ตอนที่ 518: รอเวลา!

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 518: รอเวลา!

 

ภายใต้การนำของอี้เทียนหยุน พวกเขาก็พากันผ่านฉลุยตลอดทาง ที่ด้านนอกมีหน่วยลาดตระเวนอยู่มากมาย แต่ว่าพวกเขาก็ไม่สามารถตรวจสอบสถานการณ์ด้านในได้ นอกจากว่าจะมีสัมผัสวิญญาณที่ท้าทายสวรรค์อย่างมาก ไม่อย่างนั้น ก็ไม่มีทางที่จะตรวจสอบสถานการณ์ด้านหลังกำแพงหนานี้ได้

 

เพราะถ้าหากสามารถตรวจสอบได้ ทางลับนี้คงไม่เป็นทางลับอีกต่อไป หากว่าทุกคนล้วนรู้ ทางลับนี้ก็จะไม่มีความหมาย

 

“มีคนรู้เส้นทางนี้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องค่อยๆ ลอบเข้าไป ตอนนี้พวกเราสามารถเดินเข้าไปได้อย่างผ่อนคลายแล้ว” เถ้าแก่เย่ยิ้ม แต่ว่ามือที่จับมีดสั้นอยู่ไม่ได้ผ่อนคลายแม้แต่น้อย ยังคงเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ไม่สามารถผ่อนคลายได้

 

ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นของคนอื่น ไม่ใช่ของตน คนที่ลอบเข้ามาอย่างพวกเขา แน่นอนว่าไม่สามารถผ่อนคลายได้จนหมด ผู้อาวุโสคนอื่นก็เช่นกัน ต่างก็ไม่ได้พากันประมาท ยังคงมองรอบทิศอย่างระวัง

 

“หยุดก่อน…..” อี้เทียนหยุนยื่นมือบอกให้พวกเขาหยุด จากนั้นก็หันไปมองทางหนึ่ง คนที่เหลือก็มองตาม หลังจากที่มองไป ตอนแรกก็เป็นอาการตกใจ จากนั้นก็พลันเปลี่ยนเป็นเดือดดาลในทันที

 

ภายใต้สัมผัสวิญญาณของพวกเขา การตรวจสอบสถานการณ์ภายนอกเป็นไปอย่างง่ายดาย แต่ว่าด้านนอกไม่สามารถตรวจสอบสถานการณ์ด้านในได้ แต่ด้านในกลับสามารถตรวจสอบสถานการณ์ด้านนอกได้อย่างง่ายดาย

 

จากสัมผัสวิญญาณที่ส่งไป พวกเขาสัมผัสได้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณกำลังแช่อยู่กลางบ่อเลือดอย่างไม่คาดคิด พร้อมกับข้างๆ กันนั้นกองสุมไปด้วยซากศพมากมาย ในซากศพพวกนั้น ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ล้วนมีหมด เพียงแต่ว่าทั้งหมดล้วนแต่เป็นซากศพของผู้หญิง!

 

เขาจับมาแต่ผู้หญิง ไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียว ยิ่งกว่านั้น ในบรรดาผู้หญิงเหล่านี้ มีหลายศพที่เป็นคนของเผ่าฟีนิกซ์ พร้อมกันนั้น ที่ใกล้ๆ ก็ได้มีคนกำลังถูกแขวนอยู่ พร้อมกับอาการกระตุก ขณะที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ไหลลงบ่อเลือดผ่านท่อที่วางไว้

 

และบนตัวเขากำลังกอดหญิงสาวนางหนึ่ง พร้อมกับกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ!

 

“ช้าจริงๆ ทำไมด้านนั้นถึงจับเผ่าฟีนิกซ์ช้านัก ไม่ใช่ตกลงกันแล้วเหรอว่าจะส่งเผ่าฟีนิกซ์หลายคนมาน่ะ?” ตาทั้งสองข้างของเหมินหู่ดูคล้ายกับเสือ พร้อมกับมองไปรอบๆ ด้วยดวงตาไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าอีกไม่นานเลือดก็จะถูกเอามาจนหมด ดังนั้นจึงได้รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

 

เหมินหู่(ประตูพยัคฆ์) : ระดับราชาวิญญาณขั้น 3, มีสายเลือดพยัคฆ์ฟ้า, สามารถปลดปล่อยพลังของพยัคฆ์ออกมาได้ มีร่างกายที่เทียบได้กับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำ! ฝึกวิชายุทธ์ พยัคฆ์คลั่ง, พยัคฆ์คำราม, พยัคฆ์กายทองคำ, จุดอ่อน : จุดที่ต่ำกว่าคอ 1 นิ้ว(เปราะบางที่สุด), พลังรบ 230 ล้าน, เมื่อสังหารจะได้รับ…..

 

นอกจากข้อมูลเหล่านี้ อี้เทียนหยุนคร้านจะสนใจ ตอนนี้ความโกรธในใจของเขาทะยานขึ้นสู่สวรรค์ ในสายตาของผู้ฝึกตนที่ถูกจับมาล้วนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ก็มากไปด้วยความเกลียดชังและไม่ยินยอม

 

ในปีที่ผ่าน พวกเธอต่างก็ถูกจับมาดึงแก่นโลหิตโดยเหมินหู่จนกระทั่งตาย กระทั่งบางคนยังถูกเหมินหู่กระทำย่ำยี พร้อมกับพรากพรหมจรรย์ออกไป ช่างเป็นเรื่องที่ไม่ยินยอมอย่างแท้จริง

 

“เจ้าหมอนี่คือเหมินหู่ เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่คุ้มกันแท่นบูชาเทียนหมิง พลังของมันแข็งแกร่งมาก ทั้งยังมีสายเลือดพยัคฆ์ฟ้า…. ไม่คิดเลยว่าพวกเราจะมาเจอมันที่นี่ มันเป็นคนที่ทำเรื่องชั่วร้ายทุกชนิด ได้ยินมาว่ามันชอบพรากพรหมจรรย์หญิงสาว ตอนนี้ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริง เจ้าหมอนี่เป็นคนที่เลวบัดซบมาก ถึงกับกล้าจับเผ่าฟีนิกซ์ของพวกเรามาด้วย ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องวางแผนจัดการกับมันให้ได้!”

 

“ใช่! ข้าเห็นด้วยอย่างมาก ที่ที่เขาอยู่ค่อนข้างมิดชิดอย่างมาก ต่อให้พวกเราระเบิดพลังออกไป ข้างนอกก็ไม่มีทางสัมผัสได้ หากสามารถจัดการ 1 ใน 3 แม่ทัพใหญ่ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงได้ ก็เท่ากับได้ตัดปีกของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงข้างหนึ่งออก!”

 

“พวกเรามาคุยวางแผนจัดการก่อนดีกว่า พวกเราสามคนจะทำหน้าที่ล้อมโจมตี ส่วนทูตศักดิ์สิทธิ์ให้ทำหน้าที่คุ้มกันอยู่ด้านนอก…..”

 

แต่ในขณะที่พวกเขากำลังจะถามความเห็นของอี้เทียนหยุนอยู่นั้น ก็พบว่าเขาได้หายตัวไปเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าหายไปไหน รอบๆ ล้วนแต่ว่างเปล่า นอกจากพวกเขาแล้ว ก็ไม่มีใครอื่น

 

“หะ ให้ข้าไปสบายเถอะ…..” ผู้หญิงที่ถูกจับมานอนอย่างหมดแรงอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับเลือดที่ถูกดึงออกไปไม่หยุดเพราะค่ายกลที่สลักไว้ด้านล่าง จากนั้นก็ไหลลงไปในบ่อเลือด เพิ่มความเข้มข้นให้กับเลือดฉีในบ่อ ให้เหมินหู่ได้ดูดซับเข้าไป

 

“เสียงร้องขอความเมตตานี้ ช่างเป็นเสียงที่น่าฟังที่สุดในโลกจริงๆ….” เหมินหู่จมลงสู่ความสุขของตน ขณะที่ฟังเสียงร้องขอความเมตตาด้วยท่าทางพึงพอใจอย่างมาก

 

และในขณะที่เขากำลังจมจ่อมอยู่ในความสุขนี้ ก็ได้มีลำแสงเย็นเยียบวาบผ่านมา ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ส่งผ่านมาจากด้านหลัง แต่ในขณะที่เขากำลังจะทำอะไรอยู่นั้น ทุกอย่างก็ได้ช้าเกินไป เพราะลำแสงเย็นเยียบนี้ได้เสียบเข้าไปบริเวณคอของเขาอย่างโหดเหี้ยม ราวกับเสียบเข้าไปในกระดาษ แทงทะลุเข้าไปได้อย่างง่ายดาย จนทะลุออกอีกด้าน!

 

แม้ว่าเขาจะมีร่างกายที่อึดเทียบเท่ากับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำ แต่ภายใต้การโจมตีนี้ ก็ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพสาหัสในทันที

 

โดยไม่รอให้เขาตอบสนอก ก็ได้มีพลังมหาศาลซัดเข้าที่ท้องของเขา พร้อมกับทำการป่นกระดูกในร่างของเขาไปหลายท่อนในทันที

 

“อ๊ากกก…..” เหมินหู่กรีดร้องออกมาเสียงดัง แต่ว่าเสียงก็ไม่ได้ทะลุออกไป เพราะได้ถูกค่ายกลที่สลักไว้ป้องกันอยู่ จะมีเพียงก็แต่เสียงที่อ่อนแรงเทียบเท่าเสียงยุงบินเท่านั้น ที่ลอดผ่านไปได้ ทำให้ผู้คุ้มกันที่อยู่ด้านนอกไม่ได้ยิน

 

ตามติดมาด้วยพลังดูดที่มหาศาลที่กำลังดูดพลังวิญญาณในร่างของเขาออกไป พริบตา พลังวิญญาณในร่างของเขาก็ถูกดูดออกไปอย่างบ้าคลั่งจนเหลือไม่ถึงครึ่ง ทำให้เขาได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ถูกดูดจนแห้งบ้าง

 

“เจ้า เจ้าเป็นใคร…..” และในขณะที่เหมินหู่ตั้งตัวได้ ก็เป็นตอนที่เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว กลายเป็นแค่ปลาบนเขียงที่รอคอยเวลาถูกเชือดแต่ฝ่ายเดียว

 

ที่ปรากฏต่อสายตาเขาก็คือเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีสายตาเย็นชา ที่กำลังทาบมืออยู่บนหน้าอกของเขา พร้อมกับกำลังดูดพลังวิญญาณในร่างของเขาออกไปไม่หยุด แต่ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะว่าได้มีกระบี่ยาวปักตรึงร่างของเขาไว้กับกำแพง ทำให้ร่างของเขาถูกแขวน แม้แต่เท้าก็ไม่แตะพื้น ที่พอจะขยับได้นิดหน่อยก็มีแต่เท้าเท่านั้น ส่วนอื่นนั้นไม่สามารถขยับได้เลย

 

ระดับราชาวิญญาณผู้แข็งแกร่ง กลับถูกจัดการในพริบตา โดยที่ไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต่นิดเดียว

 

“คนที่มาผดุงความยุติธรรมแทนสวรรค์!”

 

ที่ปรากฏต่อหน้าเหมินหู่ก็คืออี้เทียนหยุน ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ว่าเขายังไม่ให้เหมินหู่ตายง่ายๆ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการตายที่สบายเกินไป

 

“มา เข้ามา มีมือสังหาร มีมือสังหาร!!” เหมินหู่ร้องออกไป จนเสียงดังก้องไปทั่วห้อง แต่ว่าก็ไม่มีใครเปิดประตูเข้ามา เพราะว่าเสียงทั้งหมดได้ถูกค่ายกลข้างนอกตัดขาดเรียบร้อยแล้ว

 

“เปล่าประโยชน์ ต่อให้ร้องจนคอแตกก็ไม่มีใครมาช่วยเจ้า ที่นี่ถูกข้าวางค่ายกลกั้นเสียงไว้เรียบร้อยแล้ว เจ้าร้องไปก็ไม่มีใครได้ยินหรอก” อี้เทียนหยุนตอบด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ขณะที่ในมือกำลังดูดพลังวิญญาณของเขาอย่างบ้าคลั่ง เปลี่ยนมันให้เป็นค่าประสบการณ์ของตน

 

เขาไม่ได้อยากเพิ่มค่าประสบการณ์ แต่ว่าอยากจะทำให้พลังวิญญาณในร่างของเหมินหู่แห้งผาก อย่างนี้ถึงจะสาสมกับสิ่งที่เขาทำ!

 

“เจ้า เจ้าวางค่ายกลกั้นเสียงตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมข้าถึงไม่รู้ตัว?” ในใจเหมินหู่รู้สึกแตกตื่น ตัวเองอาศัยอยู่ที่นี่แท้ๆ แม้ว่าจะประมาท แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะให้ใครเข้ามาวางค่ายกลในห้องได้ง่ายๆ

 

“แล้วข้าจะทำให้เจ้ารู้ตัวไปทำไม?” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มดูถูกออกมา

 

ขณะที่เขาเห็นสถานการณ์ที่นี่ ในใจก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่พลุ่งพล่าน พร้อมกับใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์หายตัวโดยไม่ลังเล จากนั้นก็ทำการจัดวางค่ายกลกั้นเสียงอย่างรวดเร็ว และเมื่อเตรียมทุกอย่างแล้วเสร็จ เขาก็รอเวลาลงมือ!