ตอนที่ 401 ลับๆล่อๆ

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 401

ลับๆล่อๆ

“เดี๋ยวสิท่านแม่”ในเช้าวันต่อมาหลังจากชิงชิวมาแจ้งข่าว อยู่ๆคนข้างบ้านของชิงชิวก็ได้ยินเสียงชิงชิวดังขึ้นมาแต่เช้าทำให้พวกมันรีบออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

“ท่านแม่ ใจเย็นก่อนขอรับ”ชิงชิวกับน้องๆกำลังเดินตามแม่ของพวกคนที่กำลังก้าวพรวดๆไปในเมืองอย่างรวดเร็ว ทำเอาชาวบ้านที่อยู่ระหว่างทางมองกันด้วยท่าทีงุนงง

“อะไรกัน ว่าที่คู่หมั้นของชิงชิวเลวร้ายขนาดนั้นเลยงั้นหรือ”ลุงข้างบ้านคนหนึ่งขมวดคิ้วมองตามแม่ของชิงชิวที่กำลังเร่งรีบเดินหนีพวกลูกๆด้วยท่าทีสงสัย มันเองก็ได้ข่าวมาเหมือนกันว่าชิงชิวกลับมาบอกว่ามันกำลังจะหมั้นกับหญิงสาวคนหนึ่ง และท่าทางคุณนายชิงจะไม่ชอบเท่าไหร่ ไม่นึกว่าจะถึงขั้นนี้เลย

“ท่านแม่ ตอนนี้ร้านเขายังไม่เปิดหรอกนะขอรับ”ชิงชิวกับน้องๆที่พยายามหยุดแม่เอาไว้พูดพลางเดินตามด้วยท่าทีลำบากใจ เมื่อวานพอทราบว่าชิงชิวจะหหมั้นกับใครแม่ก็หมดสติไปทั้งวันกว่าจะฟื้นขึ้นมาก็เย็นแล้ว ชิงชิวก็เลยให้แม่พักแล้วจัดการเรื่องอาหารค่ำให้น้องๆแทน ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นพอรุ่งเช้าท่านแม่ก็ลุกขึ้นมาราวกับคนละคนก่อนจะบอกว่าจะไปร้านขายผ้าเพื่อสั่งตัดชุดสำหรับงานหมั้นของชิงชิว

“ไม่ได้ แม่จะต้องไปที่ร้านเป็นคนแรก”แม่ของชิงชิวพูดด้วยท่าทีแข็งขันก่อนจะเดินเข้าไปในเมืองอย่างเร่งรีบชนิดลืมอายุตัวเองไปเลย ทำเอาชิงชิวได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินตามแม่ของตนต่อไป

“แม่ พวกเราต้องไปด้วยเหรอ”น้องสาวของชิงชิวถามพลางเดินตามแม่ของตนด้วยท่าทางยังง่วงๆอยู่เลย เพราะเวลานี้ไก่ยังไม่ขันเสียด้วยซ้ำ

“พวกเราจะตัดชุดไปงานหมั้นพี่ชายเจ้า ก็ต้องให้ตัดทุกคนสิ”แม่ของชิงชิวตอบพลางเดินต่อด้วยท่าทีขึงขังจนกระทั่งเข้ามาถึงในเมือง แม่ของชิงชิวก็เลือกเดินไปที่ร้านขายผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทันที

“ข้าบอกแล้วไงว่าร้านยังไม่เปิด”ชิงชิวยิ้มเจื่อนๆออกมาเมื่อมาถึงหน้าร้าน ตอนนี้อย่าว่าแต่ร้านขายผ้าเลยในตลาดยังมีพ่อค้าแม่ค้ามาเดินกันไม่กี่คนเท่านั้น

“ดี พอร้านเปิดเราจะได้สั่งชุดทันทีไงล่ะ”แม่ของชิงชิวตอบด้วยท่าทีแน่วแน่อย่างมาก สุดท้ายชิงชิวก็เลยได้แต่ปล่อยให้แม่ทำตามใจด้วยการยืนรอหน้าร้านต่อไป

“ชิงหมิง ชิงชิง พวกเจ้าหิวหรือเปล่า”ชิงชิวถามพลางมองไปที่ตลาด แม้จะมีไม่กี่ร้านแต่ก็มีร้านอาหารมาวางขายกันแล้ว เมืองนี้ไม่ค่อยมีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณทำให้ตลาดขายอาหารมากกว่าเมืองที่เต็มไปด้วยผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณเสียอีก

“ข้าเอาโจ๊กนะ”ชิงหมิงตอบพลางเดินเข้ามาหาชิงชิวเหมือนจะบอกว่าตนเองจะไปด้วย

“ข้ายังไม่หิวเลย”ชิงชิงตอบพลางโบกมือไปมาเหมือนจะบอกว่านางจะอยู่กับแม่ต่อ ทำให้ชิงชิวกับชิงหมิงเดินออกไปเพียงสองคนเพื่อซื้อหาอาหารมากินกันระหว่างรอร้านขายผ้าเปิด

“……”ขณะชิงชิวกำลังเดินตลาดอยู่นั้น อยู่ๆจมูกของชิงชิวก็ได้กลิ่นแปลกๆที่มันค่อนข้างคุ้นเคย กลิ่นมันจางๆเหมือนอยู่ห่างจากชิงชิวมากทีเดียว เพียงแต่กลิ่นนี้ทำให้ชิงชิวไม่ไว้วางใจเลย

“พี่ชิวมีอะไรเหรอ”ชิงหมิงว่าพลางมองไปรอบๆ ชิงชิวมีประสาทสัมผัสกลิ่นดีมาแต่เด็ก ทำให้ชิงหมิงที่โตมาด้วยกันพอจะทราบว่าชิงชิวคงได้กลิ่นอะไรแปลกๆแน่ๆ

“เปล่า ข้าคงคิดไปเอง”ชิงชิวตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ กลิ่นที่มันได้กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นเดียวกับกิ่งไม้ที่ตัวไป๋ชินอี้พกติดตัวเอาไว้ กลิ่นนั่นหอมตลบอบอวลอยู่รอบกายชินอี้เสมอ ทำให้ชิงชิวที่จมูกดีมากได้กลิ่นนี้จนเคยชิน แต่หากมันได้กลิ่นที่นี่แสดงว่าองค์ชายชินอี้มาที่นี่งั้นหรือ?

หลังจากพาชิงหมิงไปหาอะไรกินจนอิ่มแล้ว ชิงชิวและชิงหมิงก็กลับมาหาแม่และชิงชิงเช่นเดิมจนกระทั่งสาวใช้ของร้านขายผ้าเปิดประตูออกมาแล้วต้องทำหน้าประหลาดใจที่เห็นแม่ของชิงชิวเฝ้าอยู่หน้าร้านตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด

“แม่หนู ป้ามาสั่งตัดชุด”แม่ของชิงชิวพุ่งตัวเข้าไปหาสาวใช้คนนั้นอย่างรวดเร็วทำเอานางหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ ทำเอาต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่งเพื่ออธิบายให้นางเข้าใจว่าแม่ของชิงชิวมารอร้านเปิดเพราะต้องการจะตัดชุดไปงานหมั้นของบุตรชายนั่นเอง

“เชิญทางนี้เจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการชุดแบบไหนหรือเจ้าคะ”สาวใช้ถามพลางพาแม่ของชิงชิวเข้าไปในร้านทั้งๆที่ยังเปิดร้านไม่เสร็จเสียด้วยซ้ำ

“ข้าต้องการชุดที่ดีที่สุดในร้านนี้”แม่ของชิงชิวประกาศก้องทำเอาสาวใช้ได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ

“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะไปเรียกเจ้าของร้านมานะเจ้าคะ”สาวใช้ตอบพลางวิ่งหายเข้าไปหลังร้าน ไม่นานก็พาชายชราคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกัน

“คุณนาย จะตัดชุดหรือขอรับ ไม่ทราบว่าท่านมีงบเท่าไหร่”ชายชราที่เหมือนยังไม่ตื่นดีถามพลางขยับแว่นตาตนเองช้าๆ

“เรื่องเงินไม่ต้องห่วง ข้าต้องการชุดที่ดีที่สุดสำหรับงานหมั้นของลูกชายข้า”แม่ของชิงชิวว่าพลางวางถุงเงินที่อัดแน่นไปด้วยเหรียญทองจำนวนมากลงบนโต๊ะ ทำเอาเจ้าของร้านที่แต่เดิมง่วงๆอยู่ตื่นเต็มตาทันที

“ขอรับ ข้าจะรีบจัดการให้”เจ้าของร้านรีบก้มหัวลงพลางถูมือไปมาพร้อมยิ้มกว้าง ไม่นึกเลยว่าจะมีโชคตั้งแต่เช้าเช่นนี้

“คุณนายเจ้าคะ เชิญวัดตัวทางนี้เจ้าค่ะ”สาวใช้คนเมื่อครู่พูดพลางนำสายวัดตัวออกมา ทำให้แม่ของชิงชิว ชิงหมิง และ ชิงชิงเดินเข้าไปในห้องวัดตัวกันหมดเหลือเพียงชิงชิวเท่านั้นที่อยู่ข้างนอก

“…..”ชิงชิวมองพวกท่านแม่เดินเข้าไปในห้องวัดขนาดตัวช้าๆ เมื่อเห็นว่าพวกมันเดินเข้าไปในห้องวัดตัวหมดแล้วชิงชิวก็เดินออกมาจากร้านเงียบๆ

ตุบ….ร่างชิงชิวทะยานขึ้นไปบนหลังคาร้าน ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อจับสัมผัสกลิ่นในเมือง ก่อนหน้านี้ชิงชิวสัมผัสกลิ่นหอมขององค์ชายชินอี้ได้รางๆเท่านั้น แต่ยิ่งเวลาผ่านไปกลิ่นนั่นยิ่งเด่นชัด ซึ่งก็หมายความว่าองค์ชายชินอี้อาจจะมาที่เมืองของมันก็เป็นได้

เอี๊ยดดด!! เสียงล้อรถไฟที่กำลังเข้าจอดที่สถานีรถไฟดังขึ้นพร้อมกลิ่นหอมที่ชัดเจนมากขึ้น หรือว่าองค์ชายจะเดินทางด้วยรถไฟกัน…

ฟุบ!! ร่างของชิงชิววิ่งไปบนหลังคาอย่างรวดเร็วเพื่อไปสำรวจดูที่สถานีรถไฟ ไม่จำเป็นต้องตามหาแต่อย่างไร ทันทีที่ร่างร่างหนึ่งเดินลงมาจากรถไฟกลิ่นหอมของกิ่งไม้ก็เด่นชัดขึ้นมายิ่งกว่าเดิม แต่ถึงตอนนี้ชิงชิวกลับทำสีหน้าเหนื่อยใจออกมาแทน

หมับ..ชิงชิวหายตัวก่อนจะกระโดดวูบเข้าไปด้านหลังของร่างร่างนั้น พร้อมจับไหล่ของนางเอาไว้เบาๆ

“องค์หญิง ท่านมาทำอะไรที่นี่หรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางยิ้มบางๆออกมา มิน่าเล่ากลิ่นถึงได้เบาบางนักเพราะมันไม่ใช่ด้ามมีดของชินอี้ แต่เป็นชิ้นส่วนที่ไป๋หลินเอามาใช้กลบกลิ่นอายตนเองเท่านั้น

“แฮ่ๆข้ามาทำงานนะ”ไป๋หลินตอบพลางหลบสายตาชิงชิว ยามนี้ไป๋หลินอยู่ในชุดที่มีผ้าคลุมทั้งตัวจนไม่เห็นแม้แต่มือทั้งสองข้างเลย

“งานอะไรหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวพิลึก

“ข้ามาตรวจตราบ้านเมืองยังไงล่ะ มันเป็นหน้าที่ขององค์หญิงนะ”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มออกมาภายใต้ผ้าปิดหน้า

“ท่านรู้ใช่ไหมว่ามันฟังไม่ขึ้น”ชิงชิวว่าพลางกอดอกแน่น

“ข้าก็แค่อยากมาพบครอบครัวท่านก่อนเท่านั้นเอง”ไม่ต้องมองเห็นภายในผ้าปิดหน้าชิงชิวก็ทราบว่าไป๋หลินกำลังทำแก้มป่องอยู่แน่ๆ แล้วแบบนี้จะให้มันโกรธลงได้อย่างไร

“ท่านก็เลยแปลงร่างเป็นมุ้งเดินได้สินะขอรับ”ชิงชิวส่ายหน้าช้าๆพลางมองไป๋หลินตรงหน้า เพราะไป๋หลินสามารถมองทะลุสิ่งของได้ทำให้นางใช้ผ้าสีทึบมากเพื่อปิดบังตัวตนเอาไว้ ทำให้คนอื่นไม่สามารถมองเห็นทะลุผ้าเข้ามาได้เลย ส่วนพลังดึงดูดเหล่าอสูรไป๋หลินก็ใช้กิ่งไม้ที่ชินอี้ใช้มากลบกลิ่นอายเอาไว้ เพียงแต่ของไป๋หลินเป็นเพียงสร้อยคอเล็กๆเท่านั้น กลิ่นเลยไม่แรงเท่าของชินอี้

“แฮ่ๆ ก็ท่านบอกว่าไม่อยากให้คนอื่นแตกตื่นไง”ไป๋หลินว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ

“แต่แบบนี้มันก็สะดุดตาเหมือนกันนะขอรับ”ชิงชิวว่าพลางมองไปรอบๆ เพราะไป๋หลินแต่งตัวมาได้แน่นหนามากทำให้เด่นสะดุดตาคนอื่นๆมากไม่น้อยเลย

“ก็ข้าอยากมาหาครอบครัวท่านนี่นา ข้ากลัวว่าพวกท่านจะไม่ยอมรับข้า”ไป๋หลินทำเสียงหงอยออกมาจนชิงชิวต้องยอมแพ้ ไม่เห็นด้วยอะไรกัน แม่ของมันพึ่งจะบุกร้านขายผ้าเพื่อตัดชุดรอเข้าร่วมงานหมั้นไปหยกหยก

“เอาเถอะ ท่านมาแล้วก็ช่วยไม่ได้ แต่ท่านอย่าเผลอทำผ้าปิดหน้าหลุดก็แล้วกัน”ชิงชิวว่าพลางจับมือไป๋หลินเอาไว้ ก่อนจะพานางเดินไปด้วยกันกับตนเอง

“น้องชิว…นั่นใคร”รุ่นพี่ของชิงชิวที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของสถานีรถไฟถามพลางมองมาทางไป๋หลิน

“นางเป็นคู่หมั้นของข้าเองขอรับ”ชิงชิวตอบพลางมองไปทางไป๋หลิน น่าเสียดายมันมองไม่เห็นว่านางหน้าแดงหรือไม่

“เอ่อ…ทำไมนางต้อง…”รุ่นพี่ของชิงชิวมองมาทางไป๋หลินนิ่ง ไม่ต้องถามหรอกว่ามันหมายถึงอะไร ก็ไป๋หลินทำตัวน่าสงสัยขนาดนี้

“นางมีเหตุผลส่วนตัวนิดหน่อย พี่อย่าถือสาเลยนะ”ชิงชิวว่าพลางส่งสายตาขอร้องให้อีกฝ่าย

“….ก็ได้ ข้าจะไม่ตรวจสอบนางก็แล้วกัน”รุ่นพี่ของชิงชิวว่าพลางปล่อยให้ชิงชิวผ่านไปได้ แน่นอนว่ามันเองก็ได้ข่าวเรื่องคู่หมั้นของชิงชิวมาแล้วเช่นกัน ทำเอามันเองก็สงสัยมากว่าทำไมคู่หมั้นของชิงชิวถึงต้องสวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกายขนาดนี้ แต่เพราะชิงชิวขอเอาไว้มันเลยไม่กล้าทักท้วงอะไร

“พี่ชิว ท่านไปไหนมา”ชิงชิงที่วัดตัวเสร็จแล้วเดินออกมาหน้าร้านพอดี ทำให้เห็นชิงชิวกับไป๋หลินที่เดินเข้ามาในร้านเป็นคนแรก

“ข้าไปรับคนมานิดหน่อย แล้วท่านแม่ล่ะ”ชิงชิวถามพลางไปรอบๆ

“ท่านแม่กำลังเลือกวัตถุดิบทำชุดอยู่ ท่านเชื่อไหมที่นี่มีแม้กระทั่งเกล็ดของกิเลนแนะ”ชิงชิงตอบด้วยท่าทีตื่นเต้น เพราะความสัมพันธ์กับอสูรของอาณาจักรไป๋ทำให้ร้านค้าต่างๆหาวัตถุดิบของอสูรได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ร้านในเมืองเล็กๆเช่นนี้ยังหาของอย่างเกล็ดกิเลนที่แต่ก่อนเจ้าสำนักบางสำนักเก็บไว้เป็นของบูชามาใช้ตัดชุดได้

“พี่ชิว แล้วนั่น…”ชิงหมิงมองมาทางไป๋หลินที่เดินตามชิงชิวมา นางเหมือนผ้าห่มเดินได้ไม่มีผิด

“นาง….เป็นคู่หมั้นของข้าไง”ชิงชิวตอบพลางหัวเราะออกมาเพราะสายตาที่น้องๆมองมาทางไป๋หลิน

“คู่หมั้นของพี่….งั้น”ชิงชิงกับชิงหมิงอึ้งค้างไป หากเป็นความจริง นั่นหมายความว่าคนที่อยู่ข้างๆชิงชิวก็คือองค์หญิงไป๋หลินคนนั้นนะสิ

“ชิงชิว กลับบ้านกันเถอะลูก ร้านเขาบอกว่าอีก 10 วันชุดถึงจะเสร็จ”แม่ของชิงชิวเดินออกมาจากห้องเจ้าของร้าน แน่นอนว่าเมื่อเดินเข้ามาถึงตัวชิงชิวก็ย่อมเห็นไป๋หลินที่อยู่ข้างๆเช่นกัน

“ชิงชิวลูก นั่นอะไรนะ”แม่ของชิงชิวถามออกมาเมื่อเห็นผ้าห่มเดินได้ข้างๆบุตรชาย

“ท่านแม่….”ไป๋หลินเดินออกมาข้างหน้าพลางประสานมือคารวะมาทางแม่ของชิงชิว

“แม่….หรือว่า….”แม่ของชิงชิวอึ้งไปหลังจากเห็นไป๋หลินกำลังก้มคารวะตัวเอง นางไม่ทราบจะตกใจตรงไหนก่อน องค์หญิงมาหามันต่อหน้า หรือองค์หญิงที่คารวะนางและเรีบกว่าท่านแม่ดี

“ท่านแม่”ชิงชิวพุ่งพรวดไปรับร่างของแม่ตนเองที่ล้มลงหมดสติไปอีกรอบ ทำเอาไป๋หลินตกใจเป็นอย่างมาก

“ชิงชิว แม่กำลังฝันไปใช่ไหม”แม่ของชิงชิวพูดจบก็หมดสติไปอีกรอบ ทำเอาชิงชิวได้แต่ถอนหายใจ แม่ของมันยังอาการหนักเช่นนี้ หากคนทั้งหมู่บ้านทราบเข้าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน