ตอนที่ 439 : โอโรจิมารุ

The Strongest Hokage

Chapter 439 : โอโรจิมารุ

 

“ไม่เจอกันนานขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไนโตะ ส่ายหัวและพูดอย่างช่วยไม่ได้

 

“ท่านไนโตะ! มันผ่านมานานกว่าครึ่งปีแล้วนะคะ…”

 

อังโกะ พยายามเถียง แต่เธอก็รู้ตัวว่าพฤติกรรมของเธอน่าอายแค่ไหนในตอนนี้ แต่ เมื่อเธอสังเกตเห็นว่ามันไม่รบกวน ไนโตะ เธอก็รู้สึกโล่งใจ และเธอก็ค่อยๆ พื้นรอยยิ้มของเธออีกครั้ง

 

แม้ว่า ไนโตะ จะได้ไปหาไปหา คาคาชิ , ไก และคนอื่นๆ อยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้พบ อังโกะ เลยตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา

 

“เธอโตแล้วนะ แต่ก็ยังทําตัวเป็นเด็กอยู่เลย” ไนโตะ ยังคงมองเธออย่างช่วยไม่ได้

 

“ฮิฮิฮิ”

 

อังโกะ ไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น

 

ผู้คุมสอบที่อยู่ด้านข้างซึ่งหดคอแล้วหลบซ่อนอยู่ไกลๆ ไม่กล้ามองดูพวกเขา

 

“ว่าแต่ ท่านไนโตะ ท่านมาที่นี่มีอะไรหรือเปล่าคะ ท่านไม่ได้มาที่นี่เพื่อแค่มาหาหนูใช่ไหมคะ?” ดูเหมือน อังโกะ จะนึกอะไรขึ้นได้แล้วก็ถามไปพลางกระพริบตาไปที่ ไนโตะ

 

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ไนโตะ ก็เหลือบมองไปยังปาแห่งความตายที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยความรู้สึกบางอย่างในดวงตาของเขา และนึกถึงการสอบที่เขาต้องเข้าสอบเพื่อเข้าร่วมหน่วยลับของ โคโนฮะ

 

ตอนนั้นเขาเป็นผู้เล่น ตอนนี้เขาเป็นเหมือน เกมมาสเตอร์ มากกว่า

 

“ทําไมฉันจะมาเฉย ๆ ไม่ได้ล่ะ?”

 

อังโกะ ยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นเกียรติมากค่ะ! เรามีลูกชิ้นอยู่เยอะเลย ท่านไนโตะ อยากลองกินไหมคะ?”

 

แม้ว่าเขาจะอยู่นอกปา แต่ทุกอย่างภายในนั้นก็อยู่ในการรับรู้ของเขา และเขาก็รู้ว่า การสอบรอบ 2 เพิ่งเริ่มต้น ในโตะ พยักหน้าให้ อังโกะ ด้วยรอยยิ้ม

 

“เอาสิ”

 

“งั้นก็ไปกันเถอะค่ะ!”

 

การได้เห็น ไนโตะ เห็นด้วยทําให้อังโกะดูมีความสุขมาก

 

ทั้ง 2 มาที่บ้านไม้ที่สร้างขึ้นถัดจากปา

 

นี่คือที่พักของผู้คุมสอบ อังโกะ และ ไนโตะ เดินเข้าไปด้านใน ขณะที่ผู้คุมสอบคนอื่นๆ ซ่อนตัวอยู่ไกล ไม่มีใครกล้ามารบกวนพวกเขา ยกเว้นจะเอาลูกชิ้นมาให้พวกเขาเพิ่ม

 

ในโตะ ไม่ได้กินจริงๆ เขารู้ว่า อังโกะ ชอบลูกชิ้นมากแค่ไหน และขณะนั่งดูเธอกิน ไนโตะ ก็ คุยกับ อังโกะ เล็กน้อย และจู่ ๆ นินจาคนหนึ่งก็รีบเข้ามารายงาน

 

“คุณอังโกะ มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นครับ”

 

“อะไร?”

 

ในที่สุดเธอก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ไนโตะ และกินลูกชิ้น แต่เธอก็ถูกรบกวนในทันที การแสดงออกบนใบหน้าของเธอจึงเย็นชาจริง ๆ

 

นินจาคนนั้นเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น ขณะที่เหลือบมอง ในโตะ อย่างระมัดระวัง และพบว่า ในโตะ กําลังดื่มชาโดยไม่สนใจเขาเลย จากนั้นเขาก็โล่งใจและมอง อังโกะ อย่างขี้อาย

 

บางครั้งการจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองก็ดีกว่าการมาหา อังโกะ แต่นี้เป็นปัญหาใหญ่ และ เขาก็อดไม่ได้ที่จะมาหาเธอ

 

“เราพบศพ 3 ศพ และวิธีที่พวกเขาตายนั้นดูแปลกมาก คุณต้องมาดู”

 

“3 ศพ?”

 

ดวงตาที่ไม่พอใจบนใบหน้าของ อังโกะ เฉียบแหลมขึ้นมาทันที และเธอก็ปล่อยความรู้สึกส่วนตัวไปในทันที

 

แม้ว่าเธอจะเกลียดที่เธอถูกขัดจังหวะขณะพูดคุยกับ ไนโตะ แต่ผู้คนก็ถูกฆ่าตายระหว่าง การสอบ และในฐานะผู้คุมสอบ เธอจึงไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปได้ อย่างไรก็ตาม หลัง จากที่เธอมองไปที่ ไนโตะ อีกครั้ง เธอก็ยังคงลังเล

 

“ไปดูกันเถอะ”

 

เมื่อสังเกตเห็นว่าเธอลังเลอย่างไร ไนโตะ ก็ยิ้มแล้ววางถ้วยในมือลงก่อนจะลุกขึ้นยืน

 

ปาแห่งความตาย

 

อุจิวะ ซาสึเกะ กําลังมอง โอโรจิมารุ ที่ปลอมตัวเป็น ชิโอเระ ซึ่งเป็น เกะนิน จาก หมูบ้านคุสะ ที่อยู่ต่อหน้าเขาด้วยร่องรอยของเหงื่อบนหน้าผาก แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าในการ์ตูนและมี เนตรวงแหวนขั้นสมบูรณ์ แต่ โอโรจิมารุ ที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน!

