ๋นอย่างมาก เธอเองที่ทำร้ายเขาถึงตาย
หลิงอวี้จื้อยืนเหม่อขณะพิงต้นไผ่ มั่วชิงอยู่เป็นเพื่อนข้างๆ สองคนไม่พูดอะไรกัน ผ่านไปสักครู่ จู่ๆ สีหน้าท่าทางของมั่วชิงก็กลายเป็นตื่นตัวขึ้นมา พูดเตือนว่า
“พระชายา มีคนมาเพคะ”
“หรือว่าเป็นอาเหยี่ยน”
หลิงอวี้จื้อทิ้งจดหมายไว้ให้เซียวเหยี่ยน เธอนึกว่าเซียวเหยี่ยนได้จดหมายแล้วก็ตามมา หลังจากเว่ยอ๋องถูกกำจัดไปแล้ว เซียวเหยี่ยนก็ยิ่งยุ่ง มักจะกลับบ้านมาตอนฟ้ามืด นอกเสียจากว่าเขากลับมาเร็ว มิเช่นนั้นตอนนี้เขาควรจะยังไม่รู้เรื่องนี้ เธอสั่งเอาไว้เป็นพิเศษว่า อย่าเพิ่งไปรบกวนเซียวเหยี่ยนก่อน
มั่วชิงไม่ได้ตอบ รีบเข้าไปตรวจดู แล้วรีบกลับมาอย่างเร็ว
“พระชายา เป็นเจียงฮูหยินเพคะ”
หลิงอวี้จื้อนึกไม่ถึงว่ามู่หรงกวานเสวี่ยจะมาที่นี่ตอนนี้ หรือว่าจะมาหามู่หรงนี่อวิ๋น
ระยะนี้มู่หรงกวานเสวี่ยปิดประตูไม่ออกมาข้างนอกเลย แอบซุ่มเสียจนเกือบลืมว่ามีนางอยู่ และหลิงอวี้จื้อก็ถูกเรื่องของเฉินปี้ปลุกปั่นเสียจนน่วม ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้สนใจมู่หรงกวานเสวี่ย
แต่มู่หรงกวานเสวี่ยมาแล้ว เธอก็อยากเจอมู่หรงกวานเสวี่ยเหมือนกัน ดูสิว่านางมาทำอะไรกันแน่
สองคนเดินไป เห็นหลิงอวี้จื้ออยู่ที่นี่ มู่หรงกวานเสวี่ยก็ไม่ตกใจ เดินตรงมาข้างหน้าหลิงอวี้จื้อ
มู่หรงกวานเสวี่ยสวมชุดสีเขียวน้ำทะเล สวยงามมาก ทั้งสองคนค่อนข้างร่างเล็ก เพียงแต่หลิงอวี้จื้อดูแล้วเล็กกว่า แต่ทั้งสองคนต่างก็ดูเหมือนพี่น้องรุ่นราวคราวเดียวกัน
“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
เห็นหลิงอวี้จื้อ มู่หรงกวานเสวี่ยก็ยิ้มงดงามมาให้ ราวกับว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ดีต่อกัน เพียงแต่แววตาของมู่หรงกวานเสวี่ยนั้นเย็นชา ไม่แฝงรอยยิ้ม
“เจียงฮูหยินถามเช่นนี้ช่างประหลาดนัก เจียงฮูหยินมาที่นี่ได้ เหตุใดข้าจะมาไม่ได้ ข้ากับนี่อวิ๋นเป็นถึงเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาเชิญข้ามา ข้าก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่มา”
มู่หรงกวานเสวี่ยยิ้มเยือกเย็นพูดว่า
“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์คงจะลืมไปแล้วว่าตอนนี้ตนเองเป็นหญิงมีสามีแล้ว วิ่งขึ้นเขามาพบชายอื่นเป็นการส่วนตัวเช่นนี้ พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไม่รู้สึกละอายแก่ใจบ้างหรือ”
“มีอะไรน่าละอายใจหรือ เจียงฮูหยินก็มิใช่หญิงมีสามีหรอกหรือ”
หลิงอวี้จื้อย้อนอย่างประชดประชัน
“เขาเป็นน้องชายของข้า”
ตอนที่ 561 อย่ารังแกกันมากไป
“เจ้าเป็นใคร ตัวเจ้าเองรู้ดีที่สุด นี่อวิ๋นกับเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด”
หลิงอวี้จื้อพูดจบก็ขี้เกียจจะสนใจมู่หรงกวานเสวี่ยอีก กำลังจะไป
เพิ่งจะหมุนตัว มู่หรงกวานเสวี่ยก็เรียกหลิงอวี้จื้อให้หยุด
“นี่อวิ๋นคิดอย่างไรกับเจ้า ใจเจ้าก็รู้ดี พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ข้าจะถามเจ้าสักคำ เจ้าอยากช่วยนี่อวิ๋นหรือไม่”
หลิงอวี้จื้อมีปฏิกิริยาตอบโต้ทันที หรือว่ามู่หรงกวานเสวี่ยมาหาเธอ
นางพูดเช่นนี้แสดงว่ามีวิธีช่วยมู่หรงนี่อวิ๋น แต่คงจะเอาเรื่องนี้มาบีบเธอ
มู่หรงกวานเสวี่ยตัวดี ถึงแม้ว่าไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ ของมู่หรงนี่อวิ๋น ร้ายดีอย่างไรก็เป็นพี่น้องกันมาตั้งหลายปี เห็นอยู่ว่าน้องชายตัวเองจะตายต่อหน้า ยังคิดจะเอาเรื่องนี้มาหาประโยชน์อีก เป็นพี่สาวที่ดีจริงๆ
คิดถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็โมโหมาก ถามอย่างเย็นชา
“เจ้าต้องการอะไร”
“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็รู้ว่านี่อวิ๋นรักจริงใจต่อเจ้า เพื่อเจ้าแล้ว แม้แต่ชีวิตตนเองก็สละได้ เขามีวันนี้ก็เพราะเจ้าทำร้ายเขา เขาไม่ได้ช่วยชีวิตเจ้าเพียงครั้งเดียว ถึงแม้พิษดอกอวี้จีจะแก้ไม่ได้ แต่ในมือข้ามีแมลงจิ่วเซียงอยู่ตัวหนึ่ง เพียงได้แมลงจิ่วเซียงมา นี่อวิ๋นก็จะสามารถอยู่ได้อีกหลายเดือน”
มู่หรงกวานเสวี่ยพูดจบก็หยิบขวดกระเบื้องสีดำออกมาจากอกเสื้อแล้วยื่นให้หลิงอวี้จื้อ
“เจ้าแค่กินยาในนี้ ข้าก็จะเอาแมลงจิ่วเซียงให้เจ้า”
“มู่หรงกวานเสวี่ย เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่ ในมือเจ้ามีแมลงจิ่วเซียงอยู่แท้ๆ นึกไม่ถึงว่าจะหยิบออกมาไม่ได้ ร้ายดีอย่างไรนี่อวิ๋นก็เรียกเจ้าว่าพี่สาวมาตั้งหลายปี จวนมู่หรงก็มีบุญคุณเลี้ยงดูเจ้ามา
ตอนนี้เจ้ายังมีชีวิตอยู่ดี พูดตรงๆ ก็เป็นเพราะพระคุณของไทเฮา เรื่องของนี่อวิ๋นทำให้ไทเฮาใจสลาย นึกไม่ถึงว่าเจ้าก็ยังไม่หยิบออกมาอีก เขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลมู่หรง เจ้าก็ยังใจดำอำมหิตเช่นนี้ได้ ยังอยากเห็นมู่หรงนี่อวิ๋นตายไปต่อหน้าต่อตาเจ้าอีก”
หลิงอวี้จื้อโมโหด่าชุดใหญ่ มู่หรงกวานเสวี่ยทำเกินไปแล้วจริงๆ รู้ดีว่าแมลงจิ่วเซียงสามารถช่วยยืดเวลาชีวิตของมู่หรงนี่อวิ๋นได้ นึกไม่ถึงว่ายังไม่หยิบออกมาให้ นางไม่ได้ทิ้งเชื้อสำนักอู๋จี๋เลย
เมื่อเซียวเหยี่ยนรู้ว่าพิษที่หลิงอวี้จื้อโดนนั้น มู่หรงกวานเสวี่ยเป็นคนวางยา ตอนแรกเตรียมจะไปฆ่ามู่หรงกวานเสวี่ย ใครจะไปรู้ว่ามู่หรงกวานเสวี่ยหยุดเซียวเหยี่ยนไว้ เสนอเงื่อนไขว่านางจะไม่แตะต้องชีวิตของหลิงอวี้จื้ออีกเพื่อให้เขาไว้ชีวิตนาง
เซียวเหยี่ยนจึงปล่อยมู่หรงกวานเสวี่ย ระยะนี้มู่หรงกวานเสวี่ยก็ซื่อสัตย์มาก ไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทุกคนก็เข้าใจว่านางยอมตามมู่หรงกวานเย่ว์ คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นกลยุทธ์หน่วงเวลา
“ตอนนี้ชะตาชีวิตของนี่อวิ๋นอยู่ในกำมือเจ้า พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เจ้าต้องตัดสินใจว่านี่อวิ๋นจะอยู่หรือตาย
โอกาสมีเพียงครั้งเดียว เจ้าไม่กินยานี้ ข้าก็ไม่เอาแมลงจิ่วเซียงให้เจ้า เจ้าจะบอกไทเฮาก็ไม่มีประโยชน์ นางไม่เชื่อคำพูดเจ้า ตอนนี้นางเชื่อเพียงข้า”
มู่หรงกวานเสวี่ยกับหลิงอวี้จื้อประจันหน้ากัน นางมองหลิงอวี้จื้ออย่างเย็นชา รอหลิงอวี้จื้อตอบรับ
หลิงอวี้จื้อหน้าบึ้งตึง ยาพิษนี้ต้องเป็นยาพิษสำนักอู๋จี๋แน่ พวกนางคงไม่เอาชีวิตเธอ แต่จะต้องใช้เธอไปต่อรองกับเซียวเหยี่ยนแน่นอน ถึงเวลานั้นก็จะเดือดร้อนเซียวเหยี่ยนอีก
หลิงอวี้จื้อลำบากทั้งขึ้นทั้งร่อง สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจจะปกป้องชีวิตของมู่หรงนี่อวิ๋นก่อน เธอเป็นหนี้บุญคุณมู่หรงนี่อวิ๋นมากเหลือเกิน
“ได้ ข้ากิน เจียงฮูหยิน หากเจ้าหลอกข้า พวกเราก็ต้องตายด้วยกัน”
หลิงอวี้จื้อรับขวดกระเบื้องเคลือบที่มู่หรงกวานเย่ว์ยื่นมาให้ อารมณ์ซับซ้อนสับสน เธอไม่อยากกินสิ่งนี้แน่นอน ใครจะรู้ว่ากินไปแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้เธอเพียงอยากให้มู่หรงนี่อวิ๋นมีชีวิตอยู่ก่อน
“พระชายา อย่าเพคะ”
เห็นหลิงอวี้จื้อรับขวดกระเบื้องเคลือบมาจริงๆ มั่วชิงก็ร้อนใจ รีบห้ามทันที พูดจบก็มองมู่หรงกวานเสวี่ยด้วยแววตาจะกินเลือดกินเนื้อ
“มู่หรงกวานเสวี่ย เจ้าอย่ารังแกกันมากเกินไป”