ตอนที่ 399
ประกาศให้ชัดเจน
“เจ้าจะขอตัวชิงชิวไปเป็นองครักษ์ของเจ้างั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีประหลาดใจ ตอนนี้ชินอี้ก็ไปไหนมาไหนกับไป๋หลินอยู่แล้ว ชิงชิวก็แทบจะอยู่กับชินอี้ตลอดเวลา ทำไมถึงมาขอเปลี่ยนตำแหน่งของชิงชิวเอาตอนนี้กัน?
“ขอรับ พี่ชิงชิวมีฝีมือแล้วก็ความสามารถที่ยอดเยี่ยมมาก ข้าอยากจะให้พี่ชิงชิวมาเป็นองครักษ์ของข้าแทนขอรับ”ชินอี้ตอบพลางยิ้มบางๆด้วยท่าทีใสซื่อ
“พ่อเองก็เห็นด้วยที่บอกว่าชิงชิวฝีมือ แต่เรื่องให้ย้ายไปเป็นองครักษ์ส่วนตัวของเจ้าคงจะไม่ได้”ไป๋จูเหวินส่ายหน้าช้าๆ ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นคนตามใจลูกๆนักหรอก แต่เพราะทั้งตนเองทั้งท่านน้าต่างมีสมบัติมากมายของที่ลูกๆอยากได้ส่วนใหญ่ก็เลยหามาได้ไม่ยาก แต่เรื่องที่ไม่ได้ไป๋จูเหวินก็ไม่ฝืนทำให้ลูกแต่อย่างไร
“เพราะอะไรหรือขอรับเสด็จพ่อ”ชินอี้ถามด้วยท่าทีตกใจ ว่ากันตามจริงตำแหน่งองครักษ์ส่วนตัวของรัชทายาทอย่างชินอี้สูงกว่าตำแหน่งองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิงมาก
“คนที่รับมือพี่สาวเจ้าได้มีแต่ชิงชิว พ่อเกรงว่าจะหาคนมาทำหน้าที่นี้แทนคงจะยากมากทีเดียว”ไป๋จูเหวินถอนหายใจออกมาท่ามกลางสายตาเห็นด้วยของเหล่าขุนนาง บอกตามตรงว่าตอนนั้นปัญหาเรื่องไป๋หลินชอบหนีออกไปเที่ยวข้างนอกเป็นปัญหาที่ใครก็แก้ไม่ได้ เพราะนางมีความสามารถดึงดูดใจทั้งมนุษย์ทั้งอสูรทำให้ไม่มีใครห้ามนางได้เลย การมีชิงชิวเข้ามาแม้ตอนนี้ไป๋หลินจะโตเป็นสาวแล้วแต่ก็ยังช่วยให้ไป๋หลินอยู่ในกรอบบ้าง
“และอีกอย่าง ตอนนี้ชิงชิวเป็นคู่ฝึกฝนวิชาของไป๋หลิน แล้วก็ตัวชิงชิวเองก็คงไม่อยากเปลี่ยนด้วยเช่นกัน”ได้ยินที่พ่อของตนเองพูดชินอี้ก็มีท่าทีไม่ชอบใจออกมาครู่หนึ่งก่อนจะรีบเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองกลับมายิ้มแย้มเช่นเดิม
“น่าเสียดาย”ชินอี้ตอบพลางขอตัวออกไปจากท้องพระโรง ไม่คิดว่าชิงชิวจะมีความสำคัญกับพี่หญิงของมันขนาดนี้ ขนาดตัวมันเองขอร้องเสด็จพ่อยังไม่สามารภย้ายชิงชิวออกมาได้ ท่าทางมันจะต้องเปลี่ยนแผนเสียแล้ว
.
.
