เชอร์รีนยิ้มเล็กน้อย “อย่างที่คุณพูด ฉันไม่ได้รับการสั่งสอนอย่างดี ถ้าไม่มีอะไรฉันจะขึ้นไปแล้ว”
คิดจะใช้เหตุผลกับเธอ ให้เธอเป็นปกติสักหน่อย มันยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา ก่อนหน้านี้เธอเคยลองมาแล้ว ตอนนี้ไม่คิดจะลองอีก
“เลิกกับลูกชายฉันซะ ตอนนั้นเธอสาบานกับเรื่องพ่อของเธอ เธอไม่กลัวพ่อเธอตายตาไม่หลับหรอ เลิกกับลูกฉันเดี๋ยวนี้ อยากจะเข้าตระกูลศิริไพบูรณ์ อยากเป็นลูกสะใภ้ตระกูลศิริไพบูรณ์งั้นหรอ เธออย่าฝันไปเลย ฉันบอกเธอเลยนะ มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน!”
ประเด็นนี้ถูกยกมาพูดบ่อยครั้ง ไม่จำเป็นต้องเอามาพูดบ่อยๆ!
“ในเมื่อสาบานในนามพ่อของฉัน เพราะฉันก็ต้องให้อภัยแน่นอน เขารักฉันมาโดยตลอด เขาจะเข้าใจฉัน เห็นแก่ฉัน ถึงเขาจะไม่ให้อภัย ไม่ว่าจะโดนลงโทษแบบไหนฉันก็จะยอมรับ ในสิ่งที่ฉันควรจะได้รับ ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาใส่ใจด้วย! มีประโยคที่ว่าตบมือข้างเดียวไม่ดังไม่ใช่หรอ ถ้าฉันยื่นมือออกมา แล้วลูกชายของคุณไม่มาตบ มันก็จะไม่ดัง ดังนั้นในเมื่อคุณมีเวลามาหาฉัน ทำไมไม่เริ่มลงมือกับลูกชายของคุณก่อนล่ะ ถ้าเขายินยอมเลิก ฉันก็จะไม่ปฏิเสธ”
เมื่อพูดจบเธอก็อุ้มซารางขึ้นไปชั้นบน ทิ้งให้สุนันท์ยืนอยู่กับที่ด้วยความโกรธ โกรธจนเจ็บหน้าอกไปหมด
เธอไม่เข้าใจว่าออกัสชอบเธอที่ตรงไหน
เธอมั่นใจว่าออกัสจะไม่มีทางฟังเธอ แต่เธอกลับตั้งใจพูดว่าให้ตัวเองเริ่มจากลูกชายของตัวเองก่อน นี่ไม่ใช่การเยาะเย้ย แล้วจะเรียกว่าอะไร
เธอตั้งใจจะเยาะเย้ยเธอ ให้เธออับอาย ให้เธอโกรธ แล้วเธอยังคิดว่าตัวเองจะได้อยู่ดีงั้นหรอ
นังสาระเลว แกคิดว่าแกจะได้อยู่ดีอีกกี่วัน
มีแสงชั่วร้ายในตาของเธอ สุนันท์ยิ้มอย่างเย็นชา รอยยิ้มที่มุมปากดูชั่วร้ายและน่าหวาดกลัว
เธอให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับเชอร์รีนแล้ว แต่เธอเป็นคนโยนโอกาสนี้ไปไกลด้วยตัวของเธอเอง งั้นก็จะโทษเธอไม่ได้แล้ว…
เช้าวันต่อไป
ในระหว่างที่การประชุมกำลังดำเนินอยู่ เลขาก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าซีดเผือด ผู้ช่วยเตโชกำลังจะตำหนิเธอ แต่เธอก็พูดก่อนแล้ว “ผู้ช่วยเตโช มีบางอย่างผิดปกติกับท่านประธาน”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นผู้ช่วยเตโชก็รีบวิ่งออกไปจากห้องประชุม ก่อนจะเห็นออกัสหน้าซีด ท่าทางไม่ดี
“ท่านประธาน” เขาพูดเสียงเบามาก ผู้ช่วยเตโชพยุงออกัสเข้าไปในห้องประชุม
ความเจ็บปวดในช่องท้องทำให้เขาไม่มีแรงไปชั่วขณะ ไม่มีแรงยืนขึ้น ดังนั้นเขาจึงขยับปากพูดเสียงเบา “ไปโรงพยาบาล”
เจ็บมาก ในท้องเจ็บเป็นระยะ ขนาดหายใจก็เจ็บปวดทรมาน มือใหญ่วางอยู่บนหน้าท้องด้วยความรู้สึกจุกเสียด ถึงอากาศจะเย็น แต่ใบหน้าของเขากับเต็มไปด้วยเหงื่อ ริมฝีปากกัดแน่น แขนขาเกร็งไปหมด
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล หมอก็รีบดันเขาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ก่อนที่เลือดจะเริ่มซึมออกมา
ท้องปวดอย่างรุนแรงราวกับมีหนามทิ่มแทง จนเขารู้สึกหมดแรงไปทั้งตัว
ผู้ช่วยเตโชถามถึงสถานการณ์อย่างใจจดใจจ่อ หมอบอกว่าตอนนี้เขาต้องพักผ่อน และยังให้ประธานออกัสหยุดสูบบุหรี่และดื่มเหล้าทั้งหมด กระเพาะของเขาไม่ดี
ผู้ช่วยเตโชก็คิดอย่างนั้น แต่ใครจะกล้าพูดได้ยังไง
ในห้องทำงานของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์ ตอนเขาเดินเข้าไปในห้องก็ได้กลิ่นพวกนี้เตะจมูกอยู่เสมอ แถมยังไม่กินข้าวตรงเวลา กระเพาะของเขาดีสิถึงจะแปลก!
“ใช่สิ ประธานออกัสให้คุณเข้าไป” หมอถอดหน้ากากออก
ใบหน้าหล่อเหลาของออกัสเหมือนถูกปกคลุมด้วยชั้นของน้ำแข็ง ผู้ช่วยเตโชรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที “ผมจะโทรหาคุณเชอร์รีน”
เขาเข้าใจว่าเวลานี้ท่านประธานอยากให้คุณเชอร์รีนสงสาร เวลาแบบนี้ เขาเข้าใจดีที่สุด
“… ไม่ต้องโทร…. ตอนเย็นเธอเลิกงานแล้วค่อยไป….” เขาพูดอย่างยากลำบาก “ เดี๋ยวหมอจะให้ยาแก้ปวดและให้น้ำเกลือ จากนั้นนายก็พาฉันไปส่งที่คอนโด”
การปฐมพยาบาลเร่งด่วนได้ทำไปครบแล้ว ตอนนี้กำลังให้น้ำเกลือ เผาน้ำเกลือหมดขวด เธอก็คงเลิกงานจากโรงเรียนพอดี
“แต่ยังไงก็ต้องมีคนดูแลข้างกายนะครับ!”
“เมื่อน้ำเกลือหมด ก็ไปส่งฉันที่คอนโด แล้วนายก็กลับบริษัท” ถึงใบหน้าจะซีดขาว แต่ก็ยังคงมีอำนาจ ทำให้คนไม่กล้าปฏิเสธ
ผู้ช่วยเตโชรู้ดีว่าท่านประธานไม่ชอบโรงพยาบาล โดยเฉพาะกินของโรงพยาบาล แถมตอนนี้ยังเป็นแค่การให้น้ำเกลือ หมอก็บอกว่าสามารถให้น้ำเกลือที่บ้านได้ เขาจึงพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
มีสามห้องนอน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าปกติเขานอนห้องไหน ดังนั้นจึงพาเขาไปนอนห้องทางขวาสุด
เขายกขวดน้ำเกลือขึ้น ปรับให้หยดช้าที่สุด จากนั้นก็ปิดประตู
ก่อนให้น้ำเกลือ เขาได้รับยานอนหลับ จึงทำให้เขาหลับไป ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น
ผู้ช่วยเตโชไปได้ไม่นาน สุนันท์ก็เข้ามา แล้วตรงไปที่ห้องของออกัส เมื่อเห็นว่าไม่มีคน เธอก็ยิ้มขึ้นมา
จากนั้นเธอก็ถือถุงเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ในถุงมีขวดใหญ่หนึ่งขวด แต่ไม่รู้ว่าเป็นขวดอะไรกันแน่….
ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออก เชอร์รีนถือกระเป๋าเดินเข้ามา ก่อนจะสบตาเขากับสุนันท์อย่างจัง
เธอน่าไม่อายถึงขีดสุด เธออุตส่าห์พูดคำพูดแย่ขนาดนั้นออกไปแล้ว ยังมีหน้ามาที่คอนโดของลูกชายเธออีก ทำไม ถ้าไม่มีผู้ชายแล้วมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้เลยหรอ
เชอร์รีนเดินไปทางห้องนอนโดยไม่สนใจสุนันท์ เมื่อวานตอนที่นอนกลางวันอยู่ที่นี่ มีหลายอย่างที่ลืมไว้
ในห้องไม่มีคน แสดงว่าเขายังไม่เลิกงานแน่นอน
เอกสารอยู่บนโต๊ะหัวเตียง เธอหยิบขึ้นมา และเมื่อเดินออกมาถึงห้องนั่งเล่น เธอก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ฉุนและรุนแรงผิดปกติกระทบใบหน้าของเธอ
ทำไมมีกลิ่นแอลกอฮอล์ เธอกว่าสายตาไปทั่วห้องนั่งเล่นแต่ก็ไม่เห็นตะเกียงแอลกอฮอล์ งั้นกลิ่นแอลกอฮอลล์มาจากไหน
มีรอยเปียกบนผนังรอบห้องนั่งเล่น แต่เธอก็ไม่ได้สังเกตุเห็นความผิดปกติเหล่านั้น กลับบังเอิญเห็นเสื้อคลุมสีดำบนโซฟาแทน
เธอขมวดคิ้ว ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อคุมที่เขาใส่ไปบริษัทเมื่อเช้าไม่ใช่หรอ
แค่มองไปที่จิ้งจอกตรงหน้า สุนันท์ก็เกลียดจนไม่อาจบรรยายออกมาได้ คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองหรอ
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว แถมคำพูดของออกัสก็ชัดเจนทุกคำ ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องการผู้หญิงสาระเลวคนนี้!
แม้ว่าจะต้องตัดสัมพันธ์กับแม่ผู้ให้กำเนิดก็ตาม เขสก็ไม่สามารถปล่อยผ่าน และไม่สามารถปล่อยผู้หญิงสาระเลวคนนี้ไปได้!
เธอเคยใช้วิธีขู่ว่าจะฆ่าตัวตายกับหยาดฝนครั้งหนึ่ง และเธอก็ได้บรรลุสิ่งที่เธอต้องการ นั่นเป็นเพราะหยาดฝนใจอ่อน ออกัสถึงไม่รู้เรื่องนี้