ที่ว่ากันว่ากินสิ่งใดจะเข้าไปชดเชยสิ่งนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บที่กระดูก
แต่ก็ช่างมันเถอะ เห็นแก่น้องชายโง่เขลาคนนี้ที่เป็นห่วงเป็นใยเขา เขาจะไม่ว่าอะไรก็แล้วกัน
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากข้างนอก
เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นเห็นผู้ช่วยเหมันตร์ยืนอยู่ด้านนอกและโบกมือให้เขา
เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อยเป็นความหมายว่าให้ผู้ช่วยเหมันตร์มันเข้ามาได้
ผู้ช่วยเหมันตร์เปิดประตูด้วยความระมัดระวังเดินตรงเข้ามา เปปเปอร์ตอบรับเบาๆ แล้วถามว่า “สองวันมานี้ที่ผมสลบไป ทางบริษัทเป็นยังไงบ้าง”
“ที่บริษัทไม่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษครับ ผมได้บอกกับคณะกรรมการแล้วว่าท่านมีเรื่องด่วน จึงเดินทางไปต่างประเทศชั่วคราว ดังนั้นนอกจากพวกเราไม่มีใครรู้เรื่องที่ท่านได้รับบาดเจ็บและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จึงไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้น” ผู้ช่วยเหมันตร์ยืนอยู่ข้างเตียงแล้วรายงาน
เปปเปอร์ยกมือขึ้นนวดไปที่หัวคิ้ว “ดีมาก ตอนบ่ายช่วยเอาเอกสาร สำคัญและเร่งรีบมาให้ผม”
“แต่ว่าประธานเปปเปอร์ครับ ร่างกายของคุณ……”
“ไม่เป็นไร” เปปเปอร์หลับตาลงแล้วพูดอย่างอ่อนล้าว่า “ต่อให้ผมอยู่โรงพยาบาลก็ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย”
การที่เขาดื้อรั้นเช่นนี้ ผู้ช่วยเหมันตร์เองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับว่า “ครับผมเข้าใจแล้ว แล้วก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร?” เปปเปอร์ถามแล้วมองหน้าเขา
ผู้ช่วยเหมันตร์ทำสีหน้าเคร่งขรึมรู้สึกหนักใจ “อย่างที่ท่านให้ผมไปตรวจสอบว่า คุณส้มเปรี้ยวรู้เรื่องคุณมายมิ้นท์ตั้งครรภ์ได้อย่างไร ที่จริงผมสอบออกมาแล้วพบว่ามันเป็นแผนการ “
“แผนการ?” เปปเปอร์หรี่ตาลง
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า “ใช่ครับ ผมคิดว่าการที่คุณส้มเปรี้ยวเดาเรื่องที่คุณมายมิ้นท์ตั้งท้องลูกของท่านออก อาจจะเป็นเพราะเมื่อสามเดือนก่อนที่คุณส้มเปรี้ยวเห็นท่านและคุณมายมิ้นท์ เอ่อ คือมีความสัมพันธ์กัน ดังนั้นผมจึงเดินทางไปที่คลับเฮ้าส์ด้วยตัวเอง แล้วเริ่มค้นหาตั้งแต่เมื่อกลางคืนของสามเดือนก่อนเป็นต้นมา เมื่อผลตรวจสอบดูจึงได้พบว่ามันเป็นแผน”
พูดถึงตรงนี้สีหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์ก็ดูเคร่งขรึมขึ้นไปอีก “ในวันที่เกิดเรื่องนั้นเป็นวันเกิดของลาเต้ คุณมายมิ้นท์และเพื่อนๆ เลี้ยงฉลองวันเกิดให้คุณลาเต้ที่คลับเฮาส์ ในตอนนั้นคุณส้มเปรี้ยวและเพื่อนของหล่อนก็อยู่ที่คลับเฮาส์นั้นด้วย ผมตรวจพบว่าคุณส้มเปรี้ยวสั่งให้คนวางยาในไวน์ของคุณมายมิ้นท์ และคนที่วางยาก็คือบริกรคนหนึ่งในคลับเฮาส์”
“ว่าอย่างไรนะ!” เปปเปอร์หรี่ตาลง
เพราะฉะนั้นในคืนนั้นมายมิ้นท์ไม่ได้เพียงแค่ดื่มจนเมา แต่เป็นเพราะถูกวางยาด้วย
จริงสิถ้าหากว่ามายมิ้นท์เพียงแค่ดื่มเหล้าจนเมามาย ปฏิกิริยาของเธอคงไม่ได้ตอบสนองอย่างเร่าร้อนขนาดนั้น ทำไมตอนนั้นเขาถึงไม่รู้สึกว่าเธอแปลกไปกัน?
“ตอนนี้บริกรคนนั้นอยู่ที่ไหน?” เปปเปอร์ถามออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบว่า “ตอนนี้บริกรคนนั้นอยู่ในการควบคุมของผมแล้ว ผมไปตรวจสอบเรื่องราวในคืนวันนั้น และพบว่าท่าทางของบริกรผู้นี้ดูผิดปกติไปจึงได้เรียกมาถาม ผมถึงได้รู้ว่าส้มเปรี้ยวให้คนวางยาคุณมายมิ้นท์ และยังสั่งให้เขาไปหาผู้ชายมาให้คุณมายมิ้นท์”
“ผู้ชายอย่างงั้นเหรอ?” เปปเปอร์กัดฟันถาม ตอนนี้เขาโกรธจัดจริงๆ
ในตอนนั้น ส้มเปรี้ยวต้องการจะหาชายหนุ่มมาย่ำยีให้มายมิ้นท์เสียชื่อเสียงแน่
“ใช่ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ยกมือขึ้นขยับกรอบแว่นตา “คุณส้มเปรี้ยวสั่งให้บริกรจัดหาชายหนุ่มมาคนหนึ่ง แล้วให้ผู้ชายคนนั้นไปดูแลคุณมายมิ้นท์ สั่งให้พาคุณมายมิ้นท์กลับไปที่ห้องและถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายคนที่คุณส้มเปรี้ยวจัดวางแผนเอาไว้นั่นจึงมาสาย เขาไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าคุณมายมิ้นท์ในเวลาที่กำหนดไว้ หลังจากที่ผมไปตรวจดูกล้องวงจรปิด จึงได้รู้ว่าผู้ชายคนที่ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าคุณมายมิ้นท์คือท่าน”
เขาหยุดลงชั่วครู่แล้วพูดต่อไปว่า “อีกอย่าง ในกล้องวงจรปิดนั้นผมเห็นระหว่างที่ท่านกับคุณมายมิ้นท์กำลังเข้าไปในห้อง ฉากนั้นได้ถูกขนมผิงเพื่อนของคุณส้มเปรี้ยวถ่ายเอาไว้ ก่อนจะโทรศัพท์ไปรายงานส้มเปรี้ยว ดังนั้นคุณส้มเปรี้ยวถึงรู้ว่าคืนนั้นคนที่มีความสัมพันธ์กับคุณมายมิ้นท์ ไม่ใช่คนที่เธอจัดการหามาแต่เป็นท่าน และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมคุณส้มเปรี้ยวถึงรู้เรื่องที่คุณมายมิ้นท์ตั้งครรภ์ลูกของท่าน”
“เป็นแบบนี้นี่เอง” เปปเปอร์เม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงแล้วกุมมือแน่น
ตอนนี้เขารู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ชายคนนั้นมาสาย ไม่อย่างนั้นมายมิ้นท์อาจจะถูกไอ้ชายหนุ่มนั่น……
ภาพที่ตามมาเปปเปอร์ไม่กล้าจินตนาการ และไม่อยากจะไปจินตนาการถึงมัน
สีหน้าของเขาดูมืดมนไม่น่ามอง “ไปตามตัวไอ้ผู้ชายคนนั้นมาให้ผมด้วย”
“ผมได้ส่งคนไปจับตัวชายคนนั้นมาแล้วครับ คิดว่าวันพรุ่งนี้ก็จะน่าจะเดินทางมาถึงเมืองเดอะซี” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบ
จากนั้นดูเหมือนผู้ช่วยเหมันตร์จะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขามองไปทางเปปเปอร์แล้วพูดขึ้นว่า “จากกล้องวงจรปิดพบว่าเช้าวันต่อมา หลังจากที่ท่านเดินทางออกมาจากห้องไม่นาน ผู้ชายคนนั้นก็เข้าไปในห้อง”
“ว่ายังไงนะ!” เปปเปอร์ตะเบ็งเสียงออกมา ใบหน้าของเขาเย็นชาอย่างที่สุด “เข้าไปในห้อง?”
ผู้ชายคนนั้นเข้าไปในห้องทำอะไรกับมายมิ้นท์!
เมื่อคิดได้ดังนี้เปปเปอร์ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟจนร่างกายสั่น
ดูเหมือนผู้ช่วยเหมันตร์จะเข้าใจในความคิดของเขาจึงได้รีบพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะครับประธานเปปเปอร์ ผมดูจากกล้องวงจรปิดแล้วผู้ชายคนนั้นเข้าไปได้ไม่ถือสิบนาที คุณมายมิ้นท์ก็ได้วิ่งออกมาด้วยท่าทางตื่นตระหนก ดังนั้นผู้ชายคนที่ว่าคงไม่ได้ทำอะไรคุณมายมิ้นท์ แต่จะถ่ายรูปหรือคลิปวิดีโอเอาไว้หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ คงต้องรอให้วันพรุ่งนี้เมื่อเขาเดินทางมาถึงแล้วสืบถามดูอีกที”
เมื่อได้ยินดังนั้นเปปเปอร์ก็วางใจลงไม่น้อย
เขาคงไม่ได้ทำอะไรกับมายมิ้นท์
ส่วนภาพกับวิดีโอนั้น……
ถ้าไอ้หมอนั่นมันกล้าถ่ายเอาไว้ละก็ เขาจะตัดมือทั้งสองข้างของมันแน่
“ทามทอยล่ะ?” จู่ๆ เปปเปอร์ก็หรี่ตาลงแล้วเอ่ยถาม “คลับเฮาส์เป็นของเขา การที่คุณเข้าไปควบคุมคนของเขาไว้เขาน่าจะได้รับข่าวแล้วใช่ไหม”
ในวันที่สองหลังจากคืนนั้น เขาก็ได้รีบขอให้ทามทอยจัดการกับกล้องวงจรปิด เนื่องจากกลัวว่าเมื่อมายมิ้นท์ตื่นขึ้นมาแล้วเธอจะไปขอถูกกล้องวงจรปิดแล้วพบว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเปปเปอร์
ตอนนั้นทามทอยบอกกับเขาว่าได้จัดการกับกล้องวงจรปิดเรียบร้อยแล้ว แต่ทำไมทามทอยถึงไม่ยอมบอกเขาว่าหลังจากที่เขาจากไปไม่นานก็มีชายอีกคนเข้าไปในห้องมายมิ้นท์ด้วย
“คุณทามทอยรู้เรื่องแล้วครับ แต่ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างการเดินทางไปเจรจาธุรกิจที่เมืองน้ำรุ้ง จะกลับมาในตอนกลางคืน เห็นบอกว่าเมื่อกลับมาแล้วจะเดินทางมาบอกคุณเองว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้ช่วยเหมันตร์ยักไหล่แล้วตอบ
เปปเปอร์กัดฟันกรอด เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงหัวเตียงก่อนจะโทรออกไปหามายมิ้นท์
ขณะนั้นมายมิ้นท์กำลังคุยงานอยู่กับราเม็งอยู่ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์เธอก็ชะโงกหน้าไปดูและพบว่าเป็นสายของเปปเปอร์ เธอกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ
ดูเหมือนเขาจะฟื้นแล้ว
แต่เมื่อเขาเพิ่งฟื้นก็โทรมาหาเธอแบบนี้ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ในที่สุดมายมิ้นท์ก็ตัดสินใจตัดสายทิ้ง
ลาเต้เห็นการกระทำของเธอทั้งนั้นก็ดีใจและผิวปากออกมา “ที่รัก คุณทำได้ดีจริงๆ”
มายมิ้นท์ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในขณะที่เธอกำลังจะก้มหน้าหันกลับไปหารือเกี่ยวกับเอกสารสนธิสัญญา โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้งแต่ไม่ได้เป็นสายเรียกโทรเข้า กลับเป็นวีแชท
เป็นวีแชทของเปปเปอร์ อีกทางใช้บัญชีZ-H
มองดูแล้วหลังจากที่บัญชีชื่อนี้ถูกเปิดเผยออกมาเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดมันอีก
“ผมช่วยดูให้ว่าเขาส่งอะไรมา” ในขณะที่มายมิ้นท์ยังไม่ทันจะตัดสินใจว่าจะดูข้อความของเปปเปอร์หรือไม่ เธอก็พบว่าลาเต้หยิบโทรศัพท์มือถือเธอไปแล้ว
มายมิ้นท์ไม่ทันจะปฏิเสธ เธอจึงทำได้เพียงปล่อยไปตามความประสงค์ของเขา
“ประโยคนี้เขาหมายความว่ายังไงกัน?” จู่ๆ ลาเต้ก็ขมวดคิ้วขึ้น “อะไรคือเรื่องในคืนนั้นเป็นความผิดของเขา และเรื่องในคืนนั้นมีความลับแอบแฝง ทำไมผมไม่เข้าใจเลย?”
แม้ว่าลาเต้จะไม่เข้าใจแต่มายมิ้นท์เข้าใจได้ในทันที
“เอามาให้ฉัน” เธอยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์กลับมา แล้วจ้องไปที่หน้าจอมือถือด้วยท่าทางจริงจัง
เห็นได้ชัดว่าความที่เปปเปอร์ส่งมานั้นเข้าตาของเธอทันที “ผมขอโทษครับมายมิ้นท์ เรื่องในคืนนั้นเป็นความผิดของผมเอง คุณจะโกรธจะเกลียดผมยังไงก็ได้ แต่ผมอยากจะบอกคุณว่าเรื่องไหนคืนนั้นมีบางอย่างแอบแฝงอยู่ คุณไม่ได้เพียงแค่ดื่มเหล้าจนเมา ส่วนรายละเอียดนั้นเดี๋ยวผมจะส่งให้คุณทางวิดีโอ”
“ที่รัก” เมื่อลาเต้เห็นว่ามายมิ้นท์ใจลอย จึงได้โบกมือตรงหน้าเธอ
มายมิ้นท์ได้สติกลับคืนมาแล้วถามว่า “อะไรคะ?”
“ผมต่างหากที่อยากจะถามคุณว่าเป็นอะไร จู่ๆ ถึงได้ตาลอยแบบนั้น” ลาเต้ถาม
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแล้วตอบว่า Wฉันกำลังคิดเรื่องบางเรื่องอยู่ค่ะ”
คำพูดนี้ของเปปเปอร์หมายความว่ายังไง?
อะไรคือมีบางอย่างแอบแฝง
หรือว่า ในคืนนั้นเธอกับเปปเปอร์มีความสัมพันธ์อะไรกันเกิดขึ้น?