“ท่านแม่”ในขณะที่ชินอี้ออกมาจากท้องพระโรง ตัวไป๋หลินและชิงชิวก็เข้ามาพบเหม่ยหลินผู้เป็นมารดาเสียแล้ว
“พวกเจ้า….มีอะไรงั้นหรือ”เหม่ยหลินมองทั้งสองคนที่มีท่าทีผิดสังเกตอย่างมาก แบบนี้ไม่ต้องพูดออกมาจากปากเหม่ยหลินก็พอจะทราบว่าเรื่องอะไร
“พี่ชิว ท่านพูดสิ”ไป๋หลินว่าพลางมองไปทางชิงชิวที่อยู่ข้างๆ
“ขะ ขอรับ….พระมเหสีข้า”
“กำลังคบหากับไป๋หลินอยู่สินะ”เหม่ยหลินยิ้มพลางพูดสรุปออกไปก่อนที่ชิงชิวจะพูดเสียอีก
“เอ่อ… ขอรับ”ชิงชิวอึ้งไปเพราะโดนเหม่ยหลินพูดตัดหน้าเสียก่อน แม้ชิงชิวจะมั่นใจในระดับหนึ่งแล้วว่าองค์จักรพรรดิและตัวพระมเหสีเองไม่ได้ขัดข้องอะไรกับการที่มันจะคบหากับบุตรสาวของพวกท่าน แต่ในใจก็ไม่อาจสลัดความรู้สึกกังวลออกไปได้เลย
“พวกเจ้าตัดสินใจเปิดเผยแล้วก็ดี เอาไว้แม่จะบอกพ่อให้ก็แล้วกัน”เหม่ยหลินยิ้มหวานพลางมองบุตรสาวของตนเองอย่างเอ็นดู
“ท่านแม่ ถ้าอย่างนั้นพวกเราประกาศเรื่องนี้ออกไปได้หรือเปล่า”ไป๋หลินถามด้วยท่าทีลังเล หากประกาศเรื่องนี้ออกไปชิงชิวจะเปลี่ยนจากองครักษ์ประจำกายของไป๋หลินเป็นราชบุตรเขย แน่นอนว่ามันจะทำให้ไป๋หลินไม่ต้องไปทนโดนพวกองค์ชายหรือลูกชายของขุนนางท่านไหนๆมาตามจีบอีก
“ได้สิ พวกเราเองก็รอแค่เจ้ายอมรับออกมาจากปากเท่านั้น”เหม่ยหลินหัวเราะพลางมองไปทางชิงชิว
“ถึงเจ้าจะทำอยู่แล้ว แต่ก็ขอฝากลูกสาวของข้าด้วยนะ”เหม่ยหลินหัวเราะเพราะการฝากไป๋หลินกับชิงชิวออกจะเหมือนสั่งงานซ้ำไม่มีผิด เพราะหน้าที่เดิมทีของชิงชิวก็คือการดูแลไป๋หลินนั่นเอง
“แน่นอนขอรับ ข้าจะทำเต็มที่”ชิงชิวตอบพลางก้มหัวให้เหม่ยหลินอย่างสุภาพ
“เย็นนี้เจ้าก็ไปเข้าร่วมโต๊ะอาหารกับพวกเรา และรายงานให้องค์จักรพรรดิทราบ”เหม่ยหลินพูดจบก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะขอตัวไปจัดการเรื่องมื้ออาหารในวันนี้ให้เรียบร้อย ในใจนางคิดว่าตัวไป๋จูเหวินไม่มีทางห้ามทั้งสองคบหากันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นมื้อค่ำของวันนี้จึงจะเป็นการประกาศตัวราชบุตรเขยอย่างเป็นทางการอย่างแน่นอน เหม่ยหลินเลยต้องชวนพวกท่านน้า พี่น้องตระกูลหลิว ขุนนางท่านต่างๆและขุนพลหลากหลายตำแหน่งเข้ามาร่วมมื้ออาหารด้วย
.
.
