ตอนที่ 455 ทำตัวดีๆ
สุดท้ายฮ่องเต้ก็ได้ดั่งที่หวัง ลูกของเว่ยหมิ่นไม่มีแล้ว การตายของเหลียงอู๋เย่ว์ก็มีเหตุผลที่เชื่อถือได้แล้ว แม้ว่าการทำเช่นนี้จะไม่เหมาะนัก แต่ก็มีเพียงให้ลูกของนางหมดไปเท่านั้น นางจึงจะสามารถเป็นของพระองค์อย่างแท้จริง ในตอนหลังพวกเขาก็จะมีลูก คนหนึ่งหรือมากกว่า การเสียสละเช่นนี้ไม่นับเป็นเรื่องใหญ่เลย
ฝั่งนี้ เหลียงอู๋เย่ว์ยังไม่รู้เรื่องที่เว่ยหมิ่นแท้งลูก ครั้งก่อนได้จดหมายที่เฉินยางฝากคนส่งมา ในนั้นเขียนว่าเว่ยหมิ่นดีทุกอย่าง เพียงแค่ฮ่องเต้วางแผนจะฆ่าเขา ให้เขาตั้งตัวใหม่ ต่อให้ไม่เพื่อตัวเอง ก็เพื่อเว่ยหมิ่น คนที่ใกล้จะเป็นพ่อคนแล้ว จะเพราะความลำบากเล็กน้อยเท่านั้น เอาเป็นเอาตายอยู่ทุกวัน อนาคตจะแบกครอบครัวได้อย่างไร! อย่างไรเสียบนจดหมายก็เขียนแทงใจนัก แม้ว่าจะช่วยได้ไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้สึกตัวขึ้นมา
น่าเสียดายนักที่วิชาของเขาช่างแย่เสียเหลือเกิน ชีวิตที่สำราญมายาวนานทำให้เขาขี้เกียจ แม้แต่ปีนกำแพงก็ยากจะทำได้ ตอนนี้ถึงได้แค้นตัวเองนักที่ชีวิตก่อนหน้านี้ทำตัวไม่เอาไหน แต่ก็สายไปเสียแล้ว
อวี่เหวินลู่ยังคงอยู่ในจวน เพียงแต่เฉินยางได้เตือนเขาแล้วว่าในจวนท่านอ๋องมีหูตาของฮ่องเต้ ดังนั้นจึงนอนตอนกลางวันออกตอนกลางคืน กลางคืนออกมาเดินเล่นเหมือนดั่งผีอยู่เช่นนั้น
เฉินยางทั้งโกรธทั้งแค้น กลางคืนนางกลับจากห้องอ่านหนังสือไปพักผ่อนในห้องนอน เขาโผล่ออกมากลางทาง ทำเอานางตกใจเท้าหลังชนเท้าหน้า เกือบจะหกล้มบนทางก้อนกรวด
“กลางคืนไม่ไปนอน ออกมาทำตัวเป็นผีหรือ!” โชคดีที่มีซั่งเหมยประคองนางอยู่ข้างหลัง ไม่เช่นนั้นหกล้มลงไปเช่นนี้ ไม่แน่ลูกของนางก็ต้องกลายเป็นเลือดไหลออกไปเสีย
อวี่เหวินลู่บีบจมูกชูมือสะบัดเล็กน้อย ขมวดคิ้วพูดว่า “เจ้าไม่มีอะไรแล้วกลางคืนออกมาเดินเล่นทำไม บนตัวมีกลิ่นอะไรเจ้าไม่รู้หรือ อยู่ในห้องให้สบายไม่ดีหรือ”
คนที่ตั้งครรภ์อยู่ จะมากจะน้อยบนตัวก็มีกลิ่นนม ตอนแรกกลิ่นนี้ก็ไม่ได้แย่นัก เพียงแต่พูดออกมาจากปากเขาก็คล้ายกลายเป็นกลิ่นอะไรไม่ดีเช่นนั้น เขาอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน นางยังไม่รังเกียจเขาเลย แต่เขากลับรังเกียจนางขึ้นมาเสียแล้ว?
เฉินยางเท้าเอวยืน “ข้าเดินเล่นอยู่ในบ้านข้า เกี่ยวอะไรกับเจ้า เจ้าถูกราชสำนักประกาศจับ มาถึงเมืองหลวงแล้ว ยังไม่ทำตัวดีๆ เจ้ามีอะไรน่าภูมิใจ!”
