บทที่201

ผู้แปล : N.

ลูชินได้วางบุหรี่ไว้บนโต๊ะแล้วพูดว่า: “แค่เจ็ดร้อยเมตร!”

บนชั้นหกที่พลซุ่มยิงซ่อนตัวอยู่ เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เขาต้องมารับงานแบบนี้ เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองที่เป็นถึงนักฆ่าที่มีทักษะสูงต้องมาขู่นักธุรกิจธรรมดาแบบนี้ !

แต่เขาก็ต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อได้เห็นการกระทำของจางเกวียง ไม่คิดว่าคนกว่าสี่ร้อยคนจะถูกคนเดียวจัดการได้แบบนั้นและหลังจากที่ชายคนนั้นจัดการคนหมดแล้วยังไม่ได้แสดงอาการเหนื่อยหรือบาดเจ็บออกมาเลย!

เขาสงสัยจริงๆว่าถ้ายิงชายคนนั้นด้วยกระสุนปืนไรเฟิลของเขา มันจะสามารถเจาะทะลุผิวหนังของชายคนนั้นได้หรือเปล่า หรือไม่ถ้าลองเป็นยิงอาพีจีแทนละ?

ในเวลานี้เหมือนว่าหัวหน้าใหญ่ของชายคนนั้นจะได้วิ่งออกมาจากห้อง จากที่เห็นเขาคิดว่าหัวหน้าใหญ่คนนี้วิ่งได้เร็วกว่านักวิ่งแชมป์โลกเสียอีก!

เขาเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ ตั้งแต่ที่เขาอยู่ในวงการนี้มานี่เป็นครั้งแรกที่เจอสถานการณ์แบบนี้ มันจะมีใครที่วิ่งเร็วเท่ากับรถได้แบบชายคนนี้ เขาเห็นว่าเป้าหมายได้วิ่งมาถึงครึ่งทางแล้วเขาไม่ลังเลเลยที่จะยกปืนขึ้นแล้วเล็งไปยังเป้าหมายทันที

แต่เมื่อเขากำลังจะลั่นไกนั้นได้มีประกายแสงอะไรบางอย่างเจาะทะละตัวปืนและมือของเขาไป! เขาที่เห็นแบบนั้นก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง เพราะในหัวตอนนี้มีแต่คำว่า หนี! เท่านั้นที่ดังขึ้นมาในหัวของเขา เขาไม่ได้ลังเลที่จะหนีออกไปจากจุดที่เขาอยู่ตอนนี้เลย ถ้าเป็นไปตามแผนที่เขาวางเอาไว้เมื่อเขาไปถึงชั้นล่างที่มีคนอยู่จำนวนมากได้ เขาก็จะปล่อยภัยนั้นคือแผนเดิมของเขา

เมื่อเขากำลังคิดอยู่นั้น ลูชินได้ทำการปีนขึ้นมาจากด้านล่างโดยที่เขาใช้ระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารเป็นแท่นยืนก่อนที่จะกระโดดขึ้นมา

น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไม่มีเครื่องยิงใยถ้ามีเขาคงไม่ต้องทำการกระโดดให้เสียเวลาแบบนี้!

“ประธานลู!” ชองบินที่เห็นว่าลูชินทำอะไรได้บ้างก็พูดออกมาอย่างไม่เชื่อว่า “เขาเป็นซูเปอร์แมนใช้ไหม?”

เพื่อนของเขาฉีห่วงก็มีการแสดงออกที่ไม่แตกต่างจากเขาเท่าไหร่ ‘เขาจะปีนขึ้นถึงชั้นหกด้วยมือเปล่าเนี้ยนะ!’

จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนดังออกมาจากห้องหนึ่งในชั้นหก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเสียงนั้นคงเป็นมือปืนที่ซุ้มอยู่!

“มันเป็นใครกันแน่?” ถังหลีได้ถามด้วยความสยองขวัญ แต่ไม่มีใครตอบคำถามของเขา

“แกเป็นตัวอะไร?” มือปืนถามออกมาด้วยความกลัว

ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มออกมา: “แกอยากรู้ไปทำไม? อีกเดียวแกก็ต้องตายแล้ว!”

หลังจากที่ลูชินพูดจบก็ได้จับมือปืนคนนั้นโยนลงมาจากชั้นหกทันที มือปืนที่รู้ว่าตัวเองถูกจับโยนลงมาจากชั้นหกก็ได้กรีดร้องออกมาด้วยความสยองขวัญ เขาคิดว่าตัวเองคงได้ตกไปเละที่พื้นในเวลาไม่กี่วินาที แต่เขาพบว่าก่อนที่เขาจะถึงพื้นได้ถูกจับไว้ด้วยชายที่โยนเขาลงมาอีกครั้ง!

ลูชินที่เห็นว่ามือปืนคนนี้ได้สลบไปแล้วหลังจากที่รู้ว่าตัวเองรอดจากการตกครั้งนี้ เขาจึงพูดขึ้นว่า “อะไรกัน แค่นี้ก็สลบ”

ก่อนหน้านั้น

“เขา … เขา … ” ชองบินที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นก็ไม่สามารถหาคำพูดอะไรที่จะบรรยายความรู้สึกตอนนี้ของเขาได้! นั่นคือชั้นหกเลยนะ!

“นั้นเขาต้องการฆ่าตัวตายหรือไม่?” ความคิดของทุกคนที่เห็นการกระทำของลูชินที่พุ่งลงมาจากชั้นหกต่างก็เป็นแบบเดียวกัน แต่เมื่อลูชินใกล้จะถึงพื้นนั้นพวกเขาเห็นว่าอยู่ดีๆก็มีเสื้อคลุมรูปค้างคาวโผล่ขึ้นมาจากด้านหลัง โดยที่ผ้าคลุมนี้ทำหน้าที่เป็นตัวชะลอความเร็วตกของเขาทำให้เมื่อใกล้ถึงพื้นความเร็วของเขากลับเป็นศูนย์

ลูชินที่ลงพื้นได้อย่างปลอดภัยได้นำตัวมือปืนมาด้วย ก่อนที่เขาจะโยนมือปืนคนนั้นไว้ที่พื้น ในตอนนี้ควันบุหรี่ที่เขาพ้นไปยังคงมีเหลืออยู่ไม่ได้หายไปไหน นั้นทำให้การมองเห็นของเขาถูกบดบังมันเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบอย่างมาก!

ลูชินได้สั่งให้จางเกวียงย้ายที่นั่งของเขาไปไว้ตรงข้ามของพวกจ้าวลาว ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า “ไงเฒ่าจ้าว นายอยากจะต่อสู้อยู่ไหม?”

ในเวลานี้ทั้งจ้าวลาว,กวงไห่และกลุ่มกวางจางทั้งหมดไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เพราะพวกเขากำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีกลุ่มคนแบบนี้อยู่ในโลกด้วย!

“แล้วแกละ? มีอะไรจะพูดอีกไหม??” ลูชินมองจู้เจี๋ยเทาและคนอื่นๆ พวกนั้นที่ได้ยินลูชินเรียกชื่อของตัวเองก็รีบสายหัวอย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขาไม่อยากจะโดนเหมือนเพื่อนๆของพวกเขา ‘ใครมันจะอยากโดยไอ้สัตว์ประหลาดสองตัวนี้ฆ่ากันละ’

มีลูกน้องสองสามคนที่ต้องการหลบหนี ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็พูดเรียบๆว่า: “ถ้าใครออกไปโดยที่ฉันไม่ได้บอก เตรียมตัวตายได้เลย!”

หลังจากทีได้ฟังแบบนั้นก็ได้บางคนก็แสดงอาการหวาดกลัวหรือไม่ก็ฉี่ราดออกมาโดยตรงก็มี

ลูชินที่เห็นว่าคำขู่ของเขาได้ผลก็พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า: “ดี พวกนายควรเป็นเด็กดีแบบนี้”

อย่างไรก็ตามเสียงของลูชินได้เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้หันไปพูดกับจ้าวลาวและกวงไห่ :”แล้วเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้พวกนายจะเอายังไง! ”

” คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? แล้วคุณเป็นใครกันแน่? “เสียงของจ้าวลาวนั้นเต็มไปด้วยความตกใจและความกลัว เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดเรื่องอะไร?

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ลูชินได้ยืนขึ้นก่อนที่จะเดินไปหาจ้าวลาวแล้วได้ตบไหล่เขาเบาๆ คนรอบข้างที่เห็นแบบนั้นก็แสดงอาการตกใจและคิดไปว่าการกระทำของลูชินมีอะไรแอบแฝงหรือไม่?

“นายบอกว่านายนั้นมีประสบการณ์มาแล้วทุกรูปแบบ แล้วทำไมนายถึงไม่เข้าใจคำถามง่ายๆที่ฉันถามออกไปละ?”

ลูชินยังได้หันไปมองทางพวกกวงไห่ก่อนที่จะพูดว่า : “แล้วพวกนายละ มีอะไรจะพูดไหม? “

เป็นถังหลีที่ได้สติขึ้นมาคนแรก เขาได้ถามลูชินด้วยความกล้าๆกลัวว่า: “ท่านเป็นปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ในตำนานใช้ไหม?”

จ้าวลาวเองก็ได้ถามขึ้นมาเช่นกันว่า: “ผมก็เคยอ่านเจอเรื่องพวกนี้จากหนังสือว่าในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นมีนิกายหรือตระกูลลึกลับมากมายที่ฝึกพลังภายในที่เรียกว่าชี่กงใช้ไหม?

ลูชิมยิ้มออกมาและการแสดงออกของเขาไม่ได้เปลี่ยนเลยหลังจากที่ได้ฟังจ้าวลาวพูดแบบนั้น นั้นยิ่งทำให้จ้าวลาวและพวกเชื่อมากขึ้นว่าเรื่องที่พวกเขาพูดมานั้นคือเรื่องจริง!

“เอาละ! เราไร้สาระมามากแล้ว พวกนายรู้ว่าฉันต้องการอะไร?” ลูชินได้พูดขึ้นมาหลังจากที่เขาเริ่มเบื่อกับที่นี้แล้ว