“……”หลังจากเหม่ยหลินเชิญคนมาจนครบ ชิงชิวก็พบว่าวันนี้ในห้องอาหารของวังหลวงนั้นเต็มไปด้วยผู้คนราวกับกำลังจัดงานเลี้ยงฉลองไม่มีผิด ทำเอาชิงชิวที่ทำใจมาแล้วเกิดฝ่อขึ้นมาเสียเฉยๆ
“ชิงชิว เจ้ามานั่งตรงนี้สิ”เหม่ยหลินพูดพลางบอกให้ชิงชิวไปนั่งข้างๆไป๋หลิน ทั้งๆที่ปกติชิงชิวจะต้องยืนอยู่ด้านหลังแท้ๆ
“ขอรับ”ชิงชิวประหม่าขึ้นมามากเมื่อเห็นจำนวนคนรอบๆ แต่พอนั่งลงไป๋หลินก็เลื่อนมือมาจับมือชิงชิวเอาไว้เหมือนจะให้กำลังใจ ทำให้ชิงชิวผ่อนคลายลงระดับหนึ่ง ก่อนจะหันมายิ้มให้ไป๋หลินเหมือนจะบอกว่ามันไม่เป็นไรแล้ว
“พระมเหสี ท่านชวนพวกเรามาวันนี้มีเรื่องอะไรหรือ”ขุนพลเต่าถามพลางมองไปทางเหม่ยหลินด้วยท่าทีแปลกใจ การรวมพลขนาดนี้สมควรเป็นเรื่องใหญ่ แต่เหม่ยหลินก็ไม่ยอมบอกพวกมันว่าเรื่องใหญ่ที่ว่านั้นคืออะไร
“เดี๋ยวสักครู่ก็ได้ทราบเองเจ้าค่ะ”เหม่ยหลินยิ้มหวานพลางขยิบตาน้อยๆให้ขุนพลเต่า เรื่องเช่นนี้หากไม่ได้ลุ้นก็ไม่สนุกกันพอดี
“ชิงชิว แปลกนะที่เจ้ามานั่งตรงนี้”น้าจิ้งจอกพูดพลางมองมาทางชิงชิวที่นั่งอยู่ตรงข้ามพวกน้าๆพอดี หากเชิญคนมาขนาดนี้แสดงว่ามีเรื่องอะไรบางอย่าง ทำให้ชิงชิวไม่มีทางมานั่งตรงนี้แน่ๆ พอจิ้งจอกเหมันต์พูดออกมาเหล่าขุนพลรวมทั้งพวกน้าๆก็มองมาทางชิงชิวเป็นตาเดียว และดูเหมือนพวกมันจะรู้ทันกันเสียแล้ว
“ท่านน้าจิ้งจอกช่างสังเกตยิ่งนัก”เหม่ยหลินยิ้มพลางมองไป๋จูเหวินที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องอาหารพลางเข้ามานั่งที่หัวโต๊ะที่อยู่ข้างๆตนนั่นเอง
“วันนี้มีเรื่องอะไรหรือ”ไป๋จูเหวินเองก็ไม่ได้ทราบเช่นกันว่าทำไมวันนี้ในห้องอาหารถึงมีคนมามากมายนัก แต่ในเมื่อตัวไป๋จูเหวินมาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องลีลาให้มากอีกแล้ว
“วันนี้ชิงชิวมีเรื่องอยากจะบอกท่านพี่เจ้าค่ะ”เหม่ยหลินพูดพลางมองมาทางชิงชิวเหมือนจะบอกให้ชิงชิวรีบบอกกับทุกคนได้แล้ว
“ขะ ขอรับ”ชิงชิวลุกขึ้นยืนช้าๆมันมองไปทางไป๋หลินอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับองค์จักรพรรดิตรงๆ หากวันนี้มันไม่พูด มันอาจจะเสียสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตมันไปก็ได้
“องค์จักรพรรดิขอรับ ข้า…กำลังคบหาอยู่กับองค์หญิงไป๋หลินขอรับ”ชิงชิวพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจังมาก ทำเอาเหล่าแขกรอบๆต่างพากันยิ้มกริ่มกันยกใหญ่
“คบหากัน…จริงงั้นหรือไป๋หลิน”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมาทางไป๋หลินที่นั่งอยู่ข้างๆชิงชิว
“เจ้าค่ะ ข้ากับพี่ชิว….มีใจต่อกัน และเริ่มคบหากันมาได้สักพักแล้ว”ไป๋หลินตอบด้วยท่าทีเขินๆ เพียงแต่นางก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองชินอี้ที่นั่งอยู่ระหว่างนางกับมารดาเล็กน้อย ชินอี้ดูไม่มีท่าทีตกใจเลย กลับกันมันกำลังยิ้มมองมาทางพวกตนด้วยสายตาไร้เดียงสาเสียอย่างนั้น
“องค์จักรพรรดิ ข้ามาวันนี้เพื่อมาขอร้องกับท่าน ได้โปรดให้ข้าได้คบหากับองค์หญิงไป๋หลินด้วยเถิดขอรับ”ชิงชิวว่าพลางก้มหัวลงต่อหน้าทุกคน
“ถึงข้าจะเคยบอกว่า เรื่องความรักข้าจะให้ลูกๆตัดสินใจกันเอง….”ไป๋จูเหวินพูดพลางมองไปทางชิงชิวด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจแปลกๆ ทำเอาชิงชิวที่พึ่งเงยหน้าขึ้นมาใจตุ้มๆต่อมๆขึ้นมาเลย
“แต่เรื่องคบหากันนี้พ่อคงต้องบอกว่าไม่เห็นด้วย”ไป๋จูเหวินตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ
“แต่ท่านพ่อ…”ไป๋หลินเหมือนจะท้วง แต่นางกลับมองเห็นท่าทียิ้มๆของพวกท่านน้าเสียก่อน ทำให้นางหยุดรอให้ไป๋จูเหวินพูดให้จบก่อน
“แม่เองก็คิดว่ามันไม่เหมาะสมนะ”เหม่ยหลินร่วมเออออไปกับไป๋จูเหวินพลางยิ้มบางๆออกมา
“ไหนๆแล้วก็ประกาศการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการไปเลยก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินว่าพลางลุกยืนขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปหาชิงชิวช้าๆ ในห้องนี้แทบจะไม่มีใครตกใจกับเรื่องการคบหากันของชิงชิวกับไป๋หลินเลย ส่วนตัวไป๋จูเหวินนั้นก็รู้สึกวางใจและเชื่อว่าชิงชิวจะสามารถดูแลบุตรสาวตนเองได้อย่างเต็มที่ มันจึงอยากจะให้ทั้งสองหมั้นหมายอย่างเป็นทางการไปเลย ไม่จำเป็นต้องคบหาอะไรกันอีก
“หมั้นหรือขอรับ”ชิงชิวอึ้งไปพลางมองไปทางเหม่ยหลินผู้เป็นพระมเหสีเหมือนจะขอความช่วยเหลือ
“หรือเจ้าไม่ได้อยากหมั้นหมายกับหลินเอ๋อ”น้าราชสีห์ถามพลางมองมาทางชิงชิวนิ่ง
“อยากสิขอรับ”ชิงชิวตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา เพียงแต่มันไม่คิดว่าจะถึงขั้นหมั้นหมายเร็วขนาดนี้
“เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรขัดข้อง หลังจากนี้ข้าจะประกาศการหมั้นหมายของเจ้ากับไป๋หลินข้าจะประกาศออกไปในเดือนหน้า ตกลงหรือไม่”ไป๋จูเหวินถามพลางส่งสายตามาทางชิงชิวเหมือนจะถามหาความคิดเห็น
“เดือนนึงหรือขอรับ”ชิงชิวอึ้งไปเพราะไม่ทราบว่าทำไมไป๋จูเหวินถึงเว้นระยะเวลาตั้งเดือน
“เจ้าก็ต้องแจ้งข่าวให้คนที่บ้านทราบด้วยไม่ใช่หรืออย่างไร ถือโอกาสนี้ลาพักสักหน่อยก็ได้นะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางตบบ่าชิงชิวเบาๆ ตอนนี้ญาติๆฝั่งไป๋หลินทราบกันหมดแล้วเหลือแต่คนที่บ้านของชิงชิวเท่านั้น
“ท่านพ่อ”ระหว่างกำลังตกลงกันเรื่องการหมั้นหมายของไป๋หลินกับชิงชิว อยู่ๆจินจื่อก็หันมาหาไก่ฟ้าหงอนทองผู้เป็นบิดาของตนเอง
“มีอะไรหรือ”ไก่ฟ้าหงอนทองถามพลางเลิกคิ้วสงสัย
“พี่ไป๋หลินก็จะหมั้นแล้ว ทำไมท่านน้าจิ้งจอกถึงยังไม่มีคู่กับเขาบ้างละเจ้าคะ”จินจื่อถามด้วยท่าทางสงสัย แต่คำถามของนางกลับเสียดแทงหัวใจของจิ้งจอกเหมันต์ไม่น้อย เพราะในเหล่าน้าของไป๋จูเหวินกลับเหลือแต่นางคนเดียวเท่านั้นที่หาคู่ไม่ได้
“นั่นเพราะยังไม่มีอสูรตนไหนเข้าตาน้ายังไงล่ะ”จิ้งจอกเหมันต์ฝืนยิ้มพลางมิงไปทางจินจื่อด้วยท่าทีเอ็นดู
“เพราะเอาแต่เลือกแบบนี้ไงถึงได้ขึ้นคาน”พยัคฆ์อัสนีถอนหายใจพลางส่ายหน้าเบาๆ ทำเอาจิตสังหารของจิ้งจอกเหมันต์พุ่งวาบมาทางพยัคฆ์อัสนีเลยทีเดียว