 

โอโรจิมารุ ที่ใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ย่อมแข็งแกร่งกว่า

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ก็ทําให้เกิดเหตุการณ์ใหม่ที่ต่างออกไป

 

โอโรจิมารุ เลือกเปิดใช้ เนตรวงแหวน เพื่อส่งจิตสังหารออกไปและทดสอบจิตใจของ ซาสึเกะ แต่ ซาสึเกะ ก็เปิด เนตรวงแหวน เช่นกันทําให้เขาสามารถต่อต้าน โอโรจิมารุ ได้อย่างสมบูรณ์

 

อย่างไรก็ตาม มันก็ทําให้ โอโรจิมารุ เปิดใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เพื่อบดขยี้ ซาสึเกะ ด้วยคาถาลวงตาอย่างรุนแรง

 

ภายใต้การปราบปรามอย่างรุนแรงของ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ที่เหนือกว่า เนตรวงแหวนขั้นสมบูรณ์ รวมถึงแรงกดดันจักระและจิตวิญญาณ ทําให้ ซาสึเกะ สูญเสีย กําลังและคุกเข่าลงกับพื้นทันทีพร้อมกับความสยองขวัญที่เห็นได้ชัดในสายตาของเขา

 

“ตาแก…แกมีเนตรนั้นได้ยังไง?! เป็นไปไม่ได้!”

 

“สมแล้วกับที่เป็นน้องชายของ อิทาจิ นายสามารถปลุก เนตรวงแหวนขั้นสมบูรณ์ ได้แล้ว แต่ ก็น่าเสียดายที่เธอยังด้อยกว่า อิทาจิ อยู่มาก”

 

โอโรจิมารุ ยืนอยู่ที่นั่น จ้องมอง ซาสึเกะ ด้วยดวงตาที่น่าสะพรึงกลัวและรอยยิ้มอันชั่วร้ายของเขา

 

ด้อยกว่า อิทาจิ มากด้อยกว่า อิทาจิ…กว่า อิทาจิ..

 

เข้าเคยได้ยินคําพูดแบบนี้มาจาก คิมิมาโร่ ก่อน จากนั้นก็ได้ยินจาก โอโรจิมารุ อีกครั้งทําให้ใจของ ซาสึเกะ จมลงด้วยความโกรธ และเขาก็ยืนนิ่งทันทีขณะกัดฟันแน่น

 

นารุโตะ กับ ซากุระ ที่อยู่ข้าง ๆ มองเห็นสภาพที่ย่ําแย่ของ ซาสึเกะ อย่างเห็นได้ชัด

 

“ซาสึเกะ!”

 

นารุโตะ ไม่ได้กลัว โอโรจิมารุ แม้ว่า โอโรจิมารุ จะแข็งแกร่งกว่า แต่ก็ไม่กลัว แต่เขา กังวลเกี่ยวกับสภาพที่ดูแย่ของ ซาสึเกะ มากกว่า

 

อย่างไรก็ตาม ซาสึเกะ ก็ไม่สนใจ นารูโตะ และกัดฟันใส่ โอโรจิมารุ พร้อมกับตะโกนว่า “อย่า พูดถึงชื่อนั้นต่อหน้าฉัน!”

 

เมื่อเห็น ซาสึเกะ วิ่งเข้ามา โอโรจิมารุ ก็ยิ้มเยาะแล้วปล่อยให้ ซาสึเกะ ต่อยเขา แต่มันก็ทะลุ ผ่านเขาไปอย่างประหลาดราวกับว่าเขาเป็นผี

 

ตู้ม!

 

ทันใดนั้น ซาสึเกะ ก็โดนต่อยแล้วกระเด็นออกไปทันที นารูโตะ ที่เห็นแบบนั้นก็กระ โดดขึ้นทันทีและจับเขาไว้

 

“โจมตีไม่โดน เกิดอะไรขึ้น?!”

 

ซากุระ มองอย่างประหลาดใจที่ โอโรจิมารุ ถึงแม้ว่า ซาสึเกะ จะต่อยโดนอย่างเห็นได้ชัด แต่หมัดของเขาก็ทะลุผ่าน โอโรจิมารุ ไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วทันใดนั้นเขาก็ถูกโจมตีก่อนที่ จะกระเด็นออกไปไกล

 

ผู้ชายคนนี้เป็นเหรอ?

 

ซาสึเกะ แพ้ในการต่อสู้ด้วยคาถาลวงตา และยังโดน โอโรจิมารุ โจมตีอีกด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้กระแทกกับพื้นและได้ นารูโตะ ช่วยไว้ แต่เขาก็ยังบาดเจ็บ และกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย

 

เมื่อเห็นเช่นนี้ นารูโตะ ก็โกรธจัดและหันไปหา โอโรจิมารุ จากนั้นในสภาพที่ไม่เสถียรนี้หมัดของเขาก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยจักระยอง 9 หาง ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าหา โอโรจิมารุ และต่อยออกไป

 

“จักระ 9 หาง…เธอสามารถใช้มันได้แล้วเหรอ?”