อวี่เหวินลู่เอาจริงเอาจังกับนางขึ้นมา “ที่นี่คือบ้านข้า ไม่ใช่บ้านเจ้า ยามข้าอาศัยอยู่ที่นี่ เจ้ายังอยู่ในท้องของแม่เจ้าอยู่เลย!”
ซั่งเหมยประคองเฉินยางแล้วเถียงแทนนายหญิงของนาง “แผ่นดินนี้ยังเป็นแผ่นดินของฮ่องเต้อยู่ เจ้าเป็นเพียงขุนนางกบฏ มีอะไรน่าภูมิใจหรือ หากนายหญิงข้าถูกเจ้าหลอกจนเป็นอะไรขึ้นมา ท่านอ๋องไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่”
ไหลลู่เป็นคนดี ซื่อจื่อของเขาทำอะไรวู่วาม หากนี่อยู่ที่เมืองหมองก็ช่างเสีย เพียงแต่นี่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขาสองคนสี่ขา เกิดเรื่องขึ้นมา คงไม่อาจหวังให้เฝิงเยี่ยไป๋ยื่นมือเข้ามาช่วย ยามนี้จึงไม่กล้าสร้างเรื่องอีก
“ท่านซื่อจื่อ พวกเรากลับไปก่อนเถิด ท่านดู ฮูหยินร่างกายไม่สะดวก พวกเราก็หลีกทางให้นางเถิด!”
อวี่เหวินลู่ไม่ยอม ถูกสาวใช้ชี้หน้าด่าเป็นครั้งแรก เขาเคยเจอเรื่องเช่นนี้ได้ที่ไหนกัน
“เว่ยเฉินยาง เจ้าอย่าได้คิดว่าข้าจะพูดง่ายนัก วันนี้สาวใช้ของเจ้าลบหลู่ข้า ระเบียบของจวนท่านอ๋องน่าจะไม่มีสาวใช้ลบหลู่เจ้านายกระมัง นางช่างบังอาจนัก กล้าลบหลู่ข้า เจ้าว่ามา บัญชีนี้จะคิดอย่างไร”
ตอนที่ 456 สมแล้วที่เป็นลูกชายข้า
เฝิงเยี่ยไป๋มาตามเสียง ยามที่ถึงนั้น กลับเป็นซั่งเหมยและอวี่เหวินลู่เถียงกันไปมาอยู่ ไหลลู่และเฉินยางกล่อมก็ไม่ฟัง
ให้เขาพักอยู่ที่จวนท่านอ๋องยังเป็นเช่นนี้ได้อีก เฝิงเยี่ยไป๋ขึ้นไปดึงสองคนที่เถียงกันอยู่ออกมา ซั่งเหมยเห็นเขาก็หุบปากด้วยความกลัว อวี่เหวินลู่ยังคงไม่ยอม ตะโกนจะให้ซั่งเหมยถูกลงโทษให้ได้
“วุ่นวายพอหรือยัง” เขาตะโกนออกมา แม้แต่อวี่เหวินลู่ก็เงียบปากไป
เฉินยางกระตุกแขนเสื้อของเขา “ไม่เกี่ยวกับซั่งเหมย เป็นเขาที่หาเรื่อง กลางคืนจู่ๆ ก็โผล่ออกมา ทำเอาตกใจแทบแย่”
เฝิงเยี่ยไป๋ถามนางว่าเป็นอะไรหรือไม่ เฉินยางบอกไม่เป็นไร เขาหันศีรษะกลับมาจ้องมาอวี่เหวินลู่ แววตาเย็นชา “จวนท่านอ๋องเคยเป็นบ้านของเจ้า เพียงแต่ตอนนี้ข้าอาศัยอยู่ ข้าสงสัยนัก ตกลงเจ้าอาศัยอะไรถึงได้อาจหาญเช่นนี้ ที่เมืองหมองเจ้าเป็นซื่อจื่อ เพียงแต่อยู่เมืองหลวง เจ้าไม่ได้เป็นอะไรเลย อย่าคิดว่าตัวเองมีความสามารถคับฟ้า หากข้าจับเจ้าส่งไปให้ฮ่องเต้ เจ้าคิดว่าพ่อของเจ้าจะมาช่วยเจ้า หรือว่ามาเก็บศพเจ้ากลับไปเลย”
อวี่เหวินลู่ตะลึง “เฝิงเยี่ยไป๋ เจ้ากล้าหรือ!”
เฝิงเยี่ยไป๋จ้องมองเขา ดวงตานิ่งลึกมองไม่เห็นคลื่น “เจ้าก็ลองดูว่าข้ากล้าหรือไม่!”
ไหลลู่ดึงเขาอยู่ข้างหลัง “ท่านซื่อจื่อ นี่ก็ดึกแล้ว พวกเรากลับไปเสียเถิด!”
“เก่ง เจ้าเก่งมาก เฝิงเยี่ยไป๋ ใกล้จะสู้รบกันแล้ว ข้าจะรอดูว่าตกลงเจ้ามีความสามารถมากมายเพียงใด ถึงยมนั้นเจ้าก็ระวังอย่าได้เล่นจนตัวเจ้าตายเสียเอง” เขาสะบัดแขนเสื้อเรียกไหลลู่ “พวกเราไป!”
ในใจเฉินยางกังวล “เขาอยู่ที่นี่จะทำให้ท่านถูกฮ่องเต้สงสัยหรือไม่ ก่อนหน้านี้เขาก็พูดไว้ หากฮ่องเต้รู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ จะต้องสงสัยว่าท่านมีความเกี่ยวโยงกับซู่อ๋อง เอาเช่นนี้เถิด ให้เขากลับไปเสีย ในบ้านมีหูตามากมาย ไม่แน่วันใดก็จะเกิดเรื่องขึ้นเอาได้”
เฝิงเยี่ยไป๋กลับแสดงท่าทีไม่ใส่ใจนัก “ไม่เป็นไร มีข้าอยู่ เขาทำอะไรมากไม่ได้หรอก” แล้วพูดกับซั่งเหมยอีกว่า “วันหลังเจอเขา ไม่ต้องเกรงใจ อย่างไรก็มีนายหญิงหนุนหลังให้เจ้าใยต้องกลัวอะไร”
เฉินยางบ่นขึ้นมาว่า “ข้ายังต้องหนุนหลังตัวเองเลย”
ฝ่ามืออันใหญ่ของเฝิงเยี่ยไป๋ประคองที่หลังของนาง แล้วลากนางเดินไปข้างหน้า “ใครบอกว่าไม่มีใครหนุนหลังเจ้า มีข้าหนุนอยู่ เจ้าแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีนี้แล้ว”
ทั้งสองคนจูงมือกันกลับห้องนอน เฝิงเยี่ยไป๋วางมือไว้บนท้องของนาง ท้องกลมโตนั้นนูนขึ้นมาส่วนหนึ่ง เขารู้สึกดีใจ เปิดเสื้อของนางขึ้นมา ตอนแรกเพียงแค่นูนขึ้นมา แต่แล้วส่วนที่นูนขึ้นมานั้นก็ค่อยๆ ขยับ เหมือนดั่งกำปั้นเล็กๆ เฝิงเยี่ยไป๋แตะเขาเล็กน้อย ท่าทางดีใจ “สมแล้วที่เป็นลูกชายข้า กำลังฝึกวิชาอยู่ในท้องเจ้าอยู่เลย!”
เฉินยางก้มศีรษะมองอยู่เล็กน้อย ไม่ได้รู้สึกดีใจเลย สีหน้าหวาดกลัว เหมือนดั่งเห็นสิ่งที่น่ากลัวเช่นนั้น “ยังไม่ได้คลอดออกมาเลย ไฉนเขาถึงขยับได้แล้ว”
“นี่คือรอจะออกมาไม่ไหวแล้ว ไม่เป็นไร ข้าเคยถามหมอแล้ว นี่เรียกว่าการขยับในครรภ์ เขายืดแขนขาอยู่ในท้องเจ้า”
เมื่อก่อนเห็นท้องของนางโตขึ้นทุกวัน รู้ว่าตัวเองจะเป็นพ่อคนแล้ว เพียงแต่เด็กยังไม่คลอดออกมา มักรู้สึกว่าคำว่าพ่อนี้ได้เพียงชื่อเท่านั้น ตอนนี้แตะกำปั้นกับลูกผ่านหนังท้องของภรรยา ถึงได้มีความรู้สึกที่จะเป็นพ่อคนจริงๆ ตอนนี้เหลือเพียงลูกคลอดออกมาแล้ว รอให้ลูกคลอดออกมา ครอบครัวก็สมบูรณ์แล้ว
เฉินยางได้ยินเขาอธิบายก็ยิ้มขึ้นมา ดีจริงๆ สามีลูกชายก็มีหมดแล้ว กลับบ้านไปรับพ่อของนางมา ชีวิตนี้นางก็ไม่ขออะไรอีกแล้ว