คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 749
”จะไปมีรอบเดียวได้ยังไง?”

ฝูงชนต่างเห็นด้วยกับข้อเสนอ พวกเขาคะยั้นคะยอจะอยู่ข้างไซม่อน

แดร์ริลเยาะเย้ยอยู่ในใจของเขา ‘ไอ้พวกเวร! คนแบบนี้มีอยู่ทุกที่’ เขาแสยะยิ้มและกล่าว “โอเค สองในสาม ผมจะยอมเล่นด้วยเพื่อให้พวกคุณเชื่อสนิท เอาล่ะ ใครจะเป็นคนคิดหัวข้อต่อไป?”

“ผมเอง!” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนอย่างกระตือรือร้นในฝูงชน ชายคนนี้มีนามว่าฮาวเวิร์ด วาลลิสเจ้าของห้องโถงเต้นรำโภไคย

แน่นอนที่ไม่มีใครขัดข้อง ถ้าหากเจ้าของอยากจะเป็นผู้คิดหัวข้อ

ฮาวเวิร์ดครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่เขาจะกล่าว “เอาล่ะ เรามาแต่งบทกวียกยอผู้หญิงคนที่อยู่ข้าง ๆ พวกนายกันดีกว่า”

ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบสงัด

ทุกสายตาต่างจ้องมองไปที่ไซม่อน

‘ยกยอผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ งั้นเหรอ? หัวข้อนี้ง่ายเหมือนปอกกล้วย’

ไซม่อนนั้นรู้สึกมั่นใจ เขามองไปที่ซัมเมอร์ ภรรยาของเขาด้วยรอยยิ้ม เขาครุ่นคิดอยู่นานเกือบสามนาทีก่อนจะร่ายบทกวี “ดวงจันทร์เลือนลับเมื่อภรรยาของฉันเฉิดฉาย เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง เธอล้างเส้นด้ายที่ริมแม่น้ำ ความงามของเธอไม่อาจสาธยายเป็นคำเรียบง่าย ฉันจะไปมองคนอื่นทำไม นอกจากเธอ?”

ไซม่อนรู้สึกภาคภูมิใจกับบทกวีของเขามาก

ว้าว!

มีเสียงดังอึกทึกคึกโครม ทุกคนต่างส่งสายตามองไปที่ไซม่อนด้วยความชื่นชม

ไม่สงสัยเลยที่เขาเป็นถึงผู้มีบารมีในสำนักพราน!

เขาคิดบทกวีขึ้นนี้มาได้อย่างเฉียบพลัน เขามีพรสวรรค์มาก

‘ดวงจันทร์เลือนลับเมื่อภรรยาของฉันเฉิดฉาย’ มันหมายถึงว่าขนาดพระจันทร์ยังต้องหลีกทางให้กับความสวยงามของภรรยาเขา

วลีที่ว่า ‘เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง เธอล้างเส้นด้ายที่ริมแม่น้ำ’ หมายความว่าภรรยาของเขาจะไปที่แม่น้ำเพื่อซักเสื้อผ้าในฤดูใบไม้ผลิ ใบหน้าอันสวยสดงดงามของเธอจะสังเกตเห็นเป็นเงาสะท้อนในน้ำและแม้แต่ปลาก็ยังหลบซ่อนเมื่อเห็นเธอ

คำอุปมาอุปไมยนั้นสุดยอดมาก!

มันน่าทึ่งจริง ๆ !

หลายคนชื่นชมแนวความคิดทางศิลปะของบทกวีขณะมองไปที่ไซม่อน

ซัมเมอร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา รู้สึกเขินอายเล็กน้อยแต่เธอก็รู้สึกชื่นบาน

เธอรู้ว่าไซม่อนจะต้องแต่งบทกวีให้กับเธอ เธอมีความสุขและภาคภูมิใจกับสามีผู้มากพรสวรรค์คนนี้

ทุกคนต่างคิดว่าการประชันในครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว เพราะผู้อาวุโสครีเซนต์มาพร้อมกับบทกวีที่เหนือชั้นในรอบนี้

ฝูงชนต่างมองแดร์ริลด้วยสีหน้าเย้ยหยันดูแคลน พวกเขาต้องการเห็นแดร์ริลขายขี้หน้า

“มันกล้าดียังไงมาท้าทายผู้อาวุโสครีเซนต์! มันคงคิดว่ามันแน่มาก!”

“ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถแต่งบทกวีได้ แต่ฉันก็สงสัยว่าแนวคิดทางศิลปะของเขาจะดีเท่ากับผู้อาวุโสครีเซนต์ไหม… ”

ทุกคนต่างถ่มถุยเยาะเย้ยแดร์ริล แต่เขาไม่สะทกสะท้าน รอยยิ้มอ่อน ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

“เกิดไรขึ้น? นี่แกหมดมุกแล้วเหรอ?” ไซม่อนส่งสายตาถากถางแดร์ริล

“จะรีบไปไหน?”

แดร์ริลยิ้มขณะเขามองไปที่เชอรีล ผู้ซึ่งยืนอยู่ข้างเขา “ฉันขอมอบบทกวีนี้ให้กับลูกศิษย์ของฉัน”

แดร์ริลกระแอมในลำคอและสั่นหัวขณะร่ายบทกวี “นภาที่งดงามคืออาภรณ์ที่เธอสวม และบุปผาที่งามงดคือใบหน้าของตัวเธอ สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านรั้วและน้ำค้างประดับบนดอกโบตั๋น ความงามดังกล่าวย่อมพบได้เฉพาะที่ภูเขาคุนหยูหรือพญานกยูง ภายใต้เวหาแสงจันทร์เท่านั้น”

แดร์ริลก้าวขึ้นไปข้างหน้าสองก้าวในขณะที่เขาร่ายบทกวี กิริยาท่าทางเหมือนกับที่นักปราชญ์สมัยโบราณมักปฏิบัติกัน

หลี่ ไป๋ ได้เขียนบทกวีถึงนางสนมของจักรพรรดิหยางเพื่อยกยอความงดงามของเธอ!

ห้องโถงโภไคยกลับมาเงียบสงัดอีกครั้งหลังจากแดร์ริลร่ายบทกวีจบ เงียบถึงขนาดว่าถ้ามีเข็มตกลงพื้นก็สามารถได้ยิน!

ไม่มีใครกล่าวอะไร พวกเขาตกตะลึงงันกับบทกวีดังกล่าว!

ว้าว!

จากนั้นทั้งห้องโถงเต้นรำโภไคยก็ตกตะลึงสะดุ้งเฮือกด้วยความตื่นเต้น!

“มันงดงามจริง ๆ คุณชาย บทกวีมันงดงามมากจริง ๆ” จีเวลยืนปรบมืออยู่ข้าง ๆ ขณะเธออุทานออกมา เธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นลิงโลด

‘เขาเฉลียวฉลาดมาก เขาแต่งบทกวีได้! แถมบทกวีของเขายังสุดยอดมากอีกด